ตอนที่ 3032 ข่าวร้าย
ตึง! ตึง! ตึง!
ทุกก้าวของหลินสวินประหนึ่งฟ้าถล่มดินทลาย อานุภาพของระดับนิรันดร์พุ่งใส่ไท่เฮ่าอู่ราวกับพลิกภูเขาคว่ำสมุทร
ร่างไท่เฮ่าอู่หลั่งประกายเทพสีเงิน เรียกโคมสำริดสีม่วงชิ้นหนึ่งออกมาพลัน
นี่เป็นศาสตรามรรคนิรันดร์ของเขา ชื่อว่า ‘โคมเทพเวทนา’ ตัวโคมสลักดอกไม้เพลิงมหามรรคมากมายที่ควบรวมจากกฎเกณฑ์มหามรรค งดงามหลากสี
ขอเพียงถูกดอกไม้เพลิงนั่นสัมผัสแม้แต่นิด ก็จะถูกเผาจิตวิญญาณหมดสิ้น เรียกได้ว่าอหังการเป็นที่สุด
เพียงแต่ศาสตรามรรคนิรันดร์ที่ไร้ข้อบกพร่องชิ้นนี้ ยามนี้กลับถูกอานุภาพของหลินสวินข่มไว้ ดอกไม้เพลิงมหามรรคนั่นเพิ่งจะปรากฏก็แตกสลายหายไปในอากาศ
เช่นเดียวกับไท่เฮ่าอู่ที่ถูกโจมตีไปทั้งตัว ประหนึ่งอยู่ในหล่มและกำลังโดนกระหน่ำจากทุกทิศทาง
นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!
แค่อานุภาพที่หลินสวินปล่อยออกมาเท่านั้นกลับแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้ นี่ทำให้ไท่เฮ่าอู่รู้สึกไม่เข้าทีและหวาดกลัวยิ่ง
ส่วนไท่เฮ่าจื่อ หากไม่ใช่ว่าถูกไท่เฮ่าอู่ปกป้องไว้สุดกำลังเกรงว่าคงถูกฆ่าตายคาที่ไปนานแล้ว ทว่าแม้ตอนนี้จะโชคดีรอดมาได้แต่ก็ทำเอาตกใจหน้าซีดเซียว แตกตื่นลนลานแล้ว
เห็นเขาไม่เอาไหนเช่นนี้ มุมปากหลินสวินก็ผุดแววยิ้มหยัน “ขยะไร้ประโยชน์เช่นนี้ยังคิดจะแต่งกับซีหรือ”
ไท่เฮ่าจื่อย่อมไม่ใช่ขยะไร้ประโยชน์
ในฐานะนายน้อยตระกูลไท่เฮ่า พรสวรรค์ รากฐาน และวิถีมรรคของเขาเป็นเลิศกว่าคนรุ่นเดียวกันในตระกูล โดดเด่นเหนือใคร
แต่ในสายตาหลินสวิน… ย่อมไม่ต่างอะไรกับขยะไร้ประโยชน์
“หลินสวิน เจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับตระกูลไท่เฮ่าของข้าอย่างสิ้นเชิงหรือ”
ไท่เฮ่าอู่ตะโกน
“หากข้าบอกว่าตระกูลไท่เฮ่าในตอนนี้ไม่คู่ควรกับการเป็นศัตรูกับข้าสักนิดเจ้าจะเชื่อหรือไม่” หลินสวินกล่าวลวกๆ
ไท่เฮ่าอู่หน้าเปลี่ยนสีไปมาไม่หยุด
เห็นว่าหลินสวินก้าวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เขาโบกแขนเสื้อคราหนึ่งเรียกไพ่ตายออกมา…
สวบ!
คทาทองสมประสงค์ชิ้นหนึ่งพุ่งออกมากลางอากาศ จากนั้นควบรวมออกมาเป็นรูปจำลองเจตจำนงสูงใหญ่แข็งแกร่งสายหนึ่ง
นี่เป็นชายในชุดแพรคนหนึ่ง ร่างสูงตระหง่านปานทวนยาว ทั่วร่างอบอวลกลิ่นอายนิรันดร์ขั้นสรรสร้าง
นัยน์ตาหลินสวินเผยเผยแววเหยียดหยาม
แม้แต่รูปจำลองเจตจำนงขั้นไร้ขอบเขตยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปจำลองเจตจำนงขั้นสรรสร้าง
ยามชายชุดแพรผู้นี้ปรากฏตัว หลินสวินก็ลงมือโดยไม่ลังสักนิด
ฉัวะ!
เขารวบนิ้วกรีดคราหนึ่ง
ควบรวมปราณกระบี่ที่ประทับนัยเร้นลับนิพพานสายหนึ่งกลางอากาศแล้วฟันลงไป
พริบตานั้นฟ้าดินเหมือนถูกฟันเป็นสองส่วน!
“หนีเร็ว!”
นัยน์ตาชายชุดแพรหดรัดทันที สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของกระบี่นี้ ระหว่างที่ส่งเสียงเขาก็ขยับมือทั้งคู่ควบรวมประทับเทพกฎเกณฑ์สีทองสายหนึ่งออกมากลางอากาศ กลิ่นอายกฎระเบียบไหลหลั่งประหนึ่งทำลายล้าง
มองจากไกลๆ คล้ายภูเขาเทพสีทองลูกหนึ่งขวางกั้นอยู่ตรงนั้น ปิดฟ้าบังตะวัน
เพียงแต่พลังที่แฝงอยู่ในกระบี่นี้ของหลินสวินน่าสะพรึงระดับไหน รูปจำลองเจตจำนงขั้นสรรสร้างอย่างเขาคนเดียวจะต้านท้านไหวหรือ
ก็เห็น…
ปึง!
ประทับเทพสีทองราวกระดาษเปื่อย ถูกฟันออกเป็นสองซีกและระเบิดเสียงดังสนั่น
ตามด้วยเงาร่างของชายชุดแพรเองก็กำลังถูกกระบี่นี้ฟันโดน รอยกระบี่ใหญ่สายหนึ่งปรากฏขึ้นบนร่าง เกือบถูกฟันเป็นสองส่วนเช่นกัน
ภาพน่าสะพรึงเช่นนี้ทำเอาหนังศีรษะไท่เฮ่าอู่ชาวาบ หวาดกลัวสุดขีด
เขาพาไท่เฮ่าจื่อเคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศหนีอย่างไม่ลังเล โนเวลพีดีเอฟ
แต่สุดท้ายก็ช้าไปก้าวหนึ่ง
หลินสวินย่อมไม่ปล่อยพวกเขาจากไป
ก็เห็นฟ้าดินดังกู่ก้อง กฎเกณฑ์นิรันดร์ลึกลับคลุมเครือราวกับตาข่ายฟ้าที่มีอยู่ทุกแห่งหน พุ่งโจมตีลงมา
“เปิด!”
รูปจำลองเจตจำนงที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักของชายชุดแพรร้องตะโกน ใช้กำลังทั้งหมดในร่างต้านการโจมตีนี้สุดชีวิต ช่วยเปิดทางรอดให้พวกไท่เฮ่าอู่
“เปิด!”
ขณะเดียวกันไท่เฮ่าอู่ก็ดวงตาแดงก่ำ โกรธจัดจนหนวดผมชี้ชัน ใช้กำลังทั้งหมดเคลื่อนย้ายไป
เพียงแต่ทั้งหมดนี้กลับเสียเปล่า
ตูม โครม!
ที่มาพร้อมกับเสียงระเบิดกึกก้องคือการสกัดขวางของชายชุดแพรก่อนหน้านี้ถูกกำราบลง รูปจำลองเจตจำนงที่เสียหายของเขาโดนระเบิดเป็นจุณ แปรสภาพเป็นละอองแสงกระจัดกระจาย
ส่วนไท่เฮ่าอู่ถูกกฎเกณฑ์นิรันดร์ที่คล้ายโซ่เทพเป็นสายๆ พันธนาการไว้ ไม่อาจขยับตัวได้อีกแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นเขาสิ้นหวังแล้ว
ความแข็งแกร่งของหลินสวินทำลายความเข้าใจทั้งหมดของเขาโดยสิ้นเชิง
ส่วนไท่เฮ่าจื่อ ตอนนี้ก็ถูกหลินสวินคว้าจับผ่านห้วงอากาศราวกับจับแมลงตัวหนึ่ง
“หลินสวิน! เจ้ารอก่อนเถอะ ตระกูลไท่เฮ่าของข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่…!” ไท่เฮ่าจื่อร้องตะโกนด้วยความแค้น
ปัง!
เสียงยังไม่ทันสะท้อนกลับ ร่างของเขาก็ถูกบีบแตก จิตสิ้นวิญญาณสลาย
“เจ้า… เจ้า…”
ถูกกระทบกระเทือนมากมายเช่นนี้ ระดับนิรันดร์อย่างไท่เฮ่าอู่ถึงกับพูดไม่ออก ทั้งร่างรู้สึกราวกับพังทลาย
“ไม่ต้องตกใจเกินไป รอหลังจากข้าจัดการพวกเจ้าแล้ว ข้าจะต้องไปตระกูลไท่เฮ่าด้วยตัวเองสักรอบ ไปดูว่าตระกูลของพวกเจ้าคู่ควรเป็นศัตรูหรือไม่”
หลินสวินมาถึงเบื้องหน้าไท่เฮ่าอู่ แววตาเย็นชาและเรียบเฉย
“เจ้ารนหาที่ตาย!!”
ไท่เฮ่าอู่แผดเสียงก้อง
หลินสวินยิ้มน้อยๆ ก่อนยื่นมือออกไปยัดไท่เฮ่าอู่ลงเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งโดยไม่พูดอะไรอีก
จากนั้นก็หมุนตัวเข้าเขาเทพตั้งต้น
สำหรับเขาในตอนนี้ การทำลายขบวนรับเจ้าสาวของตระกูลไท่เฮ่า ที่จริงแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับการจัดการเรื่องเล็กเรื่องหนึ่ง
…
เขาไผ่อักษร
หลังจากได้รู้ข่าวว่าขบวนรับเจ้าสาวของตระกูลไท่เฮ่าย่อยยับไปแล้วจากปากหลินสวิน ไม่ว่าจะเป็นซี จี้ซานไห่ หรือจี้หวังถูล้วนมีท่าทีสงบนิ่ง ไม่ได้แตกตื่นเหมือนก่อนหน้านี้
คนที่เคยเห็นฝีมือหลินสวินมาแล้วย่อมรู้ว่านี่เป็นเรื่องสมเหตุสมผล
“เวลาไม่คอยท่า ข้าคิดจะไปตระกูลไท่เฮ่าตอนนี้เลย”
หลินสวินพูดการตัดสินใจของตนออกมา
คำนวณดูแล้ว เมื่อวานยามเขาออกจากอาณาเขตของเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหยางได้นำระเบียบตะวันไพศาลกับเขาเทพตะวันไพศาลมาด้วย ข่าวนี้น่าจะก็เริ่มกระจายไปแล้ว
ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งวันแล้ว ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เผ่าเทพนิรันดร์ที่เหลือจะรู้ข่าวแล้วหรือยัง
แต่ไม่ว่าอย่างไรหลินสวินต้องรีบเคลื่อนไหวโดยเร็วที่สุด
หากปล่อยให้เผ่าเทพนิรันดร์เหล่านั้นตั้งรับได้ ต้องส่งผลกับการเคลื่อนไหวหลังจากนี้แน่นอน
“ในตระกูลจี้ของข้ามีค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่ที่ตระกูลไท่เฮ่าครอบครอง ด้วยปราณของสหายน้อย เวลาแค่ครึ่งวันก็คงถึง ‘เขาเทพนภาลัย’ อาณาเขตของตระกูลไท่เฮ่าได้แล้ว”
จี้หวังถูรีบกล่าว “ส่วนพวกเราสหายน้อยไม่ต้องกังวลไป มีระเบียบระดับเทพคุ้มครองก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง”
หลินสวินพยักหน้า “อย่างนั้นก็ทำตามนี้”
วันนั้นหลินสวินจึงใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายจากไป
…
เขาเทพนภาลัย
อาณาเขตของตระกูลไท่เฮ่า
วันนี้นายน้อยตระกูลไท่เฮ่าจะรับซี ธิดาเทพตระกูลจี้มาเป็นภรรยา สำหรับตระกูลไท่เฮ่าก็เหมือนวันมหามงคล
ในเขาเทพนภาลัยคึกคักเป็นพิเศษนานแล้ว มีการจัดงานฉลองทั่วทุกหนแห่ง แขกไปมาหาสู่ราวกับสายน้ำที่ไหลไม่มีที่สิ้นสุด ทยอยกันมาไม่ขาดสาย
ตอนนี้ผู้นำตระกูลไท่เฮ่านามว่าไท่เฮ่าทงกำลังต้อนรับแขกชั้นสูงที่มาแสดงความยินดีในโถงใหญ่ของตระกูล ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
นอกจากไท่เฮ่าทงแล้ว พวกคนใหญ่คนโตของตระกูลไท่เฮ่าก็มารวมตัวกันพร้อมหน้าเช่นกัน
เช่นระดับนิรันดร์อย่างไท่เฮ่าเจิน ไท่เฮ่าสยงก็รวมอยู่ในนั้นด้วย ตำแหน่งสูงล้ำ รับการคารวะสุราจากแขกสูงศักดิ์
นั่งบนที่นั่งประธานกลางโถง ไท่เฮ่าทงมองดูความครึกครื้นนี้อย่างปิติ เกิดความภาคภูมิใจขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก
การเกี่ยวดองระหว่างตระกูลไท่เฮ่ากับตระกูลจี้ครั้งนี้ดึงดูดความสนใจไปทั่วหล้า และทำให้อิทธิพลของตระกูลไท่เฮ่าพลอยสูงขึ้นไปด้วยเช่นกัน
นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การโอ้อวดเรื่องหนึ่ง
สำหรับเผ่าเทพนิรันดร์อย่างพวกเขา การแต่งงานมักหมายถึงความสัมพันธ์ในเชิงพันธมิตรอย่างหนึ่ง ไท่เฮ่าทงมั่นใจยิ่ง ว่าต่อไปสถานะของพวกเขาตระกูลไท่เฮ่าและตระกูลจี้ในน่านฟ้าที่เก้านี้จะเปลี่ยนไปเป็นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
“ผู้นำตระกูล แย่แล้ว!”
จู่ๆ เสียงตื่นตกใจดังขึ้นจากนอกโถงใหญ่ ทำให้บรรยากาศที่รื่นเริงยินดีในโถงเงียบลงทันที ผู้คนหยุดสนทนาและมองไปทางนอกโถง
ไท่เฮ่าทงสีหน้าขรึมลง กล่าวว่า “ลุกลี้ลุกลนใช่มารยาทหรือ ท้องฟ้าในน่านฟ้าที่เก้าจะถล่มหรืออย่างไร”
นอกโถงข้ารับใช้อาวุโสคนหนึ่งเหงื่อไหลท่วมร่าง หมอบลงกับพื้นกล่าวเสียงสั่นเทา “ผู้นำตระกูล มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจริงๆ ขอรับ”
ประโยคเดียวทำเอาดวงตาของทุกในโถงใหญ่วาบไหว คิดกันไปต่างๆ นานา
วันนี้เป็นวันมงคลของตระกูลไท่เฮ่า ยังจะมีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นได้หรือ
ไท่เฮ่าทงขมวดคิ้ว
และก็เป็นตอนนี้เองที่ระดับนิรันดร์อย่างไท่เฮ่าเจินลุกขึ้น ก่อนจะลอยตัวอยู่เบื้องหน้าข้ารับใช้อาวุโส และกล่าวด้วยสายตาเฉยชา “ไม่ต้องลนลาน เล่ามาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
ข้ารับใช้อาวุโสตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ด้วยความเลินเล่อจึงเอ่ยออกมาโดยไม่ได้สื่อจิต “เมื่อครู่โคมวิญญาณบริสุทธิ์ที่วางไว้ในหอบรรพชนของผู้อาวุโสไท่เฮ่าอู่… ดับแล้ว!”
อะไรนะ!?
ไท่เฮ่าเจินนัยน์ตาหดรัด สีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน
ครั้นมองดูคนอื่นๆ ในโถงใหญ่ แต่ละคนล้วนอึ้งงันราวกับถูกฟ้าผ่าเช่นกัน บรรยากาศกดดันและเงียบสงัด
ไท่เฮ่าทงที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง สองตาเลื่อนลอย
ไท่เฮ่าอู่!
รุ่งสางวันนี้ระดับนิรันดร์คนหนึ่งของตระกูลไท่เฮ่าของพวกเขานำขบวนรับเจ้าสาวออกเดินทางไปตระกูลจี้ เหตุใดจู่ๆ ถึงประสบเคราะห์ได้
ใครเป็นคนทำกันแน่
เรื่องที่ทำให้ในใจไท่เฮ่าทงหนาวเยือกยิ่งกว่าก็คือ หากไท่เฮ่าอู่ร่วงหล่น ไม่ใช่หมายความว่าแม้แต่บุตรชายของเขาไท่เฮ่าจื่อ รวมถึงขบวนรับเจ้าสาวทั้งหมดก็เป็นไปได้อย่างมากว่าจะประสบเคราะห์ด้วยหรือ
คิดถึงตรงนี้เบื้องหน้าสายตาไท่เฮ่าทงมืดทะมึนลงครู่หนึ่ง มือเท้าสั่นน้อยๆ เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร…
ไม่ใช่แค่เขา สำหรับทุกคนในโถงใหญ่ ข่าวร้ายนี่กะทันหันเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย และน่าสะพรึงมากเช่นกัน ราวกับกระแสน้ำเย็นที่ทำให้พวกเขาหวาดหวั่นหาใดเปรียบ
“รู้หรือไม่ว่าโคมวิญญาณดับไปเมื่อไร”
ไท่เฮ่าเจินยังนับว่าเยือกเย็น เอ่ยถามเสียงต่ำ
ข้ารับใช้อาวุโสที่หมอบอยู่กับพื้นพูดอึกอัก “น่าจะ… น่าจะเมื่อสามชั่วยามก่อนขอรับ”
ไท่เฮ่าเจินใคร่ครวญคร่าวๆ แล้วก็คาดการณ์ได้ทันที ด้วยความเร็วของพวกไท่เฮ่าอู่ สามชั่วยามก่อนน่าจะไปถึงเขาเทพตั้งต้นอาณาเขตของตระกูลจี้แล้ว
นี่ทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง หรือว่าคนที่สังหารไท่เฮ่าอู่จะเป็นคนของตระกูลจี้!?
“ต้องเกี่ยวกับตระกูลจี้แน่นอน!”
ยามนี้ผู้นำตระกูลไท่เฮ่าทงก็เดาจุดนี้ออกเช่นกัน กัดฟันพูดด้วยความโมโหอย่างอดไม่ได้ “ในน่านฟ้าที่เก้านี้ผู้ที่มีพลังสังหารระดับนิรันดร์ได้ ก็มีเพียงเผ่าเทพนิรันดร์เท่านั้น!”
ในโถงใหญ่พลันตื่นตระหนกไม่หยุด
ฆาตกรคือตระกูลจี้หรือ
นี่ทำให้คนยากจะเชื่อยิ่งนัก
ควรรู้ว่าเดิมทีวันนี้เป็นวันที่ตระกูลไท่เฮ่าจะเกี่ยวดองกับตระกูลจี้ ตระกูลจี้จะคลุ้มคลั่งลงมือกับขบวนรับเจ้าสาวของตระกูลไท่เฮ่าเช่นนี้ได้อย่างไร
แต่ถ้าไม่ใช่ตระกูลจี้ เช่นนั้นในโลกนี้จะมีใครทำได้ถึงขั้นนี้อีกหรือ
ชั่วขณะหนึ่งจิตใจคนในโถงใหญ่ล้วนปั่นป่วนและประหลาดใจ
——