ตอนที่ 2559 : การจากไปของจอมปราชญ์สูงสุด
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่เหนือพื้น 3 เมตรภายในห้องลับที่ตระกูลเทียนหยวน เขาตรวจสอบวิญญาณและทะเลสติของตัวเองอยู่
หมอกขาวลอยรอบทะเลสติของเขา หมอกนี้เกิดมาจากวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติ
ตอนนี้มันเหมือนกับกฎของโลกที่บริสุทธิ์มากกว่าวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติ
นี่เพราะพลังวิญญาณที่เหลืออยู่นั้นมีความเข้าใจกฎมิติหลังจากที่ได้รับการปรับแต่งโดยจักรพรรดิเพลิงแดง
เจี้ยนเฉินถือว่าวิญญาณสัตว์อสูรนี่มีค่าอย่างมาก เขาใช้มันไม่ถึง 1 ใน 10 หรืออาจจะน้อยกว่านั้นในการขึ้นมาถึงระดับอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 2
หากเขาดูดซับกฎทั้งหมดในวิญญาณสัตว์อสูรได้ ความเข้าใจกฎมิติของเขาคงขึ้นไปถึงอย่างน้อยก็ขั้นบรรพกาล มันอาจจะเป็นไปได้ที่จะขึ้นไปถึงระดับอัครสูงสุด
เจี้ยนเฉินไม่กล้าจะคิดเรื่องอัครสูงสุดในตอนนี้ เขาพอใจอง่ามากแล้วหากขึ้นไปถึงขั้นบรรพกาลได้
“จือหยิง ฉิงโซว ช่วยข้าตรวจสอบทีว่ามีอะไรผิดปกติกับจักรพรรดิแมลงมิติหรือไม่ สติของมันถูกทำลายไปหมดแล้วหรือยัง ? ” เจี้ยนเฉินเรียกจิตวิญญาณกระบี่ทั้งสอง เจี้ยนเฉินไม่กล้าจะประมาทพลังวิญญาณที่เหลืออยู่จากจักรพรรดิแมลงมิติ
จักรพรรดิแมลงมิตินั้นยังไงซะก็เป็นอัครสูงสุด มันน่ากลัวอย่างมาก หากสติของมันไม่ได้หายไปหมด หากมันยังเหลือสติแม้เพียงเล็กน้อย มันก็จะเป็นปัญหาต่อเจี้ยนเฉินอย่างมาก
มันคงสามารถควบคุมพลังวิญญาณทั้งหมดที่เหลืออยู่ในทะเลสติของเขาได้อย่างง่ายดายหากยังมีสติเหลืออยู่ ตอนที่เจี้ยนเฉินเก็บตัวอยู่นั้น มันก็มีแขกที่ไม่รับเชิญปรากฏตัวขึ้นที่ตระกูลเทียนหยวน
นางเป็นสตรีวัยเยาว์อายุประมาณ 20 ปี แม้ว่านางจะดูเหมือนมนุษย์ทั่วไปโดยที่ไม่ได้แผ่พลังในการบ่มเพาะออกมา แต่ท่าทีของนางนั้นเพียงพอทำให้นางโดดเด่นได้
นางมาเพียงลำพัง นางปรากฏตัวขึ้นที่ตระกูลเทียนหยวนอย่างเงียบงัน ค่ายกลอันแข็งแกร่งที่หมิงเซียร่ายเอาไว้รอบตระกูลเทียนหยวนนั้นเหมือนจะไม่อาจจะหยุดนางได้ มันราวกับว่านางสามารถเดินทะลุเข้ามาในตระกูลเทียนหยวนได้ตามใจโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว
นางคือองค์หญิงแปดของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ไป่หรง
“ศิษย์น้องข้าล่ะ ? ” – ไป่หรง ปรากฏตัวขึ้นที่นอกห้องโถงในเขตหวงห้ามของตระกูลเทียนหยวนและพูดขึ้นมาเบา ๆ
เสียงของนางดังผ่านค่ายกลรอบห้องโถงไปดังก้องไปถึงด้านใน
ไม่นานทางเข้าของห้องโถงก็เปิดออก หมิงตงปรากฏตัวออกมาพร้อมกับองค์หญิงของจักรวรรดิพันบงกช หยุนเสี่ยวหยาน เขาทั้งแปลกใจและดีใจ
ในเวลาเดียวกันแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง หมิงเซีย ก็ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นกัน เขาโค้งให้กับไป่หรง และพูดขึ้นมา “คารวะองค์หญิงแปด ! ”
“ศิษย์พี่แปด ทำไมท่านถึงได้มาที่นี่ ? ” หมิงตงเดินไปตรงหน้าไป่หรงและเข้าไปกอดนาง
ไป่หรงคือคนที่หมิงตงสนิทด้วยมากที่สุดในพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ผลก็คือหมิงตงนั้นเคารพต่อศิษย์พี่คนนี้อย่างมาก
“ศิษย์น้อง ข้ามาครั้งนี้ตามคำสั่งของอาจารย์เพื่อพาเจ้ากลับ” “ไป่หรงพูดขึ้น
“พาข้ากลับ ? ทำไมกัน ? ศิษย์พี่แปด ข้าชอบที่นี่อย่างมาก ข้าไม่ต้องการกลับไปตอนนี้” หมิงตงปฏิเสธออกมาโดยไม่ลังเล
ไป่หรงไม่ได้โกรธ “อาจารย์กำลังจะเดินทางไกล ดังนั้นนางจึงไม่อาจจะปกป้องเจ้าได้ตลอดเวลา ยิ่งกว่านั้น บรรพชนทลายสวรรค์ก็พยายามจะโจมตีเจ้า มันอันตรายอย่างมากหากเจ้ายังอยู่ภายนอก”
“งั้นนั่นก็ยิ่งเป็นเหตุผลที่ข้าไม่อาจจะออกจากที่นี่ หากบรรพชนทลายสวรรค์หันมาสนใจตระกูลเทียนหยวนล่ะ ? ศิษย์พี่ กลับไปเถอะ ข้าจะดูแลตระกูลเทียนหยวน” หมิงตงตอบกลับทันที
เมื่อเห็นว่าหมิงตงตัดสินใจแล้ว ไป่หรงก็รู้ว่านางไม่อาจจะกล่อมเขาได้อีก นางได้แต่ต้องบังคับเอาเขากลับไป หลังจากที่คิดดูชั่วครู่ ไป่หรงก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นางถอนหายใจออกมาก่อนจะหันกลับแล้วกลับออกมา
วันต่อมา จอมปราชญ์สูงสุดอนัตตาได้ลุกขึ้นยืนภายในพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง แสงแห่งวิถีแผ่ออกมารอบตัวราวกับว่ามั่นสั่นพ้องไปกับเขาซึ่งทำให้เขาดูเหมือนกับหลอมรวมกับวิถี เขาได้แสดงเจตจำนงของโลกออกมาแค่การยืนเฉย ๆ
ร่างของเขาดูพร่ามัวเต็มไปด้วยความลึกลับ หลังจากนั้นเขาก็ก้าวออกไป
ทันใดนั้นดาวดาวต่างก็หมุนวนพร้อมกับโลกที่พลิกผัน เขาเหมือนจะก้าวผ่านโลกเซียนได้ด้วยก้าวเดียวตัดผ่านระยะทางอันน่าเหลือเชื่อ มันราวกับว่าเขาได้ไปถึงชายแดนของจักรวาล
มิติตรงหน้าเขาปั่นป่วน กฎที่นี่ยุ่งเหยิง ธาตุทั้งห้าเปลี่ยนแปลงไป มันไม่มีระเบียบเลยแม้แต่น้อย
นี่คือขอบเขตของโลกเซียน มิติบรรพกาลที่เต็มไปด้วยพลังงานอันรุนแรงที่สามารถลบล้างทุกอย่างได้
นี่ไม่ใช่มิติบรรพกาลที่แท้จริงแต่เป็นขอบเขตของโลก
จอมปราชญ์สูงสุดอนัตตายืนอยู่ตรงหน้าขอบเขต หลังจากนั้นเขาก็ใช้นิ้วกรีดผ่านออกไป ตัดมิติให้เปิดออกก่อนจะออกไปจากโลกเซียน
บนที่ราบกลืนกิน จอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิต ได้ลุกขึ้นยืนภายในโถงศักดิ์สิทธิ์สีแดงก่ำ รอบตัวเขารายล้อมไปด้วยหมอกที่เหมือนกับเลือด เขาได้สั่งการใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มิติบรรพกาลเปิดออกแล้ว ข้าจะไปค้นหาปราณบรรพกาลโบราณที่นั่น ข้าไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนไหนแต่ตอนที่ข้าไม่อยู่นั้น เจ้าต้องระวังการกระทำของเจ้าเอาไว้ อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับอนัตตา”
“ขอรับ อาจารย์ ! ” ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าตอบกลับอย่างสุภาพ
จอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตได้ออกมาจากที่ราบกลืนกิน เขาเลือกที่จะไปยังขอบเขตโลกในส่วนอื่นก่อนจะเปิดมิติที่นั่นออกแล้วออกมาจากโลกเซียน
ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งได้เดินอยู่ภายในสวนที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ซึ่งใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าทำการบ่มเพาะอยู่บนที่ราบประกายดาว กลุ่มคนเดินตามหลังเขามาติด ๆ ส่วนมากแล้วเป็นสาวงาม สายตาของพวกนั้นเต็มไปด้วยความหลงใหลพร้อมกับหัวเราะออกมาและมองไปที่ชายหนุ่ม ดูเหมือนว่าทันทีที่ชายหนุ่มให้สัญญาณ เหล่าสาวงามจากตระกูลใหญ่พร้อมจะวิ่งหาเขาโดยไม่ลังเลเพื่อเสนอร่างกายและวิญญาณให้
ชายหนุ่มคนนี้เหมือนจะพอใจอย่างมาก ตอนนั้นมีสาวงาม 2 คนควงแขนทั้งสองข้างของเขา เขายิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์และซุกไซ้ไปที่อกของทั้งสองอยู่ตลอดเวลา เขาพอใจกับมันอย่างมาก
ทุกคนรู้เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้นี้ เขาคือนายน้อย
กลับเป็นว่ามันผ่านมาพันปีแล้วตั้งแต่ที่นายน้อยได้บ่มเพาะ เขาขึ้นมาเป็นราชาเทพช่วงปลายแล้ว
แต่เขาคือคนที่สามารถทำอะไรได้ตามต้องการและองค์กรใหญ่ก็ไม่กล้าที่จะหาเรื่องเขาบนที่ราบประกายดาว กลับกันแล้วองค์กรเหล่านั้นกลับยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา เขามีฐานะที่สูงส่งอย่างมาก
นี่เพราะพ่อของเขาที่เป็นตัวตนสูงสุดของที่ราบประกายดาว ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า
“นายน้อย ไม่จำเป็นที่ท่านต้องขลุกตัวเองกับพวกหน้าตาธรรมดา แม้ว่าท่านจะนับรวมพวกอยู่ด้านหลังด้วยแต่ก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับอัจฉริยะของลัทธิเต๋าเสียงศักดิ์สิทธิ์ ซ่างกวนมู่เอ๋อ...”
“ซ่างกวนมู่เอ๋อนั้นคือผู้สืบทอดของบรรพชนสาม ไม่ว่าจะเป็นความงาม, ความแข็งแกร่งหรือพรสวรรค์ นางต่างก็ยอดเยี่ยมกว่าคนทั่วไป…”
เต๋ากงหมิงเดินตามหลังนายน้อยไปติด ๆ เขาพยายามที่จะพูดด้านดีของซ่างกวนมู่เอ๋อ เขาพยายามทำให้นายน้อยนั้นสนใจนาง
เขารู้ว่านายน้อยผู้นี้มักมากในราคะ ตราบใดที่เขาได้เห็นความงามของซ่างกวนมู่เอ๋อ เขาก็เชื่อว่านายน้อยผู้นี้จะต้องหลงใหล
“ฮึ่ม หยุดพูดเพ้อเจ้อเรียกร้องความสนใจได้แล้ว นายน้อยกงหมิง ข้าได้ยินเรื่องซ่างกวนมู่เอ๋อมาเช่นกัน นางเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา นางไม่ได้น่าประทับใจแบบที่เจ้าได้พูดถึงนางเลย…” ผู้หญิงข้าง ๆ นายน้อยกรอกตาใส่เต๋ากงหมิงและเถียงกลับมา
นายน้อยคือเป้าหมายของพวกนาง พวกนางจะให้คนอื่นมาขโมยความสนใจจากนายน้อยได้ยังไง ?
“เทียนเหยา มาพบข้าเดี๋ยวนี้ ” ตอนนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งที่มีแต่นายน้อยจะได้ยินดังขึ้นในหัวของเขา เสียงนี้มาจากใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า