BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++โคตร​เลว​ #57 – อุบัติเหตุ

โคตร​เลว​ #57 - อุบัติเหตุ

@บริษัทkn group

ตึก! ตึก! ตึก!

รองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นกระเบื้องยามเจ้าของเรือนร่างอรชรในชุดทำงาน เสื้อเกาะอกสีดำสวมทับด้วยสูทสีเทาแขนสั้นข้างยาวข้างพร้อมกางเกงสแล็คสะบัดขาก้าวเดิน​ เรียกความสนใจจากพนักงานในบริษัทให้หันมามองเธอเป็นตาเดียว

“คุณเนเน่สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”

“ท่านประธานสวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”

ทุกคนต่างพร้อมใจกันวางมือจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ยืนขึ้นกล่าวทักทาย​ ทำให้เนเน่หยุดฝีเท้าที่กำลังจะเดินไปยังห้องทำงานพร้อมกับลูกสาวตัวน้อยทั้งสองคนที่จูงมืออยู่ซ้ายขวา หันมองพนักงานทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม​ แม้จะเพิ่งมาทำงานวันแรกก็ไม่แปลกเลยที่ทุกคนจะรู้จักและต้อนรับเธอเป็นอย่างดี เพราะบอร์ดบริหารได้แปะรูปเธอคู่กับพี่สาวเป็นประธานบริษัท

บางคนก็เรียกชื่อเธอบางคนก็เรียกท่านประธานตามที่ตัวเองอยากเรียก​ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรใครถนัดเรียกอันไหนก็ตามใจเลยเอาที่สะดวก

“น้องเพลินน้องเพลงค่ะสวัสดีพี่ๆเขาสิลูก” น้ำเสียงใสเป็นกันเองของเนเน่ก้มบอกลูกสาวทั้งสองคน แล้วคลายมือจากมือน้อยๆ ทำเอาพนักงานต่างพากันตกใจ​ ดูลุคนิ่งๆนึกว่าประธานบริษัทอีกคนจะมาในมาดดุๆหยิ่งๆแต่เปล่าเลยมาแนวเดียวกันแปะทั้งนิสัยดีและเป็นกันเอง

“ซาหวัดรีกะ (สวัสดีค่ะ) ” เพลินลินกับเพลงพิณมองตาแป๋ว​ คนพี่เกาแก้มเก้อแต่ทั้งคู่ก็ประนมมือขึ้นพร้อมกล่าวคำทักทายตามคำสั่งของคนเป็นแม่​

“สวัสดีคุณหนูตัวน้อย”

“งื้อ..น่ารักจัง”

“โตขึ้นมาต้องสวยเหมือนคุณแม่แน่เลยค่ะ”

เด็กน้อยคนน้องคลี่ยิ้มหวานให้กับพนักงานทุกคนที่เอ่ยปากชม​ ขณะที่คนพี่ยิ้มอ่อนหันไปซบพวงแก้มแดงระเรื่อเข้าหาเรียวขาสวยของผู้เป็นแม่กลบความเขินอาย​

เนเน่หลุดขำท่าทีของเพลินลิน พลางลูบศีรษะทุยเบาๆ ก่อนริมฝีปากอวบจะอิ่มกล่าวลา “งั้นเน่ขอตัวเข้าห้องทำงานก่อนนะคะ”

“ค่ะ” สิ้นสุดคำตอบรับจากพนักงาน​ มือเล็กก็เอื้อมคว้าจูงมือน้อยๆของลูกสาวทั้งสองคนหันเดินเข้าห้องทำงานข้างหน้าที่เปิดรออยู่

“คุณเนเน่น่ารักเนอะแกเป็นกันเองด้วยอะ​”

“ใช่ๆ​ ลูกสาวเขาก็น่ารักไม่หยิ่งเลย”

“นิสัยน่ารักพูดเพราะพอๆกับคุณคลีนเลย ขนาดเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกันนะเนี่ยนึกว่าพี่น้องท้องเดียวกัน”

“เออจริง​ พวกเรานี่โชคดีเนอะที่ได้เจ้านายดีๆแบบนี้”

“อือ​ ฉันโคตรหลงคุณหนูทั้งสองคนมากแก เด็กอะไรโปรยเสน่ห์เก่ง”

พนักงานหลายคนหันหน้าจับกลุ่มคุยกันทันทีที่เนเน่เดินเข้าห้องไป​ ยังคงชื่นชมนิสัยของเจ้านายคนนี้กับลูกๆของเธอเรื่อยๆอย่างเคลิบเคลิ้มและสนุกปาก

“เลิกนินทาเจ้านายกันได้และพวกแกอยากโดนไล่ออกกันรึไง” จนกระทั่งผู้จัดการสาววัยกลางคนซึ่งควบคุมแผนกการจัดการฝ่ายตลาดและการเงินเดินเข้ามาหวังจะมอบหมาย​งาน​ กลับเห็นลูกน้องยืนจับกลุ่มพูดถึงเจ้านายคนใหม่กันเลยเอ็ดเสียงแข็ง​ ทำให้ทุกคนเงียบลงทันทีรีบต่างคนต่างกลับไปนั่งทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

“หนูสองนั่งเล่นกันตรงนี้นะ​ ห้ามมากวนคุณแม่เข้าใจไหมคะ”

“เก้าจายกะ (เข้าใจค่ะ) ​” เด็กหญิงคนพี่พยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้มเมื่อมาถึงโซฟานุ่ม​ เธอปีนขึ้นไปนอนลงบนโซฟานั้นดูการ์ตูนที่กำลังฉายอยู่บนจอโปรเจคเตอร์

“…..” ขณะเดียวกันเด็กหญิงคนน้องไม่ได้สนใจคำพูดของคนเป็นแม่​ หย่อนตัวนั่งลงเล่นของเล่นที่ได้เตรียมมาอยู่ในตะกร้าตามประสาเด็กกำลังซน

“น้องเพลินเอานมไหมลูก”

“…..” ใบหน้าหวานหันมาพยักให้เป็นคำตอบ​ ก่อนเนเน่จะก้มหน้าลงถามลูกสาวอีกคน

“แล้วน้องเพลงล่ะเอาไหม”

“โนว” มือน้อยส่ายไปมาเป็นคำตอบเช่นกัน​ หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆกับความสรรหาคำมาพูดของลูกสาวคนเล็ก​ แล้วก้มหยิบขวดนมในตะกร้าอีกใบบนโต๊ะส่งให้ลูกสาวคนโต​ จากนั้นก็เดินไปหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ก้มหน้าทำงานของตัวเอง

เธอไม่ได้จบสายนี้มาโดยตรงแต่พอจะรู้ว่าควรบริหารยังไง​ เพราะก่อนผู้เป็นพ่อมอบหมายให้ดูแลสอนจนเข้าใจหมดแล้ว​ บางคนก็รู้แล้วว่าบริษัทของเธอทำเกี่ยวกับอะไรบางคนก็ไม่รู้​ บริษัทของเธอเป็นบริษัทเรือน้ำมันส่งออกไปยังต่างประเทศ​ รวมไปถึงปั๊มน้ำมันทั้งหมดที่เป็นของครอบครัวเธอด้วย

ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น​ ทำให้เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองคนที่เพิ่งผล็อยหลับไปมือสองชั่วโมงที่แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมา มือน้อยๆยกขึ้นขยี้เปลือกตาบางอย่างงัวเงีย​ แล้วคนน้องค่อยๆดันตัวลุกขึ้นนั่งมองบานประตูที่ถูกเปิดเข้ามา​ เช่นเดียวกับเนเน่ละสายตาจากเอกสารที่เซ็นอยู่

“อ้าวเจ้เพิ่งมาเหรอ” หญิงสาววางปากกาลงบนเอกสาร​ มองพี่สาวเดินนวยนาดบนรองเท้าส้นสูงเข้ามาหาโดยมีแม่บ้านถือถาดอาหารกลางวันเดินตามหลังมา

“มาตั้งแต่เช้าแล้วแต่เพิ่งว่างมาหา มากินข้าวเที่ยงกัน” คลีนตอบกลับ​ แล้วเดินไปหย่อนตัวนั่งลงข้างๆหลานสาวทั้งสองคน พร้อมกับเอ่ยทักทาย​ “ไงคะน้องเพลินน้องเพลง​ ป้าคลีนเข้ามากวนหนูรึเปล่าลูก”

“ม่ายกวนเยยกะ​ (ไม่กวนเลยค่ะ) ​” ว่าแล้วเพลินลินก็คลานไปนั่งลงบนตักของผู้เป็นป้า​ ขณะที่เพลงพิณค่อยๆดันตัวลุกขึ้นมานั่ง

“เจกวีน (เจ้ควีน) ” น้ำเสียงเล็กแหบพร่าของเพลิงพิณตะเบ่งถามหาพี่สาว​ หลังเห็นผู้เป็นป้าเข้ามาคนเดียว

“เจ้ควีนไปเรียนค่ะลูก”

“เด็กๆคะไปล้างหน้าล้างตากันก่อนนะคะ เดี๋ยวค่อยมากินข้าว” เนเน่หยัดกายลุกขึ้นเดินมาหาคนบนโซฟา​ เอ่ยบอกลูกสาวที่ยังมีสีหน้างัวเงียอยู่ เด็กน้อยทั้งสองคนจึงค่อยๆพลิกตัวก้าวขาลงข้างหนึ่งลงแตะพื้นแล้วดันตัวลงมาช้าๆพร้อมกับขาอีกขาแตะพื้นตามหลัง​ พากันเดินเตาะแตะไปยังอ่างล้างของเด็กในห้องน้ำภายในห้องทำงาน

“เป็นยังไงบ้างทำงานวันแรก” หลังจากเนเน่หย่อนตัวนั่งลงข้างๆคลีนก็หันไปเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงถ้าอีกคน ไม่ไหวยังไงเธอจะได้ค่อยช่วยเหลือ

“ก็โอเคดีค่ะ​ ไม่ค่อยยากเท่าไหร่แต่งานเยอะอยู่นะ”

“ปกติช่วงขนส่งของออกต่างประเทศงานจะเยอะแบบนี้แหละ​ อดทนหน่อย” มือเล็กยกขึ้นไปตบไหล่มนของน้องสาวเบาๆเชิงให้กำลังใจ​ แล้วพูดต่อ​ “ถ้าไม่รู้อะไรตรงไหนไปถามเจ้ได้นะอยู่ห้องข้างๆนี่เอง”

“ค่ะเจ้” เนเน่หยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม​ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรพี่สาวคนนี้ก็ยังคงจะคอยช่วยเหลือเธอเสมอไม่เคยเปลี่ยนมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

เย็นวันนั้นหลังเลิกงานเนเน่จูงมือลูกสาวทั้งสองเดินออกมาจากร้านไอศกรีมหลังจากรับประทานกันเสร็จเรียบร้อย เด็กๆร้องอยากจะมากินเธอเลยต้องพามา

“จุนแม่กะ ตำมายจนอื่นเก๊ามีป้อมาต้วยแย้วตำมายปวกเยาม่ายมีระกะ (คุณแม่คะ ทำไมคนอื่นเขามีพ่อมาด้วยแล้วทำไมพวกเราไม่มีล่ะคะ) ” เป็นเพลินลินแหงนหน้าถามคนเป็นแม่ เมื่อเห็นโต๊ะข้างๆมากันเป็นครอบครัวแล้วได้ยินเด็กคนหนึ่งในโต๊ะนั้นเรียกผู้ชายวัยกลางคนในโต๊ะว่าพ่อ แต่ทำไมเธอถึงมาไม่ครบและไม่เคยสัมผัสถึงหรือรู้เลยว่าคำว่าพ่อคืออะไร

“…..” หัวใจดวงน้อยของคนเป็นแม่กระตุกวูบทันทีที่ลูกถามถึงคนเป็นพ่อ พร้อมกับใบหน้าคมคายของเพลิงฉายขึ้นมาในหัวให้นึกถึงอีกแล้ว และก็รู้ว่ายังไงสักวันลูกต้องถามถึงแต่ทว่าตอนนี้มันเร็วไปเธอไม่รู้จะบอกยังไง เลยคิดว่ารอให้โตจนรู้นิติภาวะก่อนค่อยบอกความจริงว่าพ่อของเขานั้นไม่มีชีวิตอยู่แล้ว “เดี๋ยวรอให้หนูโตขึ้นอีกหน่อยคุณแม่จะบอกนะคะ”

“กะ (ค่ะ) ” เด็กหญิงก้มหน้าเศร้า ทำคนเป็นแม่ถอนหายใจเบาๆอย่างคิดสงสารลูก แล้วพาเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านหน้าห่างจากร้านนิดเดียว

ระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้นเพลงพิณที่เดินเล่นของเล่นไปด้วยเกิดทำหลุดมือ ส่งผลให้ของเล่นนั้นกลิ้งไปกลางถนนอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กน้อยรีบสะบัดมือออกจากเกาะกุมของคนเป็นแม่วิ่งไปเก็บของเล่น

“เพลงพิณอย่าวิ่งออกไปลูก” เนเน่พอเห็นอย่างนั้นก็ใจหายแวบรีบเอ่ยห้าม พร้อมกับอุ้มลูกสาวอีกคนขึ้นแนบอก วิ่งตามออกไปทันที

ปรี๊ดดดดดดด!!

แต่เสียงแตรจากรถบนถนนที่วิ่งมาด้วยความเร็วบีบไล่ ความไร้เดียงสาของเด็กน้อยเลยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายจึงเลือกที่จะไม่หลบ สิ่งเดียวคือจะเก็บของเล่นให้ได้

“น้องเพลง! ” เธอตะโกนเรียกลูกสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีด อุบัติเหตุครั้งใหญ่ครั้งแรกกำลังจะเกิดขึ้นกับดวงใจเมื่อรถคันนั้นขับแล่นเข้ามากระชั้นชิดเพียงแค่เสี้ยววินาที

ฟิ้ว!

แล้วรถคันนั้นก็วิ่งผ่านหน้าไปโดยไม่ได้ชนลูกเธอแม้แต่น้อย เพราะมีใครคนหนึ่งวิ่งเข้าไปอุ้มออกมาได้ทัน

สองเท้าเล็กรีบวิ่งไปหาลูกสาวทันทีด้วยความเป็นห่วง ขณะที่ผู้ชายร่างสูงคนนั้นยืนหันหลังทำท่าเสยผมขึ้นให้ลูกสาวเธอ

“น้องเพลงเป็นอะไรไหมลูก” ไม่ถามเปล่ามือเล็กลูบศีรษะทุยของลูกสาวเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าไปมองคนที่ช่วยลูกของเธอไว้เพื่อจะขอบคุณ ถ้าไม่ได้เขามาช่วยไว้เธอคงจะเสียใจไปตลอดชีวิต แต่กลับต้องยืนชะงักไปด้วยร่างกายแข็งทื่อด้วยความคิดไม่ถึงและตกใจในเวลาเดียวกัน

หยาดน้ำตาในดวงตากลมโตค่อยๆไหลกลิ้งลงมาบนพวงแก้มอัตโนมัติ เมื่อคนตรงหน้าที่ช่วยลูกเธอไว้คือคนที่ลูกคนโตเพิ่งถามถึงก่อนหน้านี้และที่เธอยังนึกถึงอยู่เป็นบางเวลา

“ดูแลลูกยังไงของมึงวะให้วิ่งออกมากลางถนน ถ้ากูมาไม่ทันลูกจะเป็นยังไง”

—————————————

BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++

BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++

Score 10
Status: Completed

Options

not work with dark mode
Reset