Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 394

ตอนที่ 394

[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]

บทที่ 394 : แผนการของสาวงาม!

การที่ซันเทียนเปียวมาที่เมืองจิงฉูนั้น เขามีจุดมุ่งหมายอยู่สามอย่าง หนึ่ง-คือมาตามหาคนของตระกูลซันที่หายตัวไป สอง-คือมาฆ่าหลิงหยุน และสามคือมาสืบหาสมุดและพู่กันจักรพรรดิแบบลับๆ

สำหรับเรื่องการแต่งงานอะไรที่นางหนิวเฟิ่นเหยียวเป็นผู้จัดการนั้น ซันเทียนเปียวไม่ได้สนใจด้วยเลยแม้แต่น้อย.. อีกทั้งความร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐีของเฉิงเทียน ก็ไม่ได้ส่งผลต่อจิตใจของเขาเช่นกัน

ส่วนเรื่องการหายตัวไปอย่างลึกลับของนางหนิวเฟิ่นเหยียวกับซันจิ้งนั้น ซันเทียนเปียวก็ไม่ได้เป็นทุกข์เป็นร้อนแต่อย่างใด เพราะตระกูลซันยังมีสมาชิกอยู่อีกมากมาย

หลิงหยุนหายตัวไปตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ และไม่มีข่าวคราวเลยแม้แต่น้อย ซันเทียนเปียวเข้าใจว่า หลิงหยุนคงจะหวาดกลัวอำนาจของตระกูลซันจนต้องหนีไปหลบซ่อนตัว เขาจึงจัดการกดดันหลิงหยุนจากหลายๆทาง เพื่อบีบบังคับให้หลิงหยุนยอมออกมาจากที่ซ่อน

แต่สองเรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับซันเทียนเปียว และยอดฝีมือคนอื่นๆ เรื่องสำคัญที่สุดของพวกเขานั้นก็คือข่าวคราวเรื่องสมุดกับพู่กันจักรพรรดิต่างหาก!

ส่วนทางด้านหลิงหยุนนั้น เรื่องกังวลที่สุดสำหรับเขา กลับไม่ใช่เรื่องที่ตระกูลซันจะสืบรู้ว่าเขาเป็นผู้ที่สังหารแม่ลูกตระกูลซันและยอดฝีมือคนอื่นๆ แล้วตระกูลซันจะกลับมาแก้แค้น แต่เขากลัวว่าความลับเรื่องที่เขาเป็นเจ้าของพู่กันจักรพรรดิจะรั่วไหลออกไปต่างหาก!

เฉิงเม่ยเฟิงนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับยิ้มอย่างถือดี ก่อนจะพูดจาต่อรองกับซันเทียนเปียวต่อ

“ซันเทียนเปียว.. ถ้าคุณรับปากว่าจะไม่ทำอันตรายคนในครอบครัวของฉัน ฉันก็จะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้คุณฟังทั้งหมด!”

ซันเทียนเปียวมองท่าทางที่สงบเยือกเย็นของเฉิงเม่ยเฟิงแล้วก็ได้แต่พยักหน้าเป็นการรับปาก “ได้.. ฉันสัญญา! เล่ามา..”

แต่เฉิงเม่ยเฟิงกลับตอบยิ้มๆ “หวังว่าคุณจะรักษาคำพูด..”

ซันเทียนเปียวตอบกลับทันที “คำพูดของฉัน-ซันเทียนเปียว.. ยังไม่สามารถทำให้เด็กสาวอย่างเธอเชื่อถือได้งั้นรึ?”

เฉิงเม่ยเฟิงรู้ดีว่าก้าวที่สองของเธอกำลังจะประสบความสำเร็จแล้ว แต่เธอเองก็รู้สึกประหลาดใจมาก ที่ดูเหมือนซันเทียนเปียวจะยอมรับปากง่ายๆ เพราะจากสถานการณ์ในตอนนี้ หากซันเทียนเปียวจะใช้กำลังบีบบังคับให้เธอพูด ก็ย่อมทำได้อย่างง่ายดาย..

ตอนนี้เฉิงเม่ยเฟิงเริ่มรู้สึกแปลกใจมากขึ้น และไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดซันเทียนเปียวจึงได้อดทนกับเธอ และให้โอกาสเธอพูดอะไรมากมายถึงเพียงนี้ ซันเทียนเปียวทำราวกับว่า เขาและเธอมีสถานภาพในระดับเดียวกัน และมีอำนาจในการพูดคุยต่อรองกัน!

แต่เฉิงเม่ยเฟิงหารู้ไม่ว่า ตอนนี้ซันเทียนเปียวได้ค้นพบว่า อาจมีศัตรูที่น่ากลัวเกินจินตนาการอยู่เบื้องหลังเธอ ทำให้เธอมีอำนาจขึ้นมาทันที!

แต่เฉิงเม่ยเฟิงไม่ต้องการคิดอะไรมาก อีกทั้งยังไม่ต้องการถามอะไรออกไปมากมาย เธอจึงเริ่มพูดสิ่งที่ได้ตกลงไว้กับเสี่ยวเม่ยเม่ยให้กับซันเทียนเปียวฟัง

“ฉันเชื่อว่าคนอย่างคุณต้องรู้ตื้นลึกหนาบางของประเทศจีนดี และต้องรู้จักองค์กรนักฆ่าด้วยเช่นกัน? ฉันจะบอกอะไรให้.. เหอซิงหยานคือหนึ่งในมือสังสารขององค์กรนักฆ่า และคนที่ลงมือสังหารคนของตระกูลซันในคืนนั้นก็คือองค์กรนักฆ่า!”

“อะไรนะ?! เหอซิงหยานนี่นะเป็นมือสังหารขององค์กรนักฆ่า?! นี่มัน..” ซันเทียนเปียวได้ฟังก็ถึงกับขมวดคิ้ว และอุทานขึ้นมาทันที

แม้แต่ยอดฝีมือขั้นเซียงเทียนทั้งสามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของซันเทียนเปียว ต่างก็ถึงกับหันมามองหน้ากัน ยอดฝีมือทั้งสามท่านนั้นล้วนมาจากคนละสำนัก คนหนึ่งมาจากสำนักจิ้งซิน คนหนึ่งมาจากวัดเส้าหลิน และอีกคนก็มาจากสำนักเหมาซาน!

……

หลังจากที่หลิงหยุนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เฉิงเม่ยเฟิงและเสี่ยวเม่ยเม่ยเองต่างก็เป็นผู้หญิงที่เฉลียวฉลาด ไม่มีทางที่พวกเธอทั้งสองคนจะนั่งรอคอยอยู่ที่บ้านเฉยๆโดยไม่คิดทำอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคนของตระกูลซันได้เดินทางมาที่เมืองจิงฉู พวกเธอจึงต้องคิดหาวิธีรับมืออย่างมีสติ..

ความทรงจำของผู้คนในคืนนั้นต่างก็ถูกหลิงหยุนลบออกจนหมดสิ้น แต่ความทรงจำของเฉิงเม่ยเฟิงและเสี่ยวเม่ยเม่ยไม่ได้ถูกลบทิ้งไปด้วย พวกเธอจึงเป็นผู้ที่รู้เรื่องราวในคืนนั้นเป็นอย่างดี และหลังจากที่ปรึกษาไตร่ตรองกันอย่างรอบคอบด้วยเหตุด้วยผล หญิงสาวทั้งสองคนจึงตัดสินใจวางแผนขึ้นมา และแยกย้ายกันทำงาน

ถึงแม้ทั้งคู่จะรู้ดีว่าแผนการที่พวกเธอวางไว้นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง แม้จะได้ทำการวางแผนมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ก็มีช่องโหว่สูง และเป็นไปได้ที่จะล้มเหลว แต่เพื่อช่วยครอบครัวของเฉิงเม่ยเฟิง อย่างน้อยก็ต้องดึงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด จนกว่าหลิงหยุนจะกลับมา พวกเธอจึงไม่สนใจอะไรมาก!

และแผนการของพวกเธอก็คือการโยนความผิดทั้งหมดให้กับองค์กรนักฆ่า!

เสี่ยวเม่ยเม่ยยังจำได้ดีว่า หลังจากที่หลิงหยุนสังหารตี้ปาแล้ว เขาได้นำเครื่องมือสื่อสารที่ตี้ปาใช้สื่อสารกับองค์กรนักฆ่ากลับมาด้วย และได้สอบถามเธอว่า เขาสามารถใช้เครื่องมือสื่อสารนี้ปลอมตัวเป็นมือสังหารขององค์กรนักฆ่า เพื่อเข้าไปสืบหาคนที่จ้างวานฆ่าเขาได้หรือไม่?

และเธอเองก็ได้เตือนหลิงหยุนว่า หากเขาทำเช่นนั้น เขาจะต้องเผชิญหน้ากับมือสังหารระดับสวรรค์ขององค์กรนักฆ่า แต่หลิงหยุนกลับไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย พร้อมตอบเธอกลับมาด้วยท่าทางที่แสนจะผยอง

และนั่นทำให้เสี่ยวเม่ยเม่ยรู้สึกประทับใจในตัวหลิงหยุนอย่างมาก เธอจึงคิดจะใช้เรื่องนี้ป้ายสีให้กับองค์กรนักฆ่าแทน!

และช่างโชคร้ายที่หนึ่งในสี่ยอดฝีมือที่ตระกูลซันเชิญมาในคืนนั้น กลับเป็นมือสังหารขององค์กรนักฆ่าจริงๆ!

และเขาก็คือเหอซิงหยาน – ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-8!

ในคืนนั้นหลังจากที่หลิงหยุนจัดการฆ่าเหอซิงหยานแล้ว เขาก็ได้ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า เหอซิงหยานคือมือสังหารขององค์กรนักฆ่า!

ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ หลิงหยุนวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวเพื่อลงไปสำรวจหลุมยักษ์ และเมื่อกลับไปที่อพาร์ทเมนท์ในตอนบ่าย ก็จัดแจงให้เฉิงเม่ยเฟิงและเสี่ยวเม่ยเม่ยไปอยู่กับแม่ของเขาที่บ้านเลขที่-9 แถวอ่าวจิงฉู หลิงหยุนจึงไม่มีเวลาได้พูดคุยกับหญิงสาวทั้งสองคนในรายละเอียดของเหตุการณ์ในคืนวันศุกร์

คืนนั้นเฉิงเม่ยเฟิงกลับไปถึงที่คฤหาสน์ตระกูลเฉิงอีกครั้งหลังเสียวเม่ยเม่ย เธอไปถึงจังหวะที่นางหนิวเฟิ่นเหยียวประกาศยกเลิกการแต่งงานพอดี ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เฉิงเม่ยเฟิงจึงไม่รู้เรื่อง

แต่เสี่ยวเม่ยเม่ยรู้ และรู้ดีกว่าทุกๆคนในที่นั้นว่า องค์กรนักฆ่านั้นทั้งลึกลับและแข็งแกร่งมากเพียงใด!

เธอจึงต้องการช่วยหลิงหยุนด้วยการหาแพะมารับผิดแทนเขา และเสี่ยวเม่ยเม่ยก็ได้จัดการให้องค์กรนักฆ่าเป็นผู้รับบทแพะรับบาปนี้!

อีกทั้งแผนการนี้ ยังจะช่วยให้ตระกูลเฉิงซึ่งเป็นเพียงคนธรรมดาไร้วรยุทธ สามารถอ้างได้เต็มปากว่า ไม่มีความสามารถที่จะหยุดยั้งสิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลซันได้ และตระกูลซันก็ไม่อาจตำหนิตระกูลเฉิงได้เช่นกัน!

และหากมือสังหารขององค์กรนักฆ่าเป็นผู้สังหารคนของตระกูลซัน องค์กรนักฆ่าก็จะกลายเป็นศัตรูคนสำคัญของตระกูลซันแทนหลิงหยุนทันที!

แม้ว่าหลิงหยุนจะไม่สามารถพ้นข้อกล่าวหาได้อย่างสิ้นเชิง แต่อย่างน้อยซันเทียนเปียวก็จะไม่พุ่งเป้าไปที่หลิงหยุนฝ่ายเดียว

นี่เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!

และเมื่อใดที่หญิงสาวทั้งสองคนสามารถติดต่อหลิงหยุนได้ พวกเธอก็เชื่อมั่นว่า ด้วยความแข็งแกร่งและเก่งกาจของหลิงหยุน เขาจะสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน!

และสิ่งที่ทำให้หญิงสาวทั้งคู่เชื่อมั่นในตัวหลิงหยุนได้ถึงเพียงนี้ ก็คือภาพที่หลิงหยุนอยู่ท่ามกลางมังกรทองทั้งเก้าตัว ซึ่งเป็นภาพที่เกิดจากพลังอมตะจากพู่กันจักรพรรดินั่นเอง ภาพนี้ยังคงตราตรึงอยู่ในใจพวกเธอทั้งสองคน!

………..

“องค์กรนักฆ่างั้นเหรอ? เธอบอกว่าคนขององค์กรนักฆ่าปรากฎตัวในคืนนั้น.. ถ้างั้นก็ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าพวกเขาจัดการกับคนของตระกูลซันยังไง?”

ซันเทียนเปียวขมวดคิ้ว และจ้องมองเฉิงเม่ยเฟิงที่พูดด้วยน้ำเสียงเบาคล้ายกำลังพึมพำ..

แม้เฉิงเม่ยเฟิงจะเตรียมตัวมาอย่างดี แต่ดูเหมือนซันเทียนเปียวจะไม่เชื่อ เพราะคนธรรมดาไม่น่าจะรู้ว่ามีองค์กรนักฆ่าอยู่ในโลกนี้ด้วย และคนที่เผลอไปรู้เข้า ก็ต้องสังเวยด้วยชีวิต!

เฉิงเม่ยเฟิงตอบยิ้มๆ “ใช่.. คนขององค์กรนักฆ่า!”

“ฉันยอมรับว่า เพื่อช่วยชีวิตฉันและเพื่อเอาตัวรอด หลิงหยุนได้ฆ่ายอดฝีมือขั้นต่ำของตระกูลซันไปบ้าง ทำร้ายจนบาดเจ็บบ้าง แต่นั่นก็เป็นความจำเป็น เพราะหลิงหยุนต้องการมาช่วยผู้หญิงของเขากลับไป และจัดการให้มีการยกเลิกการแต่งงาน!”

ระหว่างพูดเฉิงเม่ยเฟิงก็ยกแขนที่ยาวเรียวของเธอขึ้น และนิ้วเรียวงามก็ชี้ไปยังหนังสือฉบับนั้น และพูดต่อว่า

“นี่เป็นหนังสือที่ภรรยาของคุณเขียนขึ้นหลังจากที่คุยโทรศัพท์กับคุณ แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะหลังจากที่ประกาศยกเลิกการแต่งงาน พวกเราก็เตรียมตัวที่จะกลับออกไป แต่ก็กลับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น!”

“จู่ๆ ก็มีมือสังหารที่แข็งแกร่งมากสามคนบุกเข้ามาฆ่าซันจิ้งลูกชายของคุณ และสมาชิกคนอื่นๆของตระกูลซัน!”

“ในตอนนั้น หลวงจีนมี่ฉิง และแม่ชีมี่ซิน รวมทั้งหลิวเต๋อหมิงก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาเองต่างก็งุนงงกันหมด..”

“หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็เริ่มโกลาหลไปหมด จนไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นใคร รู้เพียงแค่ว่ามีคนถูกทำร้ายและถูกฆ่ามากมาย!”

“แต่หลังจากที่ฉันได้ยินใครสักคนตะโกนว่า ‘พวกมันมาแล้ว’ ฉันก็เป็นลมไป แล้วก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย..”

เฉิงเม่ยเฟิงนั้นช่างยอดเยี่ยมมาก! เธอใช้ความจริงบางส่วน สร้างเรื่องเสมือนจริงบางส่วน ผสมกันได้อย่างกลมกลืน!

ก่อนที่จะมีการประกาศยกเลิกการแต่งงาน นางหนิวเฟิ่นเหยียวได้โทรหาซันเทียนเปียว เสี่ยวเม่ยเม่ยจึงบอกกับเฉิงเม่ยเฟิงว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโกหกซันเทียนเปียว ให้เล่าไปตามความจริงโดยไม่ต้องปิดบัง..

และเฉิงเม่ยเฟิงก็ผลักภาระทั้งหมดให้เป็นหน้าที่ของตระกูลซันไปครุ่นคิดเอาเอง..

เธอได้ทำหน้าที่โยนความผิดทั้งหมดของหลิงหยุนให้กับเหอซิงหยาน และองค์กรนักฆ่าเรียบร้อยแล้ว และจากนี้ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของตระกูลซันไปจัดการต่อไป

เฉิงเม่ยเฟิงฉลาดพอที่จะสร้างเรื่องว่าตัวเธอเองเป็นลมในช่วงสถานการณ์ที่กำลังโกลาหล เพื่อที่จะเลี่ยงไม่ต้องตอบคำถามที่ว่าตอนนี้คนของตระกูลซัน และคนขององค์กรนักฆ่าอยู่ที่ใหน?

ระหว่างที่เฉิงเม่ยเฟิงเล่านั้น สายตาที่แหลมคมของซันเทียนเปียวก็จับตาดูแววตาของเธออยู่ตลอดเวลา พร้อมกับกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก..

ปกติแล้ว.. ระหว่างตระกูลใหญ่ทั้งเจ็ดตระกูลนั้น ก็มักมีการหักหลังกันอย่างโหดร้ายอยู่แล้ว เพราะแต่ละตระกูลต่างก็ต้องการรักษาสถานภาพความมั่นคงของตระกูลตัวเองไว้

สถานภาพของตระกูลซันเองก็ไม่ได้ต่ำต้อยมากมาย อยู่ในลำดับที่สี่ อีกทั้งตระกูลซันเองยังมีมิตรภาพที่ดีทั้งกับตระกูลที่เหนือกว่า และตระกูลที่ต่ำกว่า มีหรือที่จะถูกโจมตีลับหลังโดยที่เขาไม่ระแคะระคาย

เหอซิงหยานเป็นผู้ที่มีวิชาตัวเบาคล่องแคล่วรวดเร็ว และมีอาวุธลับที่ทรงพลัง แต่เขาจะเป็นมือสังหารขององค์กรนักฆ่าจริงหรือไม่? หากใช่.. เพราะอะไรถึงได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ในตระกูลซัน? แล้วตระกูลใหนกันที่แอบโจมตีตระกูลซันลับหลัง?

ตระกูลหลง? ตระกูลเฉิน? ยังมีตระกูลหลิงอีก?

ตระกูลเฉินเป็นตระกูลที่ค่อนข้างทะเยอทะยานที่จะไต่อันดับขึ้นไปด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่ถูกกฎหมายหรือผิดกฏหมาย และตอนนี้ยังร่วมมือกับตระกูลโทคุงาวะในญี่ปุ่น..

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่น่าใช่ตระกูลเฉิน หากตระกูลเฉินต้องการจัดการตระกูลซันจริง ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับองค์กรนักฆ่าเพื่อจัดการกับหนิวเฟิ่นเหยียวและซันจิ้งเพื่อมาบีบบังคับเขา มันดูไม่มีเหตุผล!

ซันเทียนเปียวมีผู้หญิงมากมายนับไม่ถ้วน และมีลูกชายถึงเจ็ดแปดคน หากคนพวกนั้นต้องการจัดการกับผู้หญิงของเขา และลูกชาย ก็เป็นเรื่องที่ง่ายนิดเดียว

“แน่ใจนะว่าเธอกำลังพูดความจริง?!”

ซันเทียนเปียวเป็นคนเจ้าเล่ห์ แม้เฉิงเม่ยเฟิงจะพูดได้ไหลลื่น แต่หลังจากที่ครุ่นคิดและลังเลอยู่นาน เขาก็เลือกที่จะไม่เชื่อ..

แต่จุดประสงค์ของเฉิงเม่ยเฟิงในวันนี้ ไม่ได้มาเพื่อมาโน้มน้าวให้ซันเทียนเปียวเชื่อ แต่แค่ซันเทียนเปียวเริ่มลังเล ก็ถือว่าเธอได้รับชัยชนะแล้ว!

เฉิงเม่ยเฟิงมองซันเทียนเปียวด้วยสายตาเย็นชา พร้อมตอบกลับไปอย่างหนักแน่น

“ฉันได้เล่าในสิ่งที่ฉันรู้แล้ว จะเชื่อหรือไม่.. เป็นเรื่องของคุณ!”

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด

จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..


Options

not work with dark mode
Reset