ตอนที่ 2549 : การต่อสู้กับจักรพรรดิแมลง
เวลากระชั้นชิดอย่างมาก หลังจากที่อธิบายเรื่องที่ควรระวังให้เจี้ยนเฉินได้รู้ เซิ่งหมิงก็ได้จับไหล่เขา เจี้ยนเฉิน ไม่อาจจะรู้สึกได้ถึงความต่างจากวิญญาณของเซิ่งหมิงกับร่างกายเขา เขาถูกยกขึ้นโดยเซิ่งหมิงในทันที แน่นอนเซิ่งหมิงทำแบบนั้นได้เนื่องจากเจี้ยนเฉินไม่ได้ต่อต้าน
เซิ่งหมิงยกเจี้ยนเฉินขึ้นและได้เดินไปตรงกลางสะพานเชื่อมสวรรค์ในพริบตา นิ้วของเขากวาดตัดไปทั่วท้องฟ้าอย่างอ่อนโยน
ทันใดนั้นก็เกิดรอยแตกขึ้นมาเล็กน้อยภายในแสงสีรุ้งจากสะพาน เซิ่งหมิงได้มองไปที่มิติว่างเปล่าภายในรอยแตก ก่อนจะเอาขวดหยกอีกขวดออกมา เขาได้เทน้ำสีขาวขุ่นออกมา 1 หยดจากภายในขวด
ทันทีที่หยดน้ำสีขาวปรากฏขึ้น มันก็มีกลิ่นคาวเลือดแผ่ออกมาโดยรอบ
น้ำสีขาวนี่คือเลือดของแมลงมิติ
ยิ่งกว่านั้นจากพลังภายในเลือดนี้ก็ชัดแล้วว่ามันมาจากแมลงมิติที่ขึ้นไปถึงขอบเขตบรรพกาล
แก่นของเลือดลอยล่องออกไปตามรอยแตกของสะพานเชื่อมสวรรค์แผ่ออกไปถึงภายนอก
ตอนนั้นเองมิติภายนอกค่ายกลก็เริ่มมีพลังปะทุออกมา มันราวกับว่ามันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของน้ำที่ซึ่งแค่ลมพัดเพียงเล็กน้อยก็เกิดคลื่นน้ำขึ้นมาได้
เจี้ยนเฉินหรี่ตาลงมองออกไปภายนอก หลังจากนั้นเขาก็เห็นร่างที่เหมือนกับแมลงปรากฏขึ้นและหายไปในพริบตา
ร่างนั้นไม่ได้ใหญ่มากนักยาวประมาณ 1 นิ้ว มันเป็นภาพลวงตาราวกับว่าหลอมรวมเข้ากับมิติ มันมีแค่เส้นขอบให้เห็น ร่างที่แท้จริงทั้งหมดถูกบดบังเอาไว้
“จักรพรรดิแมลงมิติ ! ” เจี้ยนเฉินใจสั่น เขามั่นใจว่าร่างที่เขาเพิ่งได้เห็นนั้นคือจักรพรรดิแมลงมิติ
จักรพรรดิแมลงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวทัดเทียมกับอัครสูงสุด แม้ว่าจะไม่ได้มีร่างกายแต่มันก็ยังน่ากลัวอยู่ดี ต่อมาหัวหน้าผู้อาวุโสก็ได้สะบัดหยดเลือดนั้นทิ้ง
เลือดสีขาวนี้มีแก่นของแมลงมิติ มันได้พุ่งออกไปผ่านรอยแตกในสะพานเชื่อมสวรรค์ราวกับลูกธนูพุ่งออกไปภายนอก
แต่ในเวลาเดียวกัน มิติภายนอกสะพานเชื่อมสวรรค์จู่ ๆ ก็ปิดตัวลง ตอนนั้นมิติถูกแช่แข็งเอาไว้และทุกอย่างก็ตกสู่ความเงียบราวกับว่าเวลาได้หยุดลง
หยดเลือดที่ลอยออกไปนั้นถูกขังไว้ในแสงรอบสะพานเชื่อมสวรรค์
หลังจากนั้นร่างที่เหมือนกับแมลงสีขาวซึ่งเหมือนจะหลอมรวมกับมิติก็ได้ว่ายวนรอบหยดเลือดนั่นราวกับปลา ร่างนั้นจางหายไปและอัดแน่นสลับกันไปเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้ยากที่จะมองเห็นมันได้ชัดเจน
หัวหน้าผู้อาวุโสรีบถอยกลับมาเข้าไปในเขตหวงห้ามอีกครั้ง
ตอนนั้นเองจู่ ๆ หยดเลือดก็หายไป จักรพรรดิแมลงมิติเหมือนจะไม่ได้กินหยดเลือดนั่น มันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที
ต่อมาวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติก็ได้บินทะลุแสงโดยรอบสะพานเชื่อมสวรรค์ตามวิถีโคจรของหยดเลือด
มันเป็นร่างที่เป็นภาพลวงตาที่หลอมรวมเข้ากับมติ ผลก็คือมันยากที่จะเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของมันได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกได้ว่าส่วนไหนคือหัว ส่วนไหนคือหาง
เจี้ยนเฉินขนลุกขึ้นมา เขาตะลึงกับวิญญาณสัตว์อสูรที่ล็อคเป้ามาที่เขา
แม้ว่าเขาจะไม่อาจจะเห็นดวงตาของจักรพรรดิแมลงมิติได้ แต่เขาก็รับรู้ถึงมันได้
เจี้ยนเฉินยังคงใจเย็น เขาปกปิดพลังของตัวเองอย่างระมัดระวัง เขารู้ว่าตัวเขาห่อหุ้มไปด้วยผงจากศพแมลงมิติซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้มีแก่นของแมลงมิติ ผลก็คือจักรพรรดิแมลงมิติเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นแมลงในเผ่ามันและไม่ได้โจมตีเขา
แต่หากเขาแผ่พลังของตัวเองในฐานะมนุษย์ออกมา เขาก็จะโดนจักรพรรดิแมลงมิติฆ่าอย่างไร้ปราณี
ในฐานะสัตว์อสูรมิติแล้ว จักรพรรดิแมลงมิติไม่ได้มีความฉลาดมากนัก เมื่อคิดรวมกับสภาพมันในตอนนี้แล้ว ความฉลาดของมันจึงน้อยลงไปอีก โดยพื้นฐานแล้วตอนนี้มันเหลือแค่สัญชาตญาณ มันไม่อาจจะแยกแยะตัวตนของเจี้ยนเฉินได้เลย
ทันใดนั้นเองวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติก็ได้เปลี่ยเนป็นภาพอันพร่ามัวและพุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉิน มันเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วก้าวข้ามขีดจำกัดของมิติ มันปรากฏตัวตรงหน้าเจี้ยนเฉินในพริบตา แล้วมุดเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉินด้วยแรงกดดันที่เข้าถึงวิญญาณ
ตอนนี้เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดราวกับหัวโดนผ่าออกจากกัน เขาถึงได้รู้ว่าวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติได้เข้ามาในตัวเขาแล้ว
เขาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที หัวเขาได้กลายเป็นสนามรบและเขาต้องเข้าสู่การต่อสู้ตัดสินเป็นตายกับจักรพรรดิแมลงมิติ หากประมาทแม้เพียงเล็กน้อย มันก็สามารถชิงชีวิตเขาไปได้
เขาไม่ลังเลและกัดยาวิญญาณด้านชาไปทันที
ยาแตกออกพร้อมกับพลังของยาที่ทำให้วิญญาณของเขาด้านชาขึ้นมาแผ่ไปทั่ววิญญาณของเจี้ยนเฉิน
ตอนนั้นเจี้ยนเฉินได้หลับตาลง กล้ามเนื้อบนใบหน้าบิดเบี้ยวไปพร้อมกับหน้าที่เริ่มซีดขึ้นมา
ใช้เวลาสักพักกว่าที่ผลของยาจะทำงานแต่วิญญาณของเขาได้รับการโจมตีจากจักรพรรดิแมลงมิติไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องทนรับความเจ็บปวดเอาไว้
วิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติได้โผล่มาในทะเลสติของเจี้ยนเฉินในรูปลักษณ์แมลงสีขาว มันทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง พยายามกลืนกินวิญญาณของเจี้ยนเฉิน
รูปลักษณ์ของมันไม่ได้ดูพิเศษ มันเหมือนกับตัวไหมที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาหลายเท่า ตัวมันอ้วนท้วมและยาวประมาณ 1 เมตร
เจี้ยนเฉินไม่คิดจะรีรอ เขาได้ปรากฏตัวในทะเลสติและใช้กฎแห่งกระบี่และพลังวิญญาณในการสู้กับวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติ
แต่ความต่างด้านความแข็งแกร่งนั้นมากเกินไป แม้แต่ตอนนี้เจี้ยนเฉินใช้พลังทั้งหมดที่มี เขาก็ไม่อาจจะทำอันตรายต่อวิญญาณของจักรพรรดิแมลงมิติได้เลยแม้แต่น้อย
ยังไงซะมันก็ขึ้นไปถึงระดับอัครสูงสุดแล้ว เมื่อเทียบกับเจี้ยนเฉิน มันต่างราวกับฟ้ากับเหว
วิญญาณของมันอ้าปากออก แค่ดูดกลืนทีเดียวก็สูบวิญญาณของเจี้ยนเฉินไปส่วนหนึ่ง
แต่หลังจากนั้น จักรพรรดิแมลงมิติกลับเริ่มดิ้นไปมา ตัวของมันขยายขนาดและหดลงราวกับกำลังเจ็บปวดอย่างมาก
มันเป็นแบบนั้นอยู่หลายวินาทีก่อนที่จักรพรรดิแมลงมิติจะอ้าปากแล้วคายเอาส่วนหนึ่งของวิญญาณเจี้ยนเฉินออกมา
ดูเหมือนว่ามันไม่อาจจะดูดซับวิญญาณของเจี้ยนเฉินได้