Home › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 318 Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 318 ตอนที่ 318 Posted by , ? Views, Released on September 25, 2020 Prev All Chapter Next Options Facebook Twitter WhatsApp Pinterest บทที่ 318 : หลวงจีนกายเพชร ยิ่งเข้าใกล้ตำแหน่งดวงตามังกรหยางมากขึ้นเท่าไหร่ หลิงหยุนยิ่งสัมผัสได้ถึงพลังหยางบริสุทธิ์ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าอุณหภูมิจะสูงมาก แต่เขากลับรู้สึกกำลังอุ่นสบาย และนี่คือประโยชน์ยิ่งใหญ่ของวิชาพลังลับหยินหยางซึ่งเป็นเทคนิคการบ่มเพาะชั้นสูงอย่างหนึ่งของโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่ลงทุนไปกับการฝึกฝนวิชามากมายถึงเพียงนี้ ดูเหมือนการฝึกบ่มเพาะของเจ้าขาวปุยจะเหมาะสมกับพลังหยางบริสุทธิ์นี้มากกว่า ต่างกับเมื่อตอนที่อยู่ในตำแหน่งดวงตามังกรหยิน มันรู้สึกไม่สบายเหมือนกับอยู่ที่นี่ เดินไปข้างหน้าอีกราวหกสิบเมตร หลิงหยุนก็เข้าไปถึงตำแหน่งดวงตามังกรหยาง ที่นี่ต่างจากถ้ำดวงตามังกรหยินที่ใหญ่โต เพราะทางเข้าดวงตามังกรหยางนั้นเล็กกว่าหลายเท่านัก ภายในถ้ำก็สูงเพียงหกหรือเจ็ดเมตรเท่านั้น และพื้นที่ข้างในก็ค่อนข้างเล็ก “อู้ว.. ด้านในมีอารามด้วยหรือนี่?!” เมื่อเดินเข้าไปหลิงหยุนก็พบกับอารามหลังเล็กๆที่สร้างด้วยหินอยู่ด้านใน เขาจึงอุทานออกมาอย่างแปลกใจ อารามที่อยู่ด้านในนี้สร้างอย่างเรียบง่าย.. ไม่มีแม้กระทั่งป้ายอาราม และไม่มีอาสนะสำหรับให้นักบวชนั่ง แต่หลิงหยุนก็ดูออกว่าสิ่งปลูกสร้างนี้คืออาราม! แต่สิ่งที่เห็นทำให้หลิงหยุนถึงกับตกใจอย่างมาก! “สวรรค์!! นี่มัน..” หลิงหยุนยืนอยู่ห่างจากอารามเล็กๆนั่นเพียงยี่สิบเมตร เขาจึงสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน เขามองเห็นหลวงจีนรูปหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ จึงได้เข้าไปดูใกล้ๆ และดวงตาของหลิงหยุนก็เป็นประกายขึ้นมาทันที.. “นี่คือกายเพชรตามตำนานที่เล่าขานกันมา เป็นกายที่เกิดจากการปฏิบัติถึงขั้นสูงสุดตามแนวทางพุทธศาสนา!” หลิงหยุนตกใจจนถึงกับอ้าปากหวอและนิ่งไปครู่หนึ่ง! สิ่งที่เขาเห็นคือภาพหลวงจีนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนอาสนะหิน แสงจากไข่มุกราตรีตกกระทบมือสองข้างที่วางซ้อนกันอยู่บนตก ร่างทั้งร่างของหลวงจีนรูปนี้เป็นสีทองประกายเจิดจ้า หลิงหยุนยิ้มออกมาอย่างดีใจ ‘หลวงจีนรูปนี้นั่งอยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้วนะ?’ หลิงหยุนครุ่นคิดอยู่ในใจเงียบๆ หลังจากที่หายจากอาการตกใจอยู่นาน หลิงหยุนก็ยกมือขึ้นไหว้สักการะพระรูปนั้น แม้แต่ในครั้งที่อยู่ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ หลิงหยุนเองก็ไม่เคยพบเห็นหลวงจีนที่มีชื่อเสียงรูปใหนที่มรณะภาพในท่านั่งเช่นนี้มาก่อน และดูเหมือนว่าหลวงจีนรูปนี้คงจะเข้าสู่สภาวะนิพพานที่บริสุทธิ์อันมีผลต่อจิตใจของมนุษย์แล้วอย่างแน่นอน “โอ้.. นั่น.. นั่น..!!!” หลิงหยุนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังได้ยินเสียงระฆัง เสียงกลอง และเสียงสวดมนต์คล้ายกำลังมีการทำวัตรเช้า และหลิงหยุนเองก็รู้สึกดื่มด่ำราวกับอยู่ในพิธีนั้นด้วย หลิงหยุนยืนอยู่ตรงหน้าหลวงจีนชรารูปนี้ สีหน้าของเขาสงบนิ่ง และดวงตาคู่สวยของเขาก็เปล่งประกายเจิดจ้า จิตใจของหลิงหยุนตื่นขึ้น และสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหนักแน่น หลิงหยุนรู้สึกราวกับได้ชำระล้างบาปทั้งหลายออกจากจิตใจของตัวเอง แต่จู่ๆ ดวงตาของหลิงหยุนก็กลับคืนสู่ความบริสุทธิ์ มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ท่านอาวุโส.. เวลาผ่านมาเนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจนับได้ แต่โชคชะตากลับพาให้เราได้มาพบเจอกันใต้ผืนดินที่ลึกกว่าห้าร้อยเมตรแห่งนี้ หากแม้เราจะเคยเป็นสหายร่วมเดินบนเส้นทางเดียวกันมาก่อน แต่ข้าก็มีทางเดินของตัวเอง จึงไม่อาจยอมรับเส้นทางของท่านได้!” หลิงหยุนต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะหันหลังกลับไป และเมื่อหันกลับไปด้านหลัง เขาก็พบว่าเจ้าขาวปุยได้วิ่งไปที่ดวงตามังกรหยาง และเริ่มฝึกฝน! หลิงหยุนได้ฝึกฝนวิชาลับหยินหยางสำเร็จแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องนั่งทำสมาธิเหมือนเช่นเคยอีก ร่างกายของเขาสามาถดูดซับพลังหยางบริสุทธิ์จากที่นี่ได้เอง หลิงหยุนหันกลับไปสำรวจรอบๆต่อ เขาเดินเข้าไปในอารามเล็กๆที่แสนจะธรรมดานี้ แต่กลับสัมผัสได้ว่าภายในอารามที่เรียบง่ายแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยพลังแห่งพุทธะ และบทสวดมนต์ก็ยังคงดังก้องอยู่ในหู จนเขาเองก็แทบจะต้านทานไม่ไหว หลิงหยุนรู้สึกว่าเขาไม่ควรอยู่ที่นี่นานนัก มิเช่นนั้นแล้ว หลังจากออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เขาคงต้องออกบวชอย่างแน่นอน หลิงหยุนรีบกวาดสายตาสำรวจไปรอบๆอาราม และเขาก็พบเพียงของใช้สำหรับหลวงจีน ไม่ว่าจะเป็นคฑา สร้อยประคำแขวนพระ บาตร ตะเกียงน้ำมัน และภาชนะรูปน้ำเต้า หลิงหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงหยิบเอาตะเกียงน้ำมันและภาชนะรูปน้ำเต้าเก็บเข้าไปในแหวนพื้นที่ และเตรียมตัวที่จะกลับออกไป แต่ในจังหวะที่หลิงหยุนกำลังหันเพื่อเดินกลับออกไปนั้น สายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับลูกประคำขนาดเท่าเม็ดถั่วในมือของหลวงจีน หลิงหยุนใจสั่น และค่อยๆเอื้อมมือออกไปหยิบสร้อยปะคำในมือของหลวงจีนขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ลูกประคำนี้ไม่มีประกายแวววาว แต่กลับเป็นสีเทาธรรมชาติ และมีขนาดเท่าเม็ดถั่วขนาดใหญ่ “นี่มันอะไรกัน? ก็ไม่มีอะไรแปลกประหลาดนี่นา…” หลิงหยุนพึมพำในขณะที่จับสร้อยประคำหมุนไปหมุนมา หลังจากที่สังเกตุอย่างละเอียดอยู่นาน สีหน้าของหลิงหยุนก็เปลี่ยนไปทันที เขาสังเกตุเห็นบนลูกประคำสีเทาพื้นๆนั้น กลับมีลายเส้นที่ลากเชื่อมต่อกันเป็นรูปพระพุทธองค์ที่เปี่ยมด้วยเมตตา ลายเส้นรูปพระพุทธองค์นี้ ผิวเผินอาจดูเหมือนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นว่าเป็นฝีมือการแกะสลักของยอดฝีมืออย่างแน่นอน ลายเส้นที่เป็นรูปพระพุทธองค์นั้นช่างแกะสลักได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเผยให้เห็นเสน่ห์แห่งเซ็นที่ไม่อาจอธิบายได้ หลิงหยุนถือไว้ในมือและสัมผัสได้ถึงพลังพุทธะที่อยู่รายล้อม เสียงแห่งพุทธะนั้นก้องกังวานชัดเจนราวกับเสียงระฆัง และตรงเข้าสู่จิตใจของหลิงหยุน.. หลิงหยุนนำสร้อยประคำที่ห้อยอยู่บนโต๊ะหินขึ้นมาเทียบ และพบว่ามันมีสีที่คล้ายคลึงกัน แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกันอย่างแน่นอน “ช่างน่าอัศจรรย์นัก! เอากลับไปสำรวจต่อที่บ้านดีกว่า..” หลิงหยุนตัดสินใจเก็บสร้อยประคำเข้าไปในแหวนพื้นที่ด้วย หลังจากที่เก็บน้ำเต้า ตะเกียงน้ำมัน และสร้อยประคำไปแล้ว เสียงสวดมนต์ในอารามก็ดูเหมือนจะค่อยๆเบาลงในทันที หลิงหยุนยิ้มให้กับหลวงจีนชรารูปนั้นอีกครั้ง แล้วจึงก้าวออกจากอารามไป ‘โลกมนุษย์.. เป็นโลกที่ลี้ลับ และไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้จริงๆ!’หลิงหยุนถึงกับอึ้ง หลังจากที่กวาดสายตาไปรอบๆถ้ำหิน และเมื่อเห็นว่าไม่มีทางทะลุไปที่อื่น เขาก็ส่งเสียงเรียกเจ้าขาวปุยที่กำลังฝึกอยู่ให้ออกไปจากที่นี่โดยเร็ว หลิงหยุนมั่นใจว่าตัวเขานั้นไม่สามารถูกพลังพุทธะ และเสียงพุทธะทำอันตรายได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับเจ้าขาวปุยนั้น หากอยู่ที่นี่นานเกินไปอาจจะเกิดปัญหากับมันอย่างแน่นอน “รีบไปกันดีกว่า!” หลิงหยุนไม่สามารถอยู่ดูดซับพลังหยางที่นี่ได้ เขาบอกเจ้าขาวปุยแล้วรีบก้าวเท้าออกไปทันที เจ้าขาวปุยนั่งลงมองหลวงจีนชราที่นั่งอยู่ในวัด และไม่ยอมขยับไปใหน “อย่าทำเช่นนั้น..!” หลิงหยุนเห็นเช่นนั้นจึงรีบอุ้มเจ้าขาวปุยแล้วใช้มังกรพรางร่างกระโดดออกไปไกลราวห้าสิบเมตร และมุ่งหน้าไปยังถ้ำหินฝั่งตรงข้าม “ขาวปุย.. ขาวปุย..?!” หลิงหยุนวางเจ้าขาวปุยลงบนพื้น แล้วส่งเสียงร้องเรียกสองสามครั้ง แต่เจ้าขาวปุยกลับเพียงแค่ลืมตามองเขา แววตาที่งุนงงของเจ้าขาวปุยค่อยๆจางหายไป และเริ่มกลับสู่สภาพปกติ แต่มันกลับไม่สามารถร้องหรือแสดงอารมณ์ใดๆได้ “น่าแปลก.. ภาพของหลวงจีนอาวุโสที่มรณะภาพในท่าขัดสมาธินั้นเป็นของจริง หรือเป็นภาพลวงตากันแน่…” หลิงหยุนพึมพำกับตัวเองอย่างงุนงง และดูเหมือนเขาจะลืมทุกสิ่งที่เพิ่งพบเห็นเมื่อครู่ไปจนหมดสิ้น แต่ถึงอย่างไร ภาพของหลวงจีนชราที่นั่งขัดสมาธินิพพานพร้อมรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตานั้น ยังคงเป็นภาพที่มีคุณค่าต่อจิตวิญญาณของหลิงหยุน และมันยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจของเขา หลิงหยุนนึกถึงตำนานเก่าแก่ลี้ลับที่เขาอ่านมาจากอินเทอร์เน็ต แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ‘หลวงจีนรูปนั้นเป็นใครกันนะ?!’ “ไม่แปลกที่จิตหยั่งรู้ในขั้นพลังชี่-9ของข้าในวันนั้นไม่สามารถสำรวจพบ..” “ไปที่ตำแหน่งหัวใจกันดีกว่า..” หลิงหยุนอุ้มเจ้าขาวปุยมุ่งหน้าไปทางด้านตะวันออกอีกครั้ง และครั้งนี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังของค่ายกลมังกรหยินหยาง ไม่ว่าจะเป็นถ้ำค้างคาวดูดเลือด หรือโลงศพทองแดงสัมฤทธิ์ทั้งใหญ่และเล็กนั้น ยังไม่ดูลึกลับเท่ากับหลวงจีนชราที่นั่งมรณภาพในท่าขัดสมาธิ หลิงหยุนได้สำรวจดวงตาของค่ายกลมังกรหยินหยางเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาจะเข้าไปเอาน้ำลายมังกร และทันทีที่ได้น้ำลายมังกรเขาก็จะกลับออกไปทันที ดวงตามังกรหยิน และดวงตามังกรหยางนั้น เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของค่ายกลแห่งนี้ แต่ส่วนสำคัญหลักของค่ายกลแห่งนี้คือตำแหน่งกุญแจมังกร ที่จะทำหน้าที่กักขังมังกรไม่ให้ออกไปที่ทะเลสาปจิงฉู ไม่รู้ว่าค่ายกลแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมายาวนานเท่าไหร่แล้ว หลิงหยุนไม่จำเป็นต้องเห็นมังกรตัวจริง แต่เขาก็มั่นใจว่าจะสามารถหาน้ำลายมังกรได้ เพราะในเมื่อมีหญ้าน้ำลายมังกร ด้านล่างก็ต้องมีน้ำลายมังกรเช่นกัน ยิ่งหลิงหยุนเดินเข้าใกล้ทางด้านตะวันออกมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่าง หลิงหยุนต้องระมัดระวังให้มากขึ้น เพราะด้านหน้าของเขานั้นเป็นตำแหน่งหัวใจมังกรซึ่งเป็นศูนย์รวมของค่ายกลแห่งนี้ หลิงหยุนอาจติดกับดักที่นี่ได้หากไม่ระวัง และเขาเองก็ไม่ต้องการถูกกักขังอยู่ที่นี่เช่นเดียวกับหลวงจีนชรารูปนั้น ‘มังกรอาศัยอยู่ที่ใหนนะ? หรือจะอยู่ใต้แม่น้ำที่มืดมิดแห่งนั้น?’ หลิงหยุนเดินไปพร้อมกับครุ่นคิดอยู่ภายในใจ ‘หรือมังกรพวกนั้นจะหนีออกไปจากค่ายกลแห่งนี้ได้สำเร็จแล้ว เพาะในวันที่ฝนตกหนักจนเกิดหลุมยุบขนาดยักษ์แห่งนี้ ได้ทำลายค่ายกลนี้ไปแล้ว?’ หลิงหยุนเดินไปคิดไป และรีบถอยห่างออกมาจากถ้ำที่เชื่อต่อระหว่างดวงตามังกรทั้งสองข้าง หากตอนนี้เขาอยู่บนพื้นดินด้านบน หญ้าน้ำลายมังกรจะอยู่บริเวณถัดออกไปจากหุบเขาที่อยู่ระหว่างเขาหยกด้านใต้กับเขามังกร หลิงหยุนเริ่มสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่ทรงพลังอย่างมาก เขารู้ได้ทันทีว่ามันคือพลังชีวิตที่กระจายออกมาจากน้ำลายมังกร ในเมื่อการจะพบมังกรนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็น การจะได้พบน้ำลายมังกรจึงเป็นเรื่องที่ยากเย็นเช่นกัน พลังชีวิตจากน้ำลายมังกรนั้นมีความเข้มข้นกว่าพลังชีวิตที่กระจายออกจากร่างของมังกรเสียอีก หลิงหยุนจึงต้องรีบดูดซับเข้าไปอย่างรวดเร็ว “หวังว่าหลวงจีนชรานั่นจะไม่หยิบเอาน้ำลายมังกรของข้าไปนะ..” หลิงหยุนเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น หลวงจีนชราที่บรรลุรูปนี้ ไม่รู้ว่าอาศัยอยู่ในค่ายกลแห่งนี้มานานเท่าไหร่แล้ว และด้วยพลังภายในที่น่ากลัวของเขา หากไม่รู้จักน้ำลายมังกรนั้น หลิงหยุนไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน ถ้ำหินเริ่มสูงขึ้นและใหญ่ขึ้น แล้วก็ยิ่งใหญ่ขึ้น.. ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนหลิงหยุนรู้สึกว่าตัวของเขานั้นเล็กนิดเดียว “สวรรค์!! นั่นมันอะไรกัน?!” หลิงหยุนเดินเข้าไปจนสุด และสัมผัสได้ว่าพลังชีวิตจากน้ำลายมังกรนั้นเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เขาเห็นกำแพงที่วางขวางเป็นแนวนอนสีดำ กำแพงสีดำ!! กำแพงนี้ไม่ได้น่าหวาดกลัว แต่สิ่งที่ทำให้หลิงหยุนตกใจสุดขีดคือกำแพงค่อยๆเคลื่อนที่เองอย่างช้าๆ Favorite Prev Next Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Score 10 Status: Completed นิยาย จีน นิยาย ดราม่า นิยาย ตลก นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย ฮาเร็ม นิยาย แอคชั่น ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย (อ่านตอนต่อไปด้านล่าง) ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร.. Recommended Series เทพศึกมังกรหวนคืน Ch. 298 งานเต้นรำหน้ากาก 10 เทพศึกมังกรหวนคืน Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ Ch. 212 10 Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ ปฏิญญาค่าแค้น Ch. 317 บางครอบครัวสุขสันต์ บางครอบครัวกลัดกลุ้ม 10 ปฏิญญาค่าแค้น เปลวไฟในม่านหมอก Ch. 48 ยอมแล้วเมียจ๋า 10 เปลวไฟในม่านหมอก ฮองเฮาสุดที่รัก Ch. 101 10 ฮองเฮาสุดที่รัก