“พี่มุตาก็ อยากลองมีแฟนเป็นฝรั่งดูไหมล่ะคะ คุณแซคเป็นไง”
“ก็บอกว่าไม่ได้สนใจตานั่นไงคะ ชิ ไม่อยากรู้แล้วก็ได้” มุตาเดินสะบัดตูดหน้ามุ่ยกลับโต๊ะทำงานของตัวเอง พิรุณรักยิ้มตามหลังเธอ ตอนนี้เหตุการณ์ระหว่างเธอกับพี่ๆ ในแผนกกลับเข้าสู่ภาวะปกติแค่นี้เธอก็สบายใจแล้วล่ะ ถึงเวลาเลิกงานเธอก็กลับห้อง
ซึ่งวันนี้แกริคบอกว่าจะกลับช้า
เสียงโทรศัพท์ดัง
“หวาน” เป็นหทัยรัตน์ที่โทรเข้ามา เมื่อตอนหัวค่ำเธอโทรไปหารอบหนึ่งแล้วหนิ มีอะไรรึเปล่านะ
“ว่าไงหวาน”
(ปลาย ฉันไม่ไหวแล้วแก) เสียงร้องไห้สะอื้นมาตามสาย
“เป็นอะไร ยายเขาไปสบายแล้วแกอย่าเป็นแบบนี้สิ ฉันใจไม่ดีนะ” พิรุณรักรู้ว่าเพื่อนเสียใจมากเธอเองก็เสียใจกับเพื่อนเหมือนกัน แต่เธอก็ไม่อยากให้เพื่อนเป็นทุกข์
(ไม่ใช่เรื่องนั้น)
“แล้วเรื่องอะไร แกเป็นอะไร”
(คุณกร ฉันจะหยุด) เสียงร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ใจเย็นๆ แก แล้วเขายอมเหรอ”
(เขากำลังจะแต่งงาน) พิรุณรักยอมรับว่าตกใจเหมือนกันที่รู้เรื่องนี้ เธอและเอมมี่ต่างรู้ดีว่าหทัยรัตน์รักกรวิทย์และเชียร์ให้ทั้งคู่ลงเอ่ยกัน
“เขาบอกแกแบบนั้นเหรอ”
(ฉันได้ยิน และฉันก็บอกเขาเรื่องยุติความสัมพันธ์นี่แล้ว)
“แกรักเขาทำไมไม่สู้ ถามเขารึยังว่าเขาคิดยังไงกับแก”
(ฉันจะเอาอะไรไปสู้ ฉันเป็นแค่ผู้หญิงขายตัว เป็นเด็กที่เขารับเลี้ยง แล้วฉันมีสิทธิ์ถามเขาเหรอ) พิรุณรักรู้ทันทีเลยว่าเพื่อนเธออารมณ์ไม่คงที่
“โอเค ใจเย็นๆ แก ฉันเข้าใจ ให้ฉันไปหาไหม”
(ไม่เป็นไร แต่ฉันมีเรื่องให้แกช่วย)
“บอกมาได้เลย”
(ฉันอยากได้คอนโดสักที่ ฉันอยากจะเข้าไปอยู่พรุ่งนี้เลย)
“พรุ่งนี้ ฉันจะไปทำอย่างนั้นได้ยังไง”
(แต่คุณแกริคทำได้ นะแก ช่วยฉันหน่อย) การที่หทัยรัตน์ขอร้องเธอขนาดนี้คงไม่อยากอยู่ที่นั่นแล้วจริงๆ
“ได้ ฉันจะช่วย”
“ขอบใจมากแก”
หลังจากวางสายจากเพื่อน พิรุณรักก็โทรหาแกริคแต่เขาไม่รับ ได้แต่รอให้เขากลับมา
“คุณริคคะ” พิรุณรักเดินไปหาแกริคทันทีที่เห็นเขาเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“มีอะไรรึเปล่า เห็นแซคบอกว่าเธอโทรหาฉัน” แกริคติดประชุมกับฝ่ายการตลาดทำให้วันนี้เขาต้องกลับบ้านช้า
“คือหนูมีเรื่องอยากให้คุณช่วยค่ะ”
“มีเรื่องอะไรหืม” พิรุณรักเดินเข้าไปเกาะแขนเขา คิ้วสวยขมวดเข้าหากันทันทีแต่เอาไว้ก่อนเธอมีเรื่องต้องพูดกับเขา
“หนูอยากให้คุณช่วยจัดการเรื่องคอนโดให้หน่อยค่ะ เอาที่เดียวกับเราก็ได้แต่ไม่เอาห้องใหญ่มาก” คิวเข้มเลิกขึ้น เหมือนว่าอยากได้คำอธิบายต่อ
“คือ หวานเพื่อนของหนูคุณจำได้ไหมคะที่อยู่กับคุณกร” แกริคพยักหน้า
“หวานจะยุติความสัมพันธ์กับคุณกรค่ะ”
หลังจากวางสายไปแล้วหทัยรัตน์ก็ไลน์มาบอกรายละเอียด หทัยรัตน์มีเงินเก็บอยู่บ้าง ก็อย่างที่บอกว่าเธอได้จากกรวิทย์มามากจนไม่อยากได้อะไรจากเขาอีก การที่เธอจะซื้อคอนโดก็เป็นเงินที่เขาให้ไว้เหมือนกัน มันก็ไม่ต่างจากเธอรับของจากเขา
“บอกแซคก็ได้”
“หนูอยากขออนุญาตคุณก่อนนี่คะ หนูไม่กล้าใช้คนของคุณหรอกค่ะ” แกริคโยกหัวเมียตัวน้อยอย่างเอ็นดูกับความขี้เกรงใจของเธอ
“แซคมันแยกแยะออก ว่าอันไหนควรช่วยหรือไม่ควรช่วย”
“ค่ะ”
“จะเข้ามาอยู่วันไหน” แกริคหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความหาคนสนิท
“พรุ่งนี้ค่ะ” แกริคหันมามองหน้าเธอนิดหน่อยแล้วจัดการกับโทรศัพท์ต่อ
“เรียบร้อย แซคจะจัดการให้พรุ่งนี้เข้ามาอยู่ได้เลย”
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ทำดีก็ต้องได้รางวัลนะ” แกริคยิ้มกริ่ม พิรุณรักหน้าบึ้งหุบยิ้มทันที จนคนตัวโตก็พลอยหุบยิ้มไปด้วย
“เป็นอะไร”
“หนูถามได้ใช่ไหมคะ” ปากบางเม้มเข้าหากัน ถามเขาก่อน ทั้งที่อารมณ์เธอพลุกพล่านไปทั่ว
“ได้สิ มีอะไร”
“ตัวคุณมีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิง ไปไหนมาคะ” เมื่อเขาเปิดโอกาสเธอก็ไม่รอช้า ทั้งน้ำเสียงและแววตามาเต็ม คนตัวโตที่โดนซักตกใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้แสดงให้เธอเห็น
“ประชุมไง กับฝ่ายการตลาด”
“แล้วกลิ่นพวกนี้มันคืออะไรคะ อย่าเข้ามาใกล้หนู” พิรุณรักถอยหลังทันทีที่เขาจะเดินเข้ามาใกล้ จนคนตัวโตรู้สึกหมั่นไส้ ก่อนหน้านี้ยังมาเกาะแขนเขาอยู่เลย
“เขาจะล้มฉันเลยต้องช่วย มันไม่มีอะไร” แกริคอธิบายอย่างใจเย็น
หลังจากที่ประชุมเสร็จทุกคนเดินออกมาจากห้อง ผู้หญิงคนนั้นที่เคยยั่วเขาจะล้มเขาเลยต้องช่วยเพราะเขาอยู่ใกล้สุด เขารู้จุดประสงค์ของเธอดีว่าต้องการอะไร เขาจะยังไม่จัดการขั้นเด็ดขาดถ้าเธอยังไม่ได้ทำอะไรที่ร้ายแรงกว่านี้
“จริงเหรอคะ” พิรุณรักจ้องตาคนตัวโตแขม่ง ก็เจอกับแววตาจริงจังของเขา
“จริงสิ ฉันจะโกหกเธอทำไม ไม่เอาน่า” แกริคเดินเข้าไปหาเธออ้าแขนออกเตรียมจะดึงคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมแขนแต่เธอก็ยังขยับหนีเขา
“คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ แล้วนี่ทานข้าวมารึยังคะ”
“ร้ายนะเดี๋ยวนี่” แกริคยกนิ้วชี้ขึ้นลงว่าหญิงสาวที่นับวันยิ่งกล้าแสดงความรู้สึกที่มีต่อเขา ซึ่งเขาก็ชอบเพราะมันหมายความว่าเธอรักเขา
พิรุณรักส่งค้อนให้เขาเมื่อโดนกล่าวหา เธอไม่ได้ร้ายซะหน่อยแค่รักษาสิทธิ์ของตัวเอง
“อาบน้ำให้หน่อย แล้วค่อยมาทำอาหาร” แกริคดึงมือคนตัวเล็กให้เดินตามเข้าห้อง
“มันจะเสียเวลาเอานะคะ อีกอย่างหนูก็อาบแล้วด้วย” เธอไม่ยอมหลงกลคนเจ้าเล่ห์ ถ้าเข้าไปอาบน้ำให้เขามีหวังไม่ได้อาบน้ำเฉยๆ แน่
“ไม่เสียเวลาหรอก เธออาบให้จะได้มั่นใจว่ากลิ่นน้ำหอมคนอื่นออกไปหมด” เหตุผลอะไรของเขาฟังไม่ขึ้นสักนิด
“พูดอีกนิดสิคะ เผื่อหนูใจอ่อน” พิรุณรักเชิดหน้าขึ้น คิดว่ายังไงเธอก็ขัดเขาไม่ได้ ขอเล่นตัวให้เขาอ้อนวอนสักหน่อยเถอะ ดูสิว่าเขาจะยอมรึเปล่า
แกริคมองคนตัวเล็กด้วยสีหน้าคาดโทษ จนคนโดนมองรู้สึกขนลุกซู่ เขารวบเอวบางเข้ามาในอ้อมแขน ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงกระซิบข้างริมหูขาวสะอาด
“อาบน้ำให้หน่อยนะครับที่รัก แล้วจะมีรางวัลให้” ร่างบางรู้สึกพ่ายแพ้ให้กับคำพูดของเขาอย่างหมดรูป แววตาหวานซึ่งที่ส่งผ่านมาทำให้แข่งขาเธออ่อนระทวย
“ได้ไหม หืม ถอดเสื้อให้หน่อย” แกริคเห็นเธอหน้าแดงก็ยิ่งแกล้งพูดเย้า กระซิบคลอเคลียข้างแก้มเนียน
“ใจอ่อนรึยัง” พูดชิดปากบางกดลงเบาๆ
“ปล่อยก่อนสิคะ” พิรุณรักดันตัวออกจากเขา เธอเขินไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว
แกริคยอมปล่อยเธอแต่โดยดี จับมือเล็กมาอยู่ที่กระดุมเสื้อเม็ดบน พิรุณรักเหลือบตามองหน้าคนเอาแต่ใจก็เจอกับสายตาหวานเชื่อมของเขา มือไม้เธออ่อนระทวยไปหมด ไม่ว่าจะกี่ครั้งเธอก็ไม่ชินสักที เธอไม่เคยต้านทานเสน่ห์เขาได้เลย
กระดุมเม็ดแรกและเม็ดต่อๆ ไปจนถึงเม็ดสุดท้ายหลุดออกไปด้วยฝีมือของคนตัวเล็ก เผยให้เห็นมัดกล้ามเรียงตัวสวยน่าลูบไล้