A Warrior Exiled by the Hero and His Lover 8

ตอนที่ 8

เช้าตรู่ หลังจากเตรียมอุปกรณ์แล้ว เราก็ไปที่ดันเจี้ยน

 

“เธอรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”

 

“ฉันสบายดีค่ะ ขอบคุณยาที่นายท่านมอบให้ฉัน”

 

ผิวของคาเอเดะดูดีขึ้นมาก

 

มันต่างจากตอนที่ฉันเห็นเธอในร้านขายทาสมาก เธอเหมือนเป็นคนละคนเลย

 

ถ้าวันนี้เธอสู้ได้ดีเหมือนสภาพร่างกายของเธอ วันนี้เราคงทำเงินได้พอสมควร

 

ดันเจี้ยนของลันตัตต้าตั้งอยู่ใจกลางเมือง

 

นักผจญภัยดำดิ่งสู่ดันเจี้ยนขนาดใหญ่และรวบรวมวัตถุดิบจากมอนสเตอร์ที่พ่ายแพ้ รวมทั้งอุปกรณ์และไอเทมใดๆก็ตามที่ดรอปลงมา

 

ที่ชั้นล่างสุดของดันเจี้ยน มีหินนิวเคลียร์อยู่

(*Eng ใช้  Nuclear stone ควรใช้ดันเจี้ยนคอร์รึเปล่านะ)

 

หินนิวเคลียร์มีความสามารถในการให้รางวัลตอบแทนแก่ผู้ที่ไปถึงมันได้

 

คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะได้อะไรจนกว่าคุณจะไปถึงมันได้

 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของส่วนใหญ่ คุณจะสามารถได้รับวัสดุล้ำค่า ของหายาก และสิ่งอื่น ๆ ที่คุ้มค่าเงินเป็นจำนวนมาก

 

มีแม้กระทั่งทำให้เลเวลสกิลเพิ่มขึ้น ก็เห็นได้ว่าทำไมฉันถึงสนใจมันมากขนาดนี้

 

เมื่อเราไปถึงทางเข้า เราก็ทำการตรวจสอบขั้นสุดท้าย

 

“เราจะจำกัดตัวเองให้อยู่แต่ชั้น1เท่านั้นนะ”

 

“ค่ะ”

 

“ว่าแต่เลเวลเธอเท่าไหร่ คาเอเดะ?”

 

“8ค่ะ”

 

ดังนั้น เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าเราจะเลเวลขึ้นมาสัก3,

 

หากเรายังอยู่ในสภาพที่ดีพร้อมในขณะที่เลเวลขึ้นมา 3 บางทีเราอาจจะสามารถไปต่อได้

 

มาเริ่มกันเลยดีกว่า

 

เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้วที่เราเริ่มสำรวจดันเจี้ยน

 

ทักษะของคาเอเดะมีความเฉียบคมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“สปินนิ่งเบรด”

 

“จิ๊ดๆ?”

 

ด้วยการเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายของพัดเหล็กของเธอ ใบมีดลมของคาเอเดะได้ตัดมอนสเตอร์หนู

 

ฉันได้ยินมาว่าเธอใช้เวทมนตร์ได้ แต่ความสามารถของเธอดีเกินกว่าที่ฉันคาดเอาไว้

 

เวลาเรียกใช้สกิลสั้น การตัดสินใจที่รวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง

 

ลิซ่านั้นเป็นนักเวทย์ที่มีความสามารถ แต่คาเอเดะสามารถทำได้ดีมากกว่านั้น

 

“อ๊ะ! ฉันเลเวล 15 แล้วค่ะ”

 

“เอ๋?!”

 

เดี๋ยวนะ เรามาที่นี่แต่ชั่วโมงเดียว แต่เธอก็ขึ้นไปถึง7เลเวลแล้วเหรอ?

 

นั่นมันบ้าเกินไป มันไม่เกี่ยวแม้ว่าการที่เลเวลน้อยจะทำให้เลเวลขึ้นง่ายเพียงใด แต่สามัญสำนึกมันก็ยังเป็นความเร็วที่เป็นไปไม่ได้

 

“ดูเหมือนว่าเมื่อฉันอยู่กับนายท่าน ฉันสามารถเลเวลอัพได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะค่ะ”

 

“ไม่ มันไม่ควรเป็นไปไ.…”

 

ฉันกำลังจะพูดว่า “ไม่ มันไม่ควรจะเป็นไปได้” แต่ปากของฉันมันก็หยุดซะก่อน

 

มีบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน

 

ไม่สิควรจะพูดว่านั่นเป็นสิ่งเดียวที่อาจทำให้เกิดขึ้นได้

 

[เปิดสเตตัส]

 

สกิล

 

บางทีระดับที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันของเธออาจเกิดจากสกิล [ทวีคูณค่าประสบการณ์]

 

ฉันไม่รู้วิธีใช้มัน แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสกิลประเภทเปิดใช้งานอัตโนมัติ และดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มค่าประสบการณ์ที่คาเอเดะได้รับเป็นสองเท่าต่อทุกมอนสเตอร์ที่เธอจัดการไป

 

หากมีใครเพิ่มเลเวลด้วยความเร็วระดับนี้ มันอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาก็ได้

 

แค่คิดถึงเลเวลของคาเอเดะในหนึ่งเดือนต่อจากนี้ก็รู้สึกกลัวแล้วแฮะ

 

“อีกไม่นานฉันจะแข็งแกร่งพอสำหรับนายท่านของฉัน! ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ!”

 

“เอ่อ….”

 

เมื่อคุณเห็นทาสสาวแสนสวยที่กำลังตื่นเต้นเป็นอย่างมาก คงไม่มีทางที่คุณจะบอกให้เธอหยุดได้หรอก

 

สาวน้อยคนนี้กำลังพยายามแข็งแกร่งขึ้นเพื่อฉัน

 

และมันกำลังจะเป็นเช่นนั้น

 

ดังนั้นฉันจึงเปลี่ยนแผนและตัดสินใจไปที่ชั้น3

 

ไปให้ไกลที่สุดในวันนี้

 

หลังจากนั้น เลเวลของคาเอเดะก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่น่ากลัว

 

เมื่อเราไปถึงชั้นที่สามของดันเจี้ยน เธอถึงเลเวล 30 แล้ว

 

เวทมนตร์ที่ปล่อยออกมานั้นมีพลังทำลายสูง

 

“ดอกบัวหิมะ!”

 

ศัตรูในทางเดินหินกลายเป็นนํ้าแข็งในชั่วพริบตา

 

ดอกไม้น้ำแข็งที่สวยงามบานสะพรั่งและทำลายล้างพวกมัน

 

เธอควบคุมพัดเหล็กอย่างชำนาญราวกับว่าเธอกำลังเต้นรำ และด้วยการขยับนิ้วง่ายๆ พัดเหล็กก็เปลี่ยนจากห่างออกเป็นปิด

 

“ฉันเดาว่าตอนนี้เธอจะไร้เทียมทานในชั้นนี้แล้วนะ”

 

“ไม่เลยค่ะ ฉันยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องนายท่านของฉัน ฉันอยากแข็งแกร่งกว่านี้และช่วยเหลือคุณให้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

 

คาเอเดะพูดด้วยดวงตาที่สดใสพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

 

เธอมีแรงจูงใจมากเกินกว่าที่จะหยุดตอนนี้แล้วสินะ

 

“แต่ตอนนี้เธอคงจะเหนื่อยแล้ว และเราได้รับวัตถุดิบและไอเทมเพียงพอแล้ว กลับกันเถอะ”

 

“ค่ะ ฉันคิดว่าอย่างนั้น ถ้าเช่นนั้นวันนี้ก็พอเท่านี้แล้วกันค่ะ”

 

ฉันรู้สึกโล่งใจ

 

จริงๆคือ กระเป๋าเก็บไอเทมมันพร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่ออยู่แล้วถ้าหากเรายังไปต่ออีกล่ะก็…

 

“นี่มันอะไรน่ะ?”

 

คาเอเดะหยิบเศษผ้าสกปรกๆขึ้นมา

 

ฉันคิดว่ามันเป็นแค่ขยะ แต่แล้วฉันก็ดูพื้นผิวของผ้าและรู้สึกประหลาดใจ

 

“นี่มันกระเป๋าเก็บของเวทมนตร์ที่หายากนี่!”

 

“มันอาจจะเป็นกระเป๋าธรรมดาก็ได้นะคะ?”

 

“ไม่ผิดแน่! ฉันคุ้นเคยกับวงจรเวทมนตร์นี้!”

 

ฉันจำได้ดีเพราะฉันเคยมีมันตอนอยู่ในกลุ่มก่อนหน้านี้

 

คุณสามารถใส่สิ่งอะไรก็ได้ลงในถุงผ้า แล้วมันจะเก็บไว้ให้คุณ

 

หากคุณซื้อโดยตรงจากร้านค้า คุณจะต้องเสียเงินอย่างน้อยก็ประมาณ 10 ล้าน

 

ราคาอาจเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่จัดเก็บ

 

ฉันคลี่ผ้าออกและตรวจสอบทุกมุม

 

มันควรมีหมายเลขปักอยู่ โดยจะบอกจำนวนที่จัดเก็บของได้ และจำนวนสิ่งของที่อยู่ภายใน

 

“100”

 

นี่มันเป็นของที่หายากมากๆ

 

แม้แต่อันที่มีจากกลุ่มก่อนหน้าของฉันก็มีพื้นที่เก็บของสูงสุดเพียง 20 ช่องเท่านั้น

 

“นายท่าน”

 

คาเอเดะม้วนถุงผ้า และมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ

 

ฉันรู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร

 

ตอนนี้เราไปต่อกันได้แล้ว ฉันเดาว่านั่นคือสิ่งที่เธอพยายามจะพูด

 

“ไม่ค่ะ พวกเรามีอาหารและน้ำเหลือน้อยแล้ว ถ้าไม่กลับไปเราต้องหิวตายแน่ๆ”

 

“ฉันเข้าใจแล้ว…เธอพูดถูก ฉันขอโทษด้วยนะ”

 

ใบหน้าของเธอแดงเล็กน้อย เธอดูเขินอาย

 

ฉันเดาว่าเธอพึ่งรู้ตัวว่าเธอเองกำลังเอาแต่ใจนิดหน่อย และเธอก็ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

 

แต่ฉันไม่โกรธหรอก

 

เป็นเรื่องปกติที่มือใหม่จะลุ่มหลง

 

อีกหน่อย อีกหน่อย แล้วพวกเขาก็ไปไกลเกินกว่าจะหวนกลับคืนมาได้ และท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกทำลาย

 

นักผจญภัยต้องตระหนักอยู่เสมอว่าชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย

 

ถ้าคุณทำไม่ได้ มันก็เป็นเพราะว่าพวกคุณเป็นเพียงมือใหม่

 

“ไม่ต้องรีบร้อน เธอยังมีโอกาสมากมายที่จะเพิ่มเลเวลของเธอ”

 

“ค่ะ”

 

ฉันใส่กระเป๋าเป้ของฉันในที่เก็บเวทย์มนตร์

 

จากนั้นสัมภาระก็ถูกดูดและหายไป

 

ทั้งหมดที่ฉันต้องทำคือพับถุงผ้าและใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

 

“ตอนนี้เรากลับกันเถอะ”

 

“ค่ะ!”

 

คาเอเดะคอยจัดการมอนสเตอร์ขณะที่เรากลับจากดันเจี้ยน

 

สิ่งที่ฉันทำได้ก็คือเป็นคนดูเท่านั้น

 

แน่นอน ถ้าจำเป็นฉันจะสู้ แต่สำหรับตอนนี้ฉันคิดว่าไม่จำเป็น

 

ไม่มีศัตรูในที่แห่งนี้ที่จะสามารถสู้กับเธอได้

 

เมื่อเราไปถึงด้านนอก เลเวลของคาเอเดะก็ถึง40แล้ว

 

มันขึ้นไปถึง 32 เลเวลภายในวันเดียว มันสุโค่ยเดสสึเหน่มาก

 

นั่นรวมถึงสกิลของฉันด้วย

 

เลเวลของฉันมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน มันยากสำหรับฉันที่จะตามให้ทัน

 

เมื่อฉันอยู่ในเมือง ฉันขายวัสดุและสิ่งของที่เรารวบรวมมาได้

 

รายได้ปัจจุบันคือ 120,000

 

นั่นเป็นครั้งแรกของเรา

 

หลังจากนั้นเราไปโรงเตี๊ยมและสั่งอาหารมามากมาย

 

“นายท่าน เนื้อนี่อร่อยมากเลยค่ะ!”

 

“กินเยอะๆ เธอสมควรได้รับมันสำหรับการทำงานหนักทั้งหมดของเธอวันนี้”

 

“ค่ะนายท่าน ขอบคุณมากเลยนะคะ”

 

“เธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอก”

 

ดูคาเอเดะกินไก่งวงย่างทั้งตัวคนเดียวก็สนุกดี

 

เธอแบ่งปันกับฉันเล็กน้อยและฉันก็อิ่มแล้ว

 

ฉันมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับเรื่องแย่ๆ ที่ฉันเคยเจอมา แต่หลังจากพบกับคาเอเดะ ทุกวันก็ดีขึ้น

 

บางทีนี่อาจจะดีสำหรับฉันมากกว่าที่ฉันคิดไว้

 

ฉันจะไปเที่ยวแบบเงียบๆ กับทาสที่น่ารักคนนี้

 

ฉันแน่ใจว่าเราสามารถเติมเต็มช่องว่างในใจเราได้เร็วกว่าที่เราคิด

 

พรุ่งนี้เราจะไปถึงแค่ไหน?

 

ฉันสงสัยว่าเธอจะเติบโตมากขนาดไหน

 

ด้วยความคิดเหล่านี้ในหัวของฉัน เราทั้งคู่ก็กลับไปที่โรงแรม

 

“นายท่าน ตื่นเถอะค่ะ นายท่าน!”

 

“เป็นอะไรไป ยังเช้าอยู่เลย”

 

ฉันนั่งในขณะที่คาเอเดะเขย่าร่างกายและเรียกฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

มองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นว่าพระอาทิตย์เพิ่งขึ้น

 

แสงแดดยามเช้าสีส้มแสบตา

 

จุดสีขาวเข้ามาที่ขอบของการมองเห็นของฉัน

 

ในที่สุด ตาฉันก็ปรับแล้วมองคาเอเดะใกล้เตียงอีกครั้ง

 

เอ่อ…

 

“นายท่าน อันตื่นมาแล้วเป็นแบบนี้ค่ะ!”

 

“ไม่มีทาง…”

 

ก่อนที่ดวงตาของฉันจะเป็นคาเอเดะที่โตเต็มวัยที่มีหูและหางขนาดใหญ่

 

 

Options

not work with dark mode
Reset