ยิ่งปลายนิ้วแกร่งสอดแทรกเข้าไปในกายสาวขยับเข้าออกเสียดสีกับเนื้อนุ่มภายใน ร่างบางยิ่งเร่งเร้าเข้าหานิ้วแกร่ง
“อ๊า คุณริค” ความวาบหวามเสียวซ่านโจมตีอย่างหนักหน่วง ยิ่งปากหนาเคลื่อนลงไปด้านล่างสะกิดติ่งเล็กเบาๆ ด้วยปลายลิ้นยิ่งทำให้ร่างบางแอ่นตัวโค้งปลดปล่อยน้ำหวานออกมาชโลมทั่วลำนิ้ว
แกริคถอดนิ้วออกแทนที่ด้วยริมฝีปากร่างบางสะดุ้งเฮือก สองมือขยุ้มศีรษะทุยที่ซุกหน้าลงกับใจกลางความสาวของเธอทันที ลิ้นร้ายกาจของแกริคห่อเข้าหากันจ้วงแทงเข้าไปข้างในฉกปลายลิ้นซ้ำๆ สลับกับตวัดระรัวเร็ว ร่างบางดิ้นพล่าน ร้องครางเสียงหลงกับความร้อนแรงของเขา
“อ๊า อ๊า” ร่างบางบิดตัวงอ กระสับกระส่ายไปมาแกริคยึดเอวเธอไว้มั่น ขยับลิ้นรัวเร็วก่อนจะรวบดูดสุดแรงฉุดกระชากหญิงสาวให้กรีดร้องสุดเสียงหลุดลอยแตกกระจายในที่สุด
“อ๊า อือ” พิรุณรักหายใจหอบ อ่อนระทวยอยู่บนที่นอน
แกริคเคลื่อนตัวขึ้นมาจูบเธออย่างดูดดื่ม
“จะเอาอีกไหม” เขาถามเธอเสียงหอบ ความจริงเขาอยากเข้าไปในตัวเธอ แต่ช่วงนี้เขาใช้งานเธอหนักเกินไป เมื่อบ่ายก็กินเธอไปแล้วรอบหนึ่ง เมื่อคิดได้ว่าเธออาจจะรับเขาไม่ไหวและอาจจะไม่สบาย เขาก็ควรให้เธอได้พักบ้าง
พิรุณรักส่ายหน้าหายใจหอบเหนื่อยความวาบหวามยังไม่จางหาย ข้างในเธอยังกระตุกถี่ๆ
“อาบน้ำอีกรอบไหม”
“ไม่เอา หนูง่วง นอนแล้วนะคะ” คนตัวเล็กหลังจากที่เสร็จสมก็เกิดความง่วงขึ้นมาทันที ตาเคลิ้มเตรียมจะหลับ
“หืม หื่นเสร็จก็หลับเลยเหรอ” แกริคดึงหญิงสาวเข้ามากอด จูบศีรษะเล็กเบาๆ อย่างเอ็นดู ลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอหลับเดินเข้าให้น้ำอาบน้ำอีกรอบ แล้วนำผ้าชุบน้ำมาทำความสะอาดให้หญิงสาวเบาๆ
“อือ หนาว” แกริครีบเช็ด เช็ดเสร็จหยิบชุดนอนขึ้นมาสวมให้เธอ แล้วหันไปหยิบกางเกงขึ้นมาสวมเข้าไปตากผ้ากลับออกมานอนกอดหญิงสาวบนเตียง พิรุณรักเป็นผู้หญิงคนแรกจริงๆที่เขายอมทำทุกอย่างให้โดยไม่ต้องถามหาเหตุผล
“หวาน วันนี้ว่างไหมตอนเย็น” พิรุณรักถามเพื่อนขณะพักเที่ยง
“อืม ว่าง”
“ไปห้างเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
“ซื้ออะไร”
“ฉันต้องไปงานกับคุณแกริค”
“หืม แกยอมเปิดตัวเขาแล้วเหรอ” หทัยรัตน์ยิ้มล้อเลียน
“บ้า งานที่จะไปเป็นงานสวมหน้ากากฉันเลยยอมตกลง” หทัยรัตน์พยักหน้าเข้าใจ
“ฉันไม่ค่อยมั่นใจเลยแกกลัวทำให้เขาเสียหน้า”
“ไม่ต้องไปสิ”
“รับปากเขาแล้วน่ะสิ”
“งั้นก็ไป”
“ยัยหวาน” พิรุณรักเรียกเพื่อน
หทัยรัตน์เหมือนมีเรื่องให้คิด ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ขอโทษแก ตอนเย็นฉันจะไปช่วยแกเลือกชุดโอเค ไม่โกรธนะ ฉันมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”
“มีเรื่องอะไรเล่าให้ฉันฟังได้นะ” ถึงจะอยู่คอนโดเดียวกันแต่เธอก็ไม่ค่อยลงไปหาเพื่อนจะเจอกันแต่ในที่ทำงาน
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ถ้าฉันไม่ไหวฉันจะขอให้แกช่วย”
“แน่นะ”
“แน่”
เย็นวันนั้นพิรุณรักและหทัยรัตน์ก็ไปห้างเพื่อเลือกชุดไปงาน
“อ้าวสองสาว” เสียงทักจากด้านข้างทำให้ทั้งสองคนชะงัก
“พี่นุ” พิรุณรักร้องเรียกพี่ชายจอมแสบ หลังจากวันนั้นที่ร้านหมูกระทะทุกคนรู้ความจริงว่าชายหนุ่มเป็นญาติผู้น้องของแกริคดนุก็หายเข้ากลีบเมฆเหมือนรู้ว่าถ้ามาเจอหน้าพิรุณรักจะทำให้เธองอน และตอนนั้นเธอก็งอนจริงๆ ถึงดนุจะบอกว่าไม่เกี่ยวกับเขา แกริคบอกให้ทำก็เถอะ แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้าดนุไม่ได้เข้ามาวนเวียนในชีวิตเธอเหมือนแต่ก่อน ก็ทำให้เธอลืมและหายงอนเขาไปเอง
“ไงครับ มาซื้ออะไรเหรอครับ” ดนุยิ้มกว้าง หวังว่าพิรุณรักจะหายโกรธเขาแล้ว กลบเกลื่อนไม่พูดถึงเรื่องที่ทำให้หญิงสาวโกรธ
“พาปลายมาเลือกชุดไปงานค่ะ” ดนุขมวดคิ้วเข้าหากัน
“งานเหรอครับ จะออกงานกับพี่ริคเหรอ” ดนุเหมือนรู้โดยไม่ต้องบอก
“ค่ะ แล้วนี่พี่นุมาทำอะไรคะ หรือพาสาวมาช๊อป”
“เปล่าครับ พี่มาดูของให้คุณแม่”
“ฝากสวัสดีคุณป้าด้วยนะคะ บอกว่าปลายคิดถึง”
“คิดถึงก็ไปหาสิครับ แม่พี่บ่นถึงปลายอยู่นะ พาพี่ริคไปด้วยก็ได้ รายนั้นมาถึงนี่ยังไม่ยอมไปเยี่ยมญาติเลยมีแต่ใช้งาน” ดนุได้ทีบ่นถึงญาติผู้พี่
“ค่ะ ปลายจะบอกคุณริคให้ พี่นุได้ของรึยังคะ ไปไหนต่อรึเปล่า”
“ได้แล้วครับ” ดนุชูถุงให้สองสาวดู
“งั้นไปกับเราไหมคะไปช่วยปลายดูชุดหน่อย” ที่พิรุณรักขอให้ดนุไปด้วยเพราะเธออยากให้เขาดูชุดให้จริงๆ เธอเดาไม่ถูกว่าแกริคจะชอบแบบไหน เป็นผู้ชายด้วยกันน่าจะช่วยได้
“พี่เหรอครับ สาวๆ น่าจะเลือกได้ดีกว่านะ”
“พี่นุไม่รู้เหรอคะว่ายัยปลายอยากเลือกเอาใจสามี ให้พี่นุไปช่วยเลือกเพราะเดาใจคุณแกริคไม่ถูก”
“ยัยหวาน” พิรุณรักตีแขนเพื่อนเบาๆ
“อ่อ อย่างนี้นี่เอง ก็ได้ครับ เลือกเสร็จพาพี่ไปเลี้ยงข้าวด้วยนะ” ดนุยิ้มกริ่ม
“ได้คร๊า” เมื่อตกลงกันได้สองสาวหนึ่งหนุ่มก็เดินตรงไปยังร้านเสื้อผ้าแบรนดัง
“พี่กร ชุดนี้เป็นไงคะ” ทันทีที่เข้ามาในร้าน สองสาวก็หยุดชะงัก