A Warrior Exiled by the Hero and His Lover 26

ตอนที่ 26

งานประมูลผ่านไปแล้ว และกำลังจะสิ้นสุดลง

 

 

“เอาล่ะ ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะสนุกกับงานประมูลในคํ่าคืนนี้ ฉันอยากจะปิดงานประมูลในเร็วๆนี้ แต่ตอนนี้ยังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง ดังนั้นหากท่านใดมีคำขอสำหรับงานในอนาคต ได้โปรดแสดงความคิดเห็นออกมาได้เลย”

 

 

ฉันยกมือแล้วยืนขึ้น

 

 

ไม่เพียงแค่ผู้จัดงานเท่านั้นแต่รวมถึงผู้เข้าร่วมงานด้วย ทุกคนต่างหันเหสายตามาที่ฉัน

 

 

“นี่ไม่ใช่คำขอ แต่ฉันมีสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องการจะขายที่นี่ มันได้รับการประเมินและยืนยันแล้วว่าเป็นของแท้”

 

 

“โอ้ นี่เป็นการประมูลอย่างกระทันหัน ช่างน่าสนใจทีเดียว”

 

 

ฉันได้รับเชิญให้ขึ้นไปบนเวที แล้วฉันก็วางขวดไว้บนโต๊ะที่ปูด้วยผ้า

 

 

ฉันใช้เงินไปเยอะพอสมควรดังนั้นฉันจะเอาคืนตอนนี้แหล่ะ

 

 

ยังไงก็ตามฉันคิดว่าราคามันต้องสูงแน่ แต่มันจะสูงแค่ไหนกัน

 

 

“สิ่งนี้คืออะไรงั้นเหรอครับ?”

 

 

“อีลิกเซอร์”

 

 

“อะไรนะ!?”

 

 

ผู้คนในงานต่างตกตะลึง

 

 

อีลิกเซอร์คือยารักษาอาการบาดเจ็บหรืออาการป่วยได้ทันที ไม่ว่าแขนหรือขาจะขาดหรือแม้แต่หัวใจหยุดเต้น ถ้าได้ดื่มมันทุกอาการที่มีจะหายเป็นปกติ

 

 

มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่สามารถถูกผลิตขึ้นมาใหม่ได้ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน

 

 

“เราขอตรวจสอบเพื่อความแน่ใจได้รึเปล่า?”

 

 

“เชิญเลย”

 

 

ผู้จัดงานนำม้วนสกิลประเมินมาที่นี่ เขาคลี่ม้วนสกิลออกจากนั้นก็ร่ายเวทย์เพื่อเปิดใช้งาน

 

 

“มหัศจรรย์มาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่มันคืออีลิกเซอร์อย่างแน่นอน ได้โปรดแจ้งราคาเริ่มต้นให้เราได้ทราบด้วย”

 

 

“10 ล้าน”

 

 

“เอาล่ะท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอเริ่มประมูลอีลิกเซอร์ราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้าน!!!””

 

 

ตอนนี้ผู้เข้าร่วมประมูลต่างก็เริ่มต้นด้วยความตื่นเต้น และราคาก็เริ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

 

 

100 ล้าน

200 ล้าน

300 ล้าน

500 ล้าน

780 ล้าน

910 ล้าน

1.1

1.2

2.2

 

 

 

“และราคาสุดท้ายจบที่ 2,250 ล้านครับ!”

 

 

ฉันประหลาดใจกับราคามากจนเกือบจะล้มลงไปที่พื้นแหน่ะ

 

 

ฉันรู้แค่ว่าของชิ้นนี้มันมีค่ามาก แต่ไม่คิดว่ามันจะมากถึงขนาดนี้

 

 

ในโลกของชนชั้นสูง อีลิกเซอร์เป็นสมบัติล้ำค่าดั่งเทพเจ้าสำหรับพวกเขา

 

 

พวกเขาไม่ได้ซื้อเพราะจะเอาไปใช้ แต่พวกเขาซื้อเพื่อความสบายใจ

 

 

พวกเขาสามารถที่จะนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มเมื่อมีมันไว้กับตัว

 

 

“ขอขอบคุณสำหรับสินค้าที่ยอดเยี่ยมในตอนท้าย เราจะจ่ายเงินให้คุณในภายหลัง ดังนั้นได้โปรดรอจนกว่างานจะปิดด้วย”

 

 

ฉันลงจากเวทีไป

 

 

 

 

หลังงานประมูลจบลง เราก็ถูกพาไปที่ห้องอื่น

 

 

เป็นห้องรับแขกที่สวยงาม มีเพียงโต๊ะและโซฟาเท่านั้น

 

 

ผู้จัดงานเดินเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มสองคน เขาเข็นรถเข็นที่มีม้วนสกิลปิดผนึก,แฟรี่ และทองคำมาให้

 

 

“ฉันตื่นเต้นกับรายการสินค้าชิ้นสุดท้ายที่มาอย่างกระทันหันนั่นจริงๆ บางครั้งฉันก็ต้องการเซอรไพรส์อะไรแบบนั้นเหมือนกัน เข้าหัวข้อหลักเลยแล้วกัน ฉันขอหักค่าสินค้าที่คุณประมูลได้มาจากยอดขายอีลิกเซอร์นะ”

 

 

“เชิญเลยครับ”

 

 

1,100 ล้านจะถูกหักจาก 2,250 ล้าน ก็จะเหนือ 1,150 ล้าน เดิมทีฉันมีเงิน 1,200 ล้าน เพราะงั้นตอนนี้มันจึงกลายเป็น 2,350 ล้าน

 

 

จำนวนเงินที่มากอย่างไร้สาระจนดูเหมือนจะทำให้ฉันสตั๊นได้ทุกเมื่อ

 

 

“เอาล่ะ นี่เป็นของคุณแล้ว”

 

 

ฉันได้รับกรงที่มีแฟรี่อยู่ข้างใน เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆสูงประมาณ 20 เซนติเมตร

 

 

เธอซุกตัวอยู่ที่มุมหนึ่งจ้องมองฉันอย่างหวาดกลัว

 

 

เธอทำให้ฉันนึกถึงคาเอเดะเมื่อก่อน

 

 

ตอนนี้ฉันเข้าใจหมดแล้ว

 

 

“ทำไมมองฉันแบบนั้นน่ะ!”

 

 

“ไม่มีอะไร”

 

 

ฉันควรทำอย่างไรกับแฟรี่ตัวน้อยนี่ดี

 

 

 

 

เมื่อกลับมาถึงบ้านฉันก็วางกรงแฟรี่ไว้บนโต๊ะ

 

 

เราทำสัญญาทาสแล้วและมีตราประทับที่หน้าอกเหมือนคาเอเดะ

 

 

แก๊ก

 

 

ฉันเปิดประตูกรง

 

 

“ออกมาสิ ฉันไม่ทำร้ายเธอหรอก”

 

 

“มนุษย์เจ้าเล่ห์ เชื่อถือไม่ได้ ฉันไม่ละสายตาหรอก”

 

 

เธอพูดและไม่ยอมออกมาจากกรง

 

 

เธอมีใบหน้าที่น่ารัก เข้ากับผมทวินเทลสีเขียวอ่อน แต่ก็สวมเกราะหนังเหมือนนักผจญภัย มีปีกโปรงใสอยู่ด้านหลัง

 

 

 

และยังมีค้อนขนาดเล็กที่ด้านหลังซึ่งมีขนาดพอดีตัวกับเธอ อาจเป็นเพราะว่าเธอสามารถต่อสู้ได้ด้วย

 

 

“นายท่านชาค่ะ”

 

 

“ขอบใจนะ เอาด้วยมั้ย?”

 

 

“……..อ่าาาาา”

 

 

“คาเอเดะ ชงชาสำหรับสามคนหน่อย”

 

 

คาเอเดะตอบรับกลับจากในครัว

 

 

เธอยังคงระวังตัวมาก ฉันจะไม่เร่งรีบแล้วกัน

 

 

จากนั้นฉันก็นึกบางอย่างได้

 

 

“วันนี้ฉันซื้อคุ๊กกี้มา เอาหน่อยมั้ย?”

 

 

“คุ๊กกี้!?”

 

 

เธอเกือบจะกระโจนออกมาจากกรง แต่ก็คิดทบทวนอย่างรวดเร็วแล้วก็กลับเข้าไปที่มุมเหมือนเดิม

 

 

แตกต่างจากตอนที่ฉันเจอกับคาเอเดะ สภาพภายนอกเธอดูปกติดีทุกอย่าง การแสดงออกก็ต่างกัน

 

 

ระหว่างนี้ฉันก็เอาคุ๊กกี้ใส่เข้าไปในกรง

 

 

เธอหยิบมันแล้วไปที่มุมเดิมอย่างรวดเร็ว

 

 

“ไม่ได้ ฉันจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”

 

 

“อร่อยมั้ย?”

 

 

“ไม่อร่อย!…….ไม่รู้ , เอ๊ะ ใช้ได้เลยหนิ”

 

 

“เข้มงวดจังเลยนะ”

 

 

คาเอเดะวางถ้วยชาแล้วนั่งลงข้างๆ

 

 

แก้วใบเล็กก็ถูกวางไว้ในกรงด้วย

 

 

แฟรี่เป่าชาที่กำลังร้อนและเริ่มจิบมัน

 

 

“ว่าแต่ ทำไมนายท่านถึงประมูลเด็กคนนี้มาล่ะคะ?”

 

 

“ฉันได้ยินเสียง ที่ขอให้ช่วย”

 

 

“เอ๊ะ?”

 

 

แฟรี่แสดงอาการสงสัยออกมา

 

 

“คุณได้ยินคำอธิษฐานของเฟรางั้นเหรอ?”

 

 

“อืม ตอนแรกฉันก็คิดว่าหูแว่วไปเอง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ และมันก็คงรู้สึกแย่ที่จะมองข้าม ดังนั้นฉันก็เลยประมูลเธอมา”

 

 

แฟรี่กระโดดออกมาจากกรงแล้วหมอบลงตรงหน้าฉัน

 

 

“ฉันไม่รู้ว่านั่นคือคุณ เจ้านายของเรา ขออภัยที่ทำตัวหยาบคายนะเจ้าคะ”

 

 

“โอ่ย….เจ้านายอะไรน่ะ”

 

 

“ขออนุญาติถามได้มั้ยเจ้าคะว่าท่านเป็นเผ่าพันธ์อะไร”

 

 

“มนุษย์…….ไม่ใช่สิตอนนี้เป็นริวจินใช่มั้ยนะ?”

 

 

แฟรี่ยกมือสองข้างแล้วตะโกนออกมา “ใช่แล้ว ในที่สุดก็เจอแล้ว!”

 

 

คือว่ารบกวนเบาเสียงลงได้มั้ย มันจะไปรบกวนข้างบ้านเอานะ

 

 

“อ๊ะ นายท่านเป็นครึ่งมังกรงั้นเหรอคะ”

 

 

“เอ๊ะ เธอว่าไงนะ?”

 

 

ฉันตกใจกับการที่คาเอเดะแปลกใจ เธอมีสกิลประเมินไม่ใช่หรือไง

 

 

เธอหลับตาพักนึง หลังจากลืมตาเธอก็พูดว่า “คุณเป็นครึ่งมังกรจริงๆด้วย”

 

 

ปฎิกิริยานี่มันอะไรกัน เป็นครึ่งมังกรมันไม่ดีงั้นเหรอ?

 

 

“นายท่าน คือเผ่าพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ คือครึ่งมังกร เอ่อ หมายถึงมังกรผู้ชาย ใช่มั้ย?”

 

 

“อย่างงั้นหรอ?

 

 

“ทำไมถึงมีปฏิกิริยาแบบนั้นล่ะ?”

 

 

“ก็ฉันไม่เห็นจะรู้สึกอะไรนี่”

 

 

ตอนแรกฉันก็เป็นมนุษย์อยู่ดีๆพอรู้สึกตัวอีกทีมันก็เป็นแบบนี้ซะแล้ว

 

 

ถึงจะบอกฉันว่าฉันเป็นเผ่ามังกรที่ยิ่งใหญ่ก็เถอะ ฉันก็ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรสักนิด

 

 

แฟรี่นั่งตัวตรงและประสานมือไว้กลางหน้าอก

 

 

“ฉันชื่อเฟราจากเผ่าแฟรี่ ฉันขอขอบคุณที่ท่านช่วยเหลือฉันจากนํ้ามือของมนุษย์”

 

 

“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะยกเลิกสัญญาเจ้านาย-ทาสกับเธอ เธอจะได้กลับไปยังที่ที่เธอจากมา”

 

 

“ไม่ต้องหรอกเจ้านายของฉัน พ่อ แม่และพี่ชายของฉันคงจะตำหนิฉันหากฉันกลับไปบ้านเกิดหลังจากพบเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาจะเกลียดฉัน พวกเขาและเพื่อนบ้านคงจะพูดประมาณว่า”ยัยเขียงไร้ประโยชน์เอ๊ย” และฉันก็คงจะถูกปาหินใส่

[ ดิบใช้คำว่า このまな板が = ยัยเขียงนี่ ]

 

 

เขียงนี่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วยเหรอ

 

 

อย่าไปสนใจแล้วกัน

 

 

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่อยากยกเลิกสัญญา

 

 

มันคงยากเกินไปที่จะให้แฟรี่เป็นกำลังรบ

 

 

“บางทีอาจจะคิดว่าพึ่งพาเฟราไม่ได้เพราะเฟราน่ารัก แต่ถึงจะเห็นเป็นแบบนี้แต่เฟราก็เป็นนักรบและสามารถต่อสู้ได้ดีพอสมควรเลยนะ ไว้ใจได้เลย!”

 

 

“นี่ นักรบ เธอเลเวลเท่าไหร่?”

 

 

“30”

 

 

จากร่างกายของเธอก็น่าจะเทียบเท่ามนุษย์เลเวล 20

 

 

เห็นได้ชัดว่าปกติมนุษย์เลเวล 1 ไม่สามารถชนะมังกรเลเวล 1 ได้

 

 

เพราะขนาดที่แตกต่างกันถึงแม้จะเลเวลเท่ากัน แต่ความสามารถก็แตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาด

 

 

อีกอย่างฉันเป็นมังกรที่รูปร่างเป็นมนุษย์

 

 

ฉันไม่เคยเจอมนุษย์ที่เลเวล 300 มาก่อนก็เลยเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่ฉันคิดว่าบางทีความสามารถพื้นฐานอาจใกล้เคียงกัน บางทีน่ะนะ

 

 

“คิ้ว~”

 

 

แพนด้าออกมาจากตราประทับ

 

 

ทันทีที่เขาเห็นเฟราเขาก็เข้าไปเอาตัวถูไถ และดูเหมือนว่าเธอก็สนุกเหมือนกัน

 

 

“เจ้านายของเรานี่คืออะไรงั้นเหรอ?”

 

 

“นี่คือแพนด้าเพื่อนใหม่ของเธอไงล่ะ”

 

 

“คิ้ว~”

 

 

ไม่นานเฟราและแพนด้าก็กลายเป็นเพื่อนกันและบินไปรอบๆบ้าน

 

 

 

 

Options

not work with dark mode
Reset