A Warrior Exiled by the Hero and His Lover 27

ตอนที่ 27

เข้าวันรุ่งขึ้น เมื่อฉันพลิกตัว ฉันก็ตื่นเพราะเสียง “อุกิ๊ว”

 

“ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ”
 

 

ฉันหยิบเธอขึ้นมา เฟรานั่นเองแฟรี่ที่ฉันพามาที่บ้านเมื่อวานนี้
 

 

เธอโดนเบียดจนสลบอยู่ ฉันได้ยินเสียงหัวใจเธอเต้นอยู่เพราะงั้นคงไม่เป็นไรมั้ง
 

 

หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ฉันก็ลงไปที่ชั้นหนึ่ง ฉันหิ้วเฟราที่สลบอยู่ไปด้วย และคาเอเดะก็กำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว
 

 

“อรุณสวัสดิ์ค่ะนายท่าน”
 

 

“อรุณสวัสดิ์ ทำไมเฟราถึงเข้าไปนอนในห้องฉันล่ะ เธอรู้เหตุผลมั้ย?”
 

 

“เอ๋?”
 

 

“งั้นเหรอ เธอคงไม่รู้สินะ”
 

 

ฉันวางเฟราลงบนแพนด้าที่กำลังลอยมาหาฉัน
 

 

เมื่อฉันนั่งลงที่โซฟาคาเอเดะก็เสิร์ฟขนมปังกับกาแฟให้ฉัน
 

 

ช่วงนี้เธอเป็นคนตื่นมาจัดการทุกอย่างก่อนตลอดฉันเลยรู้สึกดีใจ และรู้สึกผิดด้วยที่ปล่อยให้เธอทำงานบ้านคนเดียว
 

 

คาเอเดะก็มานั่งฝั่งตรงข้ามฉัน
 

 

“นายท่านจะอยู่ที่เมืองหลวงถึงเมื่อไหร่คะ?”
 

 

“อืม อาจจะอีกสักอาทิตย์นึง”
 

 

ฉันกัดขนมปังและนึกถึงกำหนดการในอนาคต
 

 

ไม่มีจุดหมายแฮะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะตระเวนไปทั่ว ใจจริงก็อยากไปที่ที่จะพบเจอกับของหายาก
 

 

“ที่นี่ที่ไหนกัน!?”
 

 

จู่ๆเฟราก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาแล้วตะโกนด้วยความตกใจ
 

 

พอเธอเห็นหน้าฉันเธอก็โล่งใจ
 

 

“ใช่แล้ว เฟราได้รับการช่วยเหลือจากนายแห่งเรา”
 

 

“นี่ หยุดเรียกอย่างนั้นสักที ฉันไม่ชอบวิธีเรียกแบบให้เกียรติมากเกินไป”
 

 

“แต่ว่าสาวใช้เผ่าสัตว์ก็เรียกท่านแบบให้เกียรติ”
 

 

“คาเอเดะพูดกับฉันแบบนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่เธอไม่ใช่ พูดกับฉันแบบปกติเถอะ”
 

 

เฟราลงมาดิ้นพรวดพราดที่โต๊ะและหน้าแดง
 

 

“นี่มัน นี่มันจะดีอย่างงั้นเหรอ….ต่อหน้านายแห่งเราช่างน่าอายจริงๆ”
 

 

“อืม ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเป็นไปได้ก็เลิกเรียกว่านายแห่งเราด้วย”
 

 

“เรื่องนั้นไม่ได้หรอก มันเป็นเรื่องไร้สาระที่จะเรียกเผ่าพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ด้วยชื่อ ถ้าเฟราทำอย่างนั้น พ่อแม่และพี่ชาย จะถุยนํ้าลายใส่เฟราแน่ๆ”
 

 

เป็นครอบครัวแบบไหนกันแน่เนี่ย
 

 

เผ่าแฟรี่นี่แปลกจริงๆ
 

 

“นี่ค่ะเฟราซัง”
 

 

“ขอบคุณนะคาเอเดะ”
 

 

คาเอเดะเสริฟขนมปังกับชาให้เฟราด้วย
 

 

ฉันคิดมานานแล้ว แต่คาเอเดะเข้ากับคนอื่นได้ง่ายและรวดเร็ว อาจเป็นเพราะบุคลิกของเธอนั้นสุภาพอ่อนโยน จึงเข้าหาคนอื่นได้ง่าย
 

 

เป็นเรื่องที่ดีที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย
 

 

“ว่าแต่หลังออกจากเมืองหลวงแล้วเราควรไปไหนกันดีคะ?”
 

 

“ถ้าอย่างนั้นเฟราขอแนะนำ หมู่บ้านลับของแฟรี่ เฟราอยากให้เจ้านายไปที่นั่นด้วย”
 

 

หืม หมู่บ้านลับของแฟรี่ น่าสนใจนะ
 

 

คาเอเดะก็สนใจเรื่องนี้รึเปล่านะ
 

 

“หมู่บ้านของเฟราอยู่ในป่ากรีจิท [ グリジット = กุรีจิ๊ตโตะ ] ที่ประเทศเพื่อนบ้านนี่เอง มีดอกไม้กับแฟรี่อาศัยอยู่ที่นั่นนอกจากนี้ยังมีซากปรักหักพังกับวัตถุโบราณที่เจ้านายชอบด้วย ดังนั้นเจ้านายจะต้องสนุกแน่ๆ”
 

 

“ซากปรักหักพัง….แล้วอาหารล่ะ?”
 

 

“แน่นอนว่ามีขนมบางอย่างที่สามารถทานได้แค่ในหมู่บ้านเท่านั้น ที่แนะนำก็คือนํ้าผึ้งที่เป็นสูตรลับของเผ่าแฟรี่ มันอร่อยจริงๆนะ”
 

 

“โย้ชชช ไปกันเถอะ”
 

 

พอได้ยินว่ามีสาเกนํ้าผึ้งฉันก็ตัดสินใจได้ทันที
 

 

สาเกแสนอร่อยที่หาได้ยากสำหรับนักชิม
 

 

และยังมีซากปรักหักพังอีกด้วย เที่ยวได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ
 

 

ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องไปเท่านั้น
 

 

“ก่อนที่จะไปที่หมู่บ้านเฟราขอเตือนเอาไว้ก่อน แฟรี่นั้นเกลียดมนุษย์ พวกเขาอาจโจมตีเจ้านายได้ เพราะงั้นเฟราจะพยายามให้มากที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น”
 

 

“ฉันไม่สนใจว่าจะถูกโจมตีหรอก”
 

 

“ใช่แล้วล่ะคะ เพราะมันคงไม่มีปัญหาสำหรับพวกเรา”
 

 

“ทั้งคู่พูดอะไรน่ะ! อย่าดูถูกเพียงเพราะว่าเป็นเผ่าแฟรี่นะ! นักรบในหมู่บ้านน่ะแข็งแกร่งกว่าเฟราหลายเท่า!”
 

 

เราพยักหน้าให้กับคำพูดของเฟรา
 

 

มันอาจไม่มีปัญหาแต่ทางที่ดีก็ระมัดระวังไว้ก่อน พวกเขาอาจมีสกิลที่ใช้จัดการฉันก็ได้
 

 

อย่างที่เฟราบอก อย่าลดการป้องกันลงจะดีกว่า ต้องระวังเอาไว้
 

 

“วันนี้นายท่านจะทำอะไรดีคะ รับคำขอที่กิลด์รึเปล่า?”
 

 

“ไม่อ่ะ วันนี้ฉันว่าจะหยุด เพราะบรรยากาศนั้น…”
 

 

คาเอเดะยิ้ม “นั้นสินะคะ”
 

 

วันก่อนฉันไปที่กิลด์ และได้รับการต้อนรับที่ดีมาก แม้แต่หัวหน้ากิลด์ยังเข้ามาทักทายฉันด้วยตัวเองแบบว่า “ใครจะไปคิดว่าปาร์ตี้ “มันยูเรียวดัง” ที่เป็นปาร์ตี้แรงค์ B แท้จริงแล้วเป็น แรงค์ S วะฮ่าฮ่าฮ่า !” และอีกมากมาย

 

นักผจญภัยในกิลด์ต่างก็ตะโกนชื่อ”มันยูเรียวดัง” กันรัวๆ
 

 

แถมยังมีคนแปลกหน้ามาขอจับมือกับขอลายเซ็นฉันอีก
 

 

มันอาจไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากเข้าไปที่กิลด์ของเมืองหลวงสักพัก
 

 

อย่างที่เคยบอกไปหลายๆครับฉันไม่อยากทำตัวโดดเด่นมากเกินไป
 

 

มันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ปาร์ตี้ได้รับตำแหน่งผู้กล้า มันจึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ถ้าฉันทำอะไรที่มันแปลกๆและโดดเด่นที่นี่อีกฉันคงไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
 

 

ฉันยังคงนั่งจิบกาแฟต่อไป
 

 


 

 

ทุ่งหญ้าทีก็จากเมืองหลวงไม่กี่กิโลเมตร
 

 

ฉันตัดสินใจฝึกใช้เวทมนตร์เพื่อใช้เวลาให้เกิดประโยชน์
 

 

ฉันมีพลังเวทมนตร์แต่ฉันไม่ได้ใช้เพราะยังไม่ได้ฝึก
 

 

“นํ้า”
 

 

ซูม สายนํ้าทอดยาวไปบนท้องฟ้าแล้วก็หายไป
 

 

“ดิน”
 

 

ฟิ้ว ก้อนหินขนาดใหญ่บินขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วก็หายไป
 

 

“ลม”

 

ซู้มมม เกิดลมกระโชกพัดเอาดินและทรายบ่อยขึ้นไป
 

 

อ๊ะ! กระโปรงคาเอเดะมันกระพือขึ้นไปนิดนึงแฮะ
 

 

“ลม”
 

 

ซู้มมมม รอบนี้กระโปรงพัดไปอีกด้านนึง
 

 

ไม่ได้แฮะลองอีกครั้งดีมั้ยนะ?
 

 

“เอ่อ……น่ะ-นายท่าน!?”
 

 

เดี๋ยวลองอย่างอื่นดูดีกว่า
 

 

อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิ
 

 

ฉันลองใช้เวทมนตร์แต่ทั้งหมดมันก็พุ่งออกไปเป็นเส้นตรง และฉันก็ไม่สามารถควบคุมมันได้
 

 

ฉันไม่สามารถใช้มันในการต่อสู้ได้
 

 

“เวทมนตร์ของนายท่านสุดยอดไปเลยนะคะ ถึงแม้ว่าจะพยายามปรับสภาพและสะกดมันเอาไว้ แต่มันก็ยังคงเป็นเส้นตรงตลอดแถมพลังทำลายของมันก็สูงอย่างน่าเหลือเชื่อ”
 

 

“แต่ว่าฉันสามารถที่จะยิงมันซ้ำๆได้นะ และพลังของมันก็เพอร์เฟค”
 

 

“ในฐานะทาสขอโทษนะคะที่ต้องพูดแบบนี้ แต่เวทมนตร์ของนายท่านอันตรายเกินกว่าจะใช้งานได้ในตอนนี้”
 

 

“นั่นสินะ”
 

 

พลังรุนแรงเกินไป ความแม่นยำตํ่า แถมยังเป็นเส้นตรงอีก
 

 

ถึงอย่างนั้นก็มีข้อดีอยู่บ้าง คือฉันสามารถที่จะยิงเวทมนตร์ได้อย่างไม่จำกัด ใช้คุณสมบัติธาตุได้ทั้งสี่อย่าง และพลังกายล้นเหลือ
 

 

เรียกว่าตัวหายนะเดินได้ดีๆนี่เอง
 

 

นั่นสินะ….ใช้มันไม่ได้จริงๆด้วย
 

 

“แพนด้านี่นุ่มจริงๆ”
 

 

“คิ้ว~”
 

 

เฟรานอนอยู่บนตัวแพนด้า
 

 

สนิทกันแล้วสินะ
 

 

“ใช่ ฉันคิดว่ามันเท่ดีนะถ้าใช้ดาบที่ถูกหุ้มด้วยเปลวไฟ”

 

“ฟังดูดีนะคะ แต่คุณจะทำแบบนั้นได้ยังไง?”
 

 

“ไม่รู้สิ”

 

ไม่มีใครเข้าใจฉันเลย
 

 

ไม่เป็นไร เพราะมันเป็นความโรแมนติกสำหรับผู้ชายด้วยกันเท่านั้นถึงจะเข้าใจ
 

 

ฉันตัดสินใจแล้ว สักวันหนึ่งฉันจะเชี่ยวชาญเวทมนตร์และใช้ดาบแห่งไฟได้อย่างแน่นอน
 

 

“โอ๊ะ!”
 

 

ทันใดนั้นก็ปรากฎตัวอักษรขึ้นมาต่อหน้าฉัน
 

 

《ประกาศ: ดันเจี้ยนเลเวล 3 ที่คุณสร้างได้รับการอัพเกรดเป็นเลเวล 5》
 

 

《ประกาศ: จำนวนชั้นเพิ่มขึ้นเป็น 50 ชั้น》
 

 

《ประกาศ: “ห้องของฉัน” ถูกสร้างขึ้นภายในดันเจี้ยน》
[ マイルーム = My room ]
 

 

เอ๊ะ ห้องของฉัน!?
 

 

แล้วทำไมเลเวลมันถึงเพิ่มขึ้น?
 

 

เกิดอะไรขึ้นตอนที่ฉันปล่อยมันทิ้งเอาไว้ โดยที่ไม่ได้ดูแล
 

 

“มีอะไรเหรอคะนายท่าน”
 

 

“ดันเจี้ยนของฉันเลเวลมันเพิ่มขึ้น”
 

 

“อืม..บางทีอาจเป็นเพราะข่าวลือนั่นนะคะ”
 

 

ดูเหมือนคาเอเดะจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกำหมัดแล้วทุบลงไปบนมือที่แบอยู่ แบบ “อ๋อ”
 

 

ข่าวลืองั้นเหรอ อยากรู้จังอธิบายให้ฟังที
 

 

“ที่จริงมีข่าวลือว่ามีดันเจี้ยนความยากระดับสูงโผล่ขึ้นมาข้างๆเมืองหลวงมาระยะนึงแล้วค่ะ ของที่ตกจากมอนสเตอร์นั้นเป็นของหายากทั้งหมด นักผจญภัยก็เลยเข้าไปสำรวจกัน”
 

 

“บางทีที่เลเวลมันสูงขึ้นเพราะ…”
 

 

“คงมีนักผจญภัยบางส่วนเสียชีวิตข้างในน่ะค่ะ”
 

 

ไม่นะ
 

 

แย่แล้ว นี่มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ
 

 

ยังไงก็ตามฉันก็เป็นนักผจญภัยเช่นกัน ดังนั้นฉันเข้าใจดีว่าการมีดันเจี้ยนใกล้ๆกับเมืองที่ตัวเองอาศัยอยู่มันเป็นเรื่องที่ดี
 

 

ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้ก่อนดีกว่า หรือไม่ก็ขอให้เราไม่ได้ยินข่าวอะไรแบบนี้
 

 

“ว่าแต่ “ห้องของฉัน” มันคืออะไร?”
 

 

“คะ?”
 

 

ตัวหนังสือปรากฎขึ้นในสายตาฉัน
 

 

《เลือก: คุณต้องการเคลื่อนย้ายไปที่ “ห้องของฉัน” หรือไม่? 
ใช่/ไม่ใช่》
 

 

โอ้ ไปจากที่นี่ได้เลยงั้นเหรอ
 

 

ฉันอยากไปเห็นด้วยล่ะนะ
 

 

เก็บข้าวของและคว้ามือคาเอเดะกับเฟราและแพนด้าก็อยู่บนหัวฉัน
 

 

เคลื่อนย้ายไปที่ “ห้องของฉัน” เดี๋ยวนี้!
 

Options

not work with dark mode
Reset