Carefree Path of Dreams 39

ตอนที่ 39

Carefree Path of Dreams

 

“ตายซะ ตาแกโง่เง่า!”

 

ฟางหยวนคํารามและกล้ามเนื้อหลังของเขาก็ขยับคล้ายนกกําลังจะสยายปีกของมันออก

 

พลังขุมใหญ่ก่อเกิดที่แผ่นหลังของเขาก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนมาที่แขน ข้อมือ ฝ่ามือ และสุดที่ปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง

 

“กร๊อบ กร๊อบ!”

 

ข้อต่อตามร่างของเขาระเบิดพลังออกมา ข้อต่อเหล่านั้นในร่ายทําหน้าที่คล้ายคานงัด พลังเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากข้อต่อแต่ละข้อ

 

“กรงเล็บอินทรี!”

 

หลินเหลยเยวตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่พลิกผันไปตรงหน้านาง

 

นางเคยเห็นกระบวนท่านี้จากอวี้ชิวเหลิ่ง ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาจากเคล็ดกรงเล็บอินทรี นอกจากความจริงที่ว่าอวี้ชิวเหลิ่งนั้นมีวิทยายุทธ์สูงกว่าฟางหยวน ชายหนุ่มตรงหน้านี้ก็ได้เปรียบในด้านพลังชีวิตและพลังวิญญาณ

 

“นั่นยังใช่พี่ฟางผู้นั้นอยู่เหรอ?”

 

เสี่ยวฉิงรู้สึกประหลาดใจและไม่รู้จะคิดเป็นอื่นได้อย่างไร 

 

“เขาช่าง… ช่าง…”

 

นางอ้าปากค้างและภาพพจน์ของคุณหนูที่สุภาพนุ่มนวลก็กระเด็นหายไป

 

นางคิดได้เพียงแค่อย่างเดียว “ถ้าตอนนั้นเขาใช้พลังเต็มที่ข้าคงไม่มีชีวิตอยู่ไปแล้ว!”

 

อันที่จริง นางประเมินฟางหยวนสูงเกินไป

 

ฟางหยวนตอนนั้นไม่ได้ชานาญเคล็ดกรงเล็บอินทรีเท่ากับตอนนี้ ถ้าเขาได้ฝึกอย่างเป็นระบบ วิทยายุทธ์ของเขาคงจะรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว

 

อาจจะพูดได้ว่าเขาเก่งขึ้นมาอีกระดับหลังจากไม่เจอแค่ไม่กี่วันวิทยายุทธ์ของเขาก็รุดหน้าไปอีกก้าวใหญ่

 

“ฮู่วว!”

 

กรงเล็บนั้นแทบจะฉีกทิ้งอวัยวะได้ กระแสลมที่เกิดจากกรงเล็บก็แทบจะเฉือนเนื้อหนังก่อนที่กรงเล็บจะไปถึงเป้าหมายเสียด้วยซ้ำ

 

“เด็กดี!”

 

ซ่งจงหอบ ใบหน้าแดงก่ำ เขาโบกมือไปมาในอากาศเกิดเป็นสัญลักษณ์ “ฝ่ามือวายุปิศาจ!”

 

“ตู้ม!”

 

กรงเล็บและฝ่ามือกระทบกันเกิดเสียงดังลั่นให้ได้ยิน

 

“ฝุบ!”

 

ฝุ่นบนพื้นฟังขึ้น ฟางหยวนปลิวและกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง เลือดสายหนึ่งไหลออกจากมุมปากของเขา

 

“เหตุใดพลังภายในและพลังกายของเจ้าถึงสูงเช่นนี้?”

 

ซ่งจงยืนหยัดอยู่กับที่ใบหน้าแสดงความสงสัย เขาปล่อยเสียงหัวเราะ “น่าอายนัก ไม่ว่าจะอย่างไร เจ้าก็ไม่สามารถข้ามผ่านช่องว่างนั่นได้ แค่ก แค่ก…”

 

เลือดสีม่วงดําเริ่มกระเซ็นออกมาขณะที่เขากําลังพูด

 

“ถ้าเจ้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 6 ทั่ว ๆ ไป ข้าคงจะวิ่งหนีไปแล้ว แต่เจ้ามันก็แค่สุนัขแก่ ๆ ร่างกายของเจ้าจะทนอยู่ได้นานเท่าไหร่กัน?”

 

ฟางหยวนบิดข้อนิ้วมือไปมาเกิดเสียงกรอบแกรบ

 

เขาได้ยินมาว่ายาเม็ดคืนวิญญาณนั้นเพียงสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ครั้งเดียว และฟื้นฟูให้ผู้ฝึกยุทธ์อยู่ในสภาพดีที่สุดของตนเอง มันให้ผลฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่อาจารย์หลี่ลงมือไว้ก่อนที่จะถูกจู่โจมโดยหลินเหลยเยวและผู้อื่น ๆ 

 

“สุนัข…สุนัขแก่?!”

 

ซ่งจงตะลึงงัน แม้แต่หลินเหลยเยว่ก็ตกตะลึงไปด้วย

 

“เจ้า เจ้าเด็กเปรต แกตายแน่!”

 

ซ่งจงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาไม่เคยถูกเยาะหยันเช่นนี้มาก่อนเพราะเป็นถึงผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 7

 

แม้เมื่อถูกขับไล่ออกจากสํานัก การขัดแย้งเล็กน้อยกลับนํามาซึ่งการนองเลือดนี้

 

แล้วเจ้าเด็กเวรนี่ยังกล้าดูถูกเขาต่อหน้า?

 

หลินเหลยเยวพบว่ามันยากที่จะเชื่อและรู้สึกอย่างงงงวยว่าโลกได้พลิกกลับเสียแล้ว

 

“ฮ่าฮ่า สุนัขเฒ่า ยังบอกไม่ได้เสียหน่อยว่าใครจะอยู่และใครจะตาย!”

 

ฟางหยวนหัวเราะและลงมือ ไม่เปิดโอกาสให้ซ่งจงได้ตอบ “ดูกระบวนท่าของข้า!”

 

ซ่งจงนั้นอยู่ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตแล้ว แต่ว่า เขามีพื้นฐานวิทยายุทธ์ที่แข็งแกร่ง ไม่มีใครในที่นี้สามารถรับมือพลังภายในของเขาได้ถ้าเขามีเวลาฟื้นฟูมากพอ

 

ดังนั้น กลยุทธ์เดียวก็คือลงมืออย่างไร้ปรานี

 

ฟางหยวนมั่นใจในจุดนี้

 

อย่างไรเขาก็มีพลังกายสูงกว่าคนทั่วไปเกือบสองเท่า นั่นหมายความว่าเขามีความอึดและความสามารถในการฟื้นฟูที่เหนือธรรมดา

 

เขาสามารถลดระยะห่างของระดับพลังภายในได้โดยการใช้ฝ่ามือทรายดํา (ระดับ 5) และเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กร่วมกัน

 

“ชี่”

 

กระแสลมจากกรงเล็บอินทรีตัดผ่านอากาศ

 

“เป็นไปไม่ได้ ทําไมเจ้าจึงฟื้นฟูได้เร็วเช่นนี้”

 

ซ่งจงตกตะลึง กัดฟันถาม “เจ้าพยายามทําให้ข้าหมดแรงงั้นรึ?”

 

ใบหน้าของเขาที่เดิมก็เป็นสีแดง แดงขึ้นอีกราวกับเลือดจะหยดออกจากรูขุมขนได้ “เผาไหม้จิตวิญญาณปลดปล่อยปีศาจโลหิต!”

 

นี่คือไม้ตายที่ทําให้เขาสามารถกดข่มอาการบาดเจ็บและเร่งกําลังครั้งสุดท้าย ก่อนนี้เขาใช้เพื่อสังหารผู้อาวุโสหลี่ ผลการจากใช้มันอีกเป็นครั้งที่สองทําลายร่างกายของเขา

 

“ตายซะ! ฝ่ามือวายุปีศาจ – ฝ่ามือโลหิต!”

 

ซ่งจงถลันมาข้างหน้า เลือดสด ๆ หยดออกจากมือข้างขวาและหุ้มอยู่รอบฝ่ามือของเขา ฝ่ามือนั้นกระแทกเข้ากับกรงเล็บอินทรี

 

“ตู้ม!”

 

เกิดเป็นเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้งขณะที่ฟางหยวนปลิวถอยไป ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปและเขาก็กระอักเลือดออกมากองโต “นั่นให้ความรู้สึกดีมาก!”

 

ดวงตาของเขาเข้มแสงขึ้นและเขาก็ลุกกลับมายืน “อีกครั้ง!”

 

“เจ้าเด็กนี้ มันบ้าไปแล้วหรืออย่างไร?!”

 

ซงจงรู้สึกหวาดกลัววิธีการต่อสู้ที่ฟางหยวนแสดงออกมาฟางหยวนดูไม่ห่วงชีวิตตัวเองเลยแม้สักนิด

 

“ฝุบ!”

 

เสียงจากด้านนอกนั้นดังมาให้ได้ยิน จากที่ได้ยิน อาจจะพูดได้ว่ามีผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงกําลังออกตามล่าซ่งจงอย่างสุดกําลัง

 

ซ่งจงหน้าซีดเผือด ทันใดนั้นก็หันหลังและพุ่งหนีไปในปารกชัฏ

 

สถานการณ์ตอนนี้ ไม่มีทางที่เขาจะสังหาร “คู่รัก” นั่นได้ ทางเดียวที่มีก็คือซ่อนตัวและรอโอกาสมาถึงใหม่ 

 

เขายังมีโอกาสมากมายภายในเจ็ดวันนี้ แล้วเด็กตรงหน้าเขาฟางหยวนนั้นก็รับมือได้ยากและหากไม่ได้พักสักนิด ซ่งจงก็ไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับเขาได้

 

“เจ้าจะไปไหน?”

 

ฟางหยวนคํารามขณะไล่ตามมา

 

เขาจะปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้อย่างไร?

 

แม้เขาจะรู้คุณสมบัติของยาเม็ดคืนวิญญาณ มันก็ยังเป็นไปได้ที่ในโลกอันกว้างใหญ่ ซ่งจงอาจจะประสบเข้ากับปาฏิหาริย์และมีชีวิตรอด ฟางหยวนจะไม่รู้สึกสบายใจอย่างแท้จริงจนกว่าจะเห็นซ่งจงตายตกไปต่อหน้าต่อตา

 

แล้วโอกาสที่ดีกว่านี้จะมาถึงเมื่อใดกัน?

 

กําลังของศัตรูผู้ถูกผลาญไปจนหมด นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะกําจัดซ่งจงแม้กับผู้ที่มีระดับพลังยุทธ์เดียวกันกับมัน

 

อาจจะไม่มีโอกาสอื่นแล้วถ้าเขาพลาดโอกาสนี้ไป

 

“ฝุบ!”

 

ทั้งสองคนวิ่งเข้าไปในปาลึก ไม่มีใครรู้ว่าทั้งคู่วิ่งมาไกลแค่ไหนแล้ว

 

“ตาแก่โง่เง่านี่อึดชะมัด ข้าคิดว่าคงจะเป็นผลจากยาเม็ดแล้ว”

 

ฟางหยวนเห็นระยะห่างระหว่างทั้งสองนั้นไม่ได้ลดลงเลย เขามองรอบ ๆ ก่อนจะตะโกนออกมา “สุนัขเฒ่า เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าลูกชายสุดที่รักของเจ้าตายอย่างไร?”

 

“อะไรนะ?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซ่งจงหยุดวิ่งและหันกลับมา ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ฟางหยวน “เจ้ารู้อะไรมา? พูด!”

 

ยังมีระยะห่างเล็กน้อยระหว่างซ่งจงกับกองกําลังด้านนอกต่อให้เขาช้าลงสักนิด เขาก็ยังมีเวลามากพอที่จะหนี เขาสนใจความจริงนั่นมากกว่าและตัดสินใจหยุด

 

“คนที่สังหารสุนัขนั่น… ฮ่าฮ่า…”

 

ฟางหยวนไม่ได้หยุด เขาพุ่งไปข้างหน้า มือทั้งคู่กางขึ้นเป็นกรงเล็บอินทรีและจู่โจมใส่ซ่งจง “ไปถามลูกชายของเจ้าเอาสิ!”

 

“เจ้าเด็กชั่ว!”

 

สีหน้าของซงจงเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้าฆ่าเจ้าไม่ได้จริง ๆ ใช่ไหม?”

 

เขายกฝามือทั้งสองชูขึ้นฟ้า รู้สึกได้ถึงพลังจากฝ่ามือทั้งสอง

 

“ปัง!”

 

กําปั้นและกรงเล็บกระทบกัน สีหน้าของซงจงเปลี่ยนไป “ไม่จริง…เจ้า…”

 

เขาผงะถอยและมองที่ฝ่ามือตัวเอง เห็นเพียงแค่รูโหว่บนฝ่ามือของเขาที่มีเลือดสีดําไหลออกมา

 

“เจ้าใช้พิษ ไม่ นี่เป็นฝ่ามือทรายดํา… เป็นเจ้า!”

 

ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขากระโจนไปข้างหน้าเพียงเพื่อจะกระแทกลงกับพื้น

 

“ข้าเกลียดเจ้านัก! เกลียดเจ้า!”

 

ซ่งจงคํารามขณะมองที่ฝ่ามือตัวเอง เขามองฟางหยวนด้วยสายตาราวกับจะฆ่าฟางหยวนให้ตายตก

 

ถ้าเขารู้ว่าฆาตกรฆ่าบุตรชายยืนอยู่ตรงหน้า เขาคงจะใช้ทุกอย่างที่ใช้ได้เพื่อสังหารฟางหยวน แม้จะต้องสละชีวิตตนเองก็ตาม

 

แต่ว่าเขาถูกหลอก และเขาไม่สามารถหาทางตอบโต้ได้แล้ว

 

“เจ้าใช้ยาเม็ดคืนวิญญาณและใช้วิชาลับไปหลายครั้ง พลังของเจ้าหมดแล้วและเจ้าก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว หลังจากถูกฝ่ามือทรายดําของข้า ก็ไม่มีทางที่เจ้าจะมีชีวิตรอด วันนี้ในปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของเจ้าแล้ว!”

 

สีหน้าของฟางหยวนเย็นชา เขาหยิบบัญชาพญายมออกมากลืนลงไป

 

ซ่งจงนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับ 3 ประตูวิกฤตอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เขาถูกจู่โจมด้วยฝ่ามือทรายดําและได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังสามารถรับมือกับการจู่โจมของศัตรูด้วยพลังภายในของตน นี่เป็นเหตุให้พิษงูจูเหว่ยส่วนหนึ่งนั้นย้อนกลับมาทําร้ายฟางหยวนด้วยเหมือนกัน

 

แต่ฟางหยวนมีบัญชาพญายมซึ่งสามารถแก้พิษได้

 

ซ่งจงไม่ได้โชคดีเช่นนี้

 

“ไปตามทางของเจ้าเถอะ!”

 

ฟางหยวนก้าวมาข้างหน้าและมองซ่งจงที่ไม่สามารถพูดจาได้แล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ซ่งอวี้เจว๋เอาแต่ส่งคนมารบกวนข้าซ้ำ ๆ เจ้าคิดว่าข้าจะต้องตายและไม่สามารถตอบโต้ได้งั้นหรือ?”

 

“สําหรับเจ้า เจ้าก็ยังเป็นตัวก่อปัญหาเช่นกัน ข้าไม่สามารถปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อไปอีกแม้แต่วันเดียว!”

 

แม้ยาเม็ดคืนวิญญาณนั้นมีฤทธิ์ราวปาฏิหาริย์ ผลของมันก็ไร้ประโยชน์ มียาเม็ดระดับเวทย์มนตร์ในตํานานอีกหลายอย่างที่สามารถช่วยชีวิตซ่งจงได้

 

ฟางหยวนไม่อยากสร้างปัญหาอื่นเพิ่มอีกถ้าไม่จําเป็น

 

“ไปตามทางของเจ้า จําไว้ว่าชาติหน้าที่อย่ามาวุ่นวายกับข้าอีก!”

 

ฟางหยวนพยักหน้า ยกมือขวาขึ้นก่อนจะสะบัดลงอย่างเฉียบขาด

 

“ตูม!”

 

เลือดสาดกระจายออกมา

 

ที่ด้านนอกป่า มีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังมาให้ได้ยิน

 

“รอยเท้า ตรงนั้น!”

 

“ซ่งจงเพิ่งหนีมา เขาคงยังไปไม่ไกล!”

 

กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์เข้าล้อมรอบบริเวณ ที่ด้านหน้ากลุ่มเป็นหลินเหลยเยว่และผู้คุ้มกันจากสํานักกุยหลิงสองคน

 

“เหลยเยว่ เพื่อนของเจ้าไล่ตามซ่งจงไปผู้เดียวงั้นหรือ?”

 

ผู้คุ้มกันส่ายหน้า “เด็กเอย เจ้าโจรเฒ่านั่นมีวิทยายุทธ์สูงส่งและเหี้ยมโหดนัก เพื่อนของเจ้าคงจะตกอยู่ในเงื้อมมือของมันไปแล้ว”

 

“ฟางหยวน… เขาจะไม่เป็นเช่นนั้นหรอก!”

 

คุณหนูฉิงพูดมาจากด้านข้าง ผู้ที่เห็นซ่งจงและฟางหยวนประมือกันย่อมมีความมั่นใจในตัวเขา

 

“หืม… ซ่งจงนั้นครอบครองกําลังภายในระดับสูง ผู้ที่มีแค่พลังภายในย่อมไม่สามารถรับมือเขาได้ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็คงจะตายตก…”

 

ผู้อื่นพูดคุยกันแต่กลับต้องหยุดเมื่อหลินเหลยเยว่มองมา

 

“หืม? มีคนอยู่ตรงนั้น!”

 

ผู้คนที่ด้านหน้าหยุดเมื่อพวกมันเห็นเงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากป่าทึบ

 

“พี่ฟาง!”

 

คุณหนูฉิงรู้สึกยินดีอย่างประหลาด “เจ้าคนทรยศซ่งจงนั่นไปไหนแล้ว?”

 

“นี่!”

 

ฟางหยวนยกมือขวาของตนขึ้นและศีรษะชุมเลือดของซ่งจงก็ปรากฏขึ้น นี่ทําให้คนอื่น ๆ ในที่นั้นรู้สึกประหลาดใจและไม่แน่ใจ

 

“เจ้าแก่ทรยศนั่นได้รับผลกรรมแล้ว?”

 

ผู้คุ้มกันทั้งสองไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

Carefree Path of Dreams

Carefree Path of Dreams

Score 10
Status: Completed

บทนำ

นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตสันโดษอยู่บนภูเขา ปลูกพืช เลี้ยงปลา และฝันถึงความฝันของเขา

เอ๋?

จู่ ๆ ข้าก็ออกไปพิชิตทั่วหล้าและกลายเป็นผู้ครองโลกเหรอ?

หรือว่าข้ายังอยู่ในความฝันกันแน่?

Options

not work with dark mode
Reset