Home › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 381 Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 381 ตอนที่ 381 Posted by , ? Views, Released on December 5, 2020 Prev All Chapter Next Options Facebook Twitter WhatsApp Pinterest [ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ] บทที่ 381 : ระเบิดสำหรับหลัวจ้ง! “โอ้ว.. บัดสี.. นี่มีอะไรพร้อมกันทีเดียวตั้งหลายคนเลยเหรอนี่..” “วิตถาร.. หัวหน้าหวังกล้าทำขนาดนี้เลยเหรอ..” “แม่เจ้า.. นี่มันบ้านหรือว่าฮาเร็มกันแน่..?” “เถียนป๋อเตาตายแน่คราวนี้.. ถูกหลิงหยุนถ่ายคลิปได้คาเตียงเลย!” เมื่อเห็นถังเมิ่งเปิดคลิปวีดีโอที่เร่าร้อนนั่น บรรดานักข่าวต่างก็กรูกันเข้าไปล้อมรอบ พร้อมกันร้องออกมาด้วยความตกอกตกใจ แทบไม่จำเป็นต้องพูดถึงชะตากรรมของเถียนป๋อเตา เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เขาคงต้องสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ! หลิงหยุนแทบไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเพียงแค่ชายตามองเถียนป๋อเตาด้วยแววตาที่เย็นชา พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “ต้องโทษตัวแกที่แส่หาเรื่องเอง!” พูดจบหลิงหยุนก็เดินไปไปหาผู้ประกาศข่าวสาวคนสวยที่ชื่อซูหลิงเฟย ซูหลิงเฟยเป็นผู้ประกาศข่าวของสถานทีโทรทัศน์ท้องถิ่น และตอนนี้ก็อยู่ในท่าเตรียมพร้อมที่สัมภาษณ์อยู่ตลอดเวลา แต่ในตอนกลับไม่มีฝูงชนรายล้อมตัวเธออยู่มากนัก เธอมองคลิปวีดีโอของถังเมิ่งด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และเต็มไปด้วยความอับอายแทน จากนั้นจึงเมินหน้าหนีพร้อมกับคิดในใจว่า เมื่อครู่เธอไม่น่าออกหน้าแทนเถียนป๋อเตาที่ไร้ยางอายคนนี้เลย “นี่.. คุณมองอะไร?” ซูหลิงเฟยร้องถามพร้อมยกมือขึ้นทาบอกไว้ทันที เมื่อเหลือบไปเห็นสายตาของหลิงหยุนที่จ้องมองมองมา แต่หลิงหยุนกลับทำท่าทาง และพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูมีลับลมคมใน “ผมมีข่าวลับสุดยอด คุณอยากจะได้ไม๊?” ซูหลิงเฟยทำงานอยู่ที่สำนักข่าวของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น เรื่องสกปรกในวงราชการแบบที่เถียนป๋อเตาทำนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดสำหรับเธอ อย่าว่าแต่นอนกับผู้หญิงครั้งละเก้าคนเลย สิ่งที่เธอเคยได้รู้ได้เห็นมานั้น ยิ่งกว่าเถียนป๋อเตาก็มีมากมาย ทุกวันนี้ข้าราชการไม่ว่าจะระดับใหน ล้วนใช้อำนาจจากตำแหน่งหน้าที่ในการหาเงิน หรือไม่ก็หาผู้หญิงให้กับตัวเอง บางคนมีผู้หญิงเป็นร้อยด้วยซ้ำไป! ซูหลิงเฟยที่ไม่ค่อยพอใจกับสายตาที่ลามกของหลิงหยุนอยู่แล้ว รีบถอยออกห่างเพื่อให้หน้าอกของเธอพ้นจากสายตาของเขา แล้วจึงพูดขึ้นว่า “คลิปข้าราชการกำลังมีอะไรกับผู้หญิงพวกนั้น สำหรับฉันนั่นไม่ใช่ข่าว แต่เป็นเรื่องน่าทุเรศ!” หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า “เรื่องของเถียนป๋อเตาไม่ใช่ข่าว แล้วเรื่องของผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความมั่นคงล่ะ.. จะถือว่าเป็นข่าวได้ไม๊?” สีหน้าของซูหลิงเฟยเปลี่ยนเป็นสนอกสนใจขึ้นมาทันที เธอมองหลิงหยุนด้วยแววตาครุ่นคิดก่อนจะรีบตอบกลับเสียงเบา “ห๊ะ.. เมื่อครู่คุณบอกว่าเป็นเรื่องของผู้อำนวยการหลัวงั้นเหรอ? นอกจากเรื่องที่คุณทำให้เขาอับอาย แล้วยังจะมีเรื่องอะไรอีก?” หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับกระดิกนิ้ว “ตามผมมาสิ!” จากนั้นก็เดินนำซูหลิงเฟยไปหาเหลียงเฟิงอี้ เมื่อไปถึงหลิงหยุนก็บอกกับเหลียงเฟิงอี้ว่า “คุณช่วยเปิดคลิปคำสารภาพที่อัดไว้ให้คุณนักข่าวคนสวยฟังหน่อยสิ..” หลิงหยุนขอให้เหลียงเฟิงอี้ช่วยเปิดคลิปให้ซูหลิงเฟยฟัง แม้จะรู้ดีว่าเพียงแค่คลิปนี้อาจจะยังไม่สามารถดึงหลัวจ้งลงจากตำแหน่งได้ แต่อย่างน้อยก็คงจะสามารถสร้างรอยด่างพร้อยให้กับเขาได้บ้าง และอาจเป็นช่องทางให้หลิงหยุนสามารถหาทางกำจัดเขาได้ในอนาคต หรือไม่อย่างน้อยหลัวจ้งจะได้เกรงกลัวและไม่กล้าวุ่นวายกับเขาอีก หลังจากผ่านไปหลายนาที หลิงหยุนก็ถามซูหลิงเฟยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “คุณจะเอาคลิปนี้ไปออกอากาศได้ไม๊?” ซูหลิงเฟยลังเลเล็กน้อยพร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะตอบกลับไปว่า “นี่เป็นเรื่องพัวพันถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง ต้องให้ทางสำนักงานข่าวตรวจสอบข้อเท็จจริงของคลิปนี้ก่อน ถึงจะออกอากาศได้..” “อีกอย่าง.. ข่าวในลักษณะนี้ ต่อให้ทางสำนักข่าวอนุมัติให้ออกข่าวได้ แต่ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายรัฐบาลก่อน..” มาถึงตอนนี้ หลิงหยุนเริ่มตระหนักถึงอิทธิพลและอำนาจของข้าราชการระดับสูงในประเทศนี้ และไม่เข้าใจถึงอาการกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกของนักข่าว หลิงหยุนเริ่มรู้สึกผิดหวัง เย็นชา และรังเกียจ เขาจึงพูดออกมาอย่างขบขัน “ดูเหมือนท่าทางก้าวร้าวแข็งขันและเต็มไปด้วยความยุติธรรมของคุณเมื่อครู่ ก็คงเป็นแค่การแสดงสินะ..” หลังจากพูดจบ.. หลิงหยุนก็ไม่สนใจซูหลิงเฟยที่กำลังโกรธจนหน้าแดงอีกเลย แต่กลับหันไปสั่งถังเมิ่งที่เพิ่งจะทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จ ถังเมิ่งเดินฝ่าวงล้อมออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนศรีษะออก “นักข่าวพวกนั้นโหดชะมัดเลย แทบจะดึงโทรศัพท์ของฉันไปด้วย!” “ว่าแต่มีอะไรเหรอพี่หยุน?” หลิงหยุนหยิบโทรศัพท์ออกมาจากมือของเหลียงเฟิงอี้ และวางลงในมือของถังเมิ่ง “พวกเราไปจัดการให้หลัวจ้งมันสารภาพด้วยตัวเองจะดีกว่า!” ซูหลิงเฟยถูกกฎหมายของประเทศนี้ และกฎระเบียบของสำนักข่าวตีกรอบไว้ แต่ถังเมิ่งไม่ได้มีกรอบอย่างเธอ เขาแทบทนรอที่จะได้เห็นหลัวจ้งฉิบหายไปในตอนนี้ไม่ได้.. เหลียงเฟิงอี้และหลงหวู่เห็นทั้งสองคนเดินไปหาหลัวจ้ง หญิงสาวทั้งสองคนจึงได้แต่เดินตามไปพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฉันจะไปเป็นเพื่อนด้วย..” หลิงหยุนหันไปยิ้มให้หลงหวู่กับเหลียงเฟิงอี้ จากนั้นจึงพูดกับเหลียงเฟิงอี้ว่า “คุณไม่เหมาะที่จะออกหน้า ไม่งั้นผมคงไม่เรียกถังเมิ่งมา ไม่อย่างนั้นไอ้ชาติชั่วนั่นมันคงต้องหาทางเล่นงานคุณทีหลังแน่!” เมื่อได้ฟังคำอธิบายที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของหลิงหยุน เหลียงเฟิงอี้ถึงกับอ่อนไหวและใจสั่นเล็กน้อย เธอไม่รบเร้าหรือต่อต้าน และได้แต่พยักหน้าเงียบๆ ในเมื่อหลี่ยี่เฟิงต้องพบกับความลำบาก หลัวจ้งเองก็ต้องพบกับความฉิบหายเช่นเดียวกัน หลิงหยุนรู้ดีว่าหลัวจ้งไม่กล้าที่จะแตะต้องแก๊งมังกรเขียว เขาจึงอนุญาตให้หลงหวู่ตามมาด้วย เมื่อทั้งสามคนเดินเข้าไปยืนอยู่ต่อหน้าหลัวจ้งแล้ว แต่จู่ๆหลิงหยุนก็มองไปทางฝูงชนที่ล้อมรอบอยู่พร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างดีใจ “ฉางหลิงมาถึงแล้ว!” “ตี้เสี่ยวอู๋ก็มาถึงเหมือนกันรึนี่? ไวชะมัด..!” “ขอทางด้วยค่ะ.. ขอทางด้วย..” ฉางหลิงแทรกตัวฝ่าฝูงชนเข้ามาด้านใน! หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากเหลียงเฟิงอี้ เธอก็ตกใจอย่างมาก และรีบเรียกแท็กซี่ออกจากบ้านทันที “นายรอฉันประเดี๋ยวนะ..” หลิงหยุนบอกถังเมิ่ง จากนั้นก็ก้าวเท้าไปข้างหน้า เพื่อรีบเดินเข้าไปหาฉางหลิง ฉางหลิงรีบร้อนวิ่งจนไม่ทันได้มองอะไร มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รู้สึกว่าได้วิ่งชนเข้ากับอ้อมแขนของชายหนุ่มคนหนึ่ง และเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง เธอก็เห็นเป็นใบหน้าของหลิงหยุนที่กำลังก้มมองเธออยู่เช่นกัน “หลิงหยุน.. นาย.. นี่นายหายไปใหนมา ฉันเป็นห่วงแทบตายรู้ไม๊..?” ฉางหลิงไม่สนใจผู้คนที่อยู่รอบข้าง เธอซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหลิงหยุนพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ฉางหลิงเองก็เป็นห่วงเป็นใยหลิงหยุนไม่น้อยไปกว่าเสี่ยวเม่ยหนิง เหยาลู่ และคนอื่นๆเลย หลิงหยุนสัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่ฉางหลิงมีให้กับเขา เขารู้สึกอ่อนไหวอย่างไม่สามารถอธิบายได้ จึงได้แต่ยิ้มอย่างรู้สึกผิด “เอาล่ะ.. หยุดร้องไห้ได้แล้ว! ดูหน้าผมสิ.. ผมก็กลับมาแล้วนี่ไง!” หลิงหยุนยกมือขึ้นตั้งใจจะเช็ดน้ำตาให้ฉางหลิง แต่กลับพบว่ามือของตัวเองเปื้อนไปด้วยฝุ่น จึงได้แต่ส่ายหน้าและพูดออกไปว่า “แย่แล้ว.. ลืมไปว่าเนื้อตัวของผมมีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด ผมจะพาคุณไปหาน้าเล็กดีกว่า.. เธออยู่ทางโน้น” ฉางหลิงไม่สนใจว่าหลิงหยุนจะสกปรกแค่ใหน เธอยังคงกอดหลิงหยุนไว้แน่น เพราะกลัวว่าเขาจะหายไปอีก จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? กลับมาแล้วทำไมไม่โทรหาฉัน?” หลิงหยุนอธิบายให้ฟังว่าโทรศัพท์ของเขาแบตหมดจึงโทรหาใครไม่ได้ เมื่อเห็นว่าฉางหลิงยังคงกอดเขาแน่นไม่ยอมปล่อย เขาจึงโอบเธอไว้และพากลับไปหาเหลียงเฟิงอี้ เหลียงเฟิงอี้มองดูหลิงหยุนที่ประคองฉางหลิงมา ก็ได้แต่นึกตำหนิในใจ และได้แต่แอบถอนหายใจ หลิงหยุนจับฉางหลิงนั่งลงที่พื้นและพูดกับเธอว่า “คุณนั่งคุยกับน้าเล็กไปก่อน ไว้ให้ผมเสร็จภารกิจ พวกเราค่อยคุยกันต่อ” “ได้สิ..” ฉางหลิงตอบแต่มือยังคงจับแขนของหลิงหยุนไว้แน่นพร้อมกับทักทายเหลียงเฟิงอี้ และหันไปมองถังเมิ่งอย่างตกใจ “ถังเมิ่ง.. นี่นายหายดีตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฉางหลิงร้องถามด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด ตั้งแต่ถังเมิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ฉางหลิงก็หมั่นไปเยี่ยมเยียนเขาอยู่หลายครั้ง และเธอย่อมดีว่าถังเมิ่งอาการสาหัสมากเพียงใด ถังเมิ่งยิ้มให้พร้อมกับใช้มือลูบศรีษะโล้นๆของตัวเอง “พี่หยุนเป็นคนช่วยรักษาให้อาการบาดเจ็บให้!” “แล้วหลิงหยุนกลับมาทำไมนายถึงไม่โทรบอกฉัน? นายนี่มันแย่ชะมัด!” ฉางหลิงจ้องมองถังเมิ่งอย่างไม่พอใจ “เอ่อ.. ก็ตอนนั้นมันดึกมากแล้ว อีกอย่าง.. หลังจากนั้นฉันกับพี่หยุนก็มีแต่เรื่องยุ่งๆตลอด..” แต่ถังเมิ่งก็ได้แต่คิดในใจว่า ‘เธอเองก็ไม่เคยบอกฉันว่าเป็นอะไรกับพี่หยุน ไม่งั้นก็คงจะส่งข้อความบอกไปแล้ว’ ด้านนอกฝูงชน เสียงรถเบรกดังเอี๊ยดลากเป็นทางยาว จนผู้คนต่างพากันหันหลังไปมอง และพวกเขาก็พบเห็นเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ราวกับตึกคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากรถ และเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นตี้เสี่ยวอู๋นั่นเอง! “พี่หยุน!” ตี้เสี่ยวอู่ทั้งสูงใหญ่และดำคล้ำ เขามองหลิงหยุนที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าของตี้เสี่ยวอู๋เต็มไปด้วยเหงื่อ แต่เขากลับไม่สนใจ ทันทีที่ก้าวลงจากรถ เขาก็รีบวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไปหาหลิงหยุนทันที แต่เพราะตี้เสี่ยวอู๋ต่างจากฉางหลิงมาก เพราะรูปร่างของเขาทั้งสูงใหญ่และกำยำ ทำให้ผู้คนต่างก็หวาดกลัวและพากันหลีกทางให้เองโดยไม่ต้องร้องขอ “หมอนี่.. ดูเหมือนดารกะดายันจะก้าวหน้ามากแล้วสินะ นี่สามารถผ่านมาถึงสามระดับย่อยเชียวรึ..?” ตี้เสียวอู๋วิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป เขาดึงร่างของตำรวจสองสามนายที่ขวางทางอยู่ออกไป พร้อมกับวิ่งตรงเข้าไปกอดหลิงหยุนทันที! “พี่หยุน! กลับมาแล้วเหรอ? ฉันเป็นห่วงพี่แทบแย่.. ฉัน..” ดวงตาที่ดุราวกับเสือของตี้เสี่ยวอู๋นั้นเริ่มมีน้ำตาเอ่อขึ้น และด้วยความตื้นตันเขาจึงพูดอะไรไม่ออกอีก แต่ด้วยสายใยแห่งความเป็นพี่น้อง.. จึงไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆอีก! “อยู่ในคุกเป็นไงบ้าง? มีใครทำอะไรนายรึเปล่า?” หลิงหยุนตบไหล่ของตี้เสี่ยวอู๋เบาๆ พร้อมกับถามด้วยความห่วงใย ตี้เสี่ยวอู๋เช็ดน้ำตาพร้อมกับตอบไปว่า “ใครจะกล้า?! ฉันอยู่ในคุกก็ฝึกไปด้วย แต่ฉันก็มั่นใจว่ายังไงพี่ก็ต้องกลับมา..” หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับบอกตี้เสียวอู่ว่า “หัวหน้าแก๊งมังกรเขียวก็มาที่นี่ นายไปพบและทักทายเขาหน่อยสิ..” หากแก๊งมังกรเขียวกับหลิงหยุนเป็นศัตรูกัน แน่นอนว่าหลิงหยุนคงไม่ยอมให้ตี้เสี่ยวอู๋ทำเช่นนั้นแน่ แต่ตอนนี้พวกเขาต่างก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือหลิงหยุนอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้แต่หลงคุนกับลูกสาวก็มาที่นี่ด้วยตัวเอง หลิงหยุนจึงต้องการให้ตี้เสี่ยวอู๋ได้กลับไปพบและทักทายเพื่อนเก่า ตี้เสี่ยวอู๋ผละจากหลิงหยุนเข้าไปทำความเคารพหลงคุน “ลุงหลง.. ข้า..” ทันทีที่ตี้เสี่ยวอู๋ปรากฏตัว หลงคุนก็เอาแต่หัวเราะ เมื่อเห็นตี้เสี่ยวอู๋เดินเข้ามาทำความเคารพและทักทายเขาเช่นนี้ หลงคุนจึงได้แต่พยักหน้าพร้อมกับตอบไปว่า “เด็กน้อย.. เจ้าก้าวหน้าขึ้นมากเลยนะตั้งแต่ติดตามหลิงหยุน ต่อไปแก๊งมังกรเขียวคงต้องขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว..” “….” ตี้เสียวอู๋ถึงกับอึ้งไปและค่อนข้างงุนงงกับคำพูดของหลงคุน เขาไม่เข้าใจความหมายในคำพูดนั้น ในเมื่อเขาเลือกที่จะติดตามหลิงหยุน เหตุใดแก๊งมังกรเขียวยังต้องขึ้นอยู่กับเขาอีก? หลงคุนนึกขึ้นมาได้ว่า นี่ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้ “นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้ ตอนนี้เจ้าไปช่วยหลิงหยุนก่อนจะดีกว่า..” ตี้เสี่ยวอู๋รับคำสั่งพร้อมกับเดินไปหาหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว เขาส่งสายตาสำรวจเหตุการณ์รอบๆตัว ไม่เพียงแค่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากมาย แต่ยังเห็นพี่น้องในแก๊งมังกรเขียวอีกหลายร้อยคน เรื่องเกี่ยวกับแก๊งมังกรเขียวนั้น แน่นอนว่าตี้เสี่ยวอู๋รู้แทบทุกซอกทุกมุม ตี้เสี่ยวอู๋ได้แต่นึกสยดสยองอยู่ในว่า ก่อนหน้านี้หลิงหยุนคงต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากมาย! “ตี้เสี่ยวอู๋.. นี่นายมาทันเวลาอาหารกลางวันพอดีเลย?” ถังเมิ่งหยอกเย้าตี้เสี่ยวอู๋พร้อมกับหัวเราะเสียงดัง “นั่นสิ.. ฉันเองก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย..” ตี้เสียวอู่ยิ้มพร้อมกับต่อยถังเมิ่งด้วยความขุ่นเคือง “ถังเมิ่ง.. นายนี่แย่มาก ตั้งแต่ฉันถูกจับ นายไม่เคยไปเยี่ยมฉันเลย” ความโกรธแค้นปะทุขึ้นในดวงตาของถังเมิ่ง “ไปเยี่ยมบ้าอะไรล่ะ? ฉันน่ะอาการสาหัสกว่านายอีก..! พอนายถูกจับ ฉันก็ถูกเสียเจิ้นเหยินกระทืบซะกระดูกหักจนต้องไปนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน.. “ห๊ะ?! ไอ้สารเลว!” ตี้เสี่ยวอู่ร้องตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้นเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของถังเมิ่ง เขาให้สัญญากับถังเมิ่งว่า “ไม่ต้องห่วง.. ฉันจะไปล้างแค้นให้นายเอง!” หลิงหยุนมองไปที่รถตำรวจที่เพิ่งมาถึงพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ และขัดขึ้นว่า “เรื่องแก้แค้นไอ้กระจอกนั่นรอไว้ก่อน! ตอนนี้เรามาจัดการกับคนที่สั่งจับกุมนายก่อนจะดีกว่า!” เสียงรถตำรวจเปิดไซเรนดังยาวขับตรงเข้ามายังฝูงชน ตำรวจสองนายเดินออกมาจากรถ หนึ่งในนั้นเดินตรงเข้าไปยืนอยู่หน้าหลัวจ้ง หลังจากพูดออกมาสองสามประโยค ก็ยื่นกุญแจสองดอกที่อยู่ในมือให้กับหลัวจ้ง แทบไม่ต้องรอให้หลิงหยุนเดินเข้ามาหา หลัวจ้งเดินถือกุญแจทั้งสองดอกตรงไปหาหลิงหยุนพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “หลิงหยุน.. นี่เป็นกุญแจบ้านของเธอ ตอนนี้เรื่องเข้าใจผิดทั้งหมดก็ถูกแก้ไขแล้ว พวกเราก็รีบแยกย้ายเพื่อให้ทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบจะดีกว่า!” พูดจบหลัวจ้งก็ส่งกุญแจสองดอกให้กับหลิงหยุน และร้องสั่งเจ้าหน้าที่ให้เตรียมแยกย้าย หลิงหยุนโยนกุญแจใส่มือตี้เสี่ยวอู๋ และจับหลัวจ้งเบาๆ “ผู้อำนวยการหลัว ผมยังมีอีกเรื่อง และคุณคงต้องสนใจมาก..” สีหน้าของหลัวจ้งเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดทันที เขายิ้มให้หลิงหยุนอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนจะพูดขึ้นราวกับขอร้อง “หลิงหยุน.. กุญแจบ้านฉันก็คืนให้เธอแล้ว บัญชีธนาคารก็สั่งยกเลิกการการอายัดแล้ว อีกทั้งยังปล่อยตัวเพื่อนของเธอแล้ว.. แล้วยังจะ..” “แกคิดว่าเรื่องจะจบแค่นี้หรือยังไง?” หลิงหยุนเย้ยหยันก่อนจะสั่งถังเมิ่ง “เอาคลิปมาเปิดให้ผู้อำนวยการหลัวฟังซิ..” ถังเมิ่งพยักหน้าอย่างตื่นเต้น และเริ่มเปิดคลิปคำสารภาพของกู่เหลียนซัน “ได้โปรด.. หยุด.. หยุด.. อย่าเปิด!” หลังจากที่ได้ยินเพียงแค่เล็กน้อย สีหน้าของหลัวจ้งก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาทีเต็มไปด้วยความตกใจของเขามองถังเมิ่งอย่างอ้อนวอน และนี่คือระเบิดลูกใหญ่ที่หลิงหยุนเตรียมไว้ให้หลัวจ้อง! Favorite Prev Next Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Score 10 Status: Completed นิยาย จีน นิยาย ดราม่า นิยาย ตลก นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย ฮาเร็ม นิยาย แอคชั่น ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย (อ่านตอนต่อไปด้านล่าง) ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร.. Recommended Series เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด Ch. 282 วังวนแห่งความสุข (ตอนอวสาน) 10 เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด Perfect Guy ผู้ชายคนนี้ฉันดีไซน์เอง 10 Perfect Guy ผู้ชายคนนี้ฉันดีไซน์เอง บ่วงสวาทคุณหมอหนุ่ม Ch. 17 10 บ่วงสวาทคุณหมอหนุ่ม สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ Ch. 56 10 สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ เลขาบนเตียง Ch. 18 10 เลขาบนเตียง