นางบำเรอเติมใจ 95

ตอนที่ 95

“มี หมอเขาเอาโทรศัพท์มาให้ฉันก็มีคนโทรเข้ามากรวิทย์ และฉันได้แจ้งอาเธอร์ไปแล้วแต่ให้ปิดทุกอย่างเป็นความลับ” แซคพยักหน้าเข้าใจ

“มีแค่นี้เหรอครับ”

“มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาหลายสายแต่ฉันปิดเครื่องไปแล้ว ทำไม นายมีคนรักที่เมืองไทยรึไงถึงห่วงนัก” แซคขมวดคิ้ว เบอร์แปลกงั้นเหรอ คงไม่ใช่เบอร์ผู้หญิงของเจ้านายหรอกนะ เขาเชื่อว่าพิรุณรักคงไม่อยู่เฉยแน่ถ้าแกริคขาดการติดต่อไปแบบนี้

“ผมขอโทรศัพท์ผมคืนได้ไหมครับ”

“ได้ แต่นายห้ามบอกเรื่องนี้กับใครแม้แต่คนเดียว คนที่เมืองไทยมีแค่กรกับอาเธอร์เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้”

“คุณก็รู้ว่าคุณริคมีคนรัก” เกรสันชะงัก ไอ้นี่มันรักเจ้านายมันจริงๆ

“รอให้เราจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปลอดภัยคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี” เกรสันรับรู้ว่าน้องชายมีคนรักและก็จริงจังในระดับหนึ่ง แต่ที่เขาทำแบบนี้เพราะหวังดี ถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้ เขากลัวว่าคนรักของแกริคจะเป็นอันตราย เขาเชื่อว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นรักน้องชายเขาจริง ต้องรอได้

แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าแกริคนอนเป็นผักอยู่แบบนี้จะเป็นยังไงนะ คงไม่รีบแจ้นทิ้งน้องชายเขาเหรอนะ

“แม่คะ พ่อคะ ปลายขอโทษ” พิรุณรักก้มกราบลงแทบตักของผู้มีพระคุณทั้งสองหลังจากที่เธอกลับมาถึงบ้าน

“อะไรกันปลาย มีเรื่องอะไร ไหนบอกว่าจะกลับปีใหม่” สายพิณก้มลงดึงลูกสาวให้เงยหน้าขึ้นมา

“ใช่ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือว่าโดนไล่ออกจากงาน” องอาจขมวดคิ้วถามลูกสาว

พิรุณรักส่ายหน้าให้กับพ่อแม่ ปากบางเม้มเข้าหากันเธอไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ทั้งที่เตรียมใจจะพูดความจริงกับท่านทุกอย่างตั้งแต่ก่อนมาแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลับทำไม่ได้ เธอกลัวพวกท่านจะผิดหวัง กลัวว่าท่านจะเสียใจ

“ไม่มีอะไรค่ะ ปลายแค่คิดถึงพ่อกับแม่รู้สึกผิดที่ไม่ได้มาเยี่ยมบ่อยๆ” เธอยังไม่พร้อมบอกท่านตอนนี้

“แล้วที่กลับมานี่มาเยี่ยมหรือมาอยู่เลยล่ะ”

“มาอยู่เลยค่ะ ปลายอยากกลับมาช่วยพ่อกับแม่”

“จริงเหรอ” สายพิณถามลูกสาวอย่างไม่เชื่อ

“จริงสิคะ ปลายไม่ไปไหนแล้วอยู่ให้พ่อกับแม่เลี้ยง”

“ขอให้พูดจริง ไม่ใช่มาอยู่สักพักเบื่อบ้านสวนแล้วกลับไปกรุงเทพอีก” สายพิณพูดอย่างน้อยใจ

“โถ่ แม่คะ ใครจะเบื่อบ้านตัวเอง” พิรุณรักลุกขึ้นไปกอดท่านทั้งสองคน

“เอาๆ ละเอาของเข้าไปเก็บแล้วหาข้าวหาปลากิน พ่อจะเข้าไปดูสวน”

“ค่ะ พ่อกับแม่ไปทำงานเถอะ ปลายอยู่ได้”

“งั้นพ่อกับแม่ไปนะ ต้องไปดูผลไม้ในสวน”

“ค่ะ” พอลับร่างท่านทั้งสองพิรุณรักก็เดินไปที่ห้องนอนของตัวเอง ปิดประตูลงแล้วปล่อยโหออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอจะทำยังไงดี จะเริ่มต้นพูดกับพ่อแม่ยังไง มือเรียวลูบหน้าท้องของตัวเองเบาๆ ในใจก็คิดถึงพ่อของลูกใจจะขาด ป่านนี้เขาจะทำอะไรอยู่ เขาจะคิดถึงเธอบ้างรึเปล่า ทำไมเขาถึงทิ้งเธอได้ง่ายๆ แบบนี้ ทั้งที่บอกว่าเธอคือคนสำคัญของเขา

เวลาผ่านล่วงเลยไปพิรุณรักกลับมาอยู่ที่บ้านได้หนึ่งเดือนท้องของเธอก็โตขึ้นเรื่อยๆ อาการแพ้ท้องก็เด่นชัดขึ้น จนสายพิณสงสัย เสียงโอกอ๊ากที่ดังออกมาจากห้องของลูกสาวมันชัดแน่ๆ ว่าเป็นเสียงอ้วก และจะเป็นแบบนี้ทุกเช้า ยิ่งบางวันเห็นน้าลูกสาวกลืนข้าวไม่ลงยิ่งแน่ชัด แต่เธอก็รอ รอให้พิรุณรักเป็นฝ่ายพูดเองแต่เหมือนจะไม่ได้ผล

“พ่อว่า ลูกเราแปลกๆ ไหม” สายพิณลองเชิงถามสามี องอาจหันมาเลิกคิ้วมองภรรยา

“อืม” ใช่ว่าคนเป็นพ่อจะไม่สังเกตลูกสาว เขาสังเกตตั้งแต่วันแรกที่ลูกกลับมา คนที่บอกว่าจะกลับมาเยี่ยมตอนปีใหม่แต่กลับมาตอนนี้ และก็กลับมาอยู่เลย มันต้องมีอะไรเกิดขึ้น

“แม่กลัวว่ามันจะเป็นอย่างที่แม่คิด” องอาจจับมือภรรยาแล้วบีบเบาๆ เขาเข้าใจความหมายของภรรยาดี

“อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แล้วนั่นก็ลูกเรา”

“เราถามลูกตรงๆ เลยดีไหม”

“อย่าพึ่งเลย พ่อเชื่อว่าเดี๋ยวลูกก็จะบอกเราเอง” สายพิณพยักหน้า รู้สึกเป็นห่วงลูกสาวจับใจ แต่ก็ยังดีที่ลูกกลับบ้านไม่ไปที่อื่น

ทางด้านอิตาลีร่างใหญ่มีเครื่องช่วยหายใจระโยงระยางเต็มไปหมดนอนหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ

“นี่ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ทำไมแกริคยังไม่ฟื้น” เกรสันเอ่ยเสียงเรียบ เขาจัดการเก็บกวาดคนที่มันทำร้ายน้องชายเขาจนหมด ส่งพวกมันไปลงนรกไม่ให้เหลือซากภายในเวลาไม่ถึงเดือน แต่ทว่าน้องชายเขากลับไม่ฟื้น

“ผมมีขอเสนอครับ” แซคพูดขึ้น หลังจากที่พักรักษาตัวจนหาย แซคก็ออกมาไล่ล่าพวกที่มันทำให้ตัวเองและแกริคเป็นแบบนี้ เฝ้ารอวันที่เจ้านายจะฟื้นแต่ก็ไม่ฟื้น

“ยังไง”

“ผมขอพูดอะไรกับคุณริคสักหน่อย” แซคเชื่อว่าถึงแกริคจะยังไม่ฟื้น แต่ได้ยินทุกอย่างที่คนอื่นเขาคุณกัน หมอบอกว่าประสาทของแกริครับรู้ทุกอย่าง เพียงแค่ร่างกายไม่ตอบสนองต้องมีแรงกระตุ้น

“เชิญ” เกสันไม่มีอะไรจะค้าน เดินไปนั่งที่โซฟา มองเจ้านายกับลูกน้องเขม็ง

“คุณริคครับ ผมมีเรื่องจะบอก หลังจากที่เราประสบอุบัติเหตุและทันทีที่ผมฟื้น ผมก็ติดต่อกลับไปหากรและคุณหวาน ผมรู้ว่าคุณห่วงใครมากที่สุด ผมก็เลยพยายามทำหน้าที่เลขาที่ดี คุณหวานบอกว่าคุณปลายเธอลาออกจากงานกลับไปอยู่บ้าน” แซคเว้นจังหวะการพูดมองปฏิกิริยาของร่างใหญ่

“คุณหวานบอกว่า คุณปลายเสียใจมากที่คุณไม่กลับไปหาเธอ เธอคิดว่าคุณทิ้งเธอแล้วกลับมาอยู่ที่นี่ ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ได้อธิบายเหตุผลอะไรให้เธอฟัง เพราะเรายังจัดการทุกอย่างไม่เรียบร้อย ผมก็โดนด่ามายกใหญ่ คุณหวานบอกว่าไม่ให้คุณกลับไปหาคุณปลายอีกเพราะคุณมันสารเลวทิ้งเพื่อนเธอ” แซคร่ายยาว และมันเป็นความจริงในวันที่เขาโทรหากรวิทย์เพื่อนถามข่าวทางนั้น แต่เผอิญว่าหทัยรัตน์อยู่ตรงนั้นพอดี เขาเลยโดนด่ายกใหญ่

แต่เธอก็ไม่ใจร้ายเล่าถึงอาการของคนรักเจ้านายให้ฟัง ซึ่งเขาก็ได้แต่เก็บรายละเอียด

“แต่มันมีเรื่องที่ผมคาใจ และผมก็อยากให้คุณฟื้นขึ้นมาเพื่อไปหาความจริง คุณหวานบอกว่าคุณปลายฝนเธอมีอาการแปลกๆ เหมือนคนท้อง” แค่คำว่าท้องที่หลุดออกจากปากแซคทำให้คนที่นอนอยู่นิ้วกระดิก ร่วมถึงเกรสันที่ดีดตัวขึ้น

“แกว่าอะไรนะแซคใครท้อง” แซคยกมือขึ้นห้ามบอกว่าเขายังพูดไม่จบ

“คุณปลายฝนอาจจะท้องครับ แต่มันก็เป็นแค่ข้อสันนิษฐาน เพราะเธอกลับไปอยู่ที่บ้านก่อนและเธอก็ไม่ได้บอกอะไร แต่ผมก็ไม่ได้ละเลยหน้าที่หรอกนะครับ ผมให้คนตามสืบไปถึงที่บ้านเธอ ช่วงนี้มีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบเธอครับ แล้วดูเหมือนพ่อแม่เธอจะชอบด้วย สงสัยทายาทของซีคีเลียโนจะเรียกคนอื่นว่าพ่อ” แซคมองร่างของแกริคที่ค่อยๆ แกร็งและขยับเบาๆ และอยู่ๆ ก็ลืมตาโพล่งขึ้นมา ทำให้ทุกคนตาโต

“ริค ริคนายฟื้นแล้ว” แกริคค่อยๆ กะพริบตากลืนน้ำลายลงคอเบาๆ

“ผมจะไปเรียกหมอครับ” แซครีบวิ่งออกไปเรียกหมอ พอหมอเข้ามาก็รีบตรวจแซ็คอาการของแกริค

“หมอยินดีด้วยครับคนไข้ฟื้นแล้ว ปาฏิหาริย์มากครับ”

“ขอบคุณครับหมอ”

“เราต้องดูอาการอีกสักระยะ ว่ามีผลข้างเคียงอะไรรึเปล่า”

“ครับ”

“หมอขอตัวก่อนนะครับ” หมอเดินออกไปเกสันก็รีบโทรรายงานบิดา ไม่นายเจสันก็มาถึงโรงพยาบาล

“น้องแกเป็นยังไงบ้าง”

“นอนลืมตาอยู่นั่นไงครับ” เกรสันบุ้ยปากไปทางแกริคที่อาการเหมือนจะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ทำยังไงถึงฟื้น”

“สงสัยมันกลัวเมียมันจะมีชู้” คำว่าเมีย คำว่าชู้ทำให้แกริคตวัดสายตามองพี่ชาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขารู้สึกว่าร่างกายไม่มีแรง การจะพูดแต่ละคำก็ยาก

“ตื่นสักทีนะ” เจสันเดินเข้ามาหาลูกชาย แกริคกะพริบตาปริบๆ ให้บิดา

“ความจำเสื่อมรึเปล่าก็ไม่รู้”

“คนความจำเสื่อมที่ไหนจะรีบฟื้นทันทีที่ได้ยินว่าเมียจะมีชู้ล่ะครับ” คราวนี้เป็นแซคที่เป็นคนเอ่ยแซวก็ได้รับสายตาเข้มๆ กลับมา

“เล่ามา” แกริคพูดเสียงแหบพร่า

“ดื่มน้ำก่อน” เจสันยกน้ำไปจ่อที่ปากลูกชาย

“ไม่อยากจะเชื่อว่าแค่พูดว่าเมียนายมีชู้จะฟื้นเลย ไม่งั้นฉันคงให้แซคมันพูดนานแล้ว” เกรสันไม่คิดว่าน้องจะรักเมียมากขนาดนี้ เพราะตัวเองไม่เคยมีความรัก เลยไม่รู้ว่าความรักมันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ สามารถสร้างปราฏิหารได้ด้วย

“แซค” แกริคเรียกแซคเสียงเข้มขึ้นอีกนิดหลังจากที่ได้ดื่มน้ำ

“คุณปลายกลับไปอยู่บ้านจริงครับ และอาจจะท้องจริงๆ ส่วนเรื่องมีผู้ชายเข้ามาจีบอันนี้ผมไม่รู้เพราะเดา แต่ผมว่าน่าจะมีนะครับคุณปลายก็สวยขนาดนั้น” แซคพูดความจริง เรื่องที่เขาบอกว่าปลายฝนมีผู้ชายมาจีบเขาแต่งขึ้นเพื่อกระตุ้นเจ้านาย และมันก็ได้ผล

แกริคคิ้วกระตุก

“นี่แด๊ดกำลังจะมีหลานเหรอ” เจสันถามหน้าตื่น

“ป่านนี้เขาคงมีผัวใหม่แล้วมั้งครับ” เกรสันอดไม่ได้ที่จะพูดแหย่น้องชาย

แกริคพยายามจะขยับตัวลุกขึ้น แต่ก็ทำไม่ได้

“ขาฉัน” ส่วนล่างของเขาขยับไม่ได้

“อย่าบอกนะว่านายขยับขาไม่ได้”

“ใช่” แกริคพูดหน้าเครียด กัดฟันกรอกลองขยับดูอีกทีก็ไม่ได้ผล ทุกคนหน้าซีดลงไม่ต่างกัน

“ผมจะไปตามหมอครับ” แซคกลับออกไปตามหมออีกครั้ง หมอเข้ามาก็ลองให้แกริคขยับขาดู หมอแจ้งว่าอาการของแกริคไม่น่าเป็นห่วงมาทำกายภาพบำบัดก็หายแต่ต้องใช้เวลา

“ให้ริคพักผ่อนเถอะ” เจสันบอกทุกคน

“ผมจะเฝ้าคุณริคเองครับ” แซคเสนอ

เมื่อตกลงกันได้ เจสันและเกรสันก็กลับไปทำงานต่อ แกริคมองหน้าลูกน้องเขม็ง

“จ้องหน้าผมทำไมครับ” แซคที่ทนไม่ไหวเลยเอ่ยถาม

“ไปพาปลายฝนมาหาฉัน” แกริคพูดเสียงจริงจัง

นางบำเรอเติมใจ

นางบำเรอเติมใจ

Score 10
Status: Completed
“ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เป็นงาน” แกริคพูดย้ำแล้วก็หลับตาเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เขาอยากปลดปล่อย เพราะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนพิรุณรักตาหลุกหลิกมองคนที่หลับตาอยู่ นึกถึงหนังที่ตัวเองดูและคำแนะนำของเพื่อน เธอไม่ควรทำให้เขารำคาญปลายฝนเธอค่อยๆ ขยับขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งไม่กล้าจะเทน้ำหนักลงไปทั้งตัวกลัวว่าเขาจะหนัก แต่คนที่หลับตาอยู่ก็จับเธอกดลงบนตักเขาทั้งตัว ทำให้เธอผวาจับบ่าเขาไว้เพราะกลัวตก“เริ่มเลย” แกริคสั่งทั้งที่หลับตาอยู่“ตรงนี้เหรอคะ” ขอให้เธอถามเพื่อเตรียมใจอีกสักนิด นี่เธอกำลังจะเป็นของเขาจริงๆ เหรอแกริคเงยหน้าขึ้นหรี่ตามองเธอ“เอ่อ หนูคิดว่า เราเข้าห้องกันดีกว่าค่ะ” ที่นี่มันโล่งแจ้งเกินไป ถึงจะรู้ว่าไม่มีใครลงมาก็เถอะ แต่ลูกน้องของเขาก็อยู่ข้างบนตั้งหลายคน

Options

not work with dark mode
Reset