Chapter 46: ซ่อน
“เกิดอะไรขึ้น เล่าให้ข้าฟัง!”
ท่านผู้เฒ่ากั๋วมีเสียงดัง และดังกว่าเสียงคนทั่วไปมาก
“ขอรับ ท่านพ่อ!”
กั๋วจิงยืนขึ้นและโค้งกายลงคารวะ “เด็กที่เหลืออยู่ผู้เดียวของตระกูลโจว โจวเหวินอู่ กลับเข้าเมืองมาแล้ว ข้ารู้สึกกังวล และดังนั้นจึงส่งหลานทั้งสองไปสืบและสอดแนมเขา ทีแรก พวกเขาก็ยังส่งข้อ ความกลับมาให้เราว่าทุกอย่างดูปกติ แต่เมื่อพวกเขาขึ้นไปบนเขา และมุ่งหน้าไปยังหุบเขาสันโดษ ก็ไม่มีข่าวอะไรอีกเลย”
“บนเขา? หุบเขาสันโดษ?”
ท่านผู้เฒ่ากั๋วมองมา และจากนั้นก็พูด “หมอที่รักษาโรคได้ราวกับปาฏิหาริย์? ฟาง ฟาง…”
“ฟางหยวน!”
กั๋วจึงรู้สึกไม่ยุติธรรม อย่างไรเสีย เขาก็สูญเสียผู้ฝึกยุทธ์ถึงสองคนซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของตระกูลกั๋ว ไม่ต้องพูดถึงว่าทั้งสองคนนั้นมีสายเลือดเดียวกัน
“หลังจากนั้น คนของเขาก็พบโจวเหวินอู่กลับมาจากหุบเขาสันโดษ แต่ไม่สามารถหาข้อมูลของพี่น้องทั้งสองคนนั่นได้ ข้าเกรงว่า.. พวกเขาน่าจะเจอปัญหาเข้าแล้ว!”
“เจ้าโง่!”
ผู้เฒ่าทั่วโมโห และกั๋วจิงก็รู้สึกสับสน เขาไม่รู้ว่าท่านผู้เฒ่ากั๋วโกรธเขา ฟางหยวน หรือว่าหลานที่ใช้การไม่ได้ทั้งสองคนนั่น
“มิใช่ว่าทั้งสองคนนั่น… เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาใดหรือไม่?”
หลังจากใจเย็นลง ผู้เฒ่ากั๋วก็ใช้น้ําเสียงปลอบโยน แต่มีท่าทางจริงจังเป็นที่สุด
“ไม่เคยเลยในชีวิต!”
กั๋วจึงส่ายหน้า “นี่เป็นเรื่องลับ ทั้งตระกูลมีเพียงท่านและข้าที่รู้ แม้แต่พี่รองก็ไม่รู้เรื่องนี้!”
“ดี!
ผู้เฒ่ากั๋วพยักหน้า แต่กลับเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง “ตั้งแต่ข้าอายุ 18 ข้าก็ได้รับคําสั่งให้แทรกซึมเข้ามาที่นี่และซ่อนตัวเอาไว้ นี่ก็ผ่านมา 60 ปีแล้ว และในที่สุดหลังจากรอคอยมานานก็ได้รับคําสั่งจากอาจารย์ มันเป็นความตั้งใจของอาจารย์ที่แท้จริงที่จะสร้างอิทธิพลของตระกูล ดังนั้นเพื่อปกปิดสิ่งที่พวกเราทํา เรื่องนี้จะดูเบาไม่ได้เป็นอันขาด! ตราบใดที่เราทําสําเร็จคราวนี้ ศิษย์ทั้งหมดของเราก็จะสามารถเปิดเผยตัวและได้พบกับตัวจริงของอาจารย์…”
“ข้าเข้าใจขอรับ!”
กั๋วจึงพยักหน้าขณะที่ฟางหยวนที่แอบฟังอยู่นั้นอึ้งไป
“หลังจากฟังสิ่งที่ทั้งสองคนนี้พูด ดูเหมือนว่าตระกูลกั๋วจะมาจากที่ไหนสักที่ที่พวกเขานั้นมีอํานาจมาก และตอนนี้ก็แอบแทรกซึมเข้ามาในเมืองชิงเย่? ไม่แปลกใจเลยที่พวกมันกลายมาเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีอิทธิพลได้จากตอนแรกที่ไม่มีอะไรเลยในระยะเวลาอันสั้นราวกับจุดไม้ขีดไฟ!”
“ข้าแน่ใจว่าพวกเขาต้องมีแผนการแบบเดียวกันในมณฑลอื่น เรื่องนี้ต้องคิดให้ดี และยังต้องเก็บไว้เป็นความลับ นี่มัน…”
ในตอนนี้เอง มันเหมือนกับว่าเขามองเห็นตาข่ายล่องหนปากใหญ่ครอบคลุมทั้งมณฑลชิงเหอเอาไว้
ลูกศิษย์มากมายที่พวกเขามีนั้นเหมือนเป็นแค่ปมรากเล็กๆที่วางตัวเรียบง่ายแต่สามารถจู่โจมออกได้ทันทีเมื่อได้รับคําสั่ง
ด้วยความคิดนี้ เขารีบกลั้นหายใจรวบรวมพลังเวทย์และเพ่งความสนใจเข้าไปในห้อง
บทสนทนาของพวกเขานั้นได้ยินชัดเจนจากนอกห้อง
“ท่านพ่อ!”
กั๋วจิงฟังดูเหมือนจะสงสัยอะไรบางอย่าง “คําสั่งของสํานักบอกให้เราเก็บงําความสามารถเอาไว้มิใช่หรือ? แล้วเหตุใดจึงจะเปลี่ยน?”
“เรื่องนี้”
ผู้เฒ่ากั๋วยังคงมีท่าทีเดิม “ข้าได้ข้อมูลจากคนในมา ดูเหมือนว่าจะมีคนทรยศในสํานักขโมยสมบัติสําคัญออกมา เขาหนีมาทางเขาชิงหลิงนี่ และมีโอกาสสูงที่จะมาถึงเขตของพวกเรา พวกเราสามารถใช้โอกาสนี้เปิดเผยตัวออกมา ใช้กําลังคนทั้งหมดที่พวกเรามี และเป็นหน้าฉากให้แก่ผู้มีวิทยายุทธ์สูงที่สํานักส่งออกมาจัดการกับคนผู้นั้น อย่างไรเสีย มณฑลชิงเหอก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของสํานักกุยหลิง และสํานักของสืออวองนั้นไม่ใช่จะเข้าไปวุ่นวายด้วย
ได้”
“ปัญหาเดียวก็คือ… คนทรยศนั่นหนีออกมาตั้งนานแล้ว และมันน่าจะจากไปนานแล้ว เหตุผลเดียวที่สํานักทําเช่นนี้ย่อมเป็นเพราะว่าพวกเขายังไม่ยอมรับ…”
ถึงตรงนี้ ผู้เฒ่ากั๋วก็มีความไม่สบอารมณ์ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ตรงกันข้าม กั๋วเจียงกลับดูพอใจ
อย่างน้อย ตระกูลกั๋วก็สามารถใช้โอกาสจากสถานการณ์นี้และกลายเป็นที่รู้จัก!
“คนทรยศ… สมบัติ
“บังเอิญหรือเปล่านี่?”
ฟางหยวนยิ่งรู้สึกตกใจมากขึ้นเมื่อฟังต่อ ตอนนี้เขานึกถึงฮั่นโจวที่ตายตกด้วยฝ่ามือพิษของเขาและแผนที่สมบัติที่ซ่อนอยู่ในรองเท้าของฮันโจว
ลายเส้นบนแผนที่สมบัตินั่นดูคล้ายเครื่องราง และดูเหมือนจะยังมีรายละเอียดหลายส่วนที่ขาดหายไป หลังจากพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับแผนที่สมบัติ ก็กลายเป็นว่าเขาทําให้ตัวเองงุนงงเอง และตัดสินใจยอมแพ้ก่อนจะโยนมันทิ้งไว้ตรงมุมหนึ่ง
ตอนนี้ดูเหมือนว่าของนั่นจะมีค่ามหาศาล และยังเป็นของกลุ่มอิทธิพลขุมหนึ่งซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับสํานักกุยหลิงอีกด้วย! ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะยอมสละทุกอย่างได้เพื่อสมบัติชิ้นนี้
“น่าเสียดาย แผนที่ที่ไม่สมบูรณ์จะใช้อะไรได้?”
ฟางหยวนสายหัวและได้ยินผู้เฒ่ากั๋วพูดต่อ “อืม หุบเขาสันโดษ… ฟางหยวนเป็นใคร? ทําไมถึงกล้าแตะต้องคนของเรา มันคิดว่าข้าอ่อนแอใช่ไหม? แม้ว่าพวกเราจะอยู่ที่นี่มาไม่นาน แต่เพื่อแผ่อิทธิพลของเราออกไป เราจําต้องแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าเราสู้มันได้”
“ปล่อยข่าวที่ผู้ฝึกยุทธ์ของเราสองคนทําภารกิจล้มเหลวกระจายออกไป และสําหรับฟางหยวน เขาย่อมต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงไปแล้วแน่ ๆ!”
กั๋วจิงมีน้ําเสียงจริงจังขึ้น “ท่านพ่อ แม้ว่าท่านจะฝึกวิชาอย่างลับๆ และเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 6 แต่เด็กหนุ่มนั่นอายุเยาว์กว่าท่าน…”
หากบิดาของเขาอยู่ในวัยเดียวกัน กั๋วจิงจะไม่เป็นห่วงเลย
แต่ตอนนี้ เขาเกือบจะแปดสิบปีแล้ว แม้ว่ากําลังภายในของเขาจะแข็งแกร่งมาก แต่จะสามารถต่อกรกับผู้ฝึกยุทธ์อื่นที่มีระดับการฝึกตนเท่าเทียมกันได้หรือ?
“ข้ารู้ แต่คนตระกูลกั๋วไม่มีใครขลาดเขลา!”
ผู้เฒ่าคิ้วโบกมือ “เจ้านําคนไปที่หุบเขาสันโดษด้วยตัวเจ้าเองแล้วรวบรวมข้อมูลของเจ้าเจ็ดกับเจ้าสิบแปดมา ถ้าพวกมันยังดีอยู่ก็พากลับมาและลืมเรื่องนี้ไปเสีย แต่ถ้าพวกมันตาย…. ถอนกําลังกลับทันที!”
“ถอนกําลังทันที!
“ถูกต้อง ข้าจะแจ้งท่านเจ้าสํานักเองว่าพบพื้นที่น่าสงสัยแถวหุบเขาสันโดษ!”
ผู้เฒ่ากั๋วหัวเราะ “ใครให้หุบเขาสันโดษซ่อนลึกเข้าไปในหุบเขา และลึกลับเช่นนั้นกันเล่า? ถ้าหากคนทรยศจะมาจากที่นั่นข้าก็ไม่แปลกใจหรอก…”
กั๋วจึงรู้สึกประหลาดใจ
แม้เขาจะรู้ว่านี้ไม่จริงและแม้ผู้ฝึกยุทธ์จากสํานักจะรู้เรื่องนี้ พวกมันก็ยินดีกําจัดคนที่น่าสงสัยทิ้งดีกว่าปล่อยให้มีชีวิตรอดไป
“เป็นแผนการที่ดีนัก ท่านพ่อ!”
เขาดูยินดี
ทันใดนั้น เขาก็พบว่าบิดาขมวดคิ้วมั่นดูกระวนกระวายขึ้นมา
“แปะ! แปะ!”
ในตอนนั้นเอง มีเสียงชื่นชมดังมาจากภายนอก ผู้ชายในชุดดําเดินเข้ามาในห้อง “แผนดี! เป็นแผนการที่ดีจริงๆ!”
“ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกําลังภายใน!?”
ผู้เฒ่ากั๋วผุดลุกขึ้นอย่างโมโห ดึงกั๋วจิงไปด้านหลัง “ระวัง กั๋วจิง ข้าจะรับมือเอง!”
เขามองผู้ชายชุดดําแล้วรู้สึกตึงมือขึ้นมา “เจ้าเป็นใคร และทําไมจึงล่วงล้ําเข้ามาในบ้านตระกูลกั๋ว?”
“สุนัขเฒ่า เจ้าสมควรตาย!”
ฟางหยวนไม่อยากพูดกับชายชราแม้แต่คําเดียว เขายื่นมือขวาออกมาและนิ้วชี้ขี้ตรงไปราวกับเป็นดาบเล่มหนึ่ง
“ซี่!”
แขนของเขาขยายขนาดขึ้น และภายใต้เสื้อผ้าสีดํา ผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีดํา แม้แต่กลางฝ่ามือยังมีสีดําด้วย
เคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กระดับ 6! และยังมีฝ่ามือทรายดําด้วย!
ฟางหยวนใช้ทั้งหมดสามารถใช้ได้ในครั้งเดียว!
เขาต้องทําเช่นนี้ เพราะอย่างไรที่นี่ก็คือใจกลางตระกูลกั๋วและประโยคสุดท้ายที่ผู้เฒ่ากั๋วได้ยินนั้นดังมาก เขาทําลงไปโดยมีจุดประสงค์เพื่อบอกว่าเขามีกําลังภายใน เสียงฝีเท้าเริ่มดังมาทางที่ห้องนี้
แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ช่ําชองกําลังภายในก็สามารถใช้พลังภายในเช่นนี้ได้ง่ายๆ แต่การเผชิญหน้ากับคนมากๆครั้งเดียว ก็สามารถทําให้เขาหมดแรงลงได้
สายตาฟางหยวนนั้นคือมุ่งร้ายถึงชีวิต
ขณะที่ผู้เฒ่ากั๋วร่างแผนนั่นขึ้นมา เขาก็รู้แล้วว่าทั้งตระกูลกั๋วต้องถูกทําลายให้สิ้น!
“กรงเล็บอินทรี?!”
ผู้เฒ่ากั๋วเน้นเสียง เขาปล่อยหมัดทั้งสองฝ่าอากาศ ใช้กําลังทั้งหมดเท่าที่ทําได้ หมัดนั้นขยายใหญ่กลางอากาศ “พลังยักษา!”
“ตึง!”
กําปั้นและกรงเล็บปะทะกัน ผู้เฒ่ากั๋วถูกกดดันให้ต้องถอยหลังไปหลายก้าว เขาทิ้งรอยเท้าลึกไว้บนพื้นโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าแดงก่ํา เขากระอักเลือดออกมาคําใหญ่ แต่อาการบาดเจ็บยังไม่เท่าความรู้สึกตกใจ “ผู้ฝึกยุทธ์ประตูทองที่ 6? เหตุใดจึงกล้าขนาดนี้?”
ชุดดําของฟางหยวนขาดวิ่นเปิดให้เห็นผิวสีดําสนิท เขาฟื้นตัวอาการบาดเจ็บที่ได้รับอย่างรวดเร็วเพราะร่างกายที่แข็งแกร่งและไม่แม้แต่จะถอยหลังสักก้าวหลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่าแรก เขาลงมืออีกครั้งราวกับอินทรีเห็น ความแข็งแกร่งของกรงเล็บนั้นมาจาก ท้องน้อยสู่แขน จากนั้นก็สู่ฝ่ามือ ก่อนจะไปปลายนิ้ว เสียงดังให้ได้ยินเมื่อกําลังภายในถูกส่งผ่านมาเรื่อยๆ
“ตายซะ!”
“เคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็ก!? เจ้าคือฟาง…”
ผู้เฒ่ากั๋วประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม แต่ไม่ทันพูดจบประโยคก็ได้รับ อีกกระบวนท่าจากศัตรูแล้ว
“ฮีม พลังยักษาแบกสวรรค์!”
เขาเหยียดฝ่ามือทั้งสองข้างออกรับกรงเล็บของฟางหยวนที่จู่โจม จากด้านบน
“ทิ้ง!”
ผู้ชายชุดดํานั้นได้เปรียบผู้เฒ่ากั๋ว และจากที่เขาสั่นสะท้านจากการต้องรับกรงเล็บของฟางหยวน เขาจะแพ้แล้วในไม่ช้า!
“เร็วมาก! เร็วมากขึ้นอีก!”
เขากําหมัดแน่น เหงื่อหลั่งไหลโทรมกาย เขาทําได้แค่รอให้กําลังเสริมมาถึงเท่านั้น
“เจ้าไม่เลวเลย สามารถรับกรงเล็บข้าได้ถึงสามกระบวนท่า!”
ฟางหยวนชมเชย ก่อนจะปล่อยอีกกระบวนท่าตามมา
“อีก…”
ผู้เฒ่ากั๋วหน้าซีดและต้องใช้กําลังทั้งหมดที่มีรับกรงเล็บนี้ เขารู้สึกโล่งขึ้นเมื่อเห็นเหล่าผู้รับใช้มาถึง
แค่กะพริบตาเดียว กรงเล็บหนึ่งก็ทะลุการต้านทานมาได้ พุ่งตรงมาที่ลําคอเขา
“ควับ!”
เสียงดังมาให้ได้ยินขณะที่เหล่าคนรับใช้เข้ามาในห้อง พวกเขาเห็นสถานการณ์ตรงหน้าพลิกผันไปกับตา
เสาหลักของตระกูลกั๋ว ผู้เฒ่ากั๋วผู้ไร้เทียมทานยกมือกุมลําคอตัวเองไว้ ล้มลงพื้นและไม่ขยับอีกเลย
“เจ้า!”
กั๋วจิงคลั่ง “ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“งั้นเจ้าก็ต้องตายตกตามไปด้วยแล้ว!”
เพื่อกําจัดวัชพืช ต้องขุดรากถอนโคน และฟางหยวนก็เข้าใจเรื่องนี้ดี
เขาพุ่งเข้าไป ออกกรงเล็บใส่กั๋วจิงที่พยายามซ่อนตัวในกลุ่มคน
“ข้าจะสู้”
กั๋วจึงยกแขนขึ้นไขว้กัน อย่างไรเขาก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ประตูทองที่
ห้า
แม้เขาจะพยายามรวบรวมพลังภายใน แต่ก็ถูกกําลังภายในของฟางหยวนตีแตกไป
“ พลั่ก!”
ฟางหยวนคว้าคอของเขา ไม่ให้โอกาสใด
คนรับใช้ทั้งหมดและแม้แต่ทายาทตระกูลกั๋วก้าวถอยไปหลายก้าว กลัวจะสบตากับผู้ชายชุดดํา
ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็น พลิกตัวข้ามกําแพงบ้านและหายตัว