[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 24
[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (เลเวล 36)
◇◆◇
ในห้องโถงที่มืดยาวเหล่านี้ ผมยับยั้งความอ่อนแอของตัวเอง ทุกช่วงเวลาของผมที่มาพร้อมกับความเจ็บปวด ปอดของผมมีเลือดไหล แขนขวาของผมหัก พละกำลังของผมลดลง …ผมได้แต่หวังว่าเรเชียจะอยู่ที่นี่
ไม่ มันไม่มีความหมายที่จะคิดถึงคนที่ไม่ได้อยู่
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตอนนี้มีศัตรูที่ผมต้องเอาชนะ ผมยังเสียใจและเจ็บปวดได้มากในภายหลัง
ผมแทงดาบสั้นเข้าหากำแพง มันไม่ใช่ความสูงที่ผมจะปีนขึ้นไปได้ด้วยมือเดียว แต่ตอนนี้ผมไร้อาวุธ ผมมีแค่ดาบสั้นอยู่ติดตัว แต่ตอนนี้มันหัก
กลิ่นเหม็นสาบและพิษที่หนาแน่นขึ้น …ศัตรูอยู่ตรงหน้าผมแล้ว
เหมือนกับว่ามันกำลังเคี้ยวเนื้อและกระดูก แต่เมื่อมันสังเกตเห็นผม มันก็ลุกขึ้นยืน จากนั้นมันก็โยนเนื้อที่เหลือในปากลงกับพื้น
ประตูขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหลังมัน ผิวของมันเป็นสีน้ำตาลเหมือนพวกโอเกอร์ที่ผ่านมา แต่ดวงตาของมันย้อมไปด้วยสีเลือด ในมือมีขวานขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะถูกขัดจากก้อนหิน และมันไม่ได้สวมชุดเกราะใด ๆ ยกเว้นผ้าขาวพันรอบเอวไว้
ดวงตาคู่นั้นจ้องมองมาที่ผม
“กูอูวอาาาา!”
จากนั้นมันก็ส่งเสียงร้องคำรามที่สั่นสะเทือนทุกสิ่งในห้อง มันคงรู้สึกดีใจที่ได้เห็นผม แม้มันจะไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นออกมา ร่างกายของผมรู้สึกเหมือนจมลงสู่ก้นมหาสมุทรจนขยับตัวไม่ได้ แม้แต่การหายใจก็ยากลำบากมากขึ้น
“กูรูวอาาาา!”
ผมรู้อยู่แล้วว่า <<คำรามอย่างรุนแรง>> นั้นใช้ไม่ได้ผล แต่นี่เป็นการสงบสติอารมณ์ของตัวเอง กล่าวอีกนัยหนึ่ง นั่นไม่ใช่ทักษะจริง ๆ แต่เป็นเพียงเสียงคำรามเพื่อเตรียมพร้อม
– นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของผม
ศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า ซึ่งมีร่างกายที่สมบูรณ์ ในขณะที่ผมมีบาดแผลและเลือดออกทั่วร่างกาย
เค้าลางแห่งความตายปรากฏขึ้น แม้การต่อสู้จะยังไม่เริ่มต้น…
◇◆◇
โอเกอร์สามตัวยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา จำนวนเท่านี้ดูเหมือนจะไม่มาก แต่นั่นก็ลดลงมาครึ่งหนึ่งแล้ว
“ข้าสงสัยว่าราชาจะปลอดภัยหรือไม่?” กิโกกระซิบ เขาดูร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
“ข้าไม่รู้ … แต่ตอนนี้ข้ารู้ว่า เราต้องฆ่าพวกมันก่อน” สีหน้าของอลูฮาลิฮาลมีความเจ็บปวด จากหอกนากาที่แผดเผาร่างกายของเขา
“เรายังปลอดภัย ข้าเชื่อว่าราชาก็ต้องปลอดภัยเช่นกัน” หัวหน้าเผ่าเกิร์ดการ์ รัสกาวิ่งเข้าไปในฝูงโอเกอร์ด้วยแขนขวาที่เป็นสีดำ
“ข้าจะขอบคุณมาก ถ้าเจ้าไม่พยายามสรุปสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง” ก็อบลินตัวนี้ยิงธนูไปยังศัตรู เขาเป็นนักธนูที่เก่งที่สุดในเผ่าและด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับฉายา กาดิเอต้านักธนูคนแรก ลูกศรสองดอกพุ่งเป็นเส้นโค้งไปในอากาศ ขณะที่พวกมันเล็งไปยังดวงตาของพวกโอเกอร์ และตามมาด้วยธนูที่ไม่มีลูกศรของเจ้าหญิงนาร์ซา
ธนูของเธอไม่มีลูกศร มันต้องอาศัยพลังเวทมนตร์เท่านั้น และนั่นหมายความว่าเธอต้องเพ่งสมาธิไปที่มัน ทำให้ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของเธอ
“ลูกศรพัวพัน!” แฟร์ริงแอร์โรว์
โอเกอร์อีกสองตัวถูกหยุดโดยกิซาร์และก็อบลินจากหมู่บ้านกิ
“วายุจงหมุนวน (Wind Cutter) ”
ใบมีดสายลมฟันไปที่ขาของพวกโอเกอร์ กิกิและกิจิจึงโจมตีไปยังบาดแผลที่เปิดอยู่
ในขณะเดียวกันท่ามกลางลูกศรและเวทมนตร์ เหล่าโอเกอร์ที่เหลือก็กรีดร้อง คุซานเองก็ตื่นตระหนก …สมบัติทั้งสี่อยู่ที่นี่ ราชาไม่สามารถใช้ทักษะใดได้
พวกกิซาร์ดูเหมือนจะยึดมั่นในราชาของพวกเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่นั่นเป็นเพียงเพราะพวกเขาดูถูกโอเกอร์ลอร์ดมากเกินไป
พลังของโอเกอร์ลอร์ดเปรียบเทียบได้กับเผ่าทั้งสี่
และใครจะรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงประเภทใดเกิดขึ้น หลังจากมันอาศัยอยู่ในป้อมปราการ?
หากราชาเสียชีวิต…
การพบปะกับลอร์ดแห่งความเสื่อมโทรมนั้นจะเป็นไปไม่ได้
แต่ในทางกลับกัน หากเธอใช้เดธคริสตัล เธอจะจบชีวิตลง
เธอกำสมบัติไว้แน่น
– เราต้องทำอะไรบางอย่าง
เธออ่อนแอ ดังนั้นการคิดจึงเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้
◇◆◇
พลังล้นเหลือ
“กูอูววอาาา!”
คลื่นกระแทกดังสนั่นจากขวานที่ทุบลงบนพื้น การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ผมย่นระยะทาง
มีเรื่องดีเพียงอย่างเดียวคือ เลือดที่แขนขวาผมหยุดไหลแล้ว แต่แค่ขยับมัน ผมก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ส่งผ่านไปทั่วร่างกาย
เมื่อเทียบกับสิ่งนั้น ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวก็อาจจะส่งผมไปสู่โลกแห่งความตาย
“ชิ!”
โอเกอร์ลอร์ดโจมตีผมอย่างไม่หยุดยั้ง
ผมก้มหัวเพื่อหลบมัน แต่เมื่อคิดว่าตัวเองจะปลอดภัย โอเกอร์ลอร์ดกลับพุ่งเข้ามาทันที ผมจึงต้องหลบโดยการโยนตัวเองลงไปกับพื้น
เมื่อผมป้องกันแขนเพื่อพยายามลืมความเจ็บปวด ผมก็เริ่มคิดใหม่อีกครั้ง
-ผมควรทำยังไงดี!?
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปผมจะแพ้ ผมจะทำอะไรในสถานการณ์ที่อีเธอร์ถูกผนึก!?
ทันใดนั้นอาการหนาวสั่นก็ลุกลามมาจากกระดูกสันหลัง <<สัญชาตญาณ>> ร้องเตือนให้ร่างกายของผมขยับไปเอง ขวานที่มีลักษณะคล้ายก้อนหินฟาดลงมาตรงจุดที่ผมเคยยืนอยู่เมื่อครู่
-อะไรนะ?
<<สัญชาตญาณ>> เมื่อกี้
-เกิดอะไรขึ้น? อีเธอร์และทักษะของผมถูกผนึกไม่ใช่หรือ
ผมแน่ใจว่า <<ดวงตาของงูสีชาด>> << ดวงตามรกตของงู>> << คำรามอย่างรุนแรง>> <<การจัดการเวทมนตร์>> และ <<Third Impact>> ถูกปิดผนึกทั้งหมด
ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ดังนั้นผมต้องลองทุกอย่าง
ผมไม่สามารถใช้ <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา I>> และ <<ความชำนาญการใช้ดาบ B+>> เพราะผมไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ แต่การใช้ <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>> จะเป็นไปได้มั้ย?
ศัตรูในตอนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหัวหน้าฝูงโอเกอร์ โอเกอร์ลอร์ด
[ทักษะ] <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>> เมื่อต่อสู้กับหัวหน้าฝูง พลังเวทย์เพิ่มขึ้น 20% ความเสียหายที่ได้รับจะเพิ่มขึ้น 20% แต่ความเสียหายที่ทำได้จะเพิ่มขึ้น 30%
ทักษะนั้นทำงานได้ยังไง แต่การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็เป็นอันตรายต่อผมในตอนนี้ ถ้าใช้ <<การเต้นรำแห่งความตาย>> ผมก็จะไม่สามารถควบคุมสติได้อีก
ตอนที่ผมเปิดใช้งาน <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>> ผมรู้สึกถึงอีเธอร์จากภายในตัว ความหวังที่เติมเต็ม เมื่อผมได้ลิ้มรสอันหอมหวานของพลังนั้น
แต่มันไม่มีโอกาสไหนแล้ว ถ้าไม่ใช้มันในตอนนี้
แต่หมัดของผมก็ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ แม้ว่ามันจะกระแทกมันเข้ากับขาของโอเกอร์ลอร์ด
-เกิดอะไรขึ้น?
จากนั้นเพื่อให้แน่ใจผมลองใช้ <<คำรามอย่างรุนแรง>> อีกครั้ง
“กูรูวอาาาาาาา!”
สิ่งนี้ปกติควรจะทำให้ศัตรูอ่อนแอลงเท่านั้น
ต่อไปผมลองขั้นที่สองของ <<การเต้นรำแห่งความตาย>>
ทักษะที่ทำให้ความแข็งแกร่งและความเร็วเพิ่มขึ้น 30% แต่จะเปิดใช้งานได้ ก็ต่อเมื่อร่างกายของผมบาดเจ็บเท่านั้น
ตอนที่ผมเปิดใช้งาน <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>> ผมไม่ได้เร็วขึ้นเหมือนตอนที่ใช้ Accel แต่อีเธอร์ ความแข็งแกร่งและความคล่องตัวก็เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ
เมื่อใช้พลังที่เพิ่งค้นพบ ผมก็ลดช่องว่างลง ตอนนั้นเองที่ขวานของโอเกอร์ลอร์ดฟาดลงมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
เหลืออีกหนึ่งทักษะคือ <<การเต้นรำแห่งความตาย>> มีความเป็นไปได้สองอย่างจากที่ผมคิด
ผมต้องเลือกว่าอันไหนจะเหมาะกว่า แต่ –
“บ้าไปแล้ว” ผมพูดกับตัวเองและเปิดใช้งาน <<กบฏ>>
มันตอบสนองต่อความบ้าคลั่งที่เริ่มครอบงำ ความแข็งแกร่ง ความว่องไว เวทมนตร์ … แต่ละอย่างเพิ่มขึ้น 30% ในขณะเดียวกันความกดดันทางจิตใจ ทำให้ผมไม่สามารถต่อสู้อย่างเต็มที่กับศัตรู
“กูว.. กูรูวอาาาา าาาาา าาาา าา!!”
◆◇◇◆◆◇◇◆
อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอน 400 กว่าแล้วนะครับ)
https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/