ฉันซดสาเกที่หวานและกลมกล่อมเข้าไปในอึกเดียว
สาเกนํ้าผึ้งที่ถูกทำขึ้นมาเป็นพิเศษโดยเผ่าแฟรี่นั้นรสชาติยอดเยี่ยมมาก
“ไม่คิดเลยว่ามันจะหวานขนาดนี้”
“นั่นสินะคะ”
“ใช่มั้ยล่ะ นี่มันคือสาเกที่เหล่าแฟรี่ต่างภาคภูมิใจมาก เจ้านายดื่มให้เยอะกว่านี้สิ เอาให้โกดังโล่งไปเลย!”
“ฉันไม่ดื่มถึงขนาดนั้นหรอก แต่ก็ขอบใจนะ”
สาเกใสสีเหลืองอำพันถูกเติมลงในแก้ว ทำให้ดูเพลิดเพลิน
บริเวณรอบๆนั้นก็มีเหล่าแฟรี่ที่กำลังสนุกสนานไปกับอาหารและเครื่องดื่ม
ที่นี่เป็นโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน
บนเวทีก็มีแฟรี่เต้นรำอยู่
มีอาหารหายากมากมายวางกองอยู่บนโต๊ะ
ทั้งซุปผัก เนื้อวัวที่มีรสเผ็ดเล็กน้อย อาหารทอดที่ถูกห่อด้วยหนังแผ่นบาง ขนมหวานที่ราดด้วยนํ้าผึ้ง
“อื้ม”
“นั่นของโปรดของเฟราเลยล่ะ มันอร่อยใช่มั้ย!”
คาเอเดะกำลังเคี้ยวขนมหวานด้วยท่าทางมีความสุข และมีเสียง “อื้อ” ออกมา
มันอร่อยขนาดนั้นเชียว ฉันลองมั่งดีกว่า
“หวานโคตร!?”
“อะฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าเจ้านายจะไม่ถูกกับของหวานสินะ”
เฟรามองหน้าฉันแล้วหัวเราะ
มันหวานกว่าที่ฉันคิดสักสิบเท่าได้
ความหวานเต็มปากไปหมด
“โทรุซามะ ข้าขอรินเครื่องดื่มให้ท่านได้หรือไม่?”
“อ่ะ! รบกวนด้วย”
ปาเปาพ่อของเฟรานั่นเอง
ตอนนี้สภาพเขาดูดีขึ้นมากกว่าตอนก่อนหน้านี้แล้ว
เขาคงรู้สึกผิด
“ท่านคิดอย่างไรกับลูกสาวของข้าบ้าง นายแห่งเรา”
“เธอพึ่งเข้าร่วมปาร์ตี้กับพวกเราได้ไม่นาน เพราะอย่างนั้นฉันเลยยังไม่สามารถให้คะแนนเธอได้ แต่เธอเก่งเรื่องสำรวจและฉันแน่ใจว่าฉันสามารถพึ่งพาเธอได้เมื่อเธอเลเวลสูงขึ้น ดังนั้นฉันคาดหวังกับเธอไว้สูงนะ”
“โอะ โอ้ ท่านคาดหวังกับเฟราไว้สูงเหรอ?’
“ว่าแต่ ในฐานะพ่อแม่ การที่ลูกสาวต้องกลายเป็นทาสมันไม่ทำให้รู้สึกแย่งั้นเหรอ?”
ฉันถามเพราะคิดว่าเฟราควรได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาสรึเปล่า
ตัวเฟราเองนั้นปฎิเสธ แต่ในฐานะคนเป็นพ่อเขาอาจจะรู้สึกกังวลก็ได้
หากเขามีความกังวลเราก็ควรจะหารือเรื่องการปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
“ท่านพูดถึงสิ่งใดกัน พวกเราเผ่าแฟรี่เกิดมาเพื่อรับใช้เผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่ พวกเราจะรู้สึกมีคุณค่าอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อมีผู้ให้เราได้รับใช้เท่านั้น ได้โปรดท่านอย่าได้ลังเลที่จะให้ลูกสาวข้าตอบสนองความปราถนาของท่านเลย “
“เอ๊ะ ปาเปาซัง!”
“ท่านพ่อ! อย่าทำให้ข้าอับอายต่อหน้าเจ้านายสิ”
เฟราโกรธทั้งๆที่หน้าแดงไปด้วย
บรรยากาศนี่มันอะไรกัน แฟรี่นี่เป็นเหมือนกันหมดเลยเรอะ
ฉันตัดสินใจเดินออกไปข้างนอก
“เวลาดื่มฉันชอบดูดาวไปด้วย”
ท้องฟ้าคํ่าคืนนี้มันช่างสวยงาม
และมีสาเกนํ้าผึ้งที่แสนอร่อยอยู่ในมือ
มันเป็นเครื่องเคียงที่เข้ากันมาก
“นายท่าน”
คาเอเดะเดินมายืนข้างๆฉัน
“คุณดูไม่ค่อยสบายนะคะ”
“ว่าแล้วเชียวว่าเธอเข้าใจฉัน”
“เพราะฉันเฝ้ามองนายท่านอยู่เสมอ”
ด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่นดูเหมือนคาเอเดะจะเข้าใจฉัน
ที่จริงแล้วเพราะทัศนคติของแฟรี่ที่ทำให้ฉันไม่สบายใจ
ครอบครัวของเฟรา
“เมื่อฉันมองดูครอบครัวของเฟรา มันก็ทำให้ฉันนึกถึงพ่อแม่ที่ตายไปแล้วของฉันขึ้นมา”
“……ฉันถามได้รึเปล่าคะว่าทำไมพวกท่านถึงตาย”
“ตอนที่ฉันอายุ 15 เมื่อฉันไปถึงบ้านพวกท่านก็นอนจมกองเลือดไปแล้ว แค่นั้นที่ฉันรู้”
คาเอเดะเงียบ
ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็บอกว่ามันเป็นการปล้น
และฉันก็คิดอย่างนั้น
ฉันคิดว่าเพราะครอบครัวของเราก็ถือว่ารํ่ารวยพอสมควรในหมู่บ้านก็เลยตกเป็นเป้าหมาย
ฉันไม่มีญาติคนอื่นอีกและไม่มีทางเลือกอื่นฉันจึงต้องอยู่คนเดียว
แน่นอนถึงแม้ว่าฉันจะอยู่คนเดียวแต่คนในหมู่บ้านก็ดูแลฉันอย่างดี
ฉันมีที่นาและฟาร์มปศุสัตว์มากมาย ฉันเลยไม่เป็นอะไร
“ลิซ่าคอยสนับสนุนฉันตลอดมา จนฉันคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่เพื่อเธอและอยากคอยเป็นกำลังใจให้เธอ”
“ผู้หญิงที่ทอดทิ้งนายท่านไป….”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้ชีวิตเธอถูกผูกติดกับเซอินแล้ว การจากลาแบบนั้นแม้จะน่าตกใจ แต่ฉันก็คิดว่าเพราะฉันไม่เหมาะสมสำหรับเธออีก…ฮึ่ก”
นํ้าตาไหลอาบแก้มฉันพร้อมด้วยเสียงสะอื้น
คาเอเดะกอดฉันโดยที่เธอไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆ
ฉันยังคงรู้สึกถึงความว่างเปล่าอยู่ภายในใจ
◇
วันรุ่งขึ้น เราตัดสินใจสำรวจโกเลมที่เราจัดการได้
“ภายในของโกเลมดั้งเดิมนั้นดูเละเทะเหมือนกับอวัยวะของสิ่งมีชีวิตเลยแม้ว่าจะถูกสร้างขึ้นมาปลอมๆก็ตาม”
ร่องรอยที่ถูกตัดขวางของโกเลมนั้นมีลักษณะของสิ่งที่เหมือนเชือกซึ่งดูคล้ายเส้นเลือด
นอกจากนี้ยังมีชิ้นส่วนที่เป็นกลมๆหลายขนาด และมีลักษณะทางชีวภาพที่แปลกประหลาดมาก
ฉันได้ยินมาว่านักเล่นแร่แปรธาตุสร้างโกเลมโดยอิงจากดั้งเดิม แต่ฉันคิดว่ามีเพียงแค่หน้าตาเท่านั้นที่เหมือนกัน
ดูเหมือนว่าเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่จะสร้างอารยธรรมที่ก้าวหน้าแบบเหนือจินตนาการขึ้นมา
“ซากปรักหักพังของเจ้านี่มันอยู่ตรงไหน?”
“เฟราจะนำทางเจ้านายเอง ตามมาเลย”
เฟรานั่งอยู่บนแพนด้า และเริ่มนำทาง
เมื่อฉันเดินแหวกหญ้าและทะลุผ่านป่ามา ก็มองเห็นซากอาคารที่ผุผัง
เหลือเพียงกำแพงและเกือบจะมีเพียงแค่เศษหินเศษอิฐ และมีโกเลมหลายตัวนอนอยู่ที่พื้น
มันบังเอิญว่ามีตัวนึงตื่นขึ้นมางั้นเหรอ?
“คาเอเดะ ค้นหาวัตถุรอบๆบริเวณนี้ด้วยการประเมิน”
“ค่ะ”
“นายท่าน เฟราควรทำอะไรดี”
“เธอ ไปเพิ่มเลเวลแถวๆนี้แล้วกัน”
“กำลังรออยู่เลย!”
ซู้ม! เฟราบินออกไปอย่างรวดเร็ว
เลเวลของเธอตอนนี้อยู่ที่ 45
ป้าแห่งนี้มีแต่มอนสเตอร์ที่เลเวลค่อนข้างสูง เพราะงั้นเธอน่าจะไปถึงเลเวล 100 ในเร็วๆนี้
ฉันเรียกโรสุเกะของมาจากตราประทับ
“ไปช่วยเฟรา”
“คิช่าาา!”
แล้วโรสุเกะก็บินตามเฟราไป
ตอนนี้เรากำลังสำรวจซากโบราณ
ถ้าโชคดีเราก็อาจเจอสมบัติ แต่ถึงจะไม่เจอแต่การสำรวจซากโบราณมันก็เป็นเรื่องที่สนุกอยู่ดี
อาชีพ [ จอมโจร ] ของฉันดูจะไม่มีปฏิกิริยาอะไร ดูท่าว่าจะไม่มีสมบัติสินะ
“นายท่าน ตรงนี้มีประตูอยู่ค่ะ!”
ฉันรีบไปหาคาเอเดะทันที ดูเหมือนว่าจะมีประตูทรงสี่เหลี่ยมอยู่ที่พื้น
นอกจากนี้ยังมีซากโกเลมมากมายกองอยู่บนประตูเหมือนพยายามซ่อนมันไว้
ฉันเคลียร์โกเลมออกไปและเปิดประตู
ครืด.
ประตูถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย
และมองเห็นบันไดที่ทอดยาวลงไป
“เราจะทำยังไงดีคะ?”
“แน่นอนว่าเราจะลงไป”
ฉันเดินนำหน้า ถัดจากฉันคือคาเอเดะกับแพนด้า
ฉันให้คาเอเดะสร้างลูกบอลแสงแล้วเดินลงบันไดกัน
ผนังเป็นหินเปลือยเหมือนถูกสร้างขึ้นอย่างลวกๆ
เมื่อเดินลงมาจนสุดบันไดก็เป็นพื้นราบเป็นทางเดินต่อไปของหน้า
“ไปอีกไกลแค่ไหนนะ?”
“ไม่มีวี่แววสิ่งมีชีวิตเลยนะคะ”
“แสงสว่าง?”
มีแสงสีฟ้าเรืองออกมาจากด้านหลังของทางเดิน
เมื่อเดินต่อไปก็พบกันห้องโถง
มีวงเวทย์สีนํ้าเงินขนาดใหญ่และซับซ้อนส่องแสงอยู่ตรงกลาง
“บางทีนี่อาจจะเป็น….”
“เธอรู้จักมันงั้นเหรอ?
“บางทีมันอาจจะเป็นเวทมนตร์ที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายค่ะ ฉันเคยเห็นอะไรที่มันคล้ายกันมาก่อน”
ฉันไม่เข้าใจมันเลย
มีตัวอักษรและสัญลักษณ์แปลกตามากมายอยู่บนวงเวทย์นั้น ถึงแม้จะพยายามจดจำรูปแบบของมันแต่สมองก็ปฎิเสธและดวงตาก็พร่ามัว
ปกติฉันก็ไม่ถนัดเรื่องเวทมนตร์อยู่แล้ว ยิ่งพอได้มาเห็นอะไรแบบนี้ยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจเข้าไปอีก
“รู้สึกว่าจะไม่ได้เคลื่อนย้ายได้ไกลมากมายอะไรนะคะ”
“ทำไมวงเวทย์นี้มันถึงใช้งานได้ล่ะ? โดยปกติมันไม่ควรปรากฎขึ้นมาโดยไม่มีพลังเวทย์ไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันคิดว่าเพราะมันมีสายเวทมนตร์ค่ะ หรือก็คือมันมีสายเวทมนตร์ขนาดใหญ่อยู่ใต้ดิน”
“เข้าใจแล้ว”
ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสายเวทย์
ฉันคิดว่าลิซ่าน่าจะเคยอธิบายให้ฟังแล้ว
ฉันเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเวทมนตร์มากมายจากเธอ แต่ฉันก็ลืมมันทันทีที่ได้ยิน
ยังไงก็ฟังข้อสรุปของคาเอเดะหน่อยแล้วกัน
“แล้ววงเวทย์นี้มันเคลื่อนย้ายไปที่ไหน?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่จากการที่มันทำงานอยู่แสดงว่าวงเวทย์คู่อีกอันก็ต้องถูกเปิดใช้งานอยู่เหมือนกันค่ะ ฉันคิดว่าเราสามารถที่จะไปแล้วกลับมาที่วงเวทย์ที่เปิดใช้งานได้”
จุดหมายปลายทางไม่รู้
แต่ว่ามันสามารถเคลื่อนย้ายได้
เป็นสะพานที่ดูแล้วอันตรายเกินกว่าที่จะข้ามได้
แต่อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณนักผจญภัยของฉันมันกำลังรํ่าร้อง
บางทีมันอาจจะนำไปยังสถานที่ที่มีสมบัติมากมาย
หรือทิวทัศน์อันงดงามที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน
ถ้าไม่ลองไปฉันอาจเสียใจในภายหลัง
การเดินทางนี้ เป็นการเดินทางเพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ เป็นการเดินทางเพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้า
การกล้าจะกระโดดเข้าหาสิ่งอันตรายที่ท้าทายเราอยู่มันไม่สนุกงั้นเหรอ?
“เธอไม่อยากรู้เหรอว่าสิ่งที่อยู่ปลายทางอีกด้านมันคืออะไร”
“ฉันจะตามนายท่านไปทุกที่ค่ะ”
ฉันตัดสินใจแล้ว
จุดหมายต่อไปคืออีกด้านของวงเวทย์นี้
[ จบบริบูรณ์ ]
ถุ้ยยยยยยย !?