The Overlord of Blood and Iron 25: ทำข้อตกลง (2)

ตอนที่ 25: ทำข้อตกลง (2)

ตอนที่ 25: ทำข้อตกลง (2)

 

“เช่นอะไรประมาณนี้” สิ่งที่เขายื่นให้ชายชราดูคือแหวนเรียบ ๆ สองวง

 

“นี่มันอะไร?”

 

ขณะเดียวกันน้ำเสียงจากชายชราควอนก็ได้ต่างไปจากตอนแรกโดยสิ้นเชิง

 

มันคือสัญญาณไฟเขียวที่หมายถึงการยอมรับ

 

นั่นหมายความว่าเขากำลังจะปฏิบัติต่อคังชอลอินในฐานะหุ้นส่วนทางธุรกิจคนหนึ่งไม่ใช่เด็กน้อยที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน

 

“แหวนแห่งความแข็งแกร่ง”

 

“แหวนแห่งความแข็งแกร่ง?”

 

“มันช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับคนที่สวมมันได้ประมาณ 10 กก. มันมีราคาที่ค่อนข้างถูกแต่ผลลัพธ์ที่ได้น่าประทับใจอย่างมาก”

 

“เธอจะบอกให้ฉันเชื่อ…”

 

“คุณควอน”

 

คังชอลอินแทรกตัดบทพูดของเขา

 

“คุณคิดว่าฉันจะมาขายยาเสพติดให้งั้นเหรอ?”

 

คำถามเย็นชาที่มาพร้อมกับสายตาเยือกเย็นทำเอาชายชราแทบจะหัวใจวายมันซะตรงนั้น

 

‘เป็นผู้ชายแบบไหนกันถึงได้มีสายที่ดุดันมากขนาดนี้…!’

 

มันเป็นการจ้องมองที่ทำให้เขาต้องหวาดกลัวซึ่งเขาไม่ได้พบเห็นอะไรแบบนี้มานานหลายปีมากในชีวิต

 

‘เป็นไปได้ด้วยเหรอ…?’

 

เนื่องจากแนวทางของงานที่เขาทำ ชายชราได้พบเจอกับอาชญากรมาแล้วทุกรูปแบบ พวกเขามีปืนที่ให้เช่ากันแบบง่าย ๆ มีพวกแก๊งอันธพาลที่รับจ้างตามฆ่าคนอยู่จำนวนไม่น้อย อย่างไรก็ตามในบรรดาแก๊งอันธพาลโหดร้ายเหล่านี้ยังไม่มีใครที่สามารถทำให้เส้นผมของเขาต้องลุกตั้งด้วยความสั่นกลัวได้เหมือนอย่างที่ชายหนุ่มคนนี้ทำมาก่อน

 

“ฉ ฉันขอโทษ … ฉันผิดเอง”

 

ในที่สุดชายชราก็ยอมลดหางของตัวเอง

 

แม้แต่ตัวชายชราเองก็ยังไม่อาจยอมรับได้

 

ความภาคภูมิใจของเขาถูกทำลายทั้ง ๆ ที่มีบอดี้การ์ดกล้ามใหญ่คอยเฝ้าระวังอยู่ข้างหลังถึงแปดคน

 

ในตอนนั้นเขาก็คิดได้ว่าบนโลกนี้คงมีผู้คนอีกมากมายหลายประเภทอาศัยอยู่

 

“ไม่เป็นไร”

 

คังชอลอินที่เผลอไปทำให้ชายชราต้องหวาดกลัวโดยไม่ตั้งใจปรบมือของตัวเองแล้วพูดต่อว่า

 

“มีคำพูดหนึ่งบอกไว้ว่า ‘ต้องได้เห็นก่อนถึงจะยอมเชื่อ’ ต่อให้ฉันบรรยายสรรพคุณมันเป็นพันครั้งก็ไม่เท่ากับการที่คุณได้ลองใช้มันเพียงแค่ครั้งเดียว”

 

“ฉันลองได้เหรอ?”

 

“แน่นอน”

 

คังชอลอินพยักหน้าพลางยื่นมือด้วยความระวังเพื่อวางแหวนทั้งสองวงลงบนมือของชายชรา

 

“อืม….หืม…”

 

ชายชรากระแอมเสียงเบา ๆ ราบกับว่าเขากำลังประหม่า

 

“นี่มัน…”

 

“มันไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษเลยไม่ใช่เหรอ?”

 

“ใช่ มันเป็นแบบนั้น”

 

“เพราะมันไม่ใช่ของราคาแพงและเป็นเพียงวัตถุธรรมดา อย่าไปคาดหวังกับสิ่งที่มันเกินจริงนักเลย”

 

“…แล้วเธอใช้มันยังไง?”

 

“ลองยกอะไรสักอย่างดูสิ เช่นพวกอะไรใหญ่ ๆ ที่คุณไม่สามารถพกติดตัวไปด้วยได้เพราะคุณไม่มีกำลังที่มากพอ”

 

“อืม…”

 

ตามคำพูดของคังชอลอิน ชายชราลูบเคราสีขาวของเขาอย่างพินิจก่อนจะเลือกยกบาร์เบลที่มีน้ำหนัก 20 กก.ตรงมุมสำนักงาน มันเป็นบาร์เบลที่หนึ่งในบอดี้การ์ดของเขาใช้ในการออกกำลังกายอยู่บ่อย ๆ

 

“…!”

 

ทันใดนั้นดวงตาของชายชราก็เบิกกว้าง

 

“น นี่มันอะไรกัน?!”

 

แน่นอนว่าชายชราจะต้องประหลาดใจที่ได้เห็นตัวเองสามารถยกบาร์เบลด้วยมือเพียงข้างเดียวทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถยกมันได้แม้จะใช้ทั้งสองมือแล้วก็ตาม

 

“เพราะคุณสวมแหวนไว้สองวงพร้อมกันมันจึงเป็นไปได้ที่คุณจะสามารถยกอะไรที่มากกว่าปกติได้ถึง 20 กก. หรือแม้แต่จะแกว่งเล่นไปมาก็ย่อมทำได้”

 

คังชอลอินอธิบายด้วยใจจริง

 

“จริงเหรอ?”

 

“แน่นอน”

 

“งั้นฉันขอลองได้ไหม?”

 

“ได้อยู่แล้ว”

 

หลังจากได้รับอนุญาต ชายชราควอนรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เขากางไหล่เตรียมพร้อมและออกแรงเล็กน้อยเพื่อเหวี่ยงบาร์เบล

 

วู้ช!

 

บาร์เบล 20 กิโลกรัมเคลื่อนไหวราวกับขนนกในมือของชายชรา

 

แม้จะมีร่างกายที่ดีเพียงใดแต่เมื่ออยู่ในวัยชราก็ไม่มีทางที่ข้อต่อกระดูกจะดีได้เหมือนสมัยยังเป็นหนุ่ม ๆ มันช่างน่าประหลาดใจสำหรับชายชราควอนเป็นอย่างมากราวกับเขาได้ย้อนเวลากลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้ง

 

“…… !”

 

“อะไรกัน…!”

 

“เป็นไปไม่ได้!”

 

บอดี้การ์ดที่เฝ้ามองดูอย่างเงียบ ๆ พูดขึ้นด้วยความหวาดหวั่น

 

“มหัศจรรย์มาก… นี่ ที่แพนเจียอะไรนั่นมีของดี ๆ แบบนี้อยู่อีกเพียบเลยใช่ไหม?”

 

“มันเป็นหนึ่งในของถูกที่ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น” คังชอลอินว่าพลางหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ

 

“แหวนนั่นเป็นหนึ่งในสิ่งเล็ก ๆ ที่สามารถนำออกมาจากแพนเจียได้ รวมถึงอะไรบางอย่าง… ที่มีพลังมากพอที่จะทำลายได้ทั้งเมือง”

 

“นั่นมัน…หมายถึง…”

 

“ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่มันไม่สำคัญ แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะเชื่อมันได้เอง”

 

“หืม…ก็คงจะจริง”

 

“ก่อนอื่นฉันต้องการเริ่มทำข้อตกลงระหว่างเราโดยการขายทองคำที่ฉันนำมาในวันนี้ก่อน คุณคิดว่าไง?”

 

“ไม่มีเหตุผลให้ต้องไม่ทำสักหน่อยเลยนี่ หากสิ่งที่เธอพูดมาเป็นความจริงฉันจะยอมกระโดดเข้าร่วมธุรกิจที่เธอแนะนำมา ธุรกิจนี้จะเป็นดั่งห่านที่ออกไข่ทองคำให้กับพวกเรา!”

 

“ถูกต้อง จากนั้นคุณก็จะสามารถเริ่มต้นใหม่และซื่อสัตย์กับครอบครัวของคุณได้อย่างที่ต้องการ ลูกสาวของคุณไม่ชอบงานที่คุณกำลังทำอยู่นี้หรอกใช่ไหม?”

 

“… !”

 

“ฉันจะพูดอีกครั้งว่านี่คือโอกาส”

 

“….ดูเหมือนว่าไม่มีสิ่งใดที่เธอจะไม่รู้เกี่ยวกับฉันเลยสินะ”

 

“แล้วคุณคิดว่าฉันมาที่นี่โดยไม่รู้อะไรเลยหรือยังไง?” คังชอลอินถามกลับเมื่อรู้ความต้องการของชายชราควอนได้เป็นอย่างดี

 

มันเป็นความปรารถนาและความโหยหาที่อาชญากรทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

 

สำหรับมนุษย์แล้วนั้น เมื่อได้ก่อเหตุอาชญากรรมไปแล้ว คน ๆ นั้นจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันและความทรมานจากกฎหมาย ยิ่งพวกเขาหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมมากเท่าไหร่พวกเขายิ่งต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความระแวงและหวาดกลัว กลัวว่าวันที่พวกเขาจะถูกนำตัวไปพิจารณาคดีในศาลจะมาถึง ดังนั้นมันแน่นอนว่าถ้ามีทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้พวกเขาหลบหนีจากความผิดทางอาญาและอยู่ร่วมกับสังคมในฐานะสมาชิกที่ใสสะอาดได้พวกเขาก็จะเลือกทางนั้น

 

ความคิดและความปรารถนาดำรงอยู่ในตัวของชายชราไม่ว่าเขาจะแก่หรือทรงพลังมากขนาดไหนในขุมนรกนี้ มันเป็นความปรารถนาสุดท้ายสำหรับคนที่มีชีวิตมาตลอดในฐานะอาชญากร สำหรับคังชอลอินที่รู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร ๆ ทำให้เขาสามารถควบคุมชายชราได้อย่างง่ายดาย

 

“ความปรารถนาของคุณ ฉันสามารถช่วยทำให้มันเป็นจริงได้”

 

“จ จริงเหรอ?”

 

เสียงของชายชราสั่นเทาอย่างรุนแรง

 

“เพียงแค่รอดู หลังจากนี้อีกเพียงหนึ่งหรือสองเดือนโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง”

 

“เฮ้อ…ใครจะไปรู้ว่าฉันจะมาได้ยินอะไรแบบนี้ในช่วงที่ไม้ใกล้ฝั่งเต็มที”

 

“นั่นถึงได้เป็นเหตุผลว่าทำไมการใช้ชีวิตถึงได้สนุกยังไงล่ะ กลับกันใครจะไปรู้ว่าจะมีประตูมิติสู่โลกที่แตกต่างเกิดขึ้น”

 

“เธอนี่พูดได้ตลกดี ทั้ง ๆ ที่การจะมีมุมมองอะไรแบบนี้ได้ต้องมีอายุที่ยืนยาวพอสมควรแท้ ๆ”

 

รอยยิ้มขนาดใหญ่ได้เผยขึ้นบนใบหน้าชายชรา

 

“นี่ หัวหน้าโอ”

 

“ครับ ท่านประธาน”

 

“เอาเงินให้เขาไป 350 ล้านวอน”

 

“ได้ครับ”

 

มันมากกว่าราคาทองที่เขาเรียกตามตลาดไป 100 ล้านวอน

 

“ฉันจะไม่หักค่านายหน้า สำหรับทองแล้วฉันให้ 250 ล้านวอน ส่วนค่าแหวนฉันให้เพิ่มอีก 100 ล้านวอน

 

“มันไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้น ราคาของมันอยู่ที่ประมาณ 3 – 4 ล้านวอน”

 

“งั้นเหรอ?”

 

“คุณเอามันไปได้เลย ฉันให้”

 

“ให้ฉันแบบฟรี ๆ เลยเนี่ยนะ?”

 

“ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการทำข้อตกลงอนาคตของพวกเราก็แล้วกัน ถึงฉันจะพกติดตัวเอาไว้อยู่ตลอดฉันก็ไม่จำเป็นต้องใช้มันอยู่ดี”

 

“…เธอมันใจใหญ่จริง ๆ แต่ฉันไม่สามารถรับมาแบบฟรี ๆ ได้ รับส่วนเพิ่มนั่นไปซะเถอะ อย่างน้อย ๆ ฉันก็ต้องการแสดงความขอบคุณต่อคู่ค้าที่มีศักยภาพในอนาคต”

 

“ถ้าคุณยืนยันแบบนั้นฉันก็จะยินดีรับไว้”

 

ด้วยเหตุนี้ ข้อตกลงแรกระหว่างคังชอลอินและชายชราควอนก็เสร็จสิ้น

 

มันเป็นข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายต่างพึงพอใจ

 

คังชอลอินมีความสุขที่เขาได้เงินสดมาและชายชราควอนก็มีความสุขเพราะเขาได้รับสิ่งของสำหรับธุรกิจใหม่และสามารถจุดความฝันของเขาที่ดับมืดขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง มันเป็นสถานการณ์ที่ต่างได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

 

“แล้วฉันจะติดต่อหาคุณอีกภายในหนึ่งเดือน ช่วงนี้ก็ระวังเรื่องข้อเสนอต่าง ๆ ของคุณให้ดีก็แล้วกัน หรือถ้าคุณปิดร้านนี้ไปได้เลยก็จะยิ่งดีเพราะไม่งั้นมันคงเป็นสิ่งที่น่าเศร้ามากถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก่อนที่คุณจะได้นั่งรถไฟแห่งดอกไม้ แล้วมันก็น่ารำคาญสำหรับฉันที่ต้องไปหาคู่ค้าคนใหม่”

 

คังชอลอินตรวจสอบเงินที่อยู่ในกระเป๋าและไม่ลืมกล่าวคำเตือนที่ชายชราต้องระวังขณะก้าวออกจากร้านของชายชราไป มันคงเป็นเรื่องยากและเสียเวลาถ้าชายชราควอนต้องเข้าคุกไปก่อนที่เขาจะได้เริ่มทำธุรกิจครั้งใหม่

 

“แน่นอน ฉันจะปิดมันแน่ ๆ!”

 

ชายชราพยักหน้า

 

“ถ้าหากเธอต้องออกไปทำงานใหญ่ ๆ ก็ต้องระวังความปลอดภัยให้มากขึ้นด้วยรู้ไหม ส่วนเรื่องทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ได้จะใช้ชีวิตไปอย่างไร้ประโยชน์เพราะฉะนั้นก็เตรียมตัวให้ดีสำหรับการดีลครั้งต่อไปของเราเถอะ”

 

“ได้สิ”

 

ด้วยบทสนทนาครั้งสุดท้ายเช่นนั้น คังชอลอินกลับขึ้นไปนั่งบนมัสแตงของเขาอีกครั้งจากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังสำนักงานของปาร์คดูชิกต่อ

 

“ท่านประธาน”

 

หัวหน้าโอเรียกความสนใจจากชายชราขณะมองตามมัสแตงของคังชอลอินที่ขับไกลออกไป

 

“ว่ายังไง? หัวหน้าโอ”

 

“ถึงมันจะวิเศษขนาดไหนแต่การให้เงินเขาเพิ่มไปอีกร้อยล้านแบบนั้นจะไม่มากเกินไปหน่อยหรือครับ? ทำไมคุณถึงได้เชื่อใจเขามากขนาดนี้?”

 

“สัญชาตญาณน่ะ”

 

“สัญชาตญาณ?”

 

เมื่อได้รับคำตอบที่แปลกประหลาด ใบหน้าของหัวหน้าโอก็บูดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ

 

สัญชาตญาณ

 

ธุรกิจเป็นสิ่งชั่วร้ายที่ไม่ควรทำโดยใช้แค่สัญชาตญาณ แต่ควรทำด้วยข้อมูลที่ปลอดภัยและมีเหตุผล ธุรกิจอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนต้องมีหนี้สินหากขั้นตอนใด ๆ มีความผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว แต่ชายชรากลับให้เงินเขาไปร้อยล้านวอนโดยสัญชาตญาณ มันไม่ใช่สิ่งปกติที่ชายชราควอนผู้ยิ่งใหญ่จะกระทำ

 

“ท่านประธาน หรือว่าคุณ…”

 

“ฉันไม่ได้แก่จนเลอะเลือน เพราะงั้นไม่ต้องมาถามฉันแบบนั้น!”

 

ชายชราควอนที่ดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของหัวหน้าโอตะโกนดักทาง

 

“โอ…หัวหน้าโอ แกมันโง่งี่เง่าไม่หายจริง ๆ เพราะมีหัวแบบนี้อยู่บนไหล่ไงฉันถึงไม่ยอมมอบธุรกิจอะไรให้ไปทำ!”

 

“…”

 

“สำหรับธุรกิจนี้น่ะ แกไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำเข้าใจไหม? เด็กคนนั้นก็บอกอยู่ว่าไม่สามารถนำอะไรจากโลกนี้ไปสู่อีกโลกนั้นได้ ดังนั้นจากมุมมองของนักธุรกิจแล้วมันไม่มีเรื่องค่าใช้จ่ายต้นทุนอยู่เลย! หมายความว่าถ้าแกสามารถรักษาคนที่ข้ามไปมาระหว่างโลกนั้นโลกนี้ไว้ได้แกก็จะสามารถทำเงินได้แบบรวยโคตร ๆ!”

 

“โอ้ อย่างนั้นเองหรอครับ…?”

 

“และแหวนวงนี้”

 

ชายชราควอนพึมพำพลางดูแหวนเพิ่มพลังราคาถูกที่อยู่บนนิ้วของเขา

 

“นอกจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทันสมัยมากมายฉันก็ไม่เคยเห็นหรือได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันเอาแหวนวงนี้ไปให้กับนักเบสบอลมืออาชีพใช้?”

 

“มันคง…คงเป็นเกมส์ที่ดุเดือด”

 

“และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้เล่นเบสบอลมืออาชีพคนนั้นได้ไปเล่นในเมเจอร์ลีก?”

 

“รายได้ประจำปีที่น่าจะมากกว่าพันล้าน”

 

“แล้วไอ้บ้าคนไหนที่มันมาโวยวายกับไอ้แค่เงินร้อยล้านวอน?”

 

“โอ้!”

 

หัวหน้าโอกุมศีรษะด้านหลังตัวเองแน่นและดูเหมือนกับว่าเขาจะเป็นลมหมดสติเมื่อรู้ถึงข้อเท็จจริงของชายชรา

 

ชายชราที่ไร้ซึ่งพลังและเรี่ยวแรง แหวนแห่งความแข็งแกร่งนี้จะช่วยเพิ่มพลังให้กับเขาได้พอ ๆ กับผู้ชายที่ยังเต็มไปด้วยพละกำลัง

 

“หลังจากนี้เป็นต้นไปถ้าเพื่อนคนนี้แวะมาอีกเมื่อไหร่ก็ทำตัวกับเขาให้ดี ๆ แม้ว่าฉันจะไม่รู้แน่ชัดแต่เขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ หืม คนแบบนี้มาจากที่ไหนกันนะ? อย่างที่เขาพูด พวกเราต้องมีชีวิตยืนยาวและรอดูต่อไป! ฮ่า ๆ ๆ ๆ !”

 

ชายชราควอนหัวเราะเสียงดังพร้อมรอยยิ้ม

 

มันเป็นโอกาสที่ในที่สุดก็เกิดขึ้นหลังจากผ่านไปนาน … โอกาสของชีวิตที่เกิดขึ้นเมื่ออายุวนมาถึงรอบที่ 80

 

.

.

.

 

เมื่อคังชอลอินมาถึงที่สำนักงานของปาร์ดูชิกและได้รับการปฏิบัติดั่งเช่นราชา เขากำลังนั่งบนเก้าอี้ประธานของปาร์คดูชิกเพื่อฟังรายงาน

 

“รายงานมา”

 

“มันคือ…”

 

“ดูท่าจะยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยงั้นสินะ”

 

“ …” ปาร์คดูชิกไม่มีข้อแก้ตัว

 

“ฉันเข้าใจ”

 

“…!”

 

“ฉันก็คิดไว้อยู่แล้วว่าการตามหาตัวควักจองคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาเจอได้ในสองสามวัน มันต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๆ ก็สองถึงสามเดือน”

 

คังชอลอินนึกถึงเล่าปี่ผู้รอคอยอยู่นานเพื่อจะได้เจอกับขงเบ้งนักยุทธศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เพื่อเตือนให้สงบจิตสงบใจของตัวเองเข้าไว้

 

‘ไอ้สารเลวที่เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทองแบบนั้นกล้าดียังไงถึงได้เอาตัวลีกงมยองไปไว้กับตัวเองแบบนั้นอีก!’

 

ในทางกลับกัน ความโกรธของเขาที่มีต่อรอตส์ไชลด์ก็เริ่มกระจายแทนขึ้นมา รอตส์ไชลด์เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนที่เกิดมาพร้อมช้อนเงินช้อนทองและถูกมอบแต่สิ่งดี ๆ ให้ทั้งซ้ายและขวามาตลอดทั้งชีวิต

 

ลีกงมยอง ผู้อพยพจากชาวจีนที่พำนักอยู่ในเกาหลีได้เข้าเรียนที่ฮาร์วาร์ดเพราะความฉลาดของเขา รอตส์ไชลด์ที่ดำรงตำแหน่งประธานนักเรียนอยู่ที่นั่นจึงได้จับตาดูความสามารถของลีกงมยองมาโดยตลอด

 

คังชอลอินที่พยายามจะสงบอารมณ์ความโกรธของตัวเองวางเงินสี่กองลงบนโต๊ะของปาร์คดูชิกโดยแต่ละกองจะเป็นจำนวนเงินห้าล้านวอน

 

“โอ้ บิ๊กบอส! ทำไมคุณถึงเอาอะไรแบบนี้มาให้พวกเราบ่อยนักล่ะครับ?”

 

“แกก็รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร”

 

“แน่นอนสิครับ ผมจะรีบส่งคนออกไปมากกว่าเดิมเพื่อกระจายกำลังในการออกตามหามากยิ่งขึ้น!”

 

ปาร์คดูชิกกำหมัดแน่นเพื่อแสดงให้คังชอลอินเห็นว่าเขาจริงจังกับเรื่องนี้มากแค่ไหน

 

“แต่นี่มันไม่มากเกินไปหน่อยหรอครับ? แค่สองกองก็พอ…”

 

“อย่าทำตัวเหมือนไม่ชอบในสิ่งที่ฉันทำจะได้ไหม?”

 

“…อ่า ครับ บิ๊กบอส”

 

ควักจองคือกุญแจสำคัญถ้าเขาต้องการมอบบทเรียนให้กับรอสต์ไชลด์และลีกงมยอง เงินเล็กน้อยพวกนี้ไม่ได้มีค่าอะไรเลยสำหรับเขาถ้าหากมันจะทำให้เขาสามารถคว้าตัวควักจองมาได้ เขาจะเพิ่มครั้งละล้าน ไม่สิ ครั้งละสิบล้านก็ยังได้

 

“งั้นฉันไปล่ะ แล้วฉันจะมากลับมาใหม่เร็ว ๆ นี้”

 

เมื่อคังชอลอินเสร็จธุระที่สำนักงานของปาร์คดูชิกแล้วเขาตั้งใจจะไปที่บูชอนต่อเพื่อไปเยี่ยมแม่ของเขา

 

‘เรามันเป็นลูกที่แย่จริง ๆ …’

 

หากนึกย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อนที่เขาได้รับการอัญเชิญเป็นครั้งแรก เขาไม่เคยกลับมาเยี่ยมแม่ตัวเองอีกเลย ในตอนนั้นคังชอลอินคลั่งไคล้ในสงครามที่แพนเจียมากจึงได้ทำผิดบาปต่อครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเขาไปโดยไม่รู้ตัว มันไม่สำคัญว่าเขาจะให้เงินกับเธอไปมากแค่ไหนแต่ที่สำคัญคือเขาไปเคยกลับไปนวดไหล่ให้แม่ตัวเองเลยสักครั้งนี่ต่างหาก ในฐานะลูกชายแล้วมันให้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

 

‘แม้แต่ครอบครัวยังดูแลไม่ได้แล้วจะไปปกครองแพนเจียได้ยังไงกัน…?’

 

คังชอลอินครุ่นคิดแล้วให้คำมั่นที่จะทำหน้าที่ลูกที่ดีเพื่อแม่ของเขา

 

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ออกตัว โทรศัพท์ที่เงียบมานานของเขาก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นมาเสียก่อน

 

มันคือสายเรียกเข้าจาก…

 

“ตัวแทนลี?”

 

ราชันย์ที่เขาไม่เคยรู้ถึงการมีอยู่มาก่อน ลีแชริน

.

.

The Overlord of Blood and Iron

The Overlord of Blood and Iron

Score 10
Status: Completed

มหาศึกจอมราชันย์ The Overlord of Blood and Iron

 

บทนำ

คังชอลอิน จอมราชันย์ผู้แกร่งกล้าจนใครต่างต้องสยบ เหตุสูญเสียทำให้เขาต้องย้อนเวลากลับไปเพื่อพิชิตกับความท้าทายอีกครั้งในการขึ้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่และผู้ควมคุมทวีปแพนเจีย

คังชอลอินจะสามารถเอาชนะจอมราชันย์ทั้งเก้าเพื่อปกครองทวีปแพนเจียได้หรือไม่?!

Options

not work with dark mode
Reset