“ใช้โอกาสนี้เผ่นหนีกันเถอะ!” ลูกสุนัขแนะนำ
“อย่าเพิ่ง คอยสังเกตพลังของดาบเก้าอสุรกายก่อนดีกว่า” หลิงฮันส่ายหัว
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ที่ลงไปยังด้านล่างไม่มีท่าทีเคลื่อนไหวมาสักพักแล้ว ส่วนราชาสวรรค์เก้าเพลิงสวรรค์ก็กำลังสู้กับปราณชั่วร้ายยักษ์อย่างดุเดือด ปราณยักษ์ตนนี้มีความสูงถึงร้อยกว่าฟุต พลังของมันน่าสะพรึงกลัวมาก การโจมตีทางจิตวิญญาณของมันนั้นเกรงว่าต่อให้เป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรานับพันก็ต้องถูกสังหารไปพร้อมกัน
ต่อหน้าศัตรูที่ทรงพลังเช่นนี้ ราชาสวรรค์เก้าเพลิงสวรรค์ไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่นิดเดียว ร่างของเขาเผ้าไหม้ไปด้วยไฟที่ร้อนระอุราวกับกลายเป็นเทพแห่งเปลวเพลิง
เขาเป็นที่รู้จักในนามราชาสวรรค์เก้าเพลิงสวรรค์และมีพลังแห่งเพลิงทั้งเก้าสี แต่ละสีแสดงถึงความแข็งแกร่งของเปลวเพลิงที่ต่างกันออกไป เพลิงสีขาวคือเพลิงที่อ่อนแอที่สุด และเมื่อสีของมันเปลี่ยนเป็นสีดำ นั่นคือเพลิงที่เขาใช้พลังทั้งหมดปล่อยออกมาเพื่อเอาจริง
แต่แน่นอนว่าต่อให้เป็นเพียงเพลิงสีขาวก็ถือว่าเขาไม่ประมาทคู่ต่อสู้แล้ว เปลวเพลิงสีดำแม้จะทรงพังแต่มันก็สร้างภาระมหาศาลให้กับเขา จึงไม่อาจใช้ได้นานนัก
ตอนนี้เขากำลังต่อสู้โดยใช้เพลิงสีฟ้าที่เป็นเพลิงลำดับที่ห้า แต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วครู่ทำนั้น ราชาสวรรค์เก้าเพลิงสวรรค์บังคับให้ใช้เพลิงสีครามที่เป็นเพลิงลำดับที่หก
ร่างกายขนาดใหญ่ของปราณชั่วร้ายไม่ใช่ปัญหา ต่อให้มันจะมีขนาดใหญ่โตมโหฬารขนาดไหน มันก็แค่ร่างที่เกิดจากการรวมตัวกันของปราณ
แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือการโจมตีทางจิตวิญญาณของมันที่หากไม่ระวังจอมยุทธระดับดาราก็ต้องตกตาย
ร่างของราชาสวรรค์เก้าเพลิงสวรรค์ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงเพื่อต่อต้านการโจมตีทางจิตวิญญาณ
โชคดีที่ปราณชั่วร้ายเป็นเพียงพลังที่เกิดจากอำนาจที่อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์คายออกมา พลังของมันจึงมีจำกัดและจะหมดไป แต่ราชาสวรรค์เก้าเพลิงสวรรค์เป็นคนที่มีชีวิต พลังของเขาจึงไม่มีจำกัด ถ้าหากเขายังคงรักษาสภาพการต่อสู้ไม่ให้เสียเปรียบไปได้เรื่อยๆ เขาก็ไม่ต้องกลัว
ปัง! ปัง! ปัง!
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ยังคงขุดลงไปใต้ดินลึกลงไปเรื่อยๆ แต่เดิมแล้วด้านล่างแท่นบูชายันนั้นเป็นหลุมลึกขนาดมหึมา มันคือสถานที่ที่ดาบเก้าอสุรกายถูกฝังเอาไว้
ครืน!
เมื่อจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ขุดหลุมลงไปลึกพอสมควร ออร่าแสงของดาบก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แสงนั่นสว่างจนราวกับว่าแสงนี้ส่องสว่างไปทั่วโลก
“ในที่สุดก็เจอ!” จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ยิ้มและยื่นมือไปทางดาบ ‘พรึบ’ แสงสว่างของดาบจางหายไปและโลกได้กลับมาสว่างเท่าเดิมอีกครั้ง
‘พรึบ’ ดาบที่แตกหักลอยขึ้นจากหลุมลึก มองดูแล้วมันไม่ต่างอะไรกับดาบทั่วไป ดาบเล่มนี้เหลืออยู่เพียงด้ามจับและมีใบดาบเพียงหนึ่งในแปดของใบดาบทั้งหมด ออร่าที่ทรงพลังอันไรสิ้นสุดถูกปลดปล่อยออกมาจากดาบหักราวกับมันไม่ใช่ดาบแต่เป็นปรมาจารย์คนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นมา
ต่อหน้าดาบเล่มนี้ ต่อให้เป็นจมยุทธระดับดาราก็ต้องรู้สึกเหมือนตนเองเป็นเพียงคนธรรมดา
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ตกตะลึง มือขวาของเขาลูบไปยังข้อมือซ้ายที่ใช้เอื้อมไปหาดาบเมื่อครู่ ที่ข้อมือของเขามีโลหิตไหลออกมา โลหิตทุกหยดของเขานั้นใสกระจ่างราวกับผลึกไข่มุกล้ำค่า
โลหิตของปรมาจารย์ระดับดารานั้น ถ้าหากจอมยุทธระดับภูผาวารีสามารถดูดซับเข้าไปได้ โลหิตไม่กี่หยดนี้ก็เพียงพอจะทำให้พลังบ่มเพาะของพวกเขาพัฒนาขึ้นอย่างน้อยหนึ่งขั้นเล็ก
แต่โชคร้ายที่โลหิตล้ำค่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธระดับภูผาวารีจะสามารถดูดซับได้ ไม่เช่นนั้นร่างจะระเบิดออกแตกตาย
“ดาบเก้าอสุรกาย เจ้ามีต้นกำเนิดมาจากต้นตระกูลของข้า ตอนนี้ข้าอยู่ที่นี่แล้ว เจ้าจะยังไม่รีบกลับมาหาข้าอีกรึ!” จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ คำรามและสะบัดโลหิต โลหิตทุกคนหนักหน่วงราวกับขุนเขาและกระแทกเข้าใส่ดาบเก้าอสุรกาย
ดาบเก้าอสุรกายราวกับว่าถูกโลหิตดึงดูด มันไม่ต่อต้านและรับโลหิตเอาไว้
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์มีความสุข ตราบใดที่เขาสามารถใช้โลหิตเชื่อมต่อได้ เขาก็จะได้ครอบครองสมบัติชิ้นนี้เสียที
ทันใดนั้นเองโลหิตทุกหยดก็ถูกดาบเก้าอสุรกายดูดซับไปจนหมด ดาบราวกับว่าฟื้นคืนชีวิตและปรากฏกระแสงเลือนรางราวกับกำลังหายใจอยู่
ดาบลอยอยู่กลางอากาศอย่างสงบนิ่งโดยไร้การต่อต้าน
หรือมันยอมรับเขาแล้ว?
หลิงฮันเป็นกังวล ถ้าจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ได้ดาบนั่นไป ภายใต้ท้องฟ้าของดาวดวงนี้… จะมีใครหยุดยั้งเขาได้?
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์หัวเราะและบินไปยังดาบเก้าอสุรกายพร้อมกับคว้าไปที่ด้ามจับ
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ต่อให้เป็นจอมยุทธระดับดาราขั้นสูงสุดก็ไม่มีทางจับดาบเล่มนี้ได้ แต่เขาแตกต่างออกไป เขาเป็นทายาทของตระกูลฉัง และมีสายโลหิตของต้นตระกูลไหลเวียนอยู่ในร่างกาย
ปลายนิ้วของเขาสัมผัสโดนกับด้ามจับ รอยยิ้มบนใบหน้าของจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ขยายกว้างมากขึ้น
แต่ในตอนนั้นเองสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป ดาบเก้าอสุรกายสั่นไหวและปล่อยประกายแสงแห่งดาบเข้าใส่จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์
ดาบได้โจมตีอย่างไม่คาดฝัน
โชคดีที่จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์เป็นถึงจอมยุทธระดับดาราและรู้ถึงพลังของดาบเก้าอสุรกายเป็นอย่างดี แน่นอนว่าเขาไม่มีทางประมาท มือทั้งสองข้างของเขาควบพลังปราณเป็นกรงเล็บและโต้ตอบ
ประกายแสงแห่งดาบพุ่งเข้ามา ‘ตูม’ กรงเล็บขนาดใหญ่ของจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ถูกทำลายทันทีพร้อมกันกระเด็นถอยไปร้อยไมล์ เขายกมือขึ้นดูและพบว่ามีรอยบาดแผลปรากฏอยู่บนฝ่ามือทั้งสองข้าง
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์หัวเราะลั่น นี่แหละคือดาบเก้าอสุรกายที่เขาตามหา นี่แหละคือพลังที่เขาต้องการ!
ถ้าดาบไม่ใช่แข็งแกร่งเช่นนี้ เขาจะใช้มันกำราบจักรพรรดิของนภาสีครามและจักรพรรดินีแห่งดวงดาวได้อย่างไร?
“ฮ่าๆ ขนาดดูดซับโลหิตไปไม่กี่หยดยังแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าหากมาอยู่ในมือข้ามันจะแข็งแกร่งขนาดไหน?” จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์หัวเราะ “ดูแล้วเจ้าคงจะไม่ยอมจำนนสินะ?”
“ข้าคือจักรพรรดิคนปัจจุบัน ส่วนเจ้าเป็นสิ่งที่เกิดจากต้นตระกูลของข้า โชคชะตาของเจ้ามีเพียงต้องกลับมาหาเจ้าของของเจ้า!”
แน่นอนว่าดาบเก้าอสุรกายไม่มีท่าทีตอบกลับ แต่กลับส่องแสงประกายรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก
ดาบเก้าอสุรกายเป็นอาวุธที่โหดเหี้ยม มันชื่นชอบการสังหารและโหยหาโลหิต
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์โคจรทักษะศักดิ์สิทธิ์ ดวงดาวสี่ดวงปรากฏออกมาพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลังราวกับเทพเซียนกำลังเปิดสวรรค์
ดวงดาวที่ปรากฏออกมาส่งผลให้ท้องฟ้าสั่นไหว รอบๆดวงดาวมีจุดแสงระยิบระยับวนอยู่รอบ
หลิงฮันสูญเสียการมองเห็นไปยังท้องฟ้า เขารู้สึกได้เพียงแรงกดดันน่าสะพรึงกลัวที่ราวกับโลกกำลังจะแตก ชั้นมิติกำลังถูกฉีกกระชาก เขาอยู่ในหอคอยทมิฬขนาดเล็กราวกับไรฝุ่นที่กลิ้งไปมาบนพื้นอย่างต่อเนื่อง
จนสุดท้ายเมื่อเขามองเห็น เขาก็เห็นจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ที่ขยายร่างใหญ่จนมีส่วนสูงเทียบเท่าคนยักษ์ บนมือของเขามีวงแหวนดาราขนาดใหญ่ลอยอยู่ ซึ่งเขาใช้กลุ่มดาวที่หมุนรอบวงแหวนโจมตี
‘ฉึบ’ แต่ทันใดนั้นก็มีแขนข้างหนึ่งถูกตัดขาดลอยขึ้นไปกลางอากาศ โลหิตสาดกระจายปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า
ฝ่ายที่มีแขนไม่ใช่ดาบเก้าอสุรกาย!