Carefree Path of Dreams 50: รักษา

ตอนที่ 50: รักษา

Carefree Path of Dreams

Chapter 50: รักษา

 

“เฮ้อินทรีดํา เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเจ้า ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็มาอยู่ที่นี่แล้ว…”

แม้เขาจะรู้ว่าอินทรีดํานั่นไม่เข้าใจภาษามนุษย์ ฟางหยวนก็ยังรู้สึกดีที่รู้ว่าฮวาหูเตียวช่วยแปลให้เขาได้

หลังจากพูดกับอินทรีดําหลายคํา เขาก็หันหลังกลับไปที่หุบเขาสันโดษเขากลับมาอีกครั้งพร้อมขวดยาหลายชนิด

 

“แกวก..”

เห็นฟางหยวนตรงเข้าไปหามัน อินทรีดําก็กระวนกระวายมากขึ้นแต่ก็ได้รับการปลอบประโลมจากฮวาหูเตียว

“อินทรีนี่กับหนูเตียวเข้ากันได้ดีมาก

เห็นภาพตรงหน้าแล้ว ฟางหยวนก็ก้าวเข้าไปอีกสองสามก้าวและเริ่มตรวจอาการบาดเจ็บของมัน

“ฟอ…”

ฟางหยวนตกใจ “มันเป็นสัตว์วิญญาณอย่างไม่ต้องสงสัยเลยมันสามารถรักษาตัวเองได้ และแผลก็เริ่มหายเองแล้วด้วย”

นี่เป็นข่าวดีสําหรับฟางหยวน เพราะมันหมายความเขาไม่ต้องใช้ขี้ผึ้งล้ําค่าของเขามากนัก

“ฟ!”

ฟางหยวนเอาผ้าพันแผลและยาออกมา พยายามทําให้ตัวเองดูไร้พิษสงและเข้าไปหาอินทรีดํา เขาเพ่งและเพิ่มกําลังภายในใช้เคล็ดกายาเหล็กเพื่อปกป้องตัวเองไว้

แม้ว่าจะได้รับการยืนยันจากฮวาหูเตียว มันก็ยังยากที่จะกล่อมอินทรีดํามาเป็นสัตว์เลี้ยง มันจะไม่เสี่ยงเกินไปหน่อยเหรอถ้าเกิดมันจู่ ๆ ก็จิกฟางหยวนเข้าตอนที่เขาให้การรักษามัน?

“แกอีก! แกึก!”

 

แม้ว่าอินทรีดําจะดูกระวนกระวาย แต่มันก็พยายามควบคุมตัวเองไว้และไม่ขยับตัว

“แผลนี่ »

ฟางหยวนสังเกตว่าแผลนั้นเลือดหยุดไหลแล้ว แต่ยังเห็นกระดูกและขนที่หักอยู่ และยิ่งดูน่าแขยงมากขึ้นเมื่อมีทั้งกิ่งไม้หัก ๆ และเศษพืชเข้าไปติด นี่คงจะรบกวนกระบวนการรักษาตัวและทําให้เจ้านกอินทรีนี่บินไม่ได้ไปอีกนาน

“สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือเอาสิ่งแปลกปลอมพวกนี้ออกจากแผลและต่อกระดูกมันยากมากที่นกอินทรีจะทําเองได้แต่ถ้าข้าช่วยมัน…”

ฟางหยวนลูบปีกของอินทรีดํา

 

ขนสีดํานั้นให้ความรู้สึกราวกับโลหะเมื่อสัมผัส และยังเป็นความรู้สึกแปลก ๆ

“ข้าจะเริ่มตอนนี้แล้วทนเจ็บหน่อยนะ!”

 

ฟางหยวนตั้งสมาธิ จับกิ่งไม้แล้วดึงออก

 

“ฉุด!”

เลือดไหลพุ่งเป็นลูกศรเข้าใส่ฟางหยวน และอินทรีดําเองก็ออกกระบวนท่าจู่โจมอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่เตรียมจะจิกใส่ฟางหยวน

“กิน”

ฮวาหูเตียวพยายามปลอบให้มันสงบลง และอีกเป็นครูกว่าอินทรีดําจะกลับไปอยู่ท่าเดิม

“มันดู… ไม่รู้จักซาบซึ้งในความพยายามของข้าเลย!”

ฟางหยวนผ่อนลมหายใจยาวและยื่นสองนิ้วออกไป ใช้เคล็ดกรงเล็บอินทรีเขาถ่ายเทพลังไปที่ปลายนิ้วของตัวเอง เปลี่ยนสองนิ้วเป็นปากคีบเหล็กชั่วคราว จากนั้น เขาก็ใช้นิ้วทั้งสองดึงเอาเศษกระดูกหัก ๆ ออกแล้วโยนทิ้งไปด้านข้าง

 

เขาเหมือนได้รับการชี้ทางสว่างหลังจากตรวจดูแผลจากการจู่โจมนกหงเอี่ยนป่ายบนร่างของอินทรีดํา เขาคิดว่าเขาเข้าใจระดับความแข็งแกร่งของราชานกหงเอี่ยนปายได้มากขึ้น

“มันดูเหมือนว่า การเอาชนะราชานกนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว”

 

ขณะที่คิดกับตัวเอง สองมือของเขาก็ทํางานอย่างรวดเร็วไม่นานเขาก็ทําความสะอาดแผลเสร็จและพอกยาเอาไว้

 

“ต่อไปก็ต่อกระดูก…”

 

ฟางหยวนส่ายหน้า “แม้ว่าเจ้าจะเป็นสัตว์กลายพันธุ์และอัตราการรักษาตัวของเจ้าก็เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าก็ยังต้องรอให้ขนงอกขี้นมาใหม่เพราะฉะนั้นเจ้าคงไม่สามารถบินได้อีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง”

 

อันที่จริง นี่คือความกังวลใจใหญ่หลวงของอินทรี

 

แม้ว่ามันจะเป็นนกกลายพันธุ์ มันก็ยังต้องกินเพื่อดํารงชีวิตและยังต้องกินในปริมาณมากเพื่อให้กระบวนการหายของแผลเป็นไปอย่างรวดเร็ว

“ไม่ต้องห่วง ในเมื่อตอนนี้ข้าช่วยเจ้าไว้ ข้าก็จะดูแลเจ้าจนกว่าเจ้าจะหาย!”

 

ฟางหยวนปลอบเจ้าอินทรีดําขณะที่มือสัมผัสไปตามกระดูกเขาใช้กําลังทั้งหมดในการจัดตําแหน่งกระดูก!

 

“แกรับ!”

 

ลันโหโดยน

 

อินทรีดําสะดุ้ง ปัดเอาฮวาหูเตียวกระเด็นไปและพยายามหันมาจิกฟางหยวน

“ข้ารู้ทันน่า!”

ฟางหยวนหัวเราะและเตรียมตัวรับปฏิกิริยาจากอินทรีดําเอาไว้แล้วเขาก้าวถอยและชกเข้าที่หัวของมันทันที

“บิ๊ก!”

 

หมัดหนัก ๆ ของเขากระแทกเข้าที่หน้าผากของอินทรีดํามันกลอกตาแล้วก็สลบไปทันที

 

“นั่นแหละ… ในที่สุดเจ้าก็ทําตัวเรียบร้อยแล้ว!”

ฟางหยวนเช็ดมือ “ข้าควรจะทําให้เจ้าสลบไปตั้งแต่แรก!”

“กิกี้”

ฮวาหูเตียวที่ยืนดูอยู่ข้าง ๆ เต็มไปด้วยความสงสารในตัวอินทรี

“เสร็จแล้ว!”

หลังจากจัดการกับอินทรีดํา ฟางหยวนก็บอกฮวาหูเตียว “ต่อไปเราจะสร้างที่พักแรมที่นี่และส่งอาหารมาทุก ๆ สองสามวันนั่นน่าจะไม่มีปัญหาแล้ว”

 

แต่ทว่า สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

เขาพบว่าในส่วน ทักษะ” ในหน้าต่างสถานะของเขาเปลี่ยนไป

 

เลข 2 ที่ด้านหลัง [การรักษา (ระดับ 2)] ค่อย ๆ จางไป แล้วเปลี่ยนเป็น 3!!

[การรักษา (ระดับ 3)]? ในที่สุดข้าก็ผ่านมาได้แล้ว!?

ฟางหยวนประหลาดใจแกมดีใจ “รักษาสัตว์วิญญาณตัวนี้เป็นเรื่องดีที่แฝงมาในเรื่องร้ายสินะ…”

เขาอ่านคําอธิบายของ [การรักษา (ระดับ 3)]:

“[การรักษา (ระดับ 3)] – คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญหมอที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ จะมีผลรักษาสูงขึ้นหลายเท่าเมื่อต้องจัดการกับการรักษาที่ซับซ้อน! (ไม่ได้มีผลเพียงแค่กับมนุษย์เท่านั้น)

 

“ไม่ได้มีผลแค่กับมนุษย์เท่านั้น”

ฟางหยวนมองอินทรีดําแล้วรู้สึกสับสน “ หรือว่านี่ข้าได้เป็นหมอรักษาสัตว์โดยไม่ต้องเรียนงั้นรึ?”

 

ในตอนนี้ ก็มีการเปลี่ยนแปลงกับหน้าต่างสถานะของเขา

 

“ชื่อ: ฟางหยวน

พลังกาย: 3.5

พลังลมปราณ: 3.4

พลังเวทย์: 2.3

อายุ: 18

 

การฝึกตน: ผู้ฝึกยุทธ์ (ประตูทองที่ 67]

วิทยายุทธ์: [ฝ่ามือทรายดํา (ระดับ 5)], [เคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็ก (ระดับ 6)]

ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 3)”

“ดีมาก ดูเหมือนว่าทักษะจะพัฒนายากกว่าเมื่อเทียบกับวิทยายุทธ์และยังมีเงื่อนไขพิเศษที่ต้องผ่านก่อนจึงจะเข้าสู่ระดับใหม่…”

 

ฟางหยวนลูบคาง จมลึกอยู่ในห้วงความคิด

“ยิ่งทักษะของข้าสูงขึ้น ก็ให้ผลหลายเท่ามากขึ้นในระบบ… ดูเหมือนว่าฉายา หมอที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ ของข้านั้นก็กระจายไปไกลและกว้างมากขึ้น?”

แถบระดับประสบการณ์ของ [การรักษา (ระดับ 3)] กลายเป็นศูนย์และต้องการการฝึกอีกมากกว่าจะขึ้นมาเต็มได้เหมือนเดิม

นอกจากนี้ การทะลวงผ่านระดับ เขาต้องลงมือรักษาโรคที่มีความซับซ้อนในระดับหนึ่ง ทั้งหมดนี่คือเขาคงต้องเปิดโรงหมอและทําการกุศลแล้วสินะ

“ความคิดนี้ดูจะพอเป็นไปได้…”

 

ฟางหยวนมองไปทางเมืองชิงเยู่และใจลอยไป..

เวลาเคลื่อนคล้อย หลายวันผ่านไปราวกับแค่กะพริบตา

ความวุ่นวายในตระกูลถั่วนั้นสงบลงแล้ว

แต่ว่า มีข่าวลือว่ามีหมอที่สร้างปาฏิหาริย์ได้อาศัยอยู่ในหุบเขาสันโดษเขาเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีนิสัยแปลกประหลาดและไม่มีใครกล้าท้าทายเขา

 

ใครที่สงสัยและต้องการเข้าไปชมหุบเขาสันโดษด้วยตนเองล้วนถูกตระกูลโจวหยุดเอาไว้ที่ด้านนอกหุบเขา ซึ่งยิ่งทําให้หุบเขาสันโดษนั้นลึกลับมากขึ้นไปอีก

 

เช้าตรู่

 

ฟางหยวนเดินออกจากกระท่อมน้อย หว่านเมล็ดพืชกําจัดวัชพืชใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้ของเขา หลังจากทํางานประจําพวกนี้แล้วก็ฝึกวิทยายุทธ์อย่างจริงจัง

 

“แถบสะสมประสบการณ์ของเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กเต็มเสีย แล้วได้เวลาก้าวข้ามไประดับถัดไปแล้ว!”

 

หลังจากฝึกอยู่ชุดหนึ่ง ฟางหยวนก็หลับตา รวบรวมกําลังภายในและแผ่พุ่งพลังสีขาวสว่าง ราวกับลูกศรคมกริบที่พร้อมจะทลายทุกสิ่งที่ขวางทางอยู่

 

“หึ..สามประตูวิกฤติ ประตูชาง จิง และสื่อ ข้าสัมผัสประตูจิงได้แล้วตอนนี้มันทดสอบระดับพลังเวทย์ของผู้ฝึก…”

ระดับ [การรักษา] ที่เพิ่มขึ้นมาทําให้วิทยายุทธ์ของเขาก้าวหน้าไปด้วย

ฟางหยวนเข้าใจว่าด้วยระดับพลังเวทย์ของเขา เขาน่าจะสามารถผ่านประตูทองที่เจ็ดได้โดยไม่ต้องสงสัย

 

ถ้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆ หากผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในขณะพยายามฝ่าประตูพวกเขาคงจะจบลงที่การเสียสติและรักษาให้หายได้ยาก

 

“กิสส”

ประกายสีขาวแวบขึ้นเมื่อฮวาหูเตียวมาปรากฏตัวตรงหน้าฟางหยวนพยายามอธิบายอะไรบางอย่าง

“เกิดอะไรบางอย่างขึ้นกับอินทรีดํางั้นรึ?”

ฟางหยวนคิดกับตัวเอง “ตอนนี้ มันน่าจะหายดีและบินได้แล้วนี่นาไม่ใช่หรือ?”

ฮวาหูเตียวมีท่าที่แปลกใจที่ฟางหยวนเดาได้ถูกต้อง

นี่คือเหตุผลที่ทําให้ฮวาหูเตียวรู้สึกไม่ยุติธรรม ยังไงอาหารทั้งหมดที่เตรียมให้เจ้านกอินทรีตอนพักฟื้นก็ล้วนเป็นมันจับหาและส่งไปให้

แล้วพอตอนนี้มันหายดีแล้ว มันก็น่าเสียใจที่เห็นมันจากไปโดยไม่ลา

“มันเป็นสัตว์ที่มีศักดิ์ศรี ในเมื่อมันยอมให้พวกเราช่วยมันยามมันได้รับบาดเจ็บ มันย่อมจดจําความช่วยเหลือของเราไว้และตอบแทนกลับมาในอนาคตอย่างแน่นอน…”

ฟางหยวนลูบหัวฮวาหูเตียว “เจ้ามาได้เวลาพอดีเลย ไปดื่มชากันเถอะ!”

“กิก็เ”

ฮวาหูเตียวเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นขึ้นหลังจากได้ยินว่าดื่มชาชระจิต

 

เมื่ออาศัยอยู่ลึกในหุบเขา มีชีวิตที่อิสระ ศึกษาพืชวิญญาณและของวิเศษต่าง ๆ ฟางหยวนก็รู้สึกจิตใจสงบขึ้น วิทยายุทธ์ของเขาก็มั่นคงขึ้น

 

โดยหลักการแล้ว มันหมายถึงพื้นฐานของเขาแน่นขึ้นและความพยายามอันรีบเร่งก่อนหน้านี้ไม่ได้ทิ้งอันตรายใดแอบซ่อนเอา

ด้วยข้อได้เปรียบนี้ มันก็ยังเป็นเรื่องดีมากแม้ว่าแถบสะสมประสบการณ์ของเขาจะไม่ได้ขยับขึ้นเลยสักนิด

หลังจากดื่มชา ฟางหยวนก็ทิ้งฮวาหูเตียวไว้ดูแลหุบเขาขณะที่เขาหิ้วกล่องยาใบเล็กเดินออกจากหุบเขาสันโดษไป

 

ที่ด้านหน้าหุบเขา เป็นพื้นที่ว่างเรียบ ๆ และมีกระท่อมสร้างจากฟางอยู่สามหลัง ถัดไปเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ

คนผ่านไปมามากมายแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาพักที่นี่

ที่ด้านหน้า ผู้ดูแลร่างอ้วนดูกระวนกระวาย แม้ว่าอากาศจะค่อนข้างเย็นเขาก็ยังมีเหงื่อไหลพรั่งพรูราวกับมดบนกะทะร้อน ๆ

“หึหึ… เหล่าหลินออกจะคุ้นเคยกับท่านหมอที่อาศัยในหุบเขาสันโดษนี้ทําไมถึงไม่เข้าไปข้างใน ข้าแน่ใจว่าท่านหมอคงไม่ตําหนิท่าน…”

มีคนจํานวนหนึ่งพักอยู่ในบ้านเล็กนั่น คนแรกคือโจวเหวินอู่ในตอนแรกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่กับตระกูลหลิน แต่หลังจากเกิดเรื่องซ่งจงขึ้นสองตระกูลก็แตกแยก และตอนนี้บทสนทนาก็กลายเป็นการเสียดสีเหน็บแนม

“ฮ่าฮ่า

ข้าจะกล้าได้อย่างไร?”

ผู้ดูแลหลินหัวเราะแต่ก็รู้ว่ามีข้อขัดข้อง นายน้อยฟางพัฒนาขึ้นเร็วมาก และยังมีข่าวลือว่าไม่เพียง [การรักษา] ของเขาจะดีมากวิทยายุทธ์ของเขากลับดียิ่งกว่า แม้แต่ซึ่งจงเองก็ไม่ใช่คู่มือของเขาเช่นนั้นเหตุใดเขาจะไว้หน้าข้าเล่า? คนที่ทําให้เขาโกรธล้วนแต่ประสบปัญหาใหญ่หลวง และถ้าเขาปฏิเสธที่จะรักษาคนผู้นี้ ข้าอาจจะ ไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้เหมือนกันดังนั้นนี่จะดูเบาไม่ได้เด็ดขาด!”

“ท่านหมอฟางมาแล้ว?”

เงาร่างของฟางหยวนปรากฏขึ้น และนี่ก็ทําให้ทุกคนตกใจ

“อืม ทุกคนฟัง ทุกคนเข้าใจกฏดีแล้วใช่หรือไม่? รับคนไข้วันละสามคนและทุกคนต้องจ่ายค่ารักษาที่ข้า หมอฟาง พึงพอใจเสียก่อนถ้าทําไม่ได้กรุณาจากไปได้เลย…”

หลังจากเขาพูดจบเขาก็ไม่ได้สนใจผู้อื่นอีกเดินเข้ากระท่อมไป

 

ไม่ว่าคนพวกนี้หรือผู้ฝึกยุทธ์พวกนี้จะมีอิทธิพลหรืออํานาจแค่ไหนพวกเขาทั้งหมดกลับมีท่าทางสุภาพต่อหน้าท่านหมอที่อาจจะช่วยชีวิตพวกเขาไว้ได้ต่อแถวกันราวกับกระต่ายน้อยที่แสนเชื่อฟังและนี่ก็รวมถึงผู้ดูแลหลินด้วย

Carefree Path of Dreams

Carefree Path of Dreams

Score 10
Status: Completed

บทนำ

นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตสันโดษอยู่บนภูเขา ปลูกพืช เลี้ยงปลา และฝันถึงความฝันของเขา

เอ๋?

จู่ ๆ ข้าก็ออกไปพิชิตทั่วหล้าและกลายเป็นผู้ครองโลกเหรอ?

หรือว่าข้ายังอยู่ในความฝันกันแน่?

Options

not work with dark mode
Reset