Abe the Wizard 35 ช็อตแรก!

ตอนที่ 35 ช็อตแรก!

AtW ตอนที่ 35 ช็อตแรก!

 

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย

 

เสียงระฆังเตือนภัยเร่งด่วนได้ดังขึ้นในเช้าวันต่อมา อาเบลไม่รอช้าหยิบธนูที่สร้างขึ้นมาพร้อมกับซองธนูก่อนจะออกไปจากห้องในทันที ตอนนี้อาเบลได้วิ่งไปที่ประตูด้านหน้าของปราสาทแฮรี่แล้ว แต่เมื่ออาเบลวิ่งมาถึงทุกคนที่ตั้งเต็นท์อยู่ก็ได้ตกใจเมื่อเห็นอาเบลมาที่นี่เข้า ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

อาเบลไม่รอช้าเขารีบปีนขึ้นกำแพงของปราสาททันที ในตอนที่อาเบลปีนกำแพงขึ้นไปสิ่งแรกที่อาเบลเห็นคืออัศวินมาแชลที่กำลังสวมชุดเกราะพร้อมรบอย่างเต็มรูปแบบ ตอนนี้อัศวินมาแชลยืนอยู่บนขอบกำแพงปราสาทโดยมีทหารประมาณกว่า 20 คนยืนอยู่ข้างเขา ทหารทุกคนนั้นถือหอกยาวเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้แล้ว

 

อัศวินมาแชลรู้สึกกังวลทันทีเมื่อเห็นอาเบลปรากฏตัวขึ้นบนกำแพงปราสาท “ทำไมลูกถึงอยู่ที่นี่กันอาเบล? กลับลงไปที่ปราสาทจะดีกว่านะ มันอันตรายเกินไป”

 

ไม่ทันที่จะได้ยินคำพูดของผู้เป็นพ่อบุญธรรมอาเบลที่ได้ขึ้นมาบนกำแพงปราสาทก็ต้องหลบลูกธนูที่พุ่งเข้าใส่ตัวอาเบลอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ลูกธนูนั้นได้พุ่งผ่านเฉียดหัวของอาเบลไป

 

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้อาเบลได้เห็นออร์คกว่า 20 ตัวอยู่ภายนอกของกำแพงปราสาทแฮรี่ ออร์คบางตัวนั้นขี่หมาป่ามาด้วยในขณะที่อีกหลายๆ ตัวนั้นเลือกที่จะขี่วัวแทน

 

“ทำไมพวกออร์คถึงอยู่ที่นี่กัน?” อาเบลถามด้วยความประหลาดใจ

 

“ดูเหมือนว่าพวกมันจะบุกมาที่นี่ถึง 3 หน่วยเลยสินะ พวกออร์คงจะเตรียมตัวมาดีเหมือนกัน” คำพูดของอัศวินมาแชลนั้นแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน แต่หลังจากที่อัศวินมาแชลพูดเสร็จอาเบลก็ได้พูดแทรกขึ้นทันที “ไม่จริงใช่ไหม”

 

“มือธนูของเราอยู่ไหนกัน?” อาเบลได้ถามด้วยความรู้สึกร้อนใจ ไม่กี่วินาทีก่อนอาเบลได้ถูกขับไล่ให้ลงจากกำแพงปราสาทไปแต่ตอนนี้กลับไม่มีมือธนูยืนอยู่บนกำแพงเลย “เราจะปล่อยให้พวกมันบุกเข้ามาโจมตีอย่างงั้นหรอครับ?”

 

“มีมือธนูทั้งหมด 5 คนอยู่ในปราสาทแห่งนี้” อัศวินมาแชลได้ชี้นิ้วของตัวเขาไปที่มือธนูที่กำลังบาดเจ็บอยู่ไกลๆ “แต่มือธนูสองคนได้รับบาดเจ็บแล้ว ที่เหลือ…พวกเขาไม่สามารถที่จะยิงพวกวูฟไรเดอร์โดนได้เลย พ่อก็เลยสั่งให้พวกเขาถอยกลับไป”

 

อัศวินมาแชลยังคงใช้น้ำเสียงที่เยาะเย้ยผู้รุกรานต่อไป “ไอพวกโง่เลือกศัตรูของมันผิดซะแล้ว พวกมันไม่สามารถเข้ามาในกำแพงของพวกเราได้หรอก เดี๋ยวก่อน อาเบลลูกถือธนูอยู่อย่างงั้นหรอ?” เมื่อตระหนักได้ว่าอาเบลกำลังถือธนูอยู่อัศวินมาแชลก็เริ่มรู้สึกสับสนทันที

 

“ใช่ครับ” อาเบลพูดต่อไป “ด้วยธนูคันนี้ของผม จะต้องสังหารพวกออร์คได้ด้วยการยิงเพียงครั้งเดียวได้อย่างแน่นอน”

 

อาเบลพูดทุกอย่างอย่างมั่นใจ ความจริงแล้วอาเบลต้องการที่จะพูดคุยถึงเรื่องสรรพคุณของธนูทดกำลังมากขึ้น อาเบลต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าธนูที่เขาคิดค้นนั้นสามารถยิงลูกธนูได้รวดเร็วแค่ไหน อาวุธที่อาเบลใช้เป็นอาวุธที่สามารถยิงได้จากระยะไกลและแถมยังสามารถใช้งานได้ง่ายอีกด้วย แต่อาเบลไม่ทันจะได้อธิบายเขาก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างขึ้น

 

ด้วยสายตาที่รวดเร็วของอัศวินมาแชลทำให้เขาเข้าใจถึงกลไกธนูทดกำลังของอาเบลได้ทันที อาเบลได้หยิบลูกธนูออกมาจากซองธนูด้านหลังของเขาก่อนที่จะเริ่มง้างลูกธนูในทันที

 

“ธนูคันนี้ได้ออกแบบมาอย่างดีเกินคาด” อัศวินมาแชลที่ยืนดูอาเบลอยู่ได้เอยปากชมขึ้น “แทนที่จะใช้พลังจากปลายนิ้วแต่ตอนนี้กลับใช้ประโยชน์ของรูปแบบคันธนูเพื่อทดแทนแรงที่จะต้องใช้แทน” จากนั้นอัศวินมาแชลก็ได้พูดต่อไป “”ไม่แปลกใจเลยที่ลูกเป็นถึงขั้นปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก แต่ด้วยสิ่งต่างๆ ที่ลูกได้ทำในคันธนูคันนี้ทำให้ลูกยิงลูกธนูได้ง่ายขึ้นโดยใช้เพียงแค่ปลายนิ้วมือเท่านั้น

 

มือธนูเป็นหนึ่งในทหารที่สามารถฝึกฝนได้ยากที่สุดแล้ว การที่จะฝึกธนูนั้นจะต้องพักหลังจากที่ยิงไป 30-40 ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้นิ้วของมนุษย์เองก็ยังเป็นอวัยวะที่บอบบางที่สุดในร่างกายของมนุษย์อีกด้วย หากมือธนูได้รับบาดเจ็บที่นิ้วเข้าพวกเขาจะไม่สามารถที่จะยิงธนูได้อีกตลอดไปในชีวิตของเขา อุปสรรคทั้งหลายทำให้การที่จะฝึกฝนจนกลายเป็นมือธนูได้นั้นจึงเป็นเรื่องที่ยากนั่นเอง ดังนั้นแล้วด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ปราสาทแฮรี่นั้นเต็มไปด้วยทหารยาม ส่วนมือธนูในปราสาทแฮรี่จึงมีไม่กี่คนเพียงเท่านั้น

 

อัศวินมาแชลเริ่มหยิบธนูคันหนึ่งขึ้นมา ในตอนที่อัศวินมาแชลง้างคันธนูก็มีแสงออร่าสีขาวเปล่งประกายออกมาจากร่างกายของอัศวินมาแชล หลังจากนั้นไม่นานลูกธนูก็ได้ถูกปล่อยไปจากคันธนู อาเบลที่ได้ยืนดูอยู่ก็ได้แต่แปลกประหลาดใจ ในตอนที่อัศวินมาแชลง้างคันธนูนั้นเขาไม่ได้ง้างธนูจนสุดสายได้อย่างสมบูรณ์เลย แต่ลูกธนูที่อัศวินมาแชลได้ยิงออกไปนั้นกลับพุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว

 

คันธนูที่อัศวินมาแชลนั้นเป็นคันธนูที่ตรึงและแน่นจนเกินไป อัศวินมาแชลใช้แรงไปกว่า 80% จากแรงทั้งหมดในการยิงธนูในครั้งนี้ หลังจากยิงลูกธนูออกไปอัศวินมาแชลก็เสียสูญในการยืนทันที ถ้าหากอัศวินมาแชลไม่ได้ใช้พลังลมปราณในการยิงด้วยเขาก็คงไม่ต้องเสียสูญต่อหน้าอาเบลแบบนี้ ถ้าหากอัศวินเบ็นเน็ตต์ได้เห็นอัศวินมาแชลเขาคงที่จะอดหัวเราะไม่ได้ที่อัศวินระดับกลางอย่างมาแชลนั้นจะเสียสูญในตอนที่กำลังยิงธนู

 

อาเบลที่ยืนดูอยู่ได้ลองยิงธนูในมือตามไป อาเบลได้ง้างคันธนูออกมาเตรียมพร้อมสำหรับการยิงอย่างไม่อยากเย็นเลย อัศวินมาแชลที่ยืนมองอาเบลอยู่ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นอาเบลกำลังยิงธนูโดยไม่ได้ใช้แรงอะไรเลย

 

“ลูกทำอะไรกับธนูคันนี้กันแน่อาเบล?” อัศวินมาแชลได้เผลอถามในสิ่งที่อยากรู้ออกไป อัศวินมาแชลเป็นอัศวินที่ผ่านประสบการณ์การรบมาอย่างนับไม่ถ้วนแล้ว แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่อัศวินมาแชลจะเห็นคันธนูในแบบที่อาเบลได้ใช้อยู่ แต่ตอนนี้เรื่องนั้นไม่สำคัญอีกต่อไป ตอนนี้อาเบลกำลังทดสอบยิงเป้าหมายที่มีชีวิตครั้งแรกนั่นเอง นี่จะเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของธนูที่อาเบลประดิษฐ์คิดค้นขึ้น

 

อัศวินมาแชลได้ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น เมื่ออาเบลได้เล็งธนูของเขาไปที่วูฟไรเดอร์เขาก็ปล่อยสายธนูในมืออย่างรวดเร็ว เมื่ออาเบลได้ยิงธนูออกไปสายเอ็นที่ติดอยู่กับคันธนูนั้นกลับไม่ได้ดีดกลับมา ลูกธนูที่อาเบลได้ยิงออกไปนั้นพุ่งตรงไปที่หัวของวูฟไรเดอร์ผู้โชคร้ายตัวนั้น

 

ออร์คผู้โชคร้ายตัวนั้นถูกยิงเข้าที่หัวในทันที ลูกธนูที่อาเบลได้ยิงออกไปนั้นรวดเร็วและไกลกว่าลูกธนูที่ถูกยิงโดยมือธนูคนอื่นๆ

 

“ฮาฮ่า!” ออร์คตัวหนึ่งได้หัวเราะเยาะเย้ยขึ้นก่อนที่จะชี้นิ้วไปที่อัศวินมาแชล จากนั้นหนึ่งในวัวทอรัสตัวหนึ่งก็ได้ปาขวานของมันไปที่อัศวินมาแชล อัศวินมาแชลที่กำลังอยู่ในท่ามกลางสนามรบนั้นไม่ได้ยินเสียงหัวเราะอันเย้ยหยันของออร์คตัวนั้นได้เลย แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นอัศวินมาแชลก็สามารถที่จะปัดขวานที่ถูกขว้างใส่ตัวเองด้วยมือเปล่าได้

 

หลังจากที่อัศวินมาแชลได้ปัดขวานที่ถูกขว้างใส่ด้วยมือเปล่าเขาก็พูดขึ้นต่อไปว่า “ให้พ่อลองใช้ธนูคันนี้ยิงได้ไหมอาเบล?”

 

อาเบลชี้ไปที่ธนูของเขาก่อนจะพูดออกไปว่า “ได้สิครับพ่อ ผมทำธนูคันนี้ขึ้นมาให้พ่อ ตอนที่ผมทดสอบยิงนั้นธนูคันนี้สามารถที่จะยิงได้ไกลมากถึง 50 เมตร ถ้าหากพ่อยิงธนูจากคันธนูคันนี้จะต้องยิงเป็นเส้นตรงเท่านั้น”

 

สิ่งที่อาเบลได้บอกไปทั้งหมดคือสิ่งที่อัศวินมาแชลควรจะได้ฟังแล้ว มือธนูส่วนมากในโลกใบนี้จะต้องยิงธนูในระยะไกลโดยการยิงแบบวิถีโค้งเพียงเท่านั้น ธนูที่อาเบลทำนั้นต่างออกไป ธนูของอาเบลสามารถเสริมแรงที่มากพอในการยิงจนสามารถที่จะยิงธนูเป็นเส้นตรงได้ ดังนั้นการยิงธนูแบบปกติทั่วไปจึงใช้กับธนูที่อาเบลสร้างไม่ได้

 

อัศวินมาแชลง้างคันธนูขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้อัศวินมาแชลได้เล็งธนูของเขาไปที่วัวทอรัสที่กำลังหัวเราะอย่างเสียงดังอยู่ เพียงแค่ปล่อยลูกธนูจากปลายนิ้วลูกธนูที่ออกไปจากคันธนูนั้นก็ได้พุ่งเข้าใส่กระโหลกของวัวทอรัสผู้โชคร้ายตัวนั้นทันที แต่ลูกธนูไม่ได้หยุดอยู่แต่เพียงเท่านั้น หลังจากที่ลูกธนูยิงทะลุผ่านกระโหลกของวัวตัวนั้นไปมันก็ได้พุ่งตรงไปโดนหัวใจของวูฟไรเดอร์ที่อยู่ถัดไปทันที

 

หลังจากที่พวกออร์คได้เห็นพลังทำลายล้างของธนูพวกมันก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก พวกออร์คนั้นไม่เคยเห็นธนูที่สามารถฆ่าออร์คได้ถึง 2 ตัวด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวมาก่อน

 

“ลูกธนูมา!” อัศวินมาแชลได้ยื่นมือไปทางอาเบลในขณะที่พูดขอลูกธนูไปด้วย หลังจากที่ได้ยินอาเบลก็ได้นำลูกธนูออกจากซองธนูให้กับอัศวินมาแชลทันที

 

อัศวินมาแชลได้ง้างคันธนูอีกครั้งก่อนที่จะหาเป้าหมายตัวใหม่ ตอนนี้ระยะห่างระหว่างกำแพงปราสาทกับออร์คนั้นไกลประมาณ 50-60 เมตร แต่ด้วยระยะการยิงประมาณนี้การยิงธนูโดยคันธนูที่อาเบลสร้างขึ้นจะต้องโดนเป้าหมายอย่างแน่นอน

 

อัศวินมาแชลได้ยิงธนูออกจากคันธนูอีกครั้ง ในเวลาไม่ห่างกันนักออร์คผู้โชคร้ายอีกตัวก็ได้ล้มลงไปนอนกับพื้นอีกตัว

 

อาเบลได้ส่งลูกธนูให้กับอัศวินมาแชลอีกครั้งโดยที่ไม่ต้องรอคำสั่งจากอัศวินมาแชล หลังจากนั้นไม่นานลูกธนูก็ได้ออกจากคันธนูที่อัศวินมาแชลถืออยู่ไปถึง 3 ลูกด้วยกัน ออร์คกว่า 6 ชีวิตนั้นล้มลงไปนอนกับพื้นในที่สุด ออร์คที่รอดชีวิตนั้นรู้สึกถึงอันตราย พวกมันจึงตัดสินใจที่จะถอยกลับไปอย่างเร็วที่สุด

 

อัศวินมาแชลไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ตอนนี้พวกออร์คส่วนมากที่เหลืออยู่มีเพียงวัวทอรัสเท่านั้น พวกวัวทอรัสไม่ใช่ออร์คที่มีความกล้าหาญอะไรเลย ถ้ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นพวกมันจะรู้สึกระมัดระวังตัวมากขึ้นไม่เหมือนกับพวกวูฟไรเดอร์นั่นเอง

 

อัศวินมาแชลเล็งธนูไปที่กลุ่มวัวทอรัสกลุ่มสุดท้าย ในตอนนี้พวกวัวทอรัสได้วิ่งถอยกลับไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นพวกมันก็สามารถที่จะวิ่งถอยกลับไปได้ไกลถึง 10 เมตร ในตอนนี้กำแพงปราสาทได้อยู่ห่างจากพวกออร์คถึง 70 เมตร

 

อัศวินมาแชลไม่ได้ยอมแพ้แต่เพียงเท่านี้ เขาเล็งธนูไปที่วัวทอรัสต่อไป ถ้าหากเป็นคันธนูแบบเก่าที่อัศวินมาแชลเคยใช้คงจะยิงพวกออร์คเป็นแส้นตรงไม่ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้มีโอกาสที่ลูกธนูของอัศวินมาแชลจะพลาดเป้า แต่การที่จะลงจากกำแพงเมืองไปยิงนั้นก็เป็นอะไรที่เสี่ยงกว่านั่นเอง ตอนนี้อัศวินมาแชลจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากลองยิงธนูจากระยะกว่า 70 เมตรนี้

 

ธนูที่อัศวินมาแชลยิงออกไปได้พุ่งตรงโดนหัวของออร์คผู้โชคร้ายทันที ตอนนี้ร่างที่ไร้วิญญาณของออร์คผู้โชคร้ายได้ลงไปนอนกับพื้นอีกครั้งแล้ว

 

ห่างออกไปอีก 10 เมตรมีวัวทอรัสอีกตัวหนึ่งกำลังวิ่งหนีอยู่ ไม่นานนักวัวทอรัสตัวนั้นก็ได้ล้มลงกับพื้นอีกครั้ง

 

ไม่ว่าจะเป็นระยะ 90 เมตร 100 เมตร อัศวินมาแชลก็สามารถยิงลูกธนูใส่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

 

วัวทอรัสตัวสุดท้ายอยู่ห่างออกไปถึง 110 เมตร อัศวินมาแชลได้ง้างธนูก่อนจะยิงลูกธนูออกไปอีกครั้ง ลูกธนูที่อัศวินมาแชลได้ยิงออกไปถูกเป้าหมายเข้าอย่างจัง แม้ลูกธนูที่อัศวินมาแชลยิงออกไปจะถูกคอของเหยื่อผู้โชคร้ายตัวนั้นแต่นั้นก็เป็นการยิงที่สมบูรณ์แบบอยู่ดี

 

วัวทอรัสทั้งหมดได้ถูกกำจัดไปแล้ว ตอนนี้เหลือพวกวูฟไรเดอร์ที่อยู่ไกลถึง 150 เมตร โชคไม่ดีสำหรับวูฟไรเดอร์ตัวนั้นเท่าไรนักแม้จะอยู่ไกลถึง 150 เมตรอัศวินมาแชลก็สามารถยิงลูกธนูไปโดนหัวของมันได้

 

เมื่อพวกออร์คทั้งหลายตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของธนูที่อัศวินมาแชลได้ยิงออกมา พวกวูฟไรเดอร์ทั้งหมดก็รีบเอามือเปล่าของพวกมันกำบังที่หัวของพวกมันเอาไว้ แม้ว่าวูฟไรเดอร์จะใช้มือปิดบังหัวของมันเอาไว้แต่มันไม่ได้ใช้มือปิดบังร่างกายของพวกมันเลย ในตอนที่ความตายได้ใกล้เข้ามาที่เจ้านายของพวกหมาป่า พวกหมาป่าทั้งหลายกลับใช้ร่างกายของตัวเองเป็นที่กำบังให้กับเจ้านายพวกนั้นแทน

 

อัศวินมาแชลที่ยิงธนูได้พักหนึ่งตัดสินใจที่จะหยุดยิงธนูกลางคัน สำหรับอัศวินอย่างมาแชลแล้วการที่จะสังหารศัตรูด้วยการยิงธนูนั้นเป็นชัยชนะที่เรียบง่ายจนเกินไป สำหรับตอนนี้อัศวินมาแชลได้จัดการพวกออร์คไปเยอะมากเพียงพอแล้ว

Abe the Wizard

Abe the Wizard

Score 10
Status: Completed

บทนำ

ฉันได้กลับชาติมาเกิดในโลกใบใหม่นี้ ดูเหมือนว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ติดตัวฉันมาที่โลกใบนี้ด้วย สิ่งนั้นคือ ฮอร์ราดริกคิวบ์ จากเกม Diablo II นั่นเอง

หนทางการเป็นอัศวินสุดเท่ห์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ทำไมการเป็นจอมเวทย์ก็อยู่ในทางเลือกด้วยล่ะ?

แล้วฉันควรจะเลือกทางไหนกันแน่นะ?

Options

not work with dark mode
Reset