ตอนที่ 2557 : กฎระดับตั้งต้น
ทันทีที่ไฟสีทองปรากฏขึ้นในทะเลสติของเจี้ยนเฉิน พวกมันก็เปลี่ยนเป็นทะเลเพลิงอันบ้าคลั่ง มันก่อตัวเป็นมังกรทองแต่ตัวไปทั่ววิญญาณของเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินไม่ได้ต้านทานแม้แต่น้อย ตอนนั้นเขาเข้าใจว่าโชคชะตาของเขาขึ้นอยู่กับยอดฝีมือที่ควบคุมกฎแห่งไฟ แค่คิดก็สามารถกำจัดวิญญาณของเขาได้แล้ว
นี่เพราะไฟนี้ทรงพลังเกินไป มันมีพลังของกฎและพลังแห่งวิถี ด้วยระดับนี้แล้วมันสามารถทำลายได้ทุกอย่าง
“อัครสูงสุด ! ” ความคิดนี้โตล่มาในหัวเจี้ยนเฉิน มีแค่อัครสูงสุดเท่านั้นทีมีความเข้าใจกฎแห่งไฟน่ากลัวแบบนี้ได้
แต่แม้ว่าทะเลสติของเจี้ยนเฉินจะเต็มไปด้วยไฟสีอทองอันน่ากลัว แต่มันกลับไม่ได้ทำร้ายเขาเลยแม้แต่น้อย เขาไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงความร้อนเลยแม้แต่น้อย
หากไม่ใช่เพราะวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติที่เริ่มเติบโตขึ้นมาภายใต้ไฟสีทอง เขาอาจจะเข้าใจติดคิดว่าไฟนั่นเป็นแค่ภาพลวงตา
ชัดแล้วว่าความเข้าใจของจักรพรรดิเพลิงแดงในด้านไฟนั้นขึ้นไปถึงระดับน่าเหลือเชื่อ มันเหนือกว่าระดับสมบูรณ์
เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าเขาดูดซับวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติได้ง่ายกว่าเดิม เมื่อมีไฟสีทองปรากฏขึ้นมา เขาพอจะดูดซับมันได้บ้างแล้ว
วิญญาณสัตว์อสูรนั้นมีเศษเสี้ยวกฎมิติ เศษเสี้ยวนี้ติดตัวแมลงมติมาฝังลึกถึงวิญญาณ มันเป็นไปไม่ได้ที่ตู้บ่มเพาะหรือสัตว์อสูรมิติจะดูดซับมันได้
แต่เจี้ยนเฉินเป็นข้อยกเว้น วิญญาณของเขาได้หลอมรวมกับพลังบรรพกาล มันได้ก้าวข้ามหลักเหตุตลของโลกไป มันได้เปลี่ยนแปลงอย่างน่าเหลือเชื่อ พลังบรรพกาลคือพลังสูงสุดที่อยู่ในทุกอย่าง ดังนั้นความเป็นไปไม่ได้ของคนอื่นใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้สำหรับเจี้ยนเฉิน
หลังจากที่ถูกปรับแต่งโดยเปลวไฟ เจี้ยนเฉินก็สามารถดูดซับวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติได้ทีละน้อย
ทันใดนั้นเส้นพลังของความเข้าใจกฎมิติก็ได้ปรากฏขึ้นมาในทะเลสติของเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าความเข้าใจกฎมิติของตัวเองได้พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก
มันทำให้เจี้ยนเฉินยินดีขึ้นมา อันที่จริงแล้วการดูดซับวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติและได้รับความเข้าใจกฎมิติของมันนั้นเป็นยังเป็นแค่ข้อคาดเดา ยังไงซะก็ไม่มีใครเคยได้รับประโยชน์จากทางลัดแบบนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลกเซียน
ตลก็คือเขาไม่ได้คาดหวังมากนักกับการดูดซับวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติ เขาเตรียมใจรับมือกับความล้มเหลวแล้ว
เมื่อเขาพบว่าเขาสามารถดูดซับความเข้าใจของจักรพรรดิแมลงมิติได้โดยตรง มันก็เป็นธรรมดาที่เขาจะยินดี
เขาพบว่าการดูดซับกฎมิติจากวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิตินั้นไม่เหมือนสถานการณ์ตอนที่เขาได้รับแกนสีทองทั้งเจ็ดมาก่อนหน้านี้ ซึ่งต้องให้เขาต้องทำความเข้าใจมากขึ้น
วิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติได้เพิ่มความเข้าใจกฎมิติของเขาโดยตรง
เมื่อเขาได้รับวิญญาณมา มันก็เท่ากับการดูดซับความเข้าใจกฎมิติโดยตรง
เจี้ยนเฉินรู้ว่านี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต เขาได้ข่มความดีใจที่มีและเริ่มเพ่งสมาธิไปกับการดูดซับทันที
เมื่อวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติถูกเจี้ยนเฉินดูดซับไปช้า ๆ เขาก็รับรู้ได้ว่าความเข้าใจกฎมิติของเขาพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันได้เพิ่มขึ้นจากขั้นราชาเทพช่วงต้นมาเป็นช่วงกลางและจากนั้นก็เป็นช่วงปลาย
….
เขาจมอยู่กับความยินดีในการดูดซับวิญญาณจนเจี้ยนเฉินลืมเรื่องเวลาและลืมเรื่องตัวเขาเอง ความคิดเดียวที่เขามีตอนนี้คือการเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้มากที่สุด
ความเข้าใจกฎมิติของเขาเหมือนจะเพิ่มขึ้นโดยไม่มีอะไรจะหยุดยั้ง มันเพิ่มขึ้นจากราชาเทพช่วงปลายมาถึงขอบเขตตั้งต้น
….
ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ไฟสีทองในทะเลสติของเจี้ยนเฉินก็หายไป จักรพรรดิเพลิงแดงได้เอาตัวเจี้ยนเฉินออกมาจากเตาเตาสวรรค์ เขาปรบมือและพูดขึ้นมา “หัวหน้า วิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติถูกดูดซับหมดแล้ว”
หัวหน้าพิรุณได้ปรากฏตัวข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน นางมองไปที่หน้าตากของเจี้ยนเฉินด้วยสายตาเย็นชาซึ่งแฝงไปด้วยประกายแปลก ๆ
“เจ้าไม่ทำให้ข้าติดหวัง” หัวหน้าพิรุณพึมพำออกมา ตอนนั้นสายตาที่นางมองไปยังเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย มันราวกับว่านางกำลังมองสัตว์ประหลาดอยู่
“เด็กนี่สามารถดูดซับกฎมิติจากจักรพรรดิแมลงมิติได้จริง ๆ ข้าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน แต่มันดูเหมือนว่าวิญญาณของเขาค่อนข้างพิเศษ” จักรพรรดิเพลิงแดงพูดขึ้นและมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาแปลก ๆ เช่นกัน
“มันเพราะวิญญาณของเขาแตกต่างไปถึงทำให้เขาทำแบบนี้ได้” “หัวหน้าพิรุณพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่สายตาของนางยังคงจับจ้องไปที่หน้าตากของเจี้ยนเฉิน
จากนั้นหัวหน้าพิรุณก็ได้สะบัดมือเบา ๆ
เป็นธรรมดาที่จักรพรรดิเพลิงแดงจะเข้าใจว่าหัวหน้าพิรุณต้องการจะบอกอะไร นางกำลังบอกเขาว่าเขาหมดธุระที่นี่แล้วและกลับไปได้แล้ว
จักรพรรดิเพลิงแดงไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจต่อท่าทีที่หัวหน้าพิรุณแสดงออกมากับเขา เขาเก็บเตาเตาสวรรค์และป้องมือให้กับหัวหน้าพิรุณ ก่อนจะกลับออกมาจากที่ซึ่งนางบ่มเพาะ
เวลาต่านไปช้า ๆ ไม่นานมันก็ต่านมากว่าครึ่งเดือน
ระหว่างครึ่งเดือนที่ทำการดูดซับนี้ความเข้าใจกฎมิติของเจี้ยนเฉินนั้นได้ขึ้นมาถึงขอบเขตตั้งต้นอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่ขึ้นมาถึงขอบเขตตั้งต้นได้แล้ว เขาก็ก้าวหน้าขึ้นมาถึงชั้นสวรรค์ที่ 2
หลังจากที่ขึ้นมาถึงชั้นสวรรค์ที่ 2 สุดท้ายเจี้ยนเฉินก็หยุดพัฒนา เขาพบว่าเขาไม่อาจจะดูดซับความเข้าใจกฎมิติได้อีกต่อไป
มันราวกับว่าวิญญาณของเขาอิ่มแล้วไม่อาจจะกินอะไรได้อีก หากเขาต้องการดูดซับไปมากกว่านี้เขาต้องทำให้วิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้น
“ ทางลัดก็ยังเป็นแค่ทางลัด มันไม่อาจจะพึ่งพาได้เหมือนกับการทำความเข้าใจด้วยตัวเอง” เจี้ยนเฉินคิด เขารู้ว่าวิญญาณของเขานั้นแน่นอนว่าไม่ใช่แข็งแกร่งทัดเทียมกับยอดฝีมืออสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 2 แต่มันอาจจะทัดเทียมกับชั้นสวรรค์ที่ 3 ได้เป็นอย่างน้อย
แต่ความเข้าใจกฎมิติของเขากลับหยุดที่ชั้นสวรรค์ที่ 2
ถึงอย่างนั้นเขาก็พอใจอย่างมาก เขาได้ยกระดับความเข้าใจกฎอีกอันขึ้นมานอกจากฎแห่งกระบี่ขึ้นมาถึงขอบเขตตั้งต้นได้แล้ว
หากเขาใช้กฎทั้งสองนี้ด้วยกัน ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
แน่นอนเรื่องที่สำคัญที่สุดคือกฎมิติสามารถใช้ในทางอื่นได้นอกจากการต่อสู้
“น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจะดูดซับพลังงานในวิญญาณจักรพรรดิแมลงมิติได้ ไม่งั้นวิญญาณของข้าก็ต้องก้าวไปอีกระดับหนึ่งแน่” เจี้ยนเฉินรู้สึกเสียดายขึ้นมา
เจี้ยนเฉินหันกลับมาสนใจร่างกายตัวเอง เขาพบว่าเขากำลังนอนอยู่ในอ่างไม้ แต่น้ำสีเขียวนั้นได้กลายเป็นเมฆไปแล้ว ตลการรักษาของมันถูกเขาดูดซับไปหมดแล้ว
เจี้ยนเฉินกระโดดออกมาจากอ่างไม้และมองไปที่ตู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เขาได้โค้งให้และพูดขึ้นมาทันที – “ขอบคุณที่หัวหน้าช่วยเหลือ ! ”