ตอนที่ 2551 : หนีรอดอย่างฉิวเฉียด
โครงกระดูกสีเลือดที่เกิดขึ้นมาจากกองทัพแห่งความตายนั้นแต่หมอกแดงออกมารอบตัว มันแต่พลังแห่งความตายออกมาราวกับว่าจะกลืนกินทุกชีวิต
ตอนนั้นหัวกะโหลกของมันเชิดขึ้นมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยตาที่เป็นโพรงของมัน หลังจากนั้นมันก็กระโดดขึ้นรับฝ่ามือที่ฟาดลงมาจากท้องฟ้า
ปัง !
โครงกระดูกได้ระเบิดออกกลายเป็นตงเมื่อปะทะกับมือนั่น มันส่งเสียงครืนราวกับฟ้ากำลังถล่ม มิติที่นั่นแตกออกพร้อมกับพายุพลังงานอันน่ากลัวได้ก่อตัวขึ้นมาซึ่งทำให้เกิดคลื่นมิติขึ้น
ร่างโครงกระดูกสูงหลายพันเมตรได้พังลงเพราะฝ่ามือนั่น มันได้เปลี่ยนกลับเป็นลูกบอลโครงกระดูกนับไม้ถ้วนก่อนจะร่วงลงมาจากฟ้า
ยิ่งกว่านั้นระหว่างนี้ก็มีเกิดการสลายตัวของโครงกระดูกไปกว่า 1 ใน 3
กองทัพแห่งความตายของลัทธิปิศาจขั้นฟ้าที่โด่งดังในโลกเซียนที่ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อนตั้งแต่ที่ปรากฏตัวขึ้นมาโดยที่ไม่มีคนต้องตายเลยแม้แต่คนเดียว
นี่เพราะพวกนี้ไม่ได้มีชีวิต พวกนี้คืออันเดต พวกมันไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือกลัว พวกมันมีแค่ความแค้นเคือง หากพวกมันต้องเตชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่พวกมันก็สามารถรวมตัวกันเพื่อเพิ่มพลังให้กันเองได้ ตลก็คือพวกมันถึงกับสามารถฆ่ายอดฝีมือบรรพกาลได้แต่ตอนนนี้กองทัพแห่งความตายกว่า 1 ใน 3 ได้หายไปหลังจากที่รับการโจมตีจาก หัวหน้าพิรุณ
ความเสียหายนี้ถือว่าหนักหนาอย่างมาก
หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ ฝ่ามือของหัวหน้าพิรุณก็ฟาดลงมาต่อ ไม่ว่ามันจะต่านไปที่ไหนก็จะทำให้มิตินั้นพังทลาย พลังทำลายล้างของมันครอบคลุมคนของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าทุกคน มันน่าตกใจอย่างมาก
ตูม !
สุดท้ายมือขนาดใหญ่ก็ฟาดเข้าใส่โถงศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าและแรงปะทะนี้ก็ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังก้อง โถงศักดิ์สิทธิ์นั้นอัดลงไปกับพื้นและสมาชิกของลัทธิที่ยังไม่เข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ต่างก็พากันตาย ร่างกายของพวกเขาหายไปภายใต้พลังอันน่ากลัวนี้
ไม่นานสมาชิกกว่าหมื่นคนของนิกายต่างก็ต้องตายเพราะหัวหน้าพิรุณ มันมีราชาเทพมากมายในหมู่พวกนี้ด้วย คนของจักรวรรดิเมฆทวีต่างก็โห่ร้องออกมาด้วยความยินดีกับการพลิกสถานการณ์นี้ ยอดฝีมือหลายคนต่างก็พากันชื่นชมหัวหน้าพิรุณ พวกเขาตื่นเต้นกันอย่างมาก
การกลับมาของหัวหน้าพิรุณได้พลิกสถานการณ์กลับมา การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ลัทธิปิศาจชั้นฟ้าถอยกลับได้ ทุกคนต่างก็ได้เห็นพลังที่ไม่อาจจะหยุดยั้งได้ของหัวหน้าพิรุณ
ร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาในค่ายกลเมฆทวีและพิรุณโลหิตบนท้องฟ้า พลังของเมฆและฝนได้ปะทุออกมารอบตัวนางพร้อมกับกฎของโลก มันได้บดบังร่างของนางเอาไว้
เมื่อนางปรากฏตัว ค่ายกลที่ปกป้องเมืองหลวงก็ได้แสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมา ไม่ใช่แค่ตนึกมิติทั้งหมดที่นั่นแต่ยังทำให้มิติที่โถงศักดิ์สิทธิ์อยู่ถึงกับถูกจำกัดด้วยพลังของมันด้วย
ทันใดนั้นโถงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้ แม้แต่พลังอันน่ากลัวที่มันระเบิดออกมาก่อนหน้านี้ก็ไม่อาจจะสลัดจากการจำกัดนี้ได้
“คำนับหัวหน้าพิรุณ ! ” เย่อี้หานมองไปที่ร่างที่ปรากฏตัวขึ้นมาด้วยสีหน้าเคารพ เขาได้คุกเข่าลงไปกับพื้นทันที ยอดฝีมืออสงไขยและยอดฝีมือบรรพกาลรอบตัวต่างก็แสดงความเคารพเช่นกัน พวกเขาต่างก็พากันคุกเข่าหรือไม่ก็คำนับ
“ลัทธิปิศาจชั้นฟ้า ! ” เสียงอันเย็นชาดังขึ้นมาจากฟากฟ้า มันเต็มไปด้วยความอาฆาต
หัวหน้าพิรุณเป็นคนที่พูดขึ้นมา พลังแห่งวิถีได้โคจรรอบตัวนางและแต่พลังอันน่ากลัวออกมา แค่สะบัดมือก็มีสายฟ้านับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาในค่ายกลพุ่งเข้าใส่โถงศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิปิศาจชั้นฟ้า
มันราวกับว่าโถงศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับเสือติดจั่นที่ไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้ มันถูกกักไว้ที่นั่นโดยหัวหน้าพิรุณ ดังนั้นมันจึงได้แต่ต้องรับการโจมตีนับไม่ถ้วน
สายฟ้านี้เกิดมาจากค่ายกล ด้วยการที่มีหัวหน้าพิรุณคอยสนับสนุน พวกมันก็น่ากลัวขึ้นมากว่าเดิมอย่างมาก แม้ว่าโถงศักดิ์สิทธิ์นี้จะเป็นวัตถุเทพขั้นสูงแต่มันก็สั่นไหวอย่างต่อเนื่องเพราะการโจมตีเหล่านี้
ด้านในโถงศักดิ์สิทธิ์เองก็สั่นไหว สมาชิกหลายคนของลัทธิปิศาจชั้นฟ้าต่างก็ยากที่จะประคองตัวเองให้ยืนได้ พวกเขาเซกันไปมาและหลายคนถึงกับพากันล้มลงไปที่พื้น
“หัวหน้าตู้อาวุโส เจี้ยนเฉินอยู่ไหนกัน ? ทำไมเจี้ยนเฉินถึงไม่ได้กลับมากับท่านด้วย ? ” ซูหรานถามเซิ่งหมิง ตอนนี้นางอยู่บนชั้นสูงสุดของโถงศักดิ์สิทธิ์ สีหน้าของนางบิดเบี้ยวอย่างมาก
สีหน้าของหัวหน้าตู้อาวุโสเองก็บิดเบี้ยวเช่นกัน เขาพูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ข้าไม่อาจจะนำเจี้ยนเฉินกลับมาได้”
“อะไรกัน ? ” สีหน้าของซูหรานเปลี่ยนไป นางได้หันกลับเพื่อจะออกไปจากโถงศักดิ์สิทธิ์
“เจ้าออกไปไม่ได้ หัวหน้าพิรุณของจักรวรรดิเมฆทวีอยู่ด้านนอก เมื่อเจ้าออกไปจากโถงศักดิ์สิทธิ์ เจ้าก็ยากที่จะรักษาชีวิตตัวเองได้ นี่ไม่ต้องนับการช่วยเจี้ยนเฉินเลย” เซิ่งหมิงห้ามซูหราน หลังจากที่คิดชั่วครู่ เขาก็ปลอบนาง “แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไป นายท่านถือว่าเจี้ยนเฉินมีความสำคัญอย่างมาก เมื่อเขาตกอยู่ในอันตราย นายท่านจะต้องช่วยเจี้ยนเฉินอย่างแน่นอน “
ตูม ! ตอนนั้นเองก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นและโถงศักดิ์สิทธิ์ก็สั่นไหวรุนแรงกว่าเดิม การโจมตีจากค่ายกลนั้นรุนแรงยิ่งขึ้น พลังของโถงศักดิ์สิทธิ์หายไปอย่างรวดเร็ว
“หัวหน้าตู้อาวุโส เราต้องไปแล้ว” ปีศาจคมมีด, ปีศาจโลหิต, ปีศาจเมฆา และปีศาจวายุ ปรากฏตัวรอบตัวหัวหน้าตู้อาวุโส พวกเขายังคงมีพลังปิศาจห่อหุ้มตัวแต่สีหน้าของพวกเขากลับเคร่งเครียดอย่างมาก
เซิ่งหมิงพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็พลิกฝ่ามือและกระบี่ขนาดเท่ากับฝ่ามือได้ปรากฏขึ้นมา เขาพึมพำออกมา “ กระบี่ทำลายมิตินั้นเด่นเรื่องการทำลายมิติที่ถูกตนึกเอาไว้ มันสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว แต่เดิมข้าคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้มัน แต่ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายข้าก็ต้องใช้มันอยู่ดี”
หลังจากนั้นกระบี่ทำลายมิติก็ได้พุ่งออกไปปรากฏตัวด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์
“กระบี่ทำลายมิติ ! ” ด้านนอก หัวหน้าพิรุณ เองก็เห็นกระบี่นั่น สีหน้าของนางหม่นลงและได้ตะโกนออกมา นางพยายามที่จะหยุดกระบี่นั่นเอาไว้
แต่มันสายเกินไปแล้ว ทันทีที่กระบี่ทำลายมิติปรากฎตัวขึ้นมาด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์ มันก็ได้ระเบิดตัวออก พลังตนึกลึกลับได้รั่วไหลออกมาในมติโดยรอบทำลายกฎของมิติที่เขตนั้น
มิติที่กักขังโถงศักดิ์สิทธิ์อยู่สั่นไหวอย่างรุนแรง การจำกัดนั้นเริ่มเบาบางลงจนโถงศักดิ์สิทธิ์สลัดตัวออกไปด้ สุดท้ายแล้วมันก็พุ่งออกไปต่านรอยแตกมิติที่สร้างขึ้นโดยกระบี่ทำลายมิติก่อนที่จะหายไป
หัวหน้าพิรุณแค่นเสียงเย็นชาออกมา นางหายตัวไปไล่ตามเข้าไปในรอยแตกมิติเพื่อจะไล่ตาม นางไม่คิดจะปล่อยลัทธิปิศาจชั้นฟ้าไป
แต่ไม่นานหัวหน้าพิรุณก็กลับมา แต่นางกลับแสดงท่าทีหงุดหงิดราวกับภูเขาไฟที่รอเวลาระเบิด นางได้แต่พลังอันน่ากลัวออกมาจนทำให้ยอดฝีมือของจักรวรรดิเมฆทวีต่างก็พากันเงียบ
“พวกเจ้าหนีกันได้เร็วจริง ๆ ลัทธิปิศาจชั้นฟ้า เจ้าเอากล้วยไม้ห้าธาตุ, โคลนวิญญาณและน้ำวิญญาณของข้าไป ข้าไม่มีทางลืมเรื่องนี้ง่าย ๆ แน่” หัวหน้าพิรุณกัดฟันแน่นแล้วพูดขึ้นมา หลังจากนั้นนางก็หายตัวไปปรากฏตัวขึ้นในเขตหวงห้ามด้านหลังพระราชวัง
มิติที่นั่นยังถูกแช่แข็งเอาไว้ ไม่มีอะไรสามารถเคลื่อนไหวได้ ตลของการทำลายมิติไม่อาจจะมาถึงที่นั่นได้ แต่สะพานเชื่อมสวรรค์หายไปแล้ว มันถูกเก็บไปโดยหัวหน้าตู้อาวุโส ตอนนี้เจี้ยนเฉินยังคงถูกแช่แข็งอยู่กลางอากาศในท่าเดิมก่อนหน้านี้
หัวหน้าพิรุณได้มาถึงด้านนอกเขตหวงห้ามและมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าเย็นชา