หลิงฮันคิดว่าถ้าวันหนึ่งเขาต้องตกตายไป เขาคงไม่มีทางสร้างลูกเล่นมากมายในสุสานของเขา
แล้วถ้านี่เป็นการทดสอบของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง หลิงฮันคงเชื่อสนิทใจ
แต่ถ้าใช้ทำไมไม่ทำให้มันชัดเจนไปเลยล่ะ?
หลิงฮันคิดอยู่ในใจ แต่ก็ปฏิเสธความคิดนั้นทันที ถ้ามันเป็นเรื่องจริง จอมยุทธระดับดาราคงสังหารทุกคนที่นี่ไปหมดแล้ว – ใครจะยอมให้คนอื่นโดดเด่นกว่าตนเอง?
แต่ถ้านิกายสวรรค์เยือกแข็งต้องการรับศิษย์ พวกเขาคงจะไม่รับจอมยุทธที่ทะลวงผ่านระดับดาราแล้ว เพราะพวกเขาต้องการต้นกล้าที่ดีที่สุดหรือผู้สืบทอดที่เหมาะสมที่สุด
– พรสวรรค์ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง หากเลือกทางเดินที่แตกต่างกัน ผู้คนก็จะแตกต่างกัน
ด่านทดสอบทำลายอาคมดาบนั้นง่ายมาก แค่เข้าไปเผชิญหน้ากับเงาร่างมนุษย์และพยายามหาวิธีที่จะทำลายมัน
ในเงาร่างมนุษย์ไม่ได้มาจากพลังก่อเกิด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายมัน แต่ต้องใช้การเคลื่อนไหวเข้าสู้
ถ้าหากผ่านมันไปได้ก็จะได้ไปต่อ แต่ถ้าไม่ผ่านจะถูกส่งกลับไปยังตำแหน่งเดิม
หลิงฮันกวาดสายตามองและเห็นจอมยุทธระดับดาราหายคนอยู่ที่นี่ แต่ไม่เห็นจักรพรรดินีแห่งดาราหายนะ ซึ่งเขาไม่รู้ว่านางแก้ไขอาคมดาบสำเร็จและขึ้นไปชั้นที่สี่แล้ว หรือยังมาไม่ถึงกันแน่
แต่น่าเสียดายที่แห่งนี้มีคนมากเกินไป ไม่เช่นนั้นเขาคงจะเข้าไปในหอคอยทมิฬกับสุ่ยเยี่ยนยวี่และฝึกฝนอยู่ใต้ต้นสังสารวัฎไปแล้ว เวลาหนึ่งวันเท่ากับด้านนอกหนึ่งปี เมื่อออกมาเขาไม่เชื่อว่าทุกคนจะไปกันหมดแล้ว
หลิงฮันถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะผ่านด่านนี้ไปได้ด้วยการทำลายสถิติ แต่รางวัลที่เขาได้รับก็ยังคงเป็นเม็ดยาภูผาวารีลายม่วงเหมือนเดิม
เรื่องพวกนั้นช่างมันเถอะ ข้าควรสนใจเรื่องที่อยู่ตรงหน้าก่อน
หลิงฮันเพ่งความสนใจไปที่อาคมดาบที่รวมรวบพลังแห่งสวรรค์และปฐพีบางอย่างที่ดูลึกลับมาก
อาคมนี้เขาไม่สามารถเรียนรู้ได้เลย
ไม่ใช่เพราะเขามีความเข้าใจไม่เพียงพอ แต่มันต้องใช้พลังแห่งกฎเกณฑ์ที่เหนือกว่าระดับภูผาวารี แต่การที่เขาไม่สามารถเรียนรู้มันได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่สามารถทำลายมันได้เสียหน่อย แค่ต้องใช้เวลาเท่านั้น
หลิงฮันพยายามทำความเข้าใจ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกชื่นชม อาคมดาบนี้มันวิเศษมาก ถึงแม้เขาจะไม่สามารถเรียนรู้อาคมดาบนี้ได้ แต่เขาก็สามารถเรียนรู้ได้จากมันได้
เต๋าแห่งดาบ?
ในใจของหลิงฮันเกิดความเข้าใจบางอย่าง ถ้าเต๋าแห่งดาบรวมกับทักษะดาบบัญญัติเร็ว แล้วทักษะดาบของเขาจะทรงพลังแค่ไหน?
ทักษะบัญญัติดาบเร็วนั้นทำลายกฎเกณฑ์ แต่เต๋าแห่งดาบนั้นสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ ถ้าทั้งสองรวมกันมันก็จะเกิดแนวทางใหม่ขึ้น
วิถีของตัวเอง!
หลิงฮันพยักหน้าอยู่ในใจ เขาอยากจะสร้างทักษะของตัวเองอยู่เสมอ แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะทำเช่นนั้น แต่ตอนนี้เขาเห็นแสงสว่างที่จะทำสำเร็จและทำให้เขามีความเข้าใจอย่างชัดเจน
มันยอดเยี่ยมมาก!
หลิงฮันพยายามทำความเข้าใจมัน ตอนนี้เขาไม่รีบร้อนที่จะทำลายอาคมดาบ แต่พยายามค้นหาวิธีการทำงานของมัน
ยิ่งเขามีความเข้าใจลึกซึ้งมากเท่าไหร่ มันก็จะทำให้เขามีความเข้าใจอย่างถ่องแท้มากขึ้นเท่านั้น และนั่นทำให้เขารู้สึกมีความสุขมาก
หลิงฮันศึกษามันจนลืมเวลา ผู้คนที่นี่บางคนทำลายอาคมดาบสำเร็จและขึ้นไปชั้นต่อไปแล้ว ถึงกระนั้นก็ยังคงมีผู้มาใหม่มาอย่างไม่ขาดสาย
ไม่มีใครรู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ถ้าเขาไม่ถูกสุ่ยเยี่ยนยวี่ปลุกสติของเขาคงไม่กลับมา เพราะหลิงฮันไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย ซึ่งทำให้นางคิดว่ามันแปลกและรู้สึกสับสน
หลิงฮันพบว่าเส้าซือซือ ตู่อันและคนอื่นๆได้จากไปนานแล้ว
“ถึงพวกเจ้าจะนำหน้าไปก่อน แต่คนที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากที่สุดคือข้า” หลิงฮันหัวเราะ
สุ่ยเยี่ยนยวี่จ้องมองหลิงฮันด้วยแววตาที่สดใสและพูดว่า “เจ้ากำลังเรียนรู้การเคลื่อนไหวของอาคมดาบหรือ?”
หลิงฮันหัวเราะ “สมแล้วที่เป็นภรรยาข้า เจ้าเริ่มรู้ใจข้ามากขึ้นเรื่อยๆแล้วสินะ ใช่แล้วข้ากำลังเรียนรู้จากมันอยู่”
สุ่ยเยี่ยนยวี่พยักหน้า นางเข้าใจดีว่าหลิงฮันมีความเข้าใจมากแค่ไหนและเขาแตกต่างจากคนอื่น
“ถ้างั้นข้าจะไปก่อน” นางกล่าว
“อืม!” หลิงฮันพยักหน้า
สุ่ยเยี่ยนยวี่เข้าไปรับการทดสอบ แต่น่าเสียดายที่นางล้มเหลว
“ข้ามั่นใจว่าข้าจะสามารถทำลายอาคมดาบนี้ได้ภายในสามวัน” นางกล่าวอย่างไม่ย่อท้อ
หลิงฮันพยักหน้าและยังคงพยายามทำความเข้าใจ ถึงแม้เขาจะไม่ได้รับรางวัล แต่เขาก็ไม่สนใจ โอกาสที่จะได้ทำความเข้าใจเต๋าแห่งดาบนั้นล้ำค่ามาก ซึ่งไม่รู้ว่ามีค่ากว่าของรางวัลไม่รู้กี่เท่า
หลิงฮันลืมเวลาอีกครั้ง และผู้คนที่อยู่รอบตัวเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง แต่ในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นยืน
เขาไม่มีอะไรที่ต้องเรียนรู้จากมันอีกแล้ว และบทเรียนสุดท้ายคือการเผชิญหน้ากับมันโดยตรง
หลิงฮันเผยรอยยิ้มที่มั่นใจ เขาได้ปลูกเมล็ดในใจของเขา วันหนึ่งเมล็ดดังกล่าวจะเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่และจะนำพาเขาไปสู่วิถีวรยุทธของตัวเอง
เขาเดินไปข้างหน้าเพื่อท้าทายกับเงาร่างมนุษย์ตัวต่อตัว
ร่างเงานั้นไร้ซึ่งความรู้สึก มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต และโจมตีด้วยดาบทันที
หลิงฮันนำดาบอสูรนิรันดร์ออกมาและสังเกตดูการเคลื่อนไหวของมัน
ดาบของร่างเงาหยุดอยู่ที่ลำคอของหลิงฮัน และดาบอสูรนิรันดร์ก็หยุดอยู่ที่ลำคอของร่างเงา
หลังจากนั้นชั่วครู่ เขาก็ปรากฏตัวในสถานที่ใหม่
ผ่าน
มันแปลกมาก ทั้งที่หลิงฮันไม่ได้คิดถึงวิธีที่จะทำลายอาคมดาบเลย แต่หลังจากที่ศึกษามันเป็นเวลานาน จึงทำให้เขารู้ว่าจะรับมือกับมันได้อย่างไร
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าหนู ครั้งนี้เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องรางวัลอะไรจากข้า” มีแท่นหินอยู่ที่นี่และเสียงของเซียนไร้เทียมทานก็ดังออกมาจากแท่นหินด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุข เมื่อเห็นหลิงฮันไม่ได้รับรางวัล
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ใช่ ข้าพลาดรางวัลไป แต่ของรางวัลชั้นที่สี่และชั้นที่ห้าคงไม่ใช่เม็ดยาหรอกใช่หรือไม่?”
“ถูกต้อง เจ้าเดาถูก” เซียนไร้เทียมทานหัวเราะ “เพราะอย่างไรเสีย เม็ดยาภูผาวารีลายม่วงมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือสิบดาว สามารถยกระดับพลังของผู้ใช้ได้มากที่สุดแค่สิบดาวเท่านั้น”
หลิงฮันคิดว่ามันแปลกและพูดว่า “ถ้าข้ามีพลังต่อสู้ห้าดดาว ข้าจะมีพลังต่อสู้สิบห้าดาวหรือไม่ถ้าใช้เม็ดยาภูผาวารีลายม่วงสิบดาว?”