A Warrior Exiled by the Hero and His Lover 20

ตอนที่ 20

ระยะทางระหว่างไอนาร์คกับเมืองหลวงนั้นค่อนข้างไกล

 

 

มันต้องใช้ระยะเวลาถึง 3 วันในการเดินทาง

 

 

แต่ส่วนหนึ่งเราไม่อยากให้การเดินทางนี้มันเร็วเกินไปด้วย

 

 

เป้าหมายของฉันคือการท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ

 

 

เป็นการเดินทางเพื่อที่จะตามหาบางสิ่งบางอย่างมาเติมเต็มช่องว่างในใจ

 

 

“พายุดอกไม้นํ้าแข็ง!”

 

 

คาเอเดะกำลังร่ายรำกับพัดเหล็กของเธอเพื่อจัดการกับพวกกูล

 

 

ไม่นานก็มีรูปปั้นนํ้าแข็งกูลถูกสร้างขึ้นบนทุ่งหญ้า

 

 

“คิช่า~”

 

 

“คิ้ว~”

 

 

ฉันกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ใต้ร่มไม้โดยมีแพนด้าเป็นหมอน

 

 

เมื่อขนอันนุ่มนิ่มโดนเข้ากับใบหน้าฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกง่วง

 

 

ไม่ใช่ว่าแพนด้าชอบอยู่ใกล้คาเอเดะ  แต่คาเอเดะไม่ต้องการให้แพนด้าอยู่ห่างจากเธอ เหตุผลก็เป็นอย่างนี้แหล่ะนะ

 

 

อีกอย่างโรสุเกะกำลังพักผ่อนอยู่ที่ตราประทับหลังมือขวาของฉัน

 

 

ถ้าคุณทำสัญญากับสัตว์เหล่านี้มันจะเกิดตราประทับขึ้นบนหลังฝ่ามือ

 

 

ฉันสามารถเก็บพวกเขาไว้ในตราเมื่อมีอันตรายและสามารถเรียกออกมาได้ทุกเมื่อ

 

 

คือ มันก็ค่อนข้างน่าประหลาดใจสำหรับสิ่งมีชีวิตที่แสนสะดวกเหล่านี้

 

 

“นายท่าน ฉันจัดการมอนสเตอร์เรียบร้อยแล้วค่ะ”

 

 

“ขอโทษทีนะ”

 

 

“มันเป็นหน้าที่ของฉันในฐานะทาสอยู่แล้วค่ะ”

 

 

หางสีขาวอันใหญ่กำลังส่ายไปมา เธอมองมาที่ฉันอย่างมีความสุข

 

 

“อะไรเหรอ?”

 

 

“ทำไมวันนี้ไม่ลองปล่อยให้ฉันเป็นคนจัดเตรียมอาหารดูล่ะคะ”

 

 

ฟังดูน่าสนใจ

 

 

ถ้าฉันปล่อยให้คาเอเดะทำอาหารให้ มันก็จะสะดวกสำหรับฉันด้วย แน่นอนว่าฉันจะไม่ให้เธอทำคนเดียวหรอก เราจะผลัดกันทำ ถือว่าเป็นการแบ่งเบาภาระด้วย

 

 

แต่เธอจะทำเป็นรึเปล่า?

 

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงไปค่ะ อุราระซังสอนให้ฉันทำอาหารแล้ว ฉันจะเตรียมอาหารอร่อยๆให้นายท่านเอง”

 

 

ดูเหมือนว่าฉันจะทำหน้าสงสัย คาเอเดะจึงตอบกลับเร็วขนาดนี้

 

 

เอาล่ะ งั้นฉันจะเชื่อใจเธอนะ

 

 

เธอจะต้องทำอาหารออกมาได้ดีแน่

 

 

“งั้นก่อนอื่นก็เอาเข้ากบปีศาจบลูฟร๊อกเอาเครื่องในออก ลอกหนังออกแล้วใส่ลงไปในหม้อ จากนั้นก็ใส่สมุนไพรและหญ้ากระโหลก เมื่อมันเปลี่ยนเป็นสีเขียว ก็ให้ใส่แมนดราโกร่าที่มีชีวิตลงในหม้อ รอจนมันเปลี่ยนเป็นสีม่วง”

 

 

“แล้วก็….”

 

 

คาเอเดะเริ่มพูดกับตัวเองหลังจากทำอาหาร ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ หลายๆคนก็ทำกัน

 

 

ปัญหาคือบรรยากาศในการทำอาหารนั้นมันดูค่อนข้างจะ”น่ากลัว”

 

 

ฉันไม่แน่ใจว่าอาหารที่เป็นสีม่วงแบบนั้นมันจะอร่อย

 

 

ยังไงก็เถอะกลิ่นมันหอมน่ารับประทานมาก

 

 

“เสร็จแล้วค่ะ นายท่าน”

 

 

มีของเหลวข้นๆสีม่วงอยู่ในจานที่คาเอเดะยื่นให้ฉัน

 

 

แถมยังมีขากบยื่นออกมาอีก

 

 

มันดูน่ากลัวมากกว่าน่ากินอีกนะเนี่ย

 

 

ถึงอย่างนั้นกลิ่นมันก็น่ากิน

 

 

คาเอเดะกำลังเอามือทาบ-อกเธอกำลังรอให้ฉันพูดคำว่า”อร่อย”อยู่

 

 

มันขี้โกงนะ ถึงแม้ว่ามันจะรสชาติแย่ แต่มันก็มีเพียงคำเดียวให้ฉันพูดออกมา ก็ในเมื่อเธอจ้องฉันซะตาโตขนาดนั้น

 

 

จากนั้นฉันก็ตักมันเข้าปาก

 

 

“อร่อย!?…”

 

 

“นายท่าน!!!”

 

 

“เดี๋ยว! อย่าพึ่งกระโดดใส่ฉัน ฉันกำลังกินอยู่”

 

 

“นายท่าน นายท่าน นายท่านนนนนน”

 

 

“ใจเย็นๆก่อนสิ”

 

 

ขณะที่คาเอเดะเอาตัวมาถูไถฉัน ฉันก็กำลังกินอย่างสับสน

 

 

อาหารนี้มันลึกลับจริงๆ

 

 

รูปลักษณ์กับรสชาติมันคนละอย่างกันเลยนะเนี่ย

 

 

ถ้าหากหลับตากินล่ะก็มันก็อร่อยดีนะ

 

 

ถ้าเป็นแบบนี้ในอนาคตก็คงปล่อยให้เธอทำอาหารได้

 

 

ฉันวางจานแล้วลูบหัวคาเอเดะ

 

 

หูของเธอลู่ลง

 

 

ที่ไอนาร์คฉันต้องคอยดูแลมาเรียและคนอื่นๆแล้วก็กลับห้องนอน เธอคงจะเหงามาหลายวันแล้วสินะ

 

 

“ฉันจะทำเต็มที่เพื่อนายท่าน”

 

 

“ฉันมีความสุขนะที่ได้ยินแบบนั้น แต่อย่าทำเกินตัวล่ะ”

 

 

“ฮายฮ่านฮ่ะ ใฮฮ้าย”

[ นายท่านน่ะ ใจร้าย ]

 

 

เธอกดหน้าลงกับท้องฉันแล้วตะโกนออกมา

 

 

หางที่ใหญ่และนุ่มฟูกำลังส่ายไปมา

 

 

หางของเธอฉันไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน

 

 

ลองจับดูหน่อยดีมั้ยนะ? ฉันเป็นเจ้านายของเธอหนิ

 

 

“ฮิ๊ย้าา!?”

 

 

โห นุ่มมากมันแตกต่างกับของแพนด้า นี่มันอาจจะทำให้นิสัยเสียได้เลยนะเนี่ย

 

 

“อื้มมม.~”

 

 

ฉันรู้สึกประหลาดใจกับเสียงที่สั่นเครือของเธอ

 

 

นี่มันไม่ดีแล้ว ดูเหมือนว่าจะทำเกินไปหน่อย

 

 

“นายท่าน…”

 

 

สาวสวยที่มีผมสีขาวและดวงตาที่ชุ่มชื่นของเธอ

 

 

ผมอันนุ่มลื่นของเธอสไลด์ออกจากไหล่ของเธออย่างช้าๆ มันทำให้ฉันรู้สึกถึงแรงดึงดูดทางเพศ เพียงแค่มองไปที่ลำคอเปลือยเปล่าขาวๆของเธอ

 

 

ฉันจัดการกับความต้องการที่ฉันพยายามเอื้อมมือออกไป

 

 

สัญชาตญาณของฉันมันเริ่มต่อสู้กับภายในหัวของฉัน

 

 

มังกรแดงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหาย กับนักผจญภัยตัวเล็กๆที่มีเพียงท่อนไม้กับโล่ไม้

 

 

ไม่มีหนทางที่จะชนะการต่อสู้นี้ได้เลย

 

 

หลังจากการต่อสู้อันดุเดือด ในที่สุดเหตุผลก็เอาชนะสัญชาตญาณได้

 

 

มังกรร่วงลงไปกองกับพื้น การต่อสู้นี่เกือบจะไม่ชนะแล้วเชียว

 

 

“ฉันอยากกินอีก”

 

 

“จริงเหรอคะ!!!”

 

 

คาเอเดะแสดงออกอย่างร่าเริงแล้วลุกขึ้น

 

 

อันตรายจริงๆถึงครั้งนี้ฉันจะเอาชนะมาได้ แต่ครั้งหน้าฉันอาจจะแพ้ก็ได้

 

 

เธอสวยมากจนฉันตกตะลึง

 

 

ยังไงก็ตามฉันลังเลที่จะแตะต้องเธอ

 

 

เพียงเพราะฉันยังเห็นเงาของลิซ่าอยู่

 

 

และฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องดีที่จะทำโดยใช้สัญญาเจ้านาย-ทาส

 

 

ฉันไม่แน่ใจว่าสัญญาส่งผลกับจิตใจของทาสมากแค่ไหน

 

 

มันอาจมีหรือไม่มีเลยก็ได้ วิธีที่ดีที่สุดคือไปถามกับพ่อค้าทาส แต่คิดดูแล้วฉันคงไม่ถาม

 

 

ฉันจะไม่ทำอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะยืนยันได้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับฉัน

 

 

ไม่จนกว่าฉันจะทำใจได้

 

 

“นายท่าน”

 

 

“หืม..?”

 

 

ฉันไม่แน่ใจว่ากลิ่นอาหารดึงดูดพวกมันรึเปล่าแต่ฉันเห็นออร์คกลุ่มหนึ่งกำลังตรงเข้ามา

 

 

ฉันสงสัยว่าแถวนี้มีรังของออร์ครึเปล่า

 

 

มันน่ารำคาญที่จะต้องจัดการกับพวกมัน หรือฉันควรจะให้สัตว์เลี้ยงของฉันจัดการแทน?

 

 

“โรสุเกะ จัดการพวกมันซะ!”

 

 

ตราประทับบนหลังมือขวาส่องแสงจากนั้นโรสุเกะก็ออกมา

 

 

สิ่งมีชีวิตยาวสองเมตรปรากฏตัวออกมาพร้อมกับลำตัวที่เป็นใบมีด

พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง

 

 

ได้ยินเสียงออร์คกรีดร้องจากระยะไกล

 

 

โรสุเกะโจมตีกลุ่มออร์คด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว ชั่วพริบตาเขาก็จัดการออร์คจนหมด

 

 

ความแข็งแกร่งนั้นมันเป็นเรื่องปกติของสายพันธ์นั้นหรือเป็นเพราะเลือด,พลังเวทย์หรืออาชีพของฉันกัน?

 

 

ผู้เชี่ยวชาญการฝึกสัตว์ มีความสามารถพิเศษในการเสริมพลังให้กับมอนสเตอร์ที่เขาใช้ และฉันคิดว่าสถานการณ์นี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

 

 

และดูเหมือนว่าสัตว์เลี้ยงภายในครอบครัวจะนับว่าเป็นมอนสเตอร์เหมือนกัน

 

 

ออร์คถูกกำจัดภายในไม่กี่นาที

 

 

 

 

 

วันที่สามเราออกเดินทางกันต่อเพื่อที่จะไปยังเมืองหลวง

 

 

เราเริ่มเดินผ่านกลุ่มนักผจญภัย พวกพ่อค้าแม่ค้ามากขึ้นเรื่อยๆ และเราสามารถเห็นสิ่งที่ดูเหมือนอาคารที่อยู่ไกลๆได้

 

 

“นั่นเมืองหลวงใช่มั้ยคะ มันใหญ่มาก!”

 

 

“เพราะว่าอารุมันเป็นประเทศที่ใหญ่สมกับที่เป็นเมืองหลวง และจำนวนประชากรที่หนาแน่น สิ่งของที่ถูกนำเข้ามามีความหลากหลายและอุดมสมบูรณ์”

 

 

มีกำแพงหินชั้นนอกล้อมรอบเมือง

 

 

ฉันเคยมาแล้วหลายครั้ง แต่มันเป็นเมืองที่ใหญ่มากจนฉันสำรวจไม่ครบ

 

 

มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและร้านอาหารเยอะแยะที่คอยให้บริการอาหารอร่อยและของหายาก

 

 

มีนักผจญภัยที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่มีที่ใดที่จะเหมาะไปกว่าที่นี่แล้วในการสร้างชื่อเสียงของตัวเองในประเทศนี้

 

 

ส่วนตัวฉัน เพราะฉันไม่ได้อยากเป็นคนดังเพราะงั้นฉันจึงไม่สนใจ

 

 

“ว่าแต่นายท่านจะต้องนำจดหมายไปให้กับใครงั้นเหรอคะ”

 

 

“ฉันคิดว่าเขาชื่อ โจนาธาน ร็อคเบล เขาเป็นคนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งและดูเหมือนว่าจะมีชื่อเสียงมากในเมืองหลวง”

[ ジョナサン・ロックベル = โจนาซาน ร๊กคึเบรึ ]

 

 

“พ่อค้าที่รํ่ารวย ทำไมต้องเป็นคนนั้นล่ะคะ?”

 

 

ฉันก็ไม่รู้เพราะงั้นฉันก็เลยไม่ได้ตอบ

 

 

ท่านเคานต์เป็นสุภาพบุรุษที่มีบุคลิกอ่อนโยน เมื่อพูดถึงบุคคลที่เขาสนิทสนมด้วยโจนาธานคนนี้ก็อาจไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร

 

 

ฉันไม่เคยคิดว่าคนที่มีธุรกิจขนาดใหญ่จะมีภาพลักษณ์ที่ดีสักเท่าไหร่

 

 

พวกนั้นเต็มไปด้วยเงินสกปรก ทัศนะคติที่แย่ และชอบดูถูกนักผจญภัย

 

 

ฉันได้ยินว่าพวกนั้นชอบทำสิ่งที่น่ารังเกียจมากมายเบื้องหลัง

 

 

ฉันหวังว่าเขาจะไม่ใช่คนแบบนั้น

 

 

“โว้วววววว!”

 

 

ฉันได้ยินเสียงตะโกนจากที่ไหนบางที่

 

 

เมื่อมองไปข้างหน้าก็มีรถม้าคันใหญ่วิ่งออกมาจากเมืองอย่างรวดเร็ว

 

 

 

เซราท๊อปซึ่งเป็นสายพันธ์ย่อยของเผ่าพันธ์มังกรลำตัวมันสูงถึง 3 เมตร กำลังลากรถม้าอยู่

 

 

โดยปกติมันเป็นสัตว์ที่เงียบสงบอย่างเหลือเชื่อ แต่เมื่อมันตื่นตระหนกใครก็เข้าใกล้มันไม่ได้

 

 

อาจมีบางอย่างที่ไปรบกวนมันเลยทำให้มันวิ่ง ฉันเอาตัวเองไปขวางทางที่เซราท๊อปกำลังวิ่งอยู่

 

 

“นายท่านอย่านะคะ”

 

 

“คาเอเดะเธออยู่ตรงนั้นแหล่ะ”

 

 

“ค่ะ”

 

 

ร่างที่ใหญ่ยักษ์ของมันวิ่งเข้าใส่ฉัน ฉันยกมือซ้ายขึ้นมาข้างหน้าแล้วแตะที่ปลายจมูกของมัน

 

 

ซู่มมม

 

 

เสียงกระทบของอากาศและขาหลังของมันก็ลอยขึ้นจากพื้นจากการถูกหยุดกระทันกัน

 

 

ในขณะเดียวกันรถม้าที่ด้านหลังก็ลอยขึ้นจากพื้นเช่นกัน ราวกับว่าเวลาได้ถูกหยุดลงในชั่วพริบตานึง

 

 

ตุบ,ตึ่ก,อั่ก

 

 

ขาหลังของมันหล่นลงพื้นพร้อมกับรถม้าและคนขับก็ตกลงมาจากที่นั่งลงมาอยู่บนพื้น

 

 

“ฟู่ฟู่….”

 

 

“อืม อืม เด็กดีๆ”

 

 

ฉันลูบจมูกเซราท๊อปที่พ่นลมหายใจฟู่ๆและเงียบสงบ

 

 

ทันใดนั้นฉันก็หันไปมองรอบๆและเห็นชาวบ้านหลายคนอ้าปากค้าง

 

 

 

 

Options

not work with dark mode
Reset