หลายสัปดาห์ต่อมา..
@คฤหาสน์มาเฟีย
รถยนต์คันหรูขับโดยแคนดี้เลี้ยวเข้ามาในคฤหาสน์ของเพื่อนรักพร้อมกับแคทนั่งมาข้างๆ ก่อนจะจอดเทียบท่าหน้าบันไดประตูบ้าน
"แกจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเน่ให้ป๊ามันรู้จริงๆเหรอ" แคทหันไปถามซ้ำให้แน่ใจ หลังแคนดี้ชวนมาบ้านของเนเน่เพื่อจะบอกเรื่องราวที่พวกเธอรู้และเจอมาทั้งหมดให้พ่อเจ้าตัวฟัง เมื่อพยายามติดต่อหาเพื่อนแล้วแต่ติดต่อเท่าไหร่ก็ติดต่อไม่ได้เลย พวกเธอเป็นห่วงมากมากถึงขั้นทนไม่ไหวจะให้พ่อเจ้าตัวออกตามหาซะเอง
หารู้ไม่ว่าทุกคนเขารู้เรื่องนี้กันหมดแล้ว
"เออ ฉันทนไม่ไหวแล้วเน่มันหายไปนานเกินและ ให้แกไปหลอกถามจากผัวแกก็ไม่ได้เรื่อง" แคนดี้หันมาตอกกลับ ทำเอาแคทอารมณ์เสียกับคำพูดน่าเกลียดของอีกฝ่าย
"ก็บอกว่าเขาไม่ใช่ผัวฉันไงพูดไม่รู้เรื่องเหรอ" เธอตะคอกใส่หน้าเพื่อนรักให้ แล้วหันไปเปิดประตูรถก้าวลงไปทันทีด้วยความหงุดหงิด
"….." สาวประเภทสองส่ายหน้าเบาๆกับความปากไม่ตรงกับใจของเพื่อน ก่อนจะเปิดประตูรถก้าวลงตามไป
"คุณเนเน่ไม่อยู่นะครับ" เพียงแค่เห็นคนที่คุ้นเคยกันดีเดินขึ้นบันไดมา ลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูก็เอ่ยบอกออกไป
"ไม่ได้มาหาเน่ค่ะแต่มาหาป๊าของเน่ ท่านอยู่ไหมคะ" เป็นแคนดี้ว่า
"อยู่ครับ เชิญคุณแคนดี้และคุณแคทเข้าไปรอในห้องนั่งก่อนนะครับเดี๋ยวผมขึ้นไปตามนายให้" เจ้านายของเขาเพิ่งจะกลับมาจากญี่ปุ่นได้ไม่กี่วันก่อน ต้องรีบกลับมาเตรียมตัวที่จะไปงานรวมตัวมาเฟียที่จะถึงในอีกไม่กี่วันนี้
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวพวกเราขอขึ้นไปหาท่านเองดีกว่า" พวกเธอเป็นเด็กไม่อยากให้ผู้ใหญ่เป็นฝ่ายลงมาหา กลัวว่าจะไม่สมควรเลยขอเป็นฝ่ายขึ้นไปหาเองดีกว่าเพราะประเด็นเป็นฝ่ายมาขอพบด้วย
"งั้นเดินตามผมขึ้นมาเลยครับ" ว่าจบลูกน้องคนนั้นก็หมุนตัวเดินตรงไปยังบันไดขึ้นชั้นสองทันที โดยแคนดี้กับแคทก็รีบเดินตามหลังขึ้นไป
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงประตูดังขึ้นสองครั้งทำให้โน่ที่นั่งเคลียร์งานอยู่บนโต๊ะในห้องทำงานละสายตาจากเอกสารตรงหน้า ตวัดสายตาคู่คมมองบานประตู ก่อนจะเอ่ยถามออกไปเสียงเข้ม
"ใคร"
"ผมทศครับ"
"มีอะไร"
"คุณแคนดี้กับคุณแคทมาขอพบครับ"
"….." คิ้วเข้มบนใบหน้าคมคายขมวดเข้าหากันเล็กน้อยด้วยความงุนงงว่าเพื่อนรักทั้งสองคนของลูกสาวมาหาตนทำไม สงสัยจะมาถามหาเนเน่ล่ะมั่ง "เข้ามา"
แกร็ก|
"สวัสดีค่ะป๊า" พอบานประตูเปิดเข้ามาเบาๆ แคนดี้และแคทก็ก้าวเดินเข้ามาในห้อง ก่อนทั้งสองคนจะยกมือขึ้นมาประนมกล่าวคำทักทายพ่อของเพื่อนอย่างนอบน้อม
"อืม" โน่พยักหน้า พร้อมกับประนมมือรับไหว้ แล้วถามออกไป "มาหาป๊าถึงที่มีอะไรเหรอ"
"คือหนูมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับเนเน่จะมาบอกค่ะ" เป็นแคนดี้ว่าหลังเดินมาหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ขณะที่แคทยืนนิ่งไม่กล้าที่จะพูดเพราะไม่อยากหักหลังเพื่อน
"เรื่องเกี่ยวกับเนเน่?" ใบหน้าคมคายเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย เรื่องของเนเน่งั้นเหรอ? คงจะเป็นเรื่องที่โดนไอ้เพลิงลากทำร้ายสินะ นี่พวกเธอก็รู้เรื่องด้วยเหรอทำไมถึงปล่อยให้เพื่อนรักตัวเองทรมานอยู่ได้กันนะ
เขาพูดขึ้นในใจอย่างไม่เข้าใจไม่พ้นเรื่องนี้หรอกเขามั่นใจ เรื่องของลูกสาวเขาก็มีอยู่เรื่องเดียวเนี่ยแหละที่สำคัญ
"ใช่ค่ะ คือเนเน่ถูกคะ.."
"ถูกไอ้เพลิงลากไปทำร้าย?" ยังไม่ทันที่แคนดี้จะเริ่มพูดอะไรเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ก็ชิงพูดขึ้นอย่างรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ทำเอาแคนดี้และแคทเบิกตาโพลงด้วยความคิดไม่ถึง
"ปะ..ป๊ารู้เรื่องทั้งหมดแล้วเหรอคะ"
"ใช่" ความกลัวว่าโน่จะว่าและประกอบกับกลัวสายตาเยือกเย็นที่จ้องมองอยู่ ทั้งสองคนจึงรีบก้มหน้าพร้อมกับน้ำตาของแคนดี้กลิ้งไหลลงมา แคทพอหันไปเห็นอย่างนั้นหยาดน้ำตาก็รื้นเอ่อออกมาคลอเบ้า
"ฮึก..หนูขอโทษค่ะ" แคนดี้ประนมมือขึ้น กล่าวคำขอโทษอย่างรู้สึกผิด
"หนูก็ขอโทษค่ะ แต่พวกหนูไม่ได้ตั้งใจจะปิดนะคะ" แคทประนมมือขึ้น กล่าวคำขอโทษบ้างเสียงสั่น
"ช่างมัน ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น"
"คุณเนเน่เก่งมากเลยนะครับ ทำตามคำสั่งหมอครบถ้วนไม่เคยบ่นสักคำเลย" นายแพทย์หนุ่มเอ่ยปากชมเหมือนทุกครั้งครั้งนี้จะชมมากกว่าพิเศษเป็นการให้กำลังใจคนไข้ตามสเต็ปของการรักษา ขณะที่เดินกลับเข้ามาในบ้านพร้อมกันโดยมีพยาบาลสาวสองคนเดินตามหลังมา หลังจากฟื้นฟูทำกิจกรรมในสวนหน้าบ้านเสร็จสิ้นในวันต่อวันในช่วงบ่าย
การบำบัดรักษาและฟื้นฟูร่างกายของหญิงสาวดำเนินไปได้ด้วยดี ทั้งร่างกายภายนอกและภายในเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับเพราะเธอทำตามคำแนะนำของนายแพทย์หนุ่มอย่างต่อเนื่องไม่มีขาดตกบกพร่อง ส่วนเด็กในครรภ์ความเสี่ยงจากอาการครรภ์เป็นพิษก็ค่อยๆลดลงตามไปด้วย แต่ยังคงต้องคอยเช็กกันอยู่เรื่อยๆเนื่องจากต่อไปอายุครรภ์นั้นเริ่มมากขึ้นไปอีกพร้อมกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ยังไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์แถมเวลาคลอดออกมาต้องรอตรวจเช็กสมองของเด็กอีกว่าผิดปกติไหม
"เน่อยากหายจะแย่อยู่แล้วค่ะ ทรมานจะแย่" เนเน่หันไปบอกคนข้างๆด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ บางทีรู้สึกท้อเหมือนกันนะเวลาที่อาการยากยามาเมื่อไหร่ภาพเข็มฉีดยาและภาพความสุขเวลาได้ใช้มันฉายขึ้นในหัว คอยตามหลอกหลอนให้เธออยากจะกลับไปใช้มันอีก
เธอต้องคอยบังคับตัวเองไม่ให้คล้อยตาม ไม่ใช่แค่บังคับตัวเองไม่ให้คล้อยตามอย่างเดียวนะต้องบังคับตัวเองไม่ให้นึกถึงคนเลวอย่างเพลิงด้วย ก่อนนอนทุกครั้งจะมีคนนอนข้างๆคอยกอดแต่อยู่ๆเธอต้องกลับมานอนคนเดียวเหมือนเคย ครั้งนี้ซึ่งไม่รู้สึกชินเอาเสียเลย ต่อให้กอดตัวเองและลูกมันก็ไม่อบอุ่นเหมือนอ้อมกอดของเขา กว่าจะผ่านไปได้แต่ละวันกว่าจะหลับได้แต่ละคืนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเป็นอะไรที่ทรมานสุดๆในชีวิตแล้ว
"ถ้าคุณเน่ทำตามคำสั่งหมอแบบนี้ทุกวัน อีกไม่นานก็หายแล้วครับ"
"สาธุ ขอให้หายเร็วๆเถอะค่ะ" มือเล็กยกขึ้นประนมกล่าวรับพรอย่างจริงจัง เรียกรอยยิ้มให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาสไตล์เกาหลี การกระทำน่ารักเอ็นดูของเธอทำนายแพทย์หนุ่มอดยิ้มออกมาไม่ได้ ก่อนทั้งสองคนจะคุยกันเรื่องต่างๆตามประสาคนเริ่มสนิทก้าวขึ้นไปยังชั้นสอง
ขณะเดียวกันทางด้านพวกเพื่อนของเพลิงก็ยังคงนั่งเรือออกงมหาร่างของเพื่อนรักกันทุกวันไม่มีพัก แม้ที่ผ่านมาอาการจะร้อนแค่ไหนหรือฝนจะตกแรงเพียงใดพวกเขาก็ไม่ท้อและจะตามหาต่อไปจนกว่าจะเจอ ต่อให้จะผ่านไปเป็นเดือนเป็นปีหากไม่พบร่างไร้วิญญาณของเพลิงพวกเขาก็ยังเชื่อว่าเพื่อนรักนั้นยังอยู่ที่ไหนสักแห่ง
"ถึงห้องแล้วงั้นเน่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ" เท้าเล็กเดินมาหยุดหน้าห้องของตัวเอง เนเน่หันไปบอกลานายแพทย์หนุ่มที่เดินมาส่งด้วยรอยยิ้ม จะว่าไปเขาก็คุยสนุกดีนะ อารมณ์ขันดีเพิ่งจะได้ลองเปิดใจคุยรับฟังอะไรจริงจัง ทุกครั้งที่อีกคนชวนคุยเธอจะรีบเดินหนีตลอดแทบไม่อยากจะคุยกับใครเลยแม้แต่ปู่กับย่าและน้องชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
พูดถึงการได้คุยเรื่องสนุกก็ช่วยให้เธอผ่อนคลายได้เยอะเลยนะ ทำให้เลิกนึกถึงบางสิ่งบางอย่างได้ช่วงหนึ่ง
"ครับ" นายแพทย์หนุ่มพยักหน้ารับรู้ แล้วเอ่ยบอกออกไป "เดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงหมอจะเข้ามาให้ยานะครับ หรือถ้าเสร็จแล้วกดปุ่มเรียกก็ได้" ปุ่มที่ว่าคือปุ่มสัญญาณเรียกจะติดอยู่ข้างหัวเตียง เวลาคนไข้ต้องการอะไรหรือเจ็บป่วยตรงไหนก็กดเรียกได้ทุกช่วงเวลาเขาซึ่งอยู่ห้องข้างๆจะเข้ามาหาในทันที
"ค่ะ" รับคำแล้วเธอก็เปิดประตูเดินเข้ามาหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปชำระล้างคราบเหงื่อและสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ชีวิตของเธอวนอยู่แบบนี้ทุกวันแหละ ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันก่อนนายแพทย์หนุ่มจะเข้ามาตรวจเช็กร่างกาย จากนั้นลงไปรับประทานอาหารเสร็จแล้วก็นั่งพักสักครู่ก่อนไปฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทำกิจกรรมต่างๆต่อ สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันก็มีรดน้ำต้นไม้ เดินชมนกชมไม้ และหลายๆอย่างที่มันเบาๆง่ายๆไม่หนักเกินไปตบท้ายด้วยการขึ้นมาอาบน้ำแล้วให้ยา
พอทำธุระส่วนตัวของตัวเองเสร็จสรรพ เนเน่จึงเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนเตียงเอื้อมมือไปกดสัญญาณเรียก เธอขยับตัวขึ้นไปนั่งพิงกับพนักหัวเตียงรอนายแพทย์หนุ่ม
แกร็ก|
"พร้อมแล้วใช่ไหมครับ" ไม่นานบานประตูก็ถูกเปิดเข้ามาตามด้วยเสียงทุ้มของนายแพทย์หนุ่มที่กำลังเดินตรงมายังตน พร้อมกับพยาบาลถือถาดยาตามหลังเข้ามา
"ค่ะ" ใบหน้าสวยพยักบอก ก่อนนายแพทย์หนุ่มจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้
"ขออนุญาตนะคะ" พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยขออนุญาตแล้วคลานเข่าขึ้นไปบนเตียง นั่งลงข้างๆกายคนไข้
มือเล็กเอื้อมเข้าไปถกเสื้อของเธอขึ้น แล้วหยิบสำลีชุบแอลกอฮอล์ทารอบๆบริเวณใต้ท้องเริ่มนูนเบาๆเพื่อให้นายแพทย์หนุ่มได้ฉีดยาบำรุงครรภ์ให้ เป็นยาช่วยให้เด็กแข็งแรงและต่อต้านสารอันตรายที่ยังตกค้างอยู่ในรกแม่
"เจ็บหน่อยนะครับ" ว่าแล้วนายแพทย์หนุ่มก็ค่อยๆฉีดยาเข้าไปในครรภ์ของหญิงสาวอย่างเบามือ ทว่าฟันคมกัดลงบนริมฝีปากอวบอิ่มข่มความเจ็บจี๊ดเหมือนมดกัด แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นพอยาหมดหลอดก็หาย
"เรียบร้อยแล้วครับ เก่งมากคุณแม่" ไม่ว่าเปล่ามือหนาดึงเข็มฉีดยาออกมาวางลงบนถาด หลังพยาบาลนำสำลีชุบแอลกอฮอล์มาปิดทับจุดแล้วแปะเทปปิดลงไป
"ขอบคุณมากนะคะ" เนเน่ยิ้มหวาน มองนายแพทย์หนุ่มกลับด้วยแววตาขอบคุณที่ทำให้เธอกำลังจะมีชีวิตใหม่อีกครั้ง
—————————————