Divine Card Creator 75 แขกลึกลับ

ตอนที่ 75 แขกลึกลับ

นิยาย Divine Card Creator

ตอนที่ 75 แขกลึกลับ

หลังจากกลับมาถึงร้าน ลู่หมิงก็กลับเข้ามาบ่มเพาะตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ตอนหัวค่วันเดียวกันนั้นเอง

จู่ ๆ ก็มีลูกค้าท่านหนึ่งเข้ามาในร้าน

“สวัสดี”

เสี่ยวไปก้าวไปข้างหน้าพร้อมถาม “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?”

ลูกค้าคนนั้นกวาดสายตาอันน่าสงสัยไปยังเสี่ยวไป์ “เอ่อ…ฉันมาหาลู่หมิง”

“หม?” ลู่หมิงเงยหน้าขึ้น

เขาจ้องมองไปยังใบหน้าของลูกค้าคนนั้น

อายุประมาณ 20 ปี ไม่มีกลิ่นอายอะไรเป็นพิเศษ น่าจะเป็นผู้บ่มเพาะธรรมดาๆ

ซึ่งลู่หมิงก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเขาไม่ได้รู้จักกับคนๆ นี้เป็นการส่วนตัว

“สวัสดีครับ ผมลู่หมิง” ลู่หมิงยืนขึ้นพร้อมยื่นมือออกไปจับ

หลังจากที่จ้องลู่หมิงสักพัก ลูกค้าคนนั้นก็พึมพํา “คุณดูค่อนข้างแตกต่างจากรูปถ่ายจริงๆ”

รูป…

ลู่หมิงช็อค หรือจะเป็น…

บรรลัยแล้วไง!

เป็นไปไม่ได้!

เขามั่นใจว่ารูปทั้งหมดนั่นถูกทําลายไปแล้ว ส่วนคนที่รู้เรื่องนี้ก็ล้วนแหงแก่ไปเกือบจนหมด!

เอาไงดีวะ?

หรือฆ่าแม่ มทิ้งไปเลยดีมั้ย?…

“อ่า สวัสดีครับ ผมลืมแนะนําตัวไป ผมเป็นเพื่อนของพี่สาวคุณ”

เขาแนะนําตัวเอง “คุณหน้าตาดีมาก เธอเคยให้ผมดูรูปคุณสมัยก่อน ไม่นึกว่าปัจจุบันคุณจะเปลี่ยนไปขนาดนี้!

ฟูววว เป็นอย่างนี้เองสินะ…

ลู่หมิงรีบเชิญเขาเข้ามา

เนื่องจากเขาเป็นเพื่อนของพี่สาว ฉะนั้นลู่หมิงย่อมยินดีต้อนรับ

แถมยังสัมผัสได้ถึงความหล่อเหลาของฉันซะด้วย ฮ่าๆ

“จุดประสงค์ที่ผมมาคือเพื่อจะบอกบางอย่างกับคุณ”

เขากล่าวต่อ “เดือนหน้า มรดกเงาจันทราจะจุติขึ้นและมีเพียงผู้ครองเศษมรดก 7 คนที่ถูกเลือกไปเข้าร่วมพร้อมกับนักสร้างการ์ดซึ่งลู่หยานก็เลือกคุณเป็นคู่หูของ
เธอ! ”

“หือ?”

สมองของลู่หมิงว่างเปล่า

เขา?

ไอหนุ่มนี่กําลังเล่นตลกอะไรอยู่?!

ไม่ใช่ว่าลู่หยานรู้ระดับความสามารถของเขาอยู่แล้วหรอ แล้วเธอจะเอาเขาไปทําเพื่อ?

มรดกพวกนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ปกติผู้ช่วยที่ถูกเลือกมักเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง แล้วทําไมเธอถึงเลือกเขา? แม้ว่าลู่หมิงจะเป็นอัจฉริยะแต่เขาก็ยังเป็นเพียงแค่นักสร้างการ์ดระดับ 2

“ไม่ต้องกังวลหรอก ลู่หยานไม่สนใจเรื่องมรดกเท่าไหร่”

“ลู่หยานฝากบอกคุณว่า เธอมีมรดกที่ดีกว่าอยู่แล้ว เวลานี้เธอแค่อยากเปิดหูเปิดตาให้คุณเพื่อพัฒนาทักษะการสร้างการ์ด” เขากล่าว

ทําเพื่อเปิดหูเปิดตาฉัน?

ลู่หมิงได้แต่มึนงง

ส่วนชายคนนั้นกลับได้แต่อิจฉาอยู่ในใจ

ฮ่วย ทําไมฉันไม่มีพี่สาวแบบนี้บ้างฟะ?

เขาเคยถึงขั้นเข้าไปกราบกรานให้เธอรับเขาเป็นน้องบุญธรรม…แต่กลับโดนอัดซะเละเป็นขรี้กลับมา

โลกนี้ช่างโหดร้าย…

“แน่นอน หน้าที่ของผมในคราวนี้คือมาถามความคิดเห็นของคุณว่าอยากเข้าร่วมไหม?

เขาถามด้วยความจริงจัง

“ฉันควรจะเข้าร่วมดีไหม?” ลู่หญิงคิดหนัก
เขาวิเคราะห์อย่างใจเย็น

มรดกเงาจันทรา…

เขาเคยค้นคว้าเรื่องของมันมาก่อน

ในการสืบทอดมรดก สิ่งที่สําคัญที่สุดไม่ใช่ผลลัพธ์แต่เป็นกระบวนการ

นี่เป็นเพราะด้วยระบบของมัน ไม่ใช่แค่ผู้รับมรดกที่ได้ทุกอย่างไปครอบครอง แต่ผู้ท้าชิงทุกคนก็จะได้พัฒนาตนเองระหว่างทางด้วยเช่นกัน!

ทั้งประสบการณ์การต่อสู้และระดับพลังงาน!

นั่นเป็นเหตุผลที่ทําให้คนบ้าคลั่งเมื่อได้ยินค่าว่ามรดก

นอกจากนี้มรดกเงาจันทรายังเกี่ยวพันกับนักสร้างการ์ด ดังนั้นเขาอาจจะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด!

และจากเจตนาของพี่สาวเขา ยังไงซะต่อให้เขาล้มเหลวมันก็ไม่เป็นปัญหาอะไร…

อม…

เพื่อเปิดหูเปิดตาเขาร?

ดูเหมือนเมื่อก่อนลู่หมิงน้อยจะขี้ขลาดเกินไป เธอเลยอยากจะจัดการกับปัญหานี้โดยการพัฒนาความสามารถของเขา!

เอาจริงๆ นั้นลู่หมิงน้อยเองก็มีความทะเยอทะยานของตน!

แม้ว่าเขาจะปากแข็งและทําตัวเป็นกบฏกับครอบครัว แต่เขาก็อยากจะเป็นนักสร้างการ์ดเพื่อช่วยพี่สาว

แม้ว่าสุดท้ายเขาจะล้มเหลวกับทุกเรื่องก็ตาม…

“ผมจะเข้าร่วม” ลู่หมิงตอบตกลงโดยไร้ซึ่งความลังเล

มรดกเงาจันทรา…

โอกาสดีๆ อย่างนี้จะไม่ให้เข้าร่วมได้ยังไง?!

ท้ายที่สุดแล้วเขายังเป็นหนึ่งในคนที่ขโมยตาแหน่งผู้ท้าชิงมรดกนี้มาด้วยตัวเอง!

ตั้งแต่ที่เขาถูกส่งมายังโลกนี้ และต้องเผชิญอันตรายมามากมาย เขาก็ได้ข้อสรุปว่าไม่มีที่ใดในโลกนี้ที่ปลอดภัย

ฉะนั้นลู่หมิงจึงได้แค่ บ่มเพาะให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น!

“เยี่ยมมมมมมม!” อีกฝ่ายดีใจ

“มันจะต้องแย่แน่ถ้าคุณปฏิเสธผม” เขากล่าวด้วยใบหน้าเหวอๆ

“หัะ ทําไมล่ะ?” ลู่หมิงสตั้น

“เพราะลู่หยานกําชับมาว่า…” เขาหยุดชั่วคราวก่อนกล่าวต่อ

“ถ้าคุณปฏิเสธ แปลว่าคุณไม่มีใจจะพัฒนาตัวเองอีกต่อไป… ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น แทนที่จะอยู่นอกบ้าน สู้กลับมาใช้ชีวิตอันแสนสงบสุขและปลอดภัยแบบปลาเค็มไป วันๆ ที่บ้านยังจะดีกว่า”

TL: ปลาเค็มเป็นคําสแลงในภาษาจีน หมายถึงคนที่ใช้ชีวิตอย่างขี้เกียจไปวันๆ โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย

เมื่อกล่าวถึงจุดนี้การแสดงออกของชายคนนั้นได้แต่ซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม

แม่ ง นี่มันชีวิตดีๆ ที่ลงตัว!

จากความเข้าใจของเขา สิ่งที่ลู่หยานพูดก็แปลได้ง่ายๆ ว่าถ้าน้องชายของเธอไม่อยากบ่มเพาะต่อแล้วก็แค่กลับไปที่บ้านแล้วรอรับมรดกสัก 100 ล้านหยวนที่พี่สาวของเธอเตรียมให้สบายๆเถอะ

ไอหมอนี่มันมีดวงระดับ SSS เปล่าววะ

ตอนแรกเขาเคยคิดจะอัดไอเด็กนี่เพื่อแก้แค้นกับโชคชะตาของตนสักครั้งด้วยซ้ํา

เห้อออ…ลืมมันไปเถอะ

“เอิ่ม เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันไหม?” ลู่หมิงเริ่มเสียดาย

พอได้ฟังอย่างนี้ลู่หมิงก็เริ่มคิดแล้วว่ากลับบ้านไปเป็นปลาเค็มนี่ก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะเนี่ย!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ชายหนุ่มได้แต่แสดงสีหน้าน่าเกลียด

เชี่ยเอ้ย ไอเด็กนี่แม่ง อวดพี่สาวของตัวเองหน้าด้านๆ เฉยเลย!

“คุณแก้ไขสัญญาไม่ได้แล้ว เอาล่ะ….ของพวกนี้เป็นสิ่งที่หยานเตรียมไว้ให้คุณ”

เขาหยิบกองหนังสือออกมาได้แก่ “เล่มแรกคือ 5 ปีของการถอดรหัส เล่มที่สองคือ 3 ปีของการเข้ารหัส และสุดท้ายหนังสือเทคนิคสร้างการ์ดขั้นสูง” ..

โอ้ว ของพวกนี้ช่วยให้เขาประหยัดเงินไปได้มหาศาล!

“ของพวกนี้เป็นความรู้พื้นฐาน คุณควรรีบเรียนรู้พวกมันล่วงหน้าเพื่อพัฒนาความสามารถ” เขากล่าว

“อย่าลืมว่าคุณมีเวลาอีกแค่เดือนเดียวก่อนศึกชิงมรดกจะเริ่ม!”

“ตอนนี้ลู่หยานค่อนข้างยุ่ง ที่ฉันมาแทนในคราวนี้ก็เพื่อลดภาระของเธอ”

เขาจ้องมองไปยังเสี่ยวไปพร้อมทาหน้าแปลกๆ ก่อนกล่าวต่อ “แต่ดูเหมือนช่วงนี้คุณกําลังไปได้ดี”

ลู่หมิงพูดไม่ออก

พูดอย่างงี้พร้อมทําหน้าอย่างนั้น เอ็งจะสื่ออะไรนิ?!

“เอาล่ะ ได้ข้อสรุปแล้ว งั้นผมขอตัวก่อน”

เขาเตรียมที่จะออกไปจากร้าน

อย่างไรก็ตาม จู่ๆ ร่างกายของเขานั้นพร้อมกับล้มลงไปกองบนพื้น

“เฮ้ย คุณเป็นอะไรไหม?” ลู่หมิงตกใจ ก่อนจะรีบเข้าไปช่วยพยุง

ไหงจู่ๆ หมอนี่ก็กล้ามเนื้ออ่อนแรงขึ้นมาล่ะเนี่ย?

“ขอโทษที่”

ใบหน้าของลูกค้าคนนั้นซีดถึงขีดสุด “ตอนแรกผมคิดว่าจะฝืนได้จน จบ… อัก… แค่กๆๆ…

เขากระอักเลือด 2 ครั้งต่อเนื่อง

ก่อนจะหยิบทิชชูมาเช็ดเลือดที่กระจายเต็มพื้นอย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่มีอะไรต้องคิดมาก ผมไม่เป็นไร”

เขาโบกมือบอกลู่หมิง

“คุณไม่ต้องกังวลเรื่องของผม”

“ถ้าผมยังอยู่ที่นี่ต่อเดี๋ยวคุณได้มีปัญหาใหญ่แน่ ปล่อยผมไปดีกว่า”

ลู่หมิงไร้คําพูด

เฮ้ พี่ชายคุณอาการหนักขนาดนี้แล้วยังจะพูดทําเท่เป็นพระเอก MV อยู่อีก?

แต่ว่านะ…

ปัญหาจะตามมาหรอ…?

หรือจะเป็นศัตรูของเขา?

อย่างไรก็ตาม…

เมื่อล่หมิงเหลือบไปเห็นตํารวจที่กาลังวิ่งวุ่นอยู่นอกร้านกับใบหน้าซีดๆของชาย คนนี้ ความคิดแผลงๆ บางอย่างก็แล่นขึ้นมาในหัวเขา

แม่*ง!

ไม่มีทางหรอกมั้ง…?

เขาถามโดยสัญชาตญาณ “เอ่อ ว่าแต่พี่ชาย คณชื่ออะไรนะ?”

“ฉัน?”

เขาเกาหัวของตนเล็กน้อย “โอ๊ะผมลืมบอกชื่อของผม? ขอโทษที่ ชื่อของผมคือนี่ เซียว”

โฮลี่ชท! เขาคือฉ่เซียว…

ฉ่… บรรลัยแล้วไง!

“จอมโจรเงาเมฆาฉ่เซียว?”

สีหน้าของลู่หมิงในตอนนี้ราวกับกินอีช้างเข้าไป 5 ก้อน

“ใช่ ชื่อเสียงของฉันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่” ฉ่เซียวกล่าว “แต่คราวนี้ ฉันไม่ได้เป็นคนทําจริงๆ ไม่รู้รอบนี้มีไอเลว(ตรงหน้านี่แหล่ะ)คนไหนเอาชื่อฉันไปใช้! ไม่งั้นปกติแล้ว ฉันจะกล้าทําอะไรโง่ๆ อย่างนั้นได้ยังไงล่ะ?”

เอ่อ อ่า เอิ่ม……งั้นที่ฉ่เซียวมาที่เมืองชิงหมิงก็เพื่อแจ้งเรื่องของพี่สาวกับเขา?!

ลู่หมิงครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งก่อนตบไหล่ของฉ่เซียว “พี่ชาย ต่อไปเล็กขโมยของเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวก็โดนตามล่าแบบนี้อีก…” (เอ็งนั่นแหล่ะตัวเด็ดตัว Top เลย)

ฉ่เซียวได้แต่พยักหน้าตอบรับอย่างจนใจ

Options

not work with dark mode
Reset