A Warrior Exiled by the Hero and His Lover 19

ตอนที่ 19

ฉันกำลังประหลาดใจกับสิ่งที่เห็นในลันตัดต้า

 

 

ดันเจี้ยนที่เคยตั้งอยู่ที่นี่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์

 

 

เหลือแต่รูลึกขนาดใหญ่

 

 

“มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันวะ!?’

 

 

บางทีชาวเมืองอาจจะคุ้นเคยกับมันแล้ว พวกนั้นก็เลยใช้ชีวิตกันอย่างปกติ

 

 

“ไม่เป็นไรใช่มั้ย เซอิน?’

 

 

“อย่ามาแตะต้องตัวกูนะเว้ย อีเวรนี่!”

[ ขอใช้คำหยาบๆหน่อยนะเพื่อให้เข้าถึงอารมณ์ ]

 

 

“อ๊าาา!!!!”

 

 

ฉันสะบัดมือโซอาระออกไปจากตัว

 

 

ความโกรธที่เหมือนกับภูเขาไฟปะทุอยู่ภายในอกพร้อมที่จะระเบิดได้ตลอดเวลา ฉันลงจากหลังม้าแล้วบีบคอเธอ

 

 

“อ่ะ…อึก….เ.ซ..อิ..น”

 

 

“จะเข้ามาขวางทำไมห๊ะ?”

 

 

“หยุดนะเซอิน นายกำลังจะฆ่าเธอนะ!”

 

 

“ชิ!”

 

 

ฉันเดาะลิ้น และเอามือออกจากคอโซอาระ

 

 

มีสายตาดูหมิ่นมากมายจากรอบข้าง

 

 

อยู่ที่นี่ต่อไปคงไม่ดีแน่ ถ้าพวกชาวบ้านมันรู้ว่าฉันเป็นผู้กล้าล่ะก็

 

 

ชื่อเสียงของฉันคงย่อยยับก่อนที่จะได้ประกาศสู่สาธารณชนแน่

 

 

ฉันต้องเป็นคนที่เก่งกาจและน่ายกย่อง

 

 

คงจะมาสะดุดที่นี่ไม่ได้

 

 

“โซอาระเธอยังมีสติอยู่รึเปล่า?”

 

 

“ฉัน…แค่เวียนหัวนิดหน่อย”

 

 

“เซอิน นายไม่ควรทำกับเพื่อนแบบนี้นะ!”

 

 

ทั้งสามคนเริ่มแสดงอาการต่อต้านฉัน

 

 

แม้ว่านัยน์ตาแห่งการล่อลวงจะยังทำงานอยู่ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกที่ถูกกระทำเกินกำลังได้

 

 

ฉันต้องใช้งานมันที่นี่อีกครั้ง

 

 

ฉันใช้พลังของสกิลมองเข้าไปในตาของทั้งสามคนอีกครั้ง

 

 

“ฮึก!”

 

 

“อ๊ะ!

 

 

“อื้ม!”

 

 

ผลของสกิลทำงานทันทีส่งผลให้พวกเธอแสดงอาการมีความสุขออกมา เท่านี้พวกนี้ก็จะไม่มีวันทรยศฉัน ยัยพวกนี้มันก็แค่เบี้ยที่ใช้แล้วทิ้งในสักวันหนึ่ง แต่ตอนนี้ฉันยังต้องการพวกมันอยู่

 

 

“ไปกันได้แล้ว”

 

 

“””ค่ะ”””

 

 

เราออกจากลันตัตต้าทันที

 

 

 

 

 

 

[ จุดเริ่มต้นหมายเหตุ ]

 

 

 

หลังออกจากเมืองพวกเราก็หาที่ประชุมกัน

 

 

หัวข้อก็คือจะดำเนินการตามแผนเดิมหรือจะเดินทางกลับประเทศ

 

 

ในฐานะผู้กล้าฉันคือไพ่ตายของทุกประเทศ แต่โดยพื้นฐานแล้วบ้านเกิดของฉันคือเมืองบารุเซย์

[ バルセイ = บารุเซย์,บาร์เซย์ อาจเปลี่ยนชื่อเรียกในภายหลังเพื่อความเข้าใจ ]

 

 

ถึงสุดท้ายแล้วฉันจะเดินทางมาที่ดินแดนอารุมันในฐานะฑูตก็เถอะ

[ アルマン = อารุมัน,อาร์มัน อาจเปลี่ยนชื่อเรียกในภายหลังเพื่อความเข้าใจ ]

 

 

ยังไงก็ตามประเทศนี้เป็นดินแดนที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผจญภัย

 

 

มันใกล้เคียงกับประเทศของปีศาจและมีดันเจี้ยนปีศาจที่แข็งแกร่ง ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาที่จะไม่ได้ต่อสู้

 

 

ที่สำคัญมันได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีแต่สาวงาม

 

 

จะกลับบ้านไปอย่างเดิมงั้นเหรอ?

 

 

อีกอย่างฉันยังหวังไว้สูงอีกด้วยสำหรับราชวงศ์บารุเซย์

 

 

เมื่อฉันปราบราชาปีศาจได้ ตำแหน่งและอาณาเขตจะต้องเป็นไปตามสัญญาที่กำหนดไว้ บางที่ฉันอาจจะได้ครอบครองเจ้าหญิงด้วย

 

 

จะมาพลาดที่นี่ไม่ได้

 

 

ฉันจะเอามันมาให้หมด

 

 

ใครที่ขวางทาง ฉันจะฆ่ามันซะ

 

 

“เซอิน ฉันว่าเราแยกกันกลับประเทศจะดีกว่ามั้ย”

 

 

“เธอว่ายังไงนะ?”

 

 

“แผนของพวกเรามันตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่าเราต้องได้ครอบครองดาบศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนนี้มันพังไม่เป็นท่า ฉันคิดว่าถ้าจะดันทุรังไปต่อมันจะเป็นอันตรายเอาได้ ฉันว่าเราควรจะต้องปรับเปลี่ยนแผนกันใหม่”

 

 

ลิซ่าบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้

 

 

มันก็จริง

 

 

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องกลับไปก้มหัวให้ราชาเพื่อบอกว่าฉันล้มเหลว

 

 

อย่ามาล้อเล่นนะโว้ย ทำไมฉันจะต้องเจอกับความอัปยศแบบนั้นด้วย

 

 

มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่อื่นอีกหรือเปล่า ถ้ามีก็ต้องรีบไปเอามันมา

 

 

โชคดีที่ตำแหน่งที่ใกล้ที่สุดอยู่ฝั่งตรงข้ามอารุมัน

 

 

 

ถึงจะผิดพลาดนิดหน่อยแต่ยังพอมีหนทางเอามันกลับมาได้

 

 

ทีนี้เราจะได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่

 

 

“เอาอย่างนี้ ข้างหน้ามีเมืองใหญ่ที่ชื่อไอนาร์ค มันต้องมีซากปรักหักพังขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้สำรวจแน่ ดังนั้นเรามาหาสมบัติที่ยิ่งใหญ่และเปิดตัวของพวกเรากันเถอะ”

 

 

“เป็นความคิดที่ดี ถ้าหากนายสามารถ สำรวจมันได้นายจะต้องได้รับความสนใจอย่างมากแน่ๆ”

 

 

ทั้งสามต่างยอมรับข้อเสนอนี้

 

 

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการเคลื่อนไหวของคนที่มันขโมยดาบศักดิ์สิทธิ์ไป

 

 

มันคงไม่บังเอิญเกิดเรื่องแบบเดียวกันกับตอนนั้นหรอกนะ

 

 

ฉันไม่คิดว่าจะมีใครสำรวจซากปรักหักพังได้เพราะมันต้องได้รับอนุญาติจากลอร์ดก่อน

 

 

แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ฉันควรรีบไปที่ไอนาร์คทันทีเลยรึเปล่า?

 

 

ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจจริงๆ

 

 

ฉันไม่มีเวลาให้พักนอนกกสาวๆเลย

 

 

[ สิ้นสุดหมายเหตุ ]

 

 

 

 

 

“ท่านพูดว่าอะไรนะ”

 

 

“ซากปรักหักพังมันถูกสำรวจไปแล้ว”

 

 

ฉันไม่เข้าใจคำพูดของเคานต์โรอานเลย สมองของฉันมันว่างเปล่าไปหมด

 

 

ฉันได้ยินมาว่ามีนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งมาที่เมืองและปราบกลุ่มปีศาจไปแล้ว

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังสำรวจซากปรักหักพังใต้ดินที่ยังไม่เคยมีใครสำรวจได้ภายในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย พบโบราณวัตถุเป็นภูเขา และกลับขึ้นมา

 

 

ชาวเมืองทั้งหมดต่างก็ยกย่องนักผจญภัยลึกลับนี้

 

 

“ท่านพ่ออยู่นี่เองเหรอคะ”

 

 

“มาเรีย”

 

 

มีสาวสวยเดินเข้ามาในห้อง

 

 

ทุกครั้งที่เธอเดินหน้าอกอันอวบอิ่มของเธอมันก็สะเทือนเบาๆ และกระตุ้นความอยากในตัวฉัน

 

 

อย่างน้อยฉันก็ต้องได้ผู้หญิงคนนี้

 

 

ฉันมองไปที่ผู้หญิงคนนี้ด้วยนัยน์ตาแห่งการล่อลวง

 

 

《คำเตือน: ดวงตาปีศาจใช้ไม่ได้กับผู้ที่มีเลเวลที่สูงกว่าผู้ถือครอง 》

 

 

นัยน์ตาของฉัน……ใช้ไม่ได้?

 

 

เงื่อนไขเดียวสำหรับการใช้ดวงตาปีศาจของฉันคือเป้าหมายต้องมีเลเวลที่ต่ำกว่าของฉัน

 

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ฉันไม่สามารถเอาผู้หญิงอยู่ข้างหน้าฉันได้

 

 

ฉันกัดฟันด้วยความโกรธ

 

 

“เซอินคุง เธอว่าเธอได้รับเลือกให้เป็นผู้กล้าสินะ แต่ฉันอยากให้คำแนะนำบางอย่างแก่เธอในฐานะผู้ที่อาวุโสกว่า บางครั้งพระเจ้าก็ทรงรักผู้ที่ไม่ไม่ถูกคาดหวัง”

 

 

“ท่านจะบอกว่าพระเจ้ารักไอ้นักผจญภัยนั่นมากกว่าผมที่ซึ่งเป็นผู้กล้าอย่างนั้นเหรอ?”

 

 

“ฉันก็ไม่รู้ แต่เขานั้นมีทั้งโชคและความแข็งแกร่ง มันทำให้หัวใจของฉันคิดเช่นนั้นแหล่ะ”

 

 

แกตั้งใจจะเทศนาฉันคนนี้งั้นเหรอ

 

 

ฉันจะฆ่าแกตอนนี้เลยดีมั้ย?

 

 

“รังสีอำมหิต”

 

 

ทันใดนั้นปลายดาบแหลมคมก็ชี้มาที่หน้าฉัน

 

 

ฉันไม่รู้ด้วยซํ้าว่าเธอดึงมันออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่

 

 

ฉันเป็นถึงผู้กล้าเลเวล 63 เลยนะเว้ย

 

 

สาวใช้คนนี้มันอะไรกัน!?

 

 

สถานการณ์แบบนี้มันอันตรายเกินไป จะดีกว่าถ้าไม่ทำอะไรเกินเลย

 

 

“ขอบคุณที่เล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟัง ขอโทษด้วย”

 

 

“อืม”

 

 

ฉันออกจากคฤหาสน์ของเคานต์โรอาน

 

 

“ทำไมกันวะ ทำไม ทำไมอะไรมันก็ผิดพลาดไปหมด กูเป็นผู้กล้านะโว้ย พวกมึงต้องบูชาเทิดทูนกูสิ กูจะฆ่าพวกมึงให้หมด!!!!”

 

 

เมืองออกจากเมืองอันก็ทำลายก้อนหินและต้นไม้ทุกต้นที่เห็นเพื่อระบายอารมณ์โกรธ

 

 

ทั้งสามคนมองมาที่ฉันด้วยความกังวลจากระยะไกล ทั้งสามรู้ว่าหากเข้ามาใกล้ฉันตอนนี้ จะต้องโดนกระทืบอย่างแน่นอน

 

 

สีหน้าพวกนั้นมันอะไรกันวะ

 

 

ฉันเหมือนเด็กที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้

 

 

ยัยพวกนั้นเป็นแค่ตุ๊กตาแท้ๆพวกแกก็แค่ทำตามที่ฉันพูดซะ!

 

 

ฉันสงบสติอารมณ์อีกครั้งด้วยการระงับความโกรธที่พวยพุ่งออกมา

 

 

“เซอิน เรากลับประเทศกันเถอะนะ”

 

 

“แล้วเธอจะทำยังไงกับดาบศักดิ์สิทธิ์?

 

 

“ดาบ….เอ่อ…”

 

 

“ฉันจะต้องได้ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มสุดท้ายที่อารุมัน แผนยังเหมือนเดิมถ้าเธออยากกลับประเทศก็ไปเอามันมาซะ”

 

 

นักผจญภัยนั้นมีดาบศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว หมายความว่ามันไม่จำเป็นต้องได้ถึงสองเล่ม

 

 

ถ้าเป็นแบบนี้หมายความว่าฉันต้องไดดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มที่สองอย่างแน่นอน

 

 

เมื่อนั้นฉันจะกลับมาเป็นคนที่มีพลังอำนาจและชื่อเสียงอีกครั้ง

 

 

ใช่ ฉันจะกลับไปที่หมู่บ้านเมื่อได้ดาบแล้ว

 

 

ฉันจะกลับไปดูหน้าไอ้โทรุที่ขี้ขลาดและโง่เขลา

 

 

 

ฉันจะกลับไปเตือนมันว่าฉันนี่แหล่ะที่เป็นชู้กับภรรยาในอนาคตของแก มันจะต้องมองฉันด้วยความอิจฉาริษยาอย่างที่สุด

 

 

ฉันจะกอดจูบลิซ่าต่อหน้ามัน แน่นอนเนอิและโซอาระด้วย

 

 

ฮ่าฮ่าฮ่า จินตนาการถึงดวงตามันที่เต็มไปด้วยความริษยาและความโกรธได้เลย

 

 

อา แต่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว!

 

 

“เฮ้ ลิซ่า เธอคิดยังไงกับโทรุ”

 

 

“หยุดเลย มันเป็นเรื่องผิดพลาดที่ไปคบกับเขาอยู่แล้ว”

 

 

“ใช่แล้ว”

 

 

เธอลูบแหวนของฉันด้วยใบหน้าที่มีความสุข

 

 

 

 

ปล.1 ไอ้จุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุดหมายเหตุนี้แปลจากญี่ปุ่นนะ ENG มันแปลข้ามหมดเลยแม้แต่ใน novelupdate โคตรห่วย

 

ปล.2 ฉันอยากจะฆ่านายจริงๆ เซอิน แบบตัดหรรมนายแล้วก็เอาไปยัดปากนายก่อนที่จะตัดคอนายทิ้งอ่ะ

Options

not work with dark mode
Reset