ตอนที่ 2555 : รางวัลจากหัวหน้าพิรุณ
เจี้ยนเฉินไม่อาจจะต้านทานได้ต่อหน้าหัวหน้าพิรุณ แม้แต่ด้วยพลังที่เขามีที่สามารถจัดการยอดฝีมืออสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 8 ได้ แต่เขาก็ยังไม่ต่างจากมดต่อหน้าหัวหน้าพิรุณ
ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก็รู้สึกได้ถึงพลังงานอันอ่อนโยนแต่น่ากลัวที่เข้ามาในวิญญาณของเขา
พลังงานนี้ได้เข้ามาในวิญญาณของเขาอย่างอ่อนโยน แม้ว่าพลังนี้จะน่าตกใจ แต่มันกลับไม่ได้ส่งผลเสียเลยแม้แต่น้อย มันค่อย ๆ ตรวจสอบภายในวิญญาณของเขา
เจี้ยนเฉินรับรู้ได้ว่าวิญญาณของเขาถูกมองทะลุ มันราวกับว่าเขาไม่อาจจะปิดบังอะไรจากหัวหน้าพิรุณได้เลย แน่นอนนั่นแค่ความรู้สึก เขาเหมือนกับแก้ผ้าล่อนจ้อนเหมือนกับตอนที่เผชิญหน้าจอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิต
ในเวลาเดียวกันจิตกระบี่ที่ซ่อนตัวอยู่ในร่างเจี้ยนเฉินก็หายไป แม้แต่เจี้ยนเฉินก็ยากที่จะพบร่องรอยของมันได้ พวกมันทำแบบนี้ก็เพื่อซ่อนตัวไม่ให้หัวหน้าพิรุณพบพวกมัน
ไม่นานหัวหน้าพิรุณก็ดึงพลังของนางกลับมา นางยืนอยู่ตรงหน้าเจี้ยนเฉินในชุดสีขาว สายตาของนางดูลุ่มลึกราวกับหมู่ดาว มันราวกับว่านางกำลังมองดูความลับของวิถี นางมองไปที่เจี้ยนเฉินและเงียบอยู่นานราวกับว่านางกำลังตกตะลึง
“ไม่แปลกเลยที่ข้าไม่อาจจะมองอดีตหรืออนาคตของเจ้าได้ ข้าไม่อาจจะมองอะไรที่เกี่ยวข้องกับเจ้าได้ เจ้าเป็นตัวตนที่พิเศษจริง ๆ ” สายตาของหัวหน้าพิรุณกลับมาเป็นปกติ นางมองมาที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาแปลก ๆ สายตานี้เต็มไปด้วยความตะลึงราวกับมองดูสัตว์ประหลาด
“พลังบรรพกาล แม้ว่าจะมีเพียงเศษเสี้ยวแต่มันก็ยังเป็นพลังบรรพกาล มันได้หลอมรวมเข้ากับวิญญาณของเจ้า นี่คือสิ่งที่คาดไม่ถึง ไม่ใช่แค่ในโลกเซียนแต่ทั่วโลกทั้งหกด้วย เจ้าถือว่าเป็นผู้เบี่ยงเบนคนแรกที่ปรากตัวตั้งแต่ที่ก่อเกิดจักรวาลขึ้นมา” หัวหน้าพิรุณถอนหายใจออกมา ความตกตะลึงที่นางรับรู้จากตัวเจี้ยนเฉินนั้นมากมายจนทำให้นางรู้สึกหวั่นไหว
“แม้ว่าการหลอมรวมกับพลังบรรพกาลจะทำให้วิญญาณของเจ้าเปลี่ยนไปอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่โชคก็มักจะมาพร้อมกับภัยพิบัติ ข้ารู้สึกว่าอนาคตของเจ้าต้องลำบากอย่างมาก เจ้าจะพบกับภัยพิบัติหากประมาทแม้แต่เพียงเล็กน้อย” หัวหน้าพิรุณพูดขึ้น
เจี้ยนเฉินชื่นชมหัวหน้าพิรุณจากเรื่องนี้ หัวหน้าพิรุณเป็นยอดฝีมือระดับสูงของที่ราบสำราญจริง ๆ ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งแต่ความรอบรู้เองก็ลึกซึ้ง นางบอกได้ทันทีว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตใมอนาคต
เจี้ยนเฉินยังคงมองโลกในแง่ดีกับอนาคตที่มองไม่เห็น เขาไม่ได้รู้สึกกดดันเพราะเขาได้ยินเรื่องชะตาของเขาจากจิตวิญญาณกระบี่มานานแล้ว ตัวตนของเขาอาจจะแปลกประหลาดและเป็นของต้องห้ามของโลก สุดท้ายเขาอาจจะถูกโลกกำจัดทิ้งไปอย่างไร้ปราณี
ตอนนี้เจี้ยนเฉินพอเข้าใจได้แล้วว่าการเป็นตัวตนต้องห้ามของโลกนั้นหมายถึงการฝ่าฝืนกฎ ในอนาคตเขาอาจจะอยู่ฝั่งตรงข้ากับกฎของโลกที่ซึ่งเขาต้องเผชิญหน้ากับมัน
มันคงเป็นเรื่องตลกหากจะพูดในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือของโลกอมตะหรือโลกเซียน พวกเขาต่างก็ต้องทำความเข้าใจกฎของโลกเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง แม้แต่เจี้ยนเฉินเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่สุดท้ายเขาจะอยู่คนละฝั่งกับมัน มันเป็นเรื่องที่น่าตลกสิ้นดี
หัวหน้าพิรุณครุ่นคิด นางพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมลัทธิปิศาจชั้นฟ้าถึงต้องการให้เจ้าดูดซับจักรพรรดิแมลงมิติ ด้วยความรู้ที่ผู้อาวุโสสูงของลัทธิปิศาจชั้นฟ้ามี เขาไม่มีทางที่จะคิดเรื่องแบบนี้ออกได้ แม้ว่าเขาจะคิดออกแต่เขาก็ไม่อาจะดูดซับจักรพรรดิแมลงมิติด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีได้ มันต้องเป็นคำสั่งของผู้อาวุโสแห่งลัทธิปิศาจชั้นฟ้า เพราะมีแค่เขาเท่านั้นที่มีความสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้”
สายตาของหัวหน้าพิรุณดูเสียดแทงขึ้นมา นางมองไปที่เจี้ยนเฉินและพูดขึ้น “เมื่อผู้อาวุโสของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าคิดเรื่องแบบนี้ได้ เขาต้องรู้ว่าวิญญาณของเจ้านั้นผิดปกติ เจี้ยนเฉิน เจ้าเคยเจอกับผู้อาวุโสนั่นมาก่อนหรือไม่ ? เจ้าเกี่ยวข้องกับเขายังไง ? ”
“ข้าเคยเจอกับเขาจริง เขาเป็นผู้อาวุโสที่ข้าเคารพอย่างมาก” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น
“ผู้อาวุโสที่เจ้าเคารพอย่างมากรึ ? ” หัวหน้าพิรุณแค่นเสียงออกมาและพูดขึ้น “เขาคือคนที่สร้างสงครามทั่วโลกเซียน ปิศาจที่เก็บแก่นเลือดและพลังวิญญาณของผู้จากไป แต่เจ้ากลับเคารพเขา น่าตลกสิ้นดี”
“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเขามีเป้าหมายอะไร แต่เขาก็เป็นผู้อาวุโสที่ข้าเคารพจริง ๆ ”
“พอแล้ว ข้าไม่อยากเถียงกับเจ้า เจี้ยนเฉิน ข้าขอถามเจ้าอีกที เจ้าต้องการวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติหรือไม่ ? ” หัวหน้าพิรุณชี้นิ้วออกมาก่อนจะมีหนอนตัวเล็กปรากฏตัวขึ้นบนนิ้วของนาง มันดูราวกับหนอนไหม
นี่คือวิญญาณสัตว์อสูรของจักรพรรดิแมลงมิติ
แต่จักรพรรดิแมลงนี้ได้สร้างปัญหาให้กับวิญญาณของเขาและทำให้วิญญาณของเขาบาดเจ็บด้วยการกรีดร้องของมัน แต่ตอนนี้มันกลับขดตัวอยู่บนนิ้วของหัวหน้าพิรุณด้วยตัวที่สั่น ตาของมันเต็มไปด้วยความกลัว
“ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าทำไมหัวหน้าถึงได้ถามเช่นนี้ ? ” สายตาของเจี้ยนเฉินสั่นไหว เขเหมือนจะพอเดาได้ว่า หัวหน้าพิรุณต้องการจะทำอะไร
แต่เขาสับสน เขาคิดไม่ออกว่าใครกันที่เป็นเหตุผลที่ทำให้หัวหน้าพิรุณให้ความสำคัญกับเขาแบบนี้
ไม่ว่าเขาจะสงสัยแค่ไหนแต่เขาก็ไม่อาจจะคิดถึงคนที่หัวหน้าพิรุณพูดถึงได้
นี่เพราะยอดฝีมือทั้งหมดที่เขาเคยเจอมาและที่เขารู้จักนั้น มันไม่มีใครเลยที่เกี่ยวข้องกับหัวหน้าพิรุณ
หัวหน้าพิรุณไม่ได้สนใจเจี้ยนเฉิน นางมองไปที่หนอนที่นิ้วของนางและพูดขึ้น “การดูดซับวิญญาณสัตว์อสูรและรับความเข้าใจกฎมิติของมันปกติแล้วควรจะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครทำแบบนี้ได้มาก่อนในโลกเซียน แต่เจ้าอาจจะต่างออกไป”
“ตัวตนของเจ้าถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ เจ้าได้ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของโลก บางทีสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็อาจจะเป็นไปได้เพราะความโกลาหลนั้นมีอยู่ในทุกอย่าง”
“เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วข้าจะมอบวิญญาณสัตว์อสูรนี่ให้กับเจ้า ข้าอยากเห็นปาฏิหาริย์” หัวหน้าพิรุณพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แม้ว่าวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติจะล้ำค่าอย่างมาก แต่นางกลับดูไม่ใส่ใจมันเลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นนางก็ชี้นิ้วออกมาพร้อมกับผงที่เข้าไปในตัววิญญาณสัตว์อสูรก่อนที่ร่างของมันจะสลายตัวกลายเป็นหมอก
แต่ไม่นานวิญญาณสัตว์อสูรกลับควบแน่นกลับคืนรูปร่างของมัน แต่ถึงอย่างนั้นสายตามันกลับดูว่างเปล่า ความฉลาดที่มันมีหัวหายไปเพราะหัวหน้าพิรุณ