7 วันแล้วที่เรามาถึงเมืองไอนาร์ค
“โอ้ เช้าแล้วเหรอ”
หลังจากมองออกไปที่หน้าต่างฉันก็หาวออกมาและยืดตัวบิดขี้เกียจ
ดูเหมือนว่าวันนี้ท้องฟ้าจะสดใส
เหมาะสำหรับการออกเดินทาง
เราได้สำรวจซากปรักหักพังและล่ามอนสเตอร์ไปมากในสองสามวันมานี้
เพราะเหตุนี้มาเรียตอนนี้ก็เลเวลปาเข้าไป 100 แล้ว
และอุราระก็เลเวล 80 ด้วย ตอนนี้ทั้งคู่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้กล้าเลยทีเดียว
คงไม่มีใครเก่งพอที่จะเอาชนะพวกเธอได้
ฉันลุกขึ้นแต่งตัวและออกจากห้องไป
“อรุณสวัสดิ์ค่ะนายท่าน”
“อรุณสวัสดิ์”
คาเอเดะรอฉันอยู่ที่ทางเดิน แพนด้าก็ด้วย
เจ้านี่เป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน แต่เขาก็เชื่อฟังคาเอเดะด้วย
สรุปว่าเขาเป็นตัวผู้รึเปล่า? ไม่รู้สิถ้าดูแต่จากที่เห็นภายนอกมันไม่มีอะไรบ่งบอกเพศของเขาเลย
แต่คงไม่สำคัญหรอก เพราะสภาพเขาเหมือนกับเบาะและสัตว์เลี้ยงในเวลาเดียวกัน
ฉันลงไปที่ชั้น 1 ของคฤหาสน์และตรงไปที่ห้องอาหาร
มาเรียนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ โทรุซามะ”
“อรุณสวัสดิ์ครับ ดูเหมือนว่าคุณจะเริ่มเคยชินกับมันแล้วสินะ”
“ค่ะ มันแปลกมากเลย ฉันไม่เคยพกมันติดตัวตลอดเวลาแบบนี้มาก่อน”
มีดาบอยู่ที่เอวของเธอ
ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มเป็นส่วนหนึ่งของเธอในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา และเธอมักจะพกมันไปไหนมาไหนเสมอ
นอกจากนี้การแต่งกายของเธอทั้งเสื้อและกางเกงเป็นแบบที่ทำให้สะดวกและพร้อมในการต่อสู้ได้ตลอดเวลา
ถึงอย่างนั้นความงดงามของเธอก็ไม่ได้ถูกชุดพวกนั้นทำให้ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว
มันดูมีชีวิตชีวาและน่าดึงดูดมากกว่าเมื่อก่อนด้วยซํ้า
อาหารถูกนำมาวางไว้ที่โต๊ะและฉันก็กำลังจะจัดการกับมัน
“วันนี้คุณจะออกเดินทางแล้วเหรอคะ?”
“ผมไม่มีปัญหากับการอยู่ที่เมืองนี้ต่อ แต่มันไม่มีอะไรให้ผมทำแล้วล่ะ อีกอย่างคือผมสนใจกับการประมูลสินค้าที่เมืองหลวงด้วย แล้วผมก็มีจดหมายจากท่านเคานต์อีกด้วย”
“นั่นสินะคะ”
เห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของมาเรียก็ทำให้ฉันเศร้าไปด้วย
เราได้เป็นเพื่อนกัน แต่ฉันก็ยังอยากจะท่องโลกให้มากกว่านี้
ช่องว่างในใจฉันมันยังคงมีอยู่
เพราะงั้นฉันถึงต้องก้าวต่อไป เพื่อที่จะข้ามพ้นเหตุการณ์เหล่านั้นฉันต้องไปเยียวยาจิตใจสักพัก
“ฉันอิจฉาคาเอเดะซังนะคะ”
“ฉันเหรอคะ?”
“คุณสามารถที่จะผจญภัยกับโทรุซามะได้ ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากออกจากบ้านไปท่องโลก ฉันคิดว่ามันน่าจะสนุกแน่ๆ”
“มาเรียซัง…”
อุราระถอนหายใจแล้วเอามือแตะไหล่มาเรีย ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้มเล็กน้อย
แม้ไม่ได้พูดอะไรแต่เพียงแค่มองตากันทั้งสองก็สามารถเข้าใจกันได้
เธอเป็นลูกสาวของขุนนางและในวันหนึ่งเธอจะต้องแต่งงานไป
เธอไม่มีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตของตัวเอง เป็นเพียงนกน้อยในกรงที่ถูกปกป้องไว้ จนกว่าวันนั้นจะมาถึง
เป็นเหมือนพรและคำสาป เป็นธรรมดาที่เธอจะอยากออกจากกรงไปผจญภัย
ฉันภาวนาว่าขอให้คู่ชีวิตของเธอเป็นคนที่ดีนะ
“ขอบคุณที่ดูแลผมมาจนถึงวันนี้นะครับ”
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ ที่เธอช่วยชีวิตลูกสาวฉันเอาไว้”
ที่ทางเข้าคฤหาสน์มีมาเรียและอุราระด้วย
มาเรียดูเศร้า
“อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิครับ ยังไงผมก็จะกลับมาเยี่ยมในสักวันหนึ่ง”
“แต่โทรุซามะกับคาเอเดะซังกำลังจะจากไป ฉันก็ต้องเศร้าอยู่แล้วหนิคะ”
มันเจ็บปวดใจที่เห็นเธอเป็นแบบนี้และบรรยากาศรอบตัวเธอเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้
คาเอเดะช่วยทำอะไรหน่อยสิ
“มาเรียซัง”
“!?”
คาเอเดะเดินเข้าไปกอดมาเรีย
“นายท่านของฉันไม่เคยโกหก ดังนั้นได้โปรดเชื่อเราเถอะค่ะ”
“คุณจะมาหาฉันอีกใช่มั้ย?”
“แน่นอนผมสัญญา”
“ฉันยังอิจฉาคุณอยู่นะคาเอเดะซัง ฟุฟุ”
ฉันก้มหัวคำนับท่านเคานต์อีกครั้ง
เขาพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
“เอาล่ะ ได้เวลาไปกันแล้ว คาเอเดะ”
“ค่ะ”
เราสองคนออกจากเมืองไปด้วยกัน
เดินทางผ่านทุ่งหญ้าอันสงบเงียบ
“อะไรอยู่ในจดหมายกันนะ”
ฉันหยิบซองจดหมายออกจากกระเป๋าแล้วสงสัย
ท่านเคานท์โรอานมอบจดหมายให้ฉันโดยที่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไร เขาบอกแค่ว่าต้องนำมันไปให้คนคนหนึ่งดู
ฉันรู้แค่ว่ามันเป็นรางวัลที่ฉันช่วยมาเรียไว้ แต่นอกนั้นฉันก็ไม่ได้รับอะไรมา
ฉันคิดว่าเขาอาจจะให้เงินฉันโดยที่ฉันไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้
ฉันไม่เข้าใจขุนนางเลยจริงๆ
“เราอยู่กันสองคนอีกแล้วนะคะนายท่าน”
“เอ๊ะ! อืมนั่นสินะ มันก็ดูเงียบๆดี”
“หุหุหุ”
คาเอเดะกำลังยิ้มอยู่ หางที่ใหญ่และนุ่มฟูนั่นกำลังส่ายไปมา ดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์ดี
ส่วนแพนด้าก็กำลังเล่นกับหางของเธอที่แกว่งไปมานั้นอยู่
“ยังไงก็เถอะนายท่านไม่คิดจะฟักไข่อีกใบเหรอคะ?”
“อ๊ะ! จริงด้วย ลืมไปเลย”
ฉันกำลังคิดเรื่องมาเรียกับคนอื่นๆอยู่
หาที่ร่มใต้ต้นไม้สักหน่อยแล้วก็นั่งลง
นำไข่แปลกๆใบสีม่วงออกมา
ฉันตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้อะไรที่มันเท่ๆสมกับผู้ชายสักหน่อย
ฉันเริ่มถ่ายเทพลังเวทย์ลงในไข่
ส่วนคาเอเดะก็กำลังเล่นกับแพนด้า
“ฉันอยากรู้ว่าแพนด้าบินได้ไกลแค่ไหน”
“ฉันรู้แค่ว่าแพนด้าสามารถรับนํ้าหนักผู้ใหญ่ได้5คนค่ะ”
“คิ้ว~”
เบาะรองขนสีขาวปรากฏขึ้นราวกับจะบอกว่า “เดี๋ยวจะแสดงให้ดูเอง”
ความเร็วในการลอยขึ้นไปของเขาช้ามากหลังจากผ่านความสูงไป5เมตร แต่ก็ยังขึ้นต่อไปจนถึง10เมตรเขาก็หยุด
จากนั้นเขาก็ร่วงลงมาอย่างเร็วและลืมตาเพียงครึ่งเดียวราวกับว่ากำลังเหนื่อย
เขาแบกของหนักได้แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะบินสูงได้
โอ๊ะ
การดูดพลังเวทย์ของไข่หยุดลงแล้ว
รู้สึกเหมือนว่าจะโดนดูดไปมากกว่าแพนด้าเสียอีก ดูเหมือนว่าจะขึ้นอยู่กับประเภทสินะ
ฉันทำการหยดเลือดลงไปทันที
ฟู่!!!!!!
เกิดไอนํ้าขึ้นมาที่ไข่
อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดออกมา
“แปลกจัง ฉันคิดว่ามันน่าจะเกิดแล้วนะ”
“มีบางอย่างอยู่ในไข่ด้วยค่ะ เอ๋!!..”
มีบางอย่างที่ยาวและบางบินออกมาจากไข่ด้วยความเร็วสูง
มันม้วนไปมาในอากาศเหมือนกับงูและบินไปรอบๆ
ผ่านไปสักพักสิ่งนั้นก็พุ่งมาที่ฉันและดูเหมือนว่ากำลังจ้องมองฉันจากที่สูงกว่า
เขามีหัวที่แหลมเหมือนกับลูกศรที่ส่วนปลาย และมีตัวสีเงินวาววับอย่างกับโลหะ ไม่มีอวัยวะส่วนไหนที่เหมือนกับดวงตา และฉันสังเกตุว่ารูปร่างของเขากำลังเปลี่ยนไป
จั๊กกี้!!!!!!!
ใบมีดจำนวนนับไม่ถ้าปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา
ฉันคิดว่าเขากำลังพยายามบอกว่าตัวเขาเป็นสัตว์ประเภทโจมตี
เมื่อเขากลับสู่สภาพเดิม เขาก็เอาตัวโอบล้อมเราไว้พร้อมกับต้นไม้ และพันไว้หลายชั้น
เมื่อฉันสัมผัสร่างกายของเขามันยืดหยุ่นราวกับเชือกๆ
“ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทโจมตีนะคะ จากการประเมินพบว่าเขาสามารถยาวได้มากถึง 100 เมตร”
“นายมีร่างกายที่แปลกจริงๆ”
เมื่อกลับคืนสภาพเดิมเขาก็เอาตัวของเขามาลูบหัวฉัน เหมือนเขาอยากให้ฉันลูบเขาด้วย
น่ารักจริงๆ
แพนด้ากับคาเอเดะปล่อยให้ฉันเล่นกับเขาโดยไม่เข้ามายุ่งสักพัก
เอาล่ะได้เวลาตั้งชื่อแล้ว
“เพราะว่าเหมือนเชือก (โร๊บ-ปุ Rope) นับจากนี้นายชื่อ โรสุเกะ”
[ ロープ = โร๊บ-ปุ,Rope > เชือก ]
[ ロー助 = โร๊บ-ปุสุเกะ > โรสุเกะ ]
“ช่า~”
โรสุเกะ ถูไถลำตัวกับฉันอย่างมีความสุข
ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ
“คิ้ว–“
แพนด้าที่กำลังน้อยใจแบบมองฉันจากข้างหลังคาเอเดะ
ความสามารถในการตั้งชื่อนายมันห่วย โทรุ