บทที่ 288 – เตรียมตัว (6)
[นี่คือ….]
คนที่ครอบครองสกิลสวนกลับอย่างรามิเอลรู้ได้ทันทีว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น
ฝนสายฟ้าที่เต็มไปด้วยมานาจำนวนมหาศาลกำลังไปรวมกันอยู่ในจุดๆหนึ่งและเปลื่ยนไปเป็นเพลิงสีแดงชาน
ตรงกลางนั้นก็ยังมีมนุษย์หนึ่งคนกับมังกรหนึ่งตัวอยู่ หรือพูดอีกอย่างก็คือยูอิลฮานกระทั่งใช้มานาของยูมิลเพื่อเปลื่ยนแปลงมานาทั้งหมดอยู่
การจะเอาชนะมานาที่พลั่งพรูของศัตรูได้อย่างหมดจดนั้นจะต้องเปลื่ยนโครงสร้างการควบคุมมานาจากการแทรกแซงเข้าไปในช่องว่าง เปลื่ยนแปลงคุณสมบัติด้วยการส่งมานาเข้าไป และสุดท้ายก็คือการปล่อยทั้งพลังทางกายภาพและพลังเวทย์เพื่อชักนำมานาทั้งหมดรอบๆได้เปลื่ยนไปตามการนำของพวกเขา
[คุณได้รับสกิลการใช้งาน สวนกลับ]
[สกิลจ้าวมิติได้เพิ่มเลเลเป็น 67]
นี่คือสกิลสวนกลับ สกิลระดับสูงที่จะสะท้อนพลังกลับคืนไป
[ตัวตนแบบนี้… มันไม่น่าจะมีอยู่สิ]
“อืมม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ในตอนนี้ยูอิลฮานก็ยังพึมพัมกับตัวเองเงียบๆ ฝนเพลิงสีแดงตอนนี้กำลังหลั่งไหลเข้าไปทางรามิเอลที่ครั้งหนึ่งเคยควบคุมฝนนี้มาก่อน
[แก… กล้ามากนะที่ทำแบบนี้!]
รามิเอลได้กัดฟันแน่นกางปีกออกมาทั้งๆที่เหลือแค่ครึ่งเดียว ที่เขาทำได้แค่นี้มันก็เพราะว่าการจะใช้สวนกลับเข้าใส่การโจมตีที่ผ่านการสวนกลับมาเป็นอยู่ในขอบเขตพลังที่เหนือกว่าที่เขาอยู่ในตอนนี้ นี่มันนับได้ว่าการใช้เวทย์ใหญ่ครั้งนี้ของเขามันคือความผิดพลาดที่รุนแรงมาก
[ติดคริติคอล!]
โล่สายฟ้าสีขาวน้ำเงินที่เกิดมาจากปีกทั้งสี่ข้างได้ปะทะเข้ากับฝนเพลิงและทำให้เกิดการระเบิดขึ้นมา การระเบิดครั้งนี้ดูเหมือนจะทำให้ทั้งโลกสั่นไหวได้เลย
“ไม่มีทางน่า อิลฮานแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…?”
“มานาของเขาที่เพิ่มขึ้นมันดูปกติดี แต่ว่าฉันรู้สึกว่าการสอดประสานของเขากับยูมิลได้ทำให้พวกเขาสามารถจะดึงพลังที่แท้จริงของมังกรออกมาได้ เพราะแบบนี้ก็เลยให้พวกเขาทั้งสองคนแกร่งขึ้น แต่ถึงแบบนั้น…”
[น่าทึ่งมาก ฉันตกใจมากเลยกับการควบคุมมานาให้เกิดการเปลื่ยนแปลงแบบนี้ มานาที่ที่รักสัมผัสได้ดูจะแตกต่างไปจากมานาที่ฉันกำลังสนใจอยู่…?]
แม้แต่คนที่เฝ้ามองอยู่ก็ไม่อาจจะขยับต่อได้เพราะความตกตะลึง แค่แรงจากการระเบิดก็ทำให้บาเรียที่ล้อมรอบป้อมปราการทั้งสองแห่งร้าวแล้ว มิสทิคได้รีบส่งมานาเข้าไปฟื้นฟูบาเรียทันที
[นายท่าน ท่านบ้าไปแล้วววว!]
ยังไงก็ตามสกิลสวนกลับของยูอิลฮานยังไม่ได้หมดแค่นี้ สกิลสวนกลับคือเทคนิคที่จะจัดการควบคุมพลังทั้งหมดที่ศัตรูได้ใช้มา เพราะแบบนี้เอง…
[ท้องฟ้านั่น…!]
ท้องฟ้าได้ถูกย้อมไปเป็นสีแดง เส้นสายฟ้าสีน้ำเงินเข้มได้เปลื่ยนไปเป็นเพลิงสีแดง และสิทธิในการควบคุมโลกใบนี้ของสวรรค์ได้ถูกบังคับโอนไปให้ยูอิลฮานชั่วคราว เวทย์ขนาดใหญ่ที่ได้ใช้พลังของโลกได้ถูกสวนกลับคืนไปทั้งหมด
[สกิลจ้าวมิติได้เพิ่มเลเวลเป็น 70 เวลาในการปรับตัวเข้ากับมิติได้ลดน้อยลง และคุณสามารถจะควบคุมและดึงเอามานาในโลกที่คุณยึดครองมาใช้ได้มากยิ่งขึ้น]
[กรรรรรรรรรรร!]
“อึก อั๊กกกก”
ยูมิลได้คำรามเสียงดังออกมา ส่วนยูอิลฮานก็ยังครางออกมาเพราะมานาที่หลั่งไหลอย่างรุนแรงนี้มันได้ทำร้ายเขา แต่ว่าเขาก็ยังทนเอาไว้และยกหอกในมือขึ้นมา
“อิชจาร์มาร่วมมือกันหน่อย! เพลิงนิรันดร์เธอก็มาช่วยด้วย”
[ข้าจะปฏิบัติตามคำสั่งนายท่าน]
[ได้เลย!]
ในตอนนี้อิชจาร์ได้ยอมรับยูอิลฮานอย่างสมบูรณ์ทั้งกายใจแล้ว ส่วนเพลิงนิรันดร์ก็ได้ตอบกลับมาเหมือนเพื่อนสนิทมากกว่าที่เป็นลูกน้อง ด้วยการสนับสนุนจากจิตวิญญาณทั้งสองนี้ได้ทำให้การควบคุมมานาของยูอิลฮานกับยูมิลพุ่งสูงขึ้นไปจนถึงขีดสุด
ยูอิลฮานได้เปิดใช้งานเทวะกำลังไว้ในแขนที่กำลังสั่นเทาของเขาและกัดริมฝีปากไว้ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบในเรื่องของความเชื่อมากนะ แต่ว่าในตอนนี้สิ่งเดียวที่เขามีอยู่ในตอนนี้ก็คือความกล้าของเขา
“ย๊ากกกกก!”
ในท้ายที่สุดเพลิงทั้งหมดก็ได้เริ่มถูกรวบรวมเข้ามาที่ปลายหอกของเขา
[สกิลจ้าวมิติได้เพิ่มเลเวลเป็น 71]
“ว้าว…”
“สวยมาก นี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นการหลั่งไหลของมานาที่สวยงามแบบนี้…”
“อิลฮาน…!”
นี่คือฉากที่น่าทึ่งที่เหมือนกับว่าโลกใบนี้กำลังโค้งคำนับแสดงความเคารพยูอิลฮาน มานาที่ระเบิดออกมาทั้งหมดก็ได้หายไปแล้วเช่นกัน พลังพวกนั้นได้ถูกส่งมาให้ยูอิลฮานและถูกรวบรมไปในจุดๆหนึ่งโดยไม่หลงเหลือเอาไว้แม้แต่เสี้ยวเดียว
[มนุษย์โง่เขลา….!]
“ฮึ่ม”
รามิเอลได้พูดคำพูดที่ฟังดูเหมือนจะชั่วร้ายราวกับเขามาจากขุมนรกออกมา แม้ว่าเขาจะรู้ถึงพลังงานเพลิงที่รวมกันอยู่ที่หอกของยูอิลฮาน แต่ว่ามันไม่มีทางเลยที่เขาจะหลบหรือป้องกันได้ ตัวเขาในตอนนี้กำลังป้องกันกับฝนเพลิงด้วยทุกอย่างที่ทำได้อยู่เลย
[กรอด ให้ตายสิ… เวรเอ้ย ฉันจะแพ้มนุษย์เนี้ยนะ! ให้ตายสิ ฉันจะจดจำเรื่องนี้เอาไว้!]
ในท้ายที่สุดเขาก็ได้กัดฟันและกางปีกออกมา เขาได้สลัดฝนเพลิงออกไปในทนัที และเปิดใช้งานเวทย์อีกชนิดหนึ่งโดยไม่สนใจกับความเสียหายที่กำลังได้รับอยู่ เวทย์คือก็คือเวทย์ที่จะทำให้เขาข้ามไปมิติอื่นได้!
[นายชนะแล้ว แต่ว่าคราวหน้าฉันจะมาเอาหัวของนายไป]
“ไม่ ไม่มีคราวหน้าแล้ว”
ตอนนี้เองสกิลจ้าวมิติของยูอิลฮานก็ได้ถูกใช้งานป้องกันไม่ให้มีกองกำลังใหม่เข้ามาอีก และที่สำคัญยิางกว่านั้นก็คือการป้องกันไม่ให้รามิเอลหนีออกไปอีกด้วย
การเรียกกำลังเสริมและมองหาโอกาสครั้งใหม่มันคืออภิสิทธิ์ที่มีแค่สำหรับตัวเอกเท่านั้น! สำหรับรามิเอลแล้วมันไม่มีโอกาสให้เขาได้ขึ้นมาแสดงตัวเอง
[สกิลจ้าวมิติได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 73]
[นาย!? เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาๆแต่กลับมีเศษเสี้ยงพลังในการปกครองมิติได้ยังไงกัน!]
รามิเอลได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจเมื่อได้รู้ว่าการหลบหนีของเขาล้มเหลว รอยยิ้มไปปรากฏขึ้นมาบนมุมปากของยูอิลฮาน
“เธอนายลดการป้องกันลงนะ”
[อะไรกัน!?]
หากว่าสิ่งที่เขาไว้ใจมีแค่สกิลจ้าวมิติ ยูอิลฮานก็คงไม่เริ่มทำแบบนี้้แน่ นี่คือเวลาสำหรับการเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่แล้ว ยูอิลฮานได้จัดการเรียกให้นรกแห่งเปลวเพลิงขึ้นมาบนโลกใบนี้ทันที นี่คือสกิลการร่วงหล่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เขาเคยใช้มา
[อั๊ก!]
จะมีที่ไหนให้หนีอีก? ตอนนี้ทั้งโลกได้กลายมาเป็นศัตรูแล้ว! โซ่ที่ทำขึ้นมาจากเพลิงและวิญญาณได้พุ่งมาจากรอบทิศทางหยุดการเคลื่อนไหวของรามิเอลเอาไว้ โซ่พวกนี้ได้เข้ามารัดทั่วทั้งตัวรามิเอลแม้กระทั่งแขนกับคอ
ตอนนี้ตัวตนคลาส 7 ของรามิเอลไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว ปีกทูตสวรรค์ที่ไม่ได้มีพลังหนุนจากโลกระดับสูงไม่อาจจะคุกคามยูอิลฮานได้อีกต่อไปแล้ว
[สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ! เป็นแค่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแท้ๆ! ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแกกกก!]
ดวงตาของเขาได้เปลื่ยนไปเป็นสีแดงเข้ม ตอนนี้ตัวรามิเอลได้เต็มไปด้วยพลังแห่งความชั่วร้ายที่ต่างไปจากทูตสวรรค์ตามปกติ
บรรกาศรอบๆก็ยังเปลื่ยนแปลงไป รวมถึงพลังงานที่ปล่อยออกมาก็เช่นกัน สกิลบันทึกของยูอิลฮานได้สัมผัสได้ถึงเรื่องนี้และเตือนยูอิลฮานทันที
[มะ ไม่ได้นะ ฉะ… ฉัน นายท่าน!]
“‘นายท่าน’ ที่นายกำลังพูดถึงนี่ใครกัน?”
ยูอิลฮานได้ถามออกมา เพลิงที่รวมอยู่ที่ปลายหอกของยูอิลฮานได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นคมหอกที่แหลมคมที่สุด
“เอาสิ ตอบมาได้แล้ว”
[ฟู่ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! น่าขำจริงๆ ใช่แล้วนี่มันน่าขำมา! ได้เลยฉันจะตอบคำถามนาย!]
รามิเอลได้ระเบิดหัวเราะออกมา คำพูดต่อมาที่ออกมาจากปากของเขาก็คือคำพูดที่ยูอิลฮานได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว
[ท่านผู้ทรยศผู้ยิ่งใหญ่ เทพเจ้าองค์สุดท้าย! คนที่จะครอบครองทั้งสวรรค์และนรก! นายท่านซาตาน!]
ทันทีที่รามิเอลได้ยอมรับว่าเป็นคนทรยศ ปีกของเขาก็ได้เปลื่ยจากสีขาวไปเป็นสีดำ การที่เทวทูตได้ถูกความต้องการชักจูงให้ต่ำลงไปนี่คือวินาทีที่พบเห็นได้ยากที่สุดในประวัติศาสตร์
[อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!]
มานาทั้งหมดที่รามิเอลมีอยู่ได้วนกลับและปั่นป่วนขึ้นมา โซ่ที่มัดร่างเขาเอาไว้ได้พังลงในทันที และปีกที่ขาดอยู่ก็ได้มีหมอกพลังงานสีดำปรากฏขึ้นมาเริ่มฟื้นฟูตัวเอง เลือดสีดำได้กระจายออกมากลายเป็นวงเวทย์จำนวนนับไม่ถ้วน แต่ในขณะเดียวกันเพลิงและวิญญาณที่อยู่ก็ทำการเผาวงเวทย์นี้ทิ้งไปในทันที
[สกิลบันทึกได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 88]
“เขาเป็นคนทรยศจริงๆ!?”
“ถึงฉันจะเชื่อยูอิลฮานอยู่แล้ว แต่การที่มันมาเกิดขึ้นจริงต่อหน้านี่มัน… กำลังเกิดอะไรขึ้นกับกองทัพสวรรค์กันนะ?”
“อ๊า ไม่ใช่ว่านี่มันแย่แล้วหรอในเมื่อนายอยากจะได้บันทึกของทูตสวรรค์แล้วจู่ๆทูตสวรรค์คนนั้นก็กลายเป็นเทวดาตกสวรรค์ไปซะแล้ว~”
ขณะที่เลียร่ากับเอิลต้ากำลังเคร่งเครียดกันอยู่ นายูนากลับเป็นกังวลในเรื่องที่ต่างออกไป! ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้ส่ายหัวออกมาและปฏิเสธคำพูดของเธอ
“ไม่หรอก จริงๆมันดีต่างหาก ฉันได้รับบันทึกในตอนที่เขากลายเป็นเทวดาตกสวรรค์มาด้วย เพราะงั้นตอนนี้ฉันกระทั่งสามารถทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างการเปลื่ยนบันทึกของเทวดาตกสวรรค์ไปเป็นทูตสวรรค์ได้ด้วย นี่มันเหมือนซื้อหนึ่งแถมหนึ่งเลยล่ะนะ”
“ว้าว!”
[เรื่องแบบนันมันเป็นไปได้ด้วย!?]
นี่คือการเปรียบเทียบที่ง่ายที่สุดของยูอิลฮานแล้ว
[ฉันจะฆ่าแกกกกกกก! ด้วยพลังทั้งหมดในฐานะปีกที่ 11 แห่งกองทัพจัรสแสงนี่แหละ!]
รามิเอลได้ล้มเลิกการได้รับการสนับสนุนจากโลกและได้ตกไปเป็นเทวดาตกสวรรค์เพื่อที่จะทำการฟื้นฟูร่างกาย เขาได้กลายมาเป็นปีกที่ 11 แห่งกองทัพจรัสแสง มานาของเขาที่บ้าคลั่งได้ผลักดันมานาของการร่วงหล่นกลับไป โซ่ที่มัดร่างเขาอยู่ได้เปลื่ยนเป็นสีดำและระเบิดออกในทันที เหตุผลที่เขาสามารถจะใช้พลังได้มากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ก็น่าจะเป็นเพราะตอนนี้เขากำลังอยู่ในกระบวนการปลุกพลังอยู่ นี่เป็นสิ่งที่มีอยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้น!
[เจ้านี่คิดจะฆ่าที่รักให้ได้ต้องให้ต้องเอาชีวิตเขาแรกก็ตาม! อ๊าา ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็…]
“ไม่หรอก มันจบแล้ว นี่คือการดิ้นรนสุดท้ายแล้ว”
ทุกๆคนกำลังตัวสั่นออกมา แต่ว่ามีเพียงยูอิลฮานเท่านั้นที่ยังสงบอยู่ เขาได้ตั้งท่าพร้อมหอกที่มีแต่เพลิงของเขา ตอนนี้เขากำลังเล็งไปที่หัวไหล่ของเทวดาตกสวรรค์ที่กำลังเปลื่ยนเป็นสีดำอย่างช้าๆ
[อ๊ากกกกกกก! ยูอิลฮานนนนนนนน!]
“รับไป”
ยูอิลฮานได้ขว้างหอกของเขาออกไป ด้วยความแม่นยำสัมบูรณ์ระดับเชี่ยวชาญของเขาทำให้หอกพุ่งออกไปเป็นเส้นตรงแทงเข้าเป้าในทันที ผลจากการโจมตีครั้งนี้ได้ทำให้การแทรกแซงจากมานาสีดำได้หยุดลง
“ตอนนี้ฉันจะฆ่านายต่างหาก”
[อึก!]
[ติดคริติคอล!]
เลือดสีดำของรามิเอลได้กระจายออกมาในทันที และมานาเสี้ยวสุดท้ายของเขาก็ได้ถูกรวมเข้าด้วยกัน
[ฉันขอสาป…]
“คำสาปงั้นหรอ?”
[ให้แกต้องตาย!]
เมื่อเลือดได้สร้างเป็นวงกลมเล็กๆขึ้น สายฟ้าสีดำก็พุ่งตรงเข้าไปหายูอิลฮานทันที ออร่าคำสาปที่ชั่วร้ายได้ปกคลุมทั่วร่างยูอิลฮานเอาไว้ นี่มันทำให้ยูอิลฮานคิดกับตัวเองว่าที่รามิเอลยอมให้ตัวเองเป็นแบบนี้ทั้งหมดก็เพื่อการโจมตีครั้งสุดท้ายนี้
[คะ เคะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ลงมาที่ก้นบึ้งของนรกกับฉันซะ! อั๊ก!]
และนี่คือคำพูดสุดท้ายแล้ว หัวของเขาได้ร่วงลงมาด้วยรอยยิ้มนี้ เขาไม่มีความกังวลแม้แต่นิดเดียวเลยว่ายูอิลฮานจะรอดไปจากคำสาปนี้
[คุณได้รับค่าประสบการณ์]
[คุณได้รับบันทึกรามิเอลเลเวล 548]
[สกิลบันทึกได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 89]
[สกิลจ้าวมิติได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 77]
ยูอิลฮานได้ปัดฝุ่นที่เกราะของเขา สายฟ้าสีดำที่พุ่งเข้าใส่เกราะของเขาทั้งหมดได้ร่วงลงมาเป็นชิ้นๆจากเพลิงในทันที ยูอิลฮานได้ยิ้มแห้งๆออกมา
“เจ้านี่พิเศษจนถึงตอนจบเลยจริงๆนะ เขาไม่คิดจะมีเหยื่อล่อใดๆแล้วก็ตายแบบคนซื่อบื่อไปทั้งแบบนี้”
[ทั้งๆที่ตายไปแล้วก็ยังถูกดูถูกอีกนะ ช่างเป็นคนที่น่าสงสารจริงๆ]
“อิลฮาน!”
“ยูอิลฮาน!?”
เลียร่ากับเอิลต้าที่รู้สึกได้ถึงพลังคำสาปในตอนท้ายได้เรียกยูอิฮานอย่างตกตะลึง ยังไงก็ตามสีหน้าของยูอิลฮานที่กลับมาหาพวกเธอดูปกติมากเกินไปแล้ว
“ว่าไง ตอนนี้มันจบลงแล้ว”
“…แล้วคำสาปนั่นล่ะ?”
“ขนาดคำสาปของอิชจาร์ฉันยังผ่านมาแล้วเลย ฉันไม่มีทางที่จะถูกคำสาปครึ่งๆกลางๆนี่ฆ่าอยู่แล้ว”
“…”
ยูอิลฮานได้เก็บเอาศพของรามิเอลกลับมาโดยไม่คิดอะไรมากและจัดการโลกที่วุ่นวายนี้เนื่องจากการต่อสู้ของเขาได้ดูดมานาบางส่วนไป พรรคพวกของยูอิลฮานต่างก็ทำอะไรไม่ถูกกับยูอิลฮานที่พูด่าคำสาปที่ใช้พลังชีวิตของคลาส 7 ‘เป็นคำสาปครึ่งๆกลางๆ’ และพวกเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไรอีกแล้ว
“ยังไงก็ตามมันดูเหมือนจะมีเรื่องน่ารำคาญอยู่”
เมื่อดูจากบันทึกที่เขาได้มาจากรามิเอล ยูอิลฮานก็ได้เกาหัวออกมา จากการที่เขาได้พบว่ารามิเอลเป็นคนทรยศทำให้เขาคิดว่ากอทัพสวรรค์ไม่ได้ปกติอีกต่อไปแล้ว เขาไม่รู้ว่านี่มันเป็นเรื่องแย่หรือป่าว แต่ว่ายิ่งเขาได้เข้าใจบันทึกของรามิเอลมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งถอนหายใจออกมามากขึ้น
“มันดูเหมือนว่าเรื่องทุกๆอย่างมันจะเกิดขึ้นไปตามการพัฒนาของฉันเลย มาดูกันว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แล้วฉันจะ…”
[มีอะไรงั้นหรอที่รัก?]
“อืมม ตอนนี้มันมีแต่เรื่องวุ่นวายอยู่แล้วนะ แต่ว่าฉันรู้สึกเหมือนว่าในอนาคตมันจะยิ่งวุ่นวายมากยิ่งกว่านี้อีก”
“มากกว่านี้อีกงั้นหรอ? ทำไมกันล่ะ?”
ยูอิลฮานได้ยิ้มแห้งๆให้กับคำถามของเลียร่าและตอบเธอกลับไปสั้นๆ
“ดูเหมือนว่าเทพเจ้าจะหนีไปจากสวรรค์แล้วไงล่ะ”