ซุ่ยชิวเหมยโกรธจัด ด่าสาปแช่ง
“วางใจได้ ชาตินี้ผมจะไม่มีวันทำผิดต่อเฉินเยี่ยน วันที่คุณคิดคงไม่มีวันเป็นจริง อย่างที่เยี่ยนจื่อบอก ชีวิตเป็นแบบนี้ อวี๋เหวยหมินไม่ดีจริง แต่คุณก็มีส่วนรับผิดชอบด้วย อวี๋เหวยหมินคิดยังไง นั่นเป็นเรื่องของเขา เยี่ยนจื่อของผมไม่เคยคิดถึงเขา และไม่เคยไปหาเขาด้วย หวังว่าต่อจากนี้คุณจะไม่มีพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้อีก และไม่ต้องมาหาพวกเราอีก ใช้ชีวิตของคุณไปเถอะ ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ”
ซินห้าวก็ไม่อยากเสียเวลาแล้ว วันนี้เดิมทีมีความสุขอยู่ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอคนบ้าแบบนี้
“คุณเชื่อใจเธอขนาดนั้นเลย? เธอไม่กลัวเธอหลอกคุณ?”
ซุ่ยชิวเหมยไม่พอใจ คิดว่าซินห้าวไม่ควรช่วยเฉินเยี่ยน
“เธอเป็นภรรยาผม ทำไมผมจะไม่เชื่อเธอ? ผมเป็นสามีเธอ เธอก็เชื่อใจผมเช่นเดียวกัน พวกเราเป็นสามีภรรยากัน เป็นคนที่สนิทที่สุด แน่นอนพวกเราย่อมเชื่อใจกันและกัน ถ้าพวกเราไม่เชื่อใจกัน งั้นเป็นสามีภรรยาจะมีความหมายอะไร!”
ซินห้าวพูดประโยคนี้จบก็ยกรถขึ้นมา ไม่มองซุ่ยชิวเหมยอีก
ซุ่ยชิวเหมยอยากจะขวาง แต่พอยื่นมือไปได้ครึ่งหนึ่งก็หดกลับ วันนี้เธออยากจะด่าเฉินเยี่ยนชุดใหญ่ และทำให้เฉินเยี่ยนขายหน้า ใช้โอกาสนี้ให้เธอโดนรังแกบ้าง
แต่ซินห้าวกับเฉินเยี่ยนเป็นพวกเดียวกัน ถึงเธอจะลงมือก็เอาชนะทั้งสองคนไม่ได้
จะด่าต่อ? เห็นท่าทางพวกเขาแล้ว ตัวเองด่าไปก็ไม่มีประโยชน์
อีกอย่างเธอรู้แก่ใจ เฉินเยี่ยนไม่เคยสนใจใยดีอวี๋เหวยหมินเลย เป็นอวี๋เหวยหมินที่คิดถึงเฉินเยี่ยนตลอดเวลา เป็นอวี๋เหวยหมินที่คิดใฝ่ฝันไปเอง
แต่เธอระบายความอัดอั้นนี้ออกไปจากใจไม่ได้ ชีวิตแบบนี้ทุกข์ทรมานเกินไป
แม่สามีไม่สนิทกับเธอ เห็นเธอก็หลบ ทำเธอหงุดหงิด
ตอนกลางคืน เธอนอนเหงาอยู่คนเดียวนอนไม่หลับ เตียงที่เย็นยะเยือก เธอไม่มีใครให้พึ่งพิง ชีวิตอ้างว้างแบบนี้เธออยู่ไม่ไหวแล้ว
ครอบครัวที่บ้าน บ้านแม่เธอก็ขุ่นเคืองใจ ตอนนี้เธอกลับไปก็ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว
เธอคิดว่าแบบนี้อวี๋เหวยหมินจะกลับมา ไม่แน่อาจจะหาเงินมาให้เธอ แต่อวี๋เหวยหมินไปหลายเดือนแล้ว ไม่ได้ข่าวคราวเขาสักนิดเลย เธอยังต้องรอต่อไปไหม?
รอต่อไปจะได้อะไรไหม?
รอจนเธอแก่ รอจนเธอตาย ไม่แน่อวี๋เหวยหมินคงไม่กลับมาแล้ว แล้วเธอรอไปจะมีความหมายอะไร?
ชีวิตแบบนี้เธอยังจำเป็นต้องอยู่ไหม?
หรือว่าเธอจะหาสามีใหม่อีก หาที่พึ่งพิง? ไม่ว่ายังไง มีสามี อย่างน้อยก็ไม่ลำบากแบบนี้
ถ้าสามารถหาคนอย่างซินห้าวได้…
ซุ่ยชิวเหมยมองเบื้องหลังซินห้าว ออกไปไกลแล้ว เบื้องหลังดูตัวเล็กแล้ว แต่เบื้องหลังนี้ในสายตาเธอกลับดูยิ่งสูงขึ้น ท่าทางของซินห้าวปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองเมาแล้ว เซลล์ทั้งตัวเธอขยับขึ้นมา กำลังโห่ร้อง หัวใจเธอที่ตายไปนานแล้วเริ่มกลับมาเต้นตึกตักอีกครั้ง
ถ้าสามารถหาสามีแบบซินห้าวได้ เธออดคิดขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเธอจะมีความสุขเหมือนเฉินเยี่ยนไหม?
แค่เพียงคิด ในใจของซุ่ยชิวเหมยก็มีความคาดหวังขึ้นมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ ความคิดบ้าคลั่งแบบนี้ทำให้เธอกลัว แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เธอรู้สึกเป็นสุข อยากจะให้ซินห้าวมาอยู่ตรงหน้าเธอเสียเลย ให้เธอกอด ให้ความอบอุ่นกับเธอ
ใช่แล้ว!
เธอไม่ต้องการใช้ชีวิตอย่างนี้แล้ว เธอจะต้องหาสามี เธอจะทำให้อวี๋เหวยหมินเห็น ไม่มีเขา เธอซุ่ยชิวเหมยมีชีวิตที่ดีกว่าอีก!
แบบนี้ซุ่ยชิวเหมยเลยตัดสินใจแล้ว
เฉินเยี่ยนไม่ได้หันหลังกลับมา และไม่รู้เลยว่าซุ่ยชิวเหมยที่ยืนอยู่ท่ามกลางลมโกรกจะออกจากบ้านอวี๋ไปหลังจากนั้นสองวัน แล้วแต่งงานใหม่ในสองเดือนต่อมา
เธอและอวี๋เหวยหมินยังไม่ได้หย่ากัน แต่เรื่องแบบนี้ในหมู่บ้านเกษตรกรนั้นมีไม่น้อย เธอจัดงานเลี้ยงกับผู้ชายคนอื่น ก็ถือว่าแต่งงานกันแล้ว ส่วนตอนหลังชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร ดีอย่างที่เธอคิดไว้หรือเปล่า นั่นเป็นเรื่องของเธอแล้ว ไม่เกี่ยวกับเฉินเยี่ยน
ตอนที่มาถึงบ้านเฉิน เฉินเยี่ยนสลัดความคิดเรื่องซุ่ยชิวเหมยทิ้งไปแล้ว เธอไม่ใช่คนในชีวิตตัวเอง ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องเธอ
หวางนิวรออยู่หน้าประตูบ้านนานแล้ว เห็นพวกเขา ก็เรียกคนไปรับแต่ไกล
ซินเช่อโดนหวางนิวอุ้ม ซุนหรูเยว่โดนหลัวเหมยอุ้มไว้ เฉินเยี่ยนลงจากรถก็อุ้มเฉินฉือหลิวที่พุ่งตรงมาหาเธอ ฝั่งเฉินเฟยโดนเฉินจงอุ้มอยู่
“ฉือหลิวหนักขึ้นอีกแล้ว ถ้าโตขึ้นอีกสองปีป้าอุ้มไม่ไหวแล้ว”
เฉินเยี่ยนหยิกจมูกฉือหลิวแล้วยิ้ม
“หนูโตแล้วจะอุ้มคุณป้า”
ฉือหลิวพูดเสียงดังกังวาน ทำเอาทุกคนขำ
เข้าบ้านแล้ว เด็กสองคนเหมือนรู้เรื่องเลยลืมตาขึ้น
ตอนเฉินเยี่ยนพูดพวกเขาก็จะฟังอย่างตั้งใจ เพราะพวกเขาจำเสียงเฉินเยี่ยนได้ เพียงแต่สายตาพวกเขายังมองไม่เห็นชัดเจน ถึงแม้จะเห็นว่าเธอมองมา แต่ก็ไม่ชัด
“เด็กนี่ยิ่งโตยิ่งหล่อ ดูแล้วหน้าเหมือนซินห้าวเยอะเลย โตขึ้นมาต้องหล่อแน่”
หวางนิวมองหลานชายตัวเองยิ่งมองยิ่งชอบ
“คุณยาย หนูขออุ้มน้องได้ไหมคะ?”
ฉือหลิวเห็นแล้วก็ทนไม่ได้ อยากยื่นมือไปอุ้ม
“ไม่ได้นะ หนูอุ้มไม่ไหว”
หวางนิวตกใจ ถ้าหลานสาวทำหลานชายตกไปจะทำยังไง
“ฉือหลิว รออีกสองปีหนูก็อุ้มน้องชายกับน้องสาวได้แล้ว ตอนนี้พวกเขายังเล็ก ขนาดป้าอุ้มยังกลัวเลย แต่ตอนนี้หนูลูบพวกเขาได้ เห็นมือเล็กๆ ของพวกเขาไหม? ลองลูบมือดู”
เฉินเยี่ยนรู้ว่าฉือหลิวไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น ก็แค่อยากแสดงออกว่าเธอชอบน้องชาย ไม่อยากทำให้ฉือหลิวเสียใจ เลยจับมือเล็กของฉือหลิวมาวางบนกลางมือซินเช่อ
เหมือนซินเช่อได้จับของเล่นที่น่าเล่น เริ่มออกแรงบีบ แต่แรงเขาน้อยมาก ไม่รู้สึกเจ็บ
“คุณป้า น้องชายกุมมือหนูด้วย”
เฉินฉือหลิวยิ้มด้วยความประหลาดใจ ดูท่าทางแล้วชอบมาก
เฉินเฟยก็วิ่งเข้ามา เขาก็มาดูอย่างครื้นเครง เฉินเยี่ยนเลยจับมือเฉินเฟยไปวางบนฝ่ามือเยว่เยว่
เยว่เยว่ก็กำนิ้วเฉินเฟย เฉินเฟยหัวเราะฮาฮาขึ้นมา
ในชั่วขณะก็มีเสียงหัวเราะขึ้นมาทั้งห้อง
เสียงหัวเราะของทุกคนเหมือนจะทำซินหรูเยว่ตกใจ เธอร้องไห้ดังขึ้นมา
พอเธอร้องไม่เท่าไร ซินเช่อก็ร้องไห้ตามขึ้นมาด้วย
พวกเขาทั้งสองคนร้องไห้ขึ้นมา เหมือนจะทำเฉินเฟยตกใจ เขาปากเบะ ร้องไห้ดังขึ้นมาเช่นกัน
ทันใดนั้นเสียงร้องไห้ดังขึ้นมาทั้งห้อง