จากมุมมองของจองจินโฮ เขาดูเหมือนคนปัญญาอ่อนที่ถูกปล่อยตัวจากคุก
“ไม่ …แกกำลังทำอะไรอยู่! ซอกวู!”
“ฉันทำมันได้! ไอ้สาวเลว! ฉันแทงมันไปแล้วพี่!”
“ไอ้บ้านี่!”
สถานที่ดังกล่าวปะทุขึ้นด้วยความโกลาหล
จองจินโฮชักดาบของตัวเองออกมาทันที แต่แน่นอนว่าเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีเรา
‘จินโฮพยายามจะฆ่าเขา’
ดูเหมือนเขาจะพยายามแก้ไขสถานการณ์ตอนนี้ ด้วยการฆ่ายูซอกวู
ราวกับจินโฮพยายามฆ่าเขาเพื่อปิดปาก แล้วค่อยเคลียร์สถานการณ์ในภายหลัง ตอนนี้นี่เป็นสิ่งเดียวที่จองจินโฮสามารถทำได้
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการต่อสู้กับเราในสถานที่แห่งนี้
ถ้าเป็นคิมฮยอนซึงหรือปาร์คด็อกกูที่ถูกแทงด้วยดาบ มันอาจมีโอกาส แต่น่าเสียดายที่ลีกียอง คนที่อ่อนแอที่สุดกลับเป็นคนที่ถูกโจมตี
‘คุณไม่สามารถฆ่าเขาได้’
เมื่อผมมองไปที่คิมฮยอนซึงโดยสัญชาตญาณ ผมก็เห็นว่าเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเช่นกัน
คิมแจจุนที่ดูเหมือนจะมีความสามารถด้อยกว่าในการเข้าใจสถานการณ์ เขาวิ่งตรงเข้ามาหาเราด้วยมีดสั้น เขาคิดว่าการที่จองจินโฮวิ่งออกไปเป็นสัญญาณของการต่อสู้
“ไอ้ขยะสารเลว! แกฆ่าเขา! แกฆ่ากีชอล!”
แน่นอนว่าผมฆ่าลีกีชอล
ถึงอย่างนั้น ผมก็นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าเขาจะทิ้งด็อกกูไว้ข้าง ๆ แล้ววิ่งมาหาผม
ดูเหมือนผมจะกลายเป็นคนดังของปาร์ตี้ในระหว่างการโจมตีครั้งนี้ ผมซึ่งควรได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัยจากด้านหลัง กลับกลายเป็นแทงค์หลักอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ความสามารถของปาร์คด็อกกูในการตัดสินสถานการณ์นั้นช้าเกินไป
อย่างน้อยผมคิดว่าเขาควรจะป้องกันการโจมตีครั้งที่สอง แต่เขาไม่สามารถป้องกันไม่ให้คิมแจจุนวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับมีดสั้น
‘บ้าเอ๊ย’
มีดสั้นแทงลงมาที่หลัง ขณะที่ผมก้มหลบอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเขาจะเล็งมันมาที่ลำคอ
‘เจ็บ! ‘
“อ๊ากกกก!”
มันเจ็บปวดเกินไป ปาร์คด็อกกูรู้สึกตัวทันทีหลังการโจมตีครั้งที่สองล้มเหลว เช่นเดียวกับการผลักเขาด้วยโล่ขนาดใหญ่ เขาก็เริ่มป้องกันผมด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวและแข็งกระด้าง
ยูซอกวูที่อยู่เบื้องหลังดูตกตะลึงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขาถือมีดที่ใช้แทงผมด้วยมือที่สั่นเทา
เขายังไม่ชินกับการแทงใครสักคน แต่แน่นอนว่าจองจินโฮและคิมฮยอนซึงสำคัญกว่าพวกขยะพวกนี้
“นี่เป็นเพียงความเข้าใจผิด….?” ดาบของทั้งสองปะทะกัน ก่อนที่เขาพูด
‘มันจบแล้ว’
-ปัง!! ทันทีที่ได้ยิน ผมก็มองเห็นภาพของจองจินโฮกระเด็นไป
การต่อสู้เริ่มขึ้น มันบรรลุวัตถุประสงค์ที่ทั้งสองฝ่ายจะสู้กันแล้ว
สิ่งที่เหลืออยู่คือการแก้ไขสถานการณ์ตอนนี้
ผมต้องได้รับการรักษาโดยด่วน แต่ปัญหาคือผมไม่สามารถพูดออกไปได้
ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงกรีดร้องดังออกมา นี่เป็นความเจ็บปวดที่ผมรู้สึกครั้งแรกในชีวิต เมื่อผมคิดว่าจะได้ยินเวทมนตร์แห่งการรักษาจากฮายัน แต่ผมกลับได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยวจากเธอแทน
“ฉันจะฆ่าแก! “
‘เจ็บ….’
“พวกมัน!! พี่!”
“ฉันเกลียดแก! ฉันจะฆ่าแก!! “
ผมหวังอย่างยิ่งว่าเธอจะรักษาผมแทนการกรีดร้อง สถานการณ์นี้เร่งด่วนมากจนผมไม่สามารถลุกขึ้นยืน
มอนสเตอร์วิ่งเข้ามาจากด้านหน้าพวกเขา ส่วนจองจินโฮและคิมฮยอนซึงกำลังสู้กัน
ดูเหมือนว่าปาร์คด็อกกูยังไม่สามารถรู้ได้ว่า เขาควรป้องกันด้านหน้าหรือด้านหลังที่ยูซอกวูอยู่ แต่เขาพยายามปกป้องให้มากที่สุด
“พี่คะ! พี่!”
“เขายังไม่ตาย…”
“พี่สาว! แหวน! แหวน! รีบใช้แหวนรักษาพี่เร็ว! “
“อ๊ากกกกก! พี่คะ! พี่!”
“ใจเย็น ๆ แล้วใช้แหวน!”
“อา! “
ผมคาดว่าจองฮายันจะตื่นตระหนก แต่สิ่งนี้ร้ายแรงกว่าที่ผมคิดไว้
หลังจากที่ปาร์คด็อกกูจับมือจองฮายันแน่นขึ้น เธอก็จำได้ว่าเธอควรทำอะไร “โอ้…การรักษา!”
แสงสว่างสาดส่องลงมา ร่างกายของผมไม่ได้ฟื้นฟูในทันที แต่แสงที่น่ายินดีกำลังรักษาผมแน่นอน
ความเจ็บปวดยังคงอยู่ อย่างไรก็ตามไม่มีความรู้สึกเสียวซ่านจากเลือดที่ไหลออกจากบาดแผล
‘ผมเกือบจะเสียชีวิตจริง ๆ ‘
ถ้าช้ากว่านี้อีกหน่อย ผมคงต้องตายแน่ ๆ
“พี่คะ…พี่…พี่คะ”
“พี่!”
“ฉันสบายดี…อา” ด้วยร่างกายที่สั่นเล็กน้อย ผมมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง
คิมฮยอนซึงและจองจินโฮกำลังต่อสู้กันโดยไม่มีคำพูดใด ๆ ใครได้ดูก็รู้ว่าคิมฮยอนซึงแข็งแกร่งกว่า
แน่นอนคุณไม่ได้ยินคำสาปแช่งของจินโฮ
ในที่สุดวายร้ายหลักของเราก็ละทิ้งยูซอกวูและคิมแจจุนไป เขาหันหลังเพื่อวิ่งหนีจากสถานที่แห่งนี้
คิมฮยอนซึงที่มองมาทางนี้สักพักก็พยักหน้าและพูดอย่างเร่งด่วน
“ด็อกกู! ดูแลฮายันและกียองด้วย ฉันจะตามจองจินโฮไป”
“โอเค เข้าใจแล้ว! ” เขาตัดสินว่าเราจะมีความสามารถพอในการจัดระเบียบสถานการณ์ในตอนนี้
ก่อนที่เขาจะหายไปจากสายตาของเราในพริบตา
คิมแจจุนดูเหมือนจะพยายามวิ่งไปจากที่นี่ ราวกับเขาเพิ่งเข้าใจในสถานการณ์อันบิดเบี้ยว แต่ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้พายูซอกวูไปด้วย
ในสถานการณ์เช่นนี้ ปาร์คด็อกกูสามารถหยุดมอนสเตอร์ได้
“พวกมัน!”
เป็นอีกครั้งที่ผมเห็นยูซอกวูฟาดดาบของเขา แต่แน่นอนว่าคราวนี้มันไม่โดนผม เพราะปาร์คด็อกกูฟาดกลับไปด้วยโล่
พลั่ก!
ร่างของยูซอกวูลอยไปในอากาศและชนกับกำแพง แต่ในขณะเดียวกันมอนสเตอร์ก็วิ่งเข้ามา
“โล่เวทมนตร์!”
การประกันภัยชั้นที่สองที่ถูกมอบโดยคิมฮยอนซึปิดกั้นเส้นทางของพวกมัน
ในขณะเดียวกัน ผมก็ท่องคาถาในพริบตา
คิมแจจุนและจองจินโฮหายไปจากสายตาแล้ว แต่คิมฮยอนซึงไม่สามารถจับทั้งคู่ได้
“พี่สาวหายไป….”
จองฮายันไปจับคิมแจจุน
“ไม่ต้องกังวลไปด็อกกู ขั้นแรกให้ดูแลมอนสเตอร์ที่อยู่ข้างหน้าและค่อยตามเธอไป ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน”
“ได้พี่….”
ผมไม่เห็นว่าเธอหายไปเมื่อไหร่และอย่างไร
เธอคงเตรียมคาถาที่จะติดตามคิมแจจุนไปทันที
ผมไม่รู้ว่าเธอจะสามารถจับคู่กับชายที่มีความว่องไวสูงได้หรือไม่ แต่เมื่อเห็นว่าเธอกำลังรีบ เธออาจจะกลับมาอีกทีหลังแก้ปัญหาเสร็จสิ้น
ใบหน้าของปาร์คด็อกกูเต็มไปด้วยน้ำตา บางทีอาจเป็นเพราะเขาเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ผมมองไปที่เขาและพูดขึ้น
“อย่าร้องไห้เจ้าหมู”
“ใคร ใครร้องไห้กัน”
ด้วยแรงผลักที่ทำให้มีดติดอยู่กับร่างกาย แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
* * *
‘เชี่ย’
มันยากที่จะเข้าใจว่าทำไมและอะไรเกิดขึ้น
‘ยูซอกวู ไอ้โง่ ไอ้ขยะนั่น ‘
ไม่มีความหวังสำหรับเขา
จริง ๆ แล้วยูซอกวูไม่ใช่คนเดียวในนั้น เช่นเดียวกันกับผมที่ยอมรับดาบของจองจินโฮเป็นสัญญาณการโจมตีและแทงมีดใส่ไอ้ขยะนั่น
ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ลีกีชอลเป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมานาน ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เพราะกียองฆ่าเพื่อนของผม
‘ฉันรู้ว่าแผนถูกยกเลิก….’
แต่ทั้งหมดเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นที่แสดงรอยยิ้มขณะกล่าวขอโทษ ผมรู้ว่าต้องหักห้ามใจ แต่มันช่วยไม่ได้
การแสดงออกนั่น….อารมณ์เหล่านั้นเป็นปัญหา
การแสดงออกที่ดูเหมือนกำลังเยาะเย้ย
นั่นเป็นการยั่วยุอย่างชัดเจน
ปัญหาคือผู้ชายคนนั้นมองผมอย่างไร เขาดูเหมือนจะดูถูกผมจากข้างใน ถึงกระนั้นผมก็แทงผู้ชายคนนั้นจนทำอะไรไม่ถูก
แม้จะอยู่ในสถานการณ์นั้น ผมก็เห็นการแสดงออกนั่นที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจอย่างแปลกประหลาด
จองจินโฮ ไอ้สารเลวนั่นก็เป็นปัญหาเช่นกัน
ในตอนแรกผมไม่ได้คิดว่าเรามีมิตรภาพที่ดีนัก แต่ผมไม่นึกว่าเขาจะทิ้งเราไป ราวกับว่าผมไม่มีความสำคัญเลย
‘ผมไม่สนใจ’
แต่นั่นไม่สำคัญอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามผมอยู่กับเขา เพราะผมต้องการ ผมใช้เขาและเขาก็ใช้ผม มันเป็นเรื่องธรรมดา
‘อย่างแรก’
ก่อนอื่นผมต้องออกไปจากที่นี่
จองจินโฮเพิ่งตัดสินใจว่าไม่มีโอกาสชนะในสถานการณ์นี้ ผมสามารถเดินตามเส้นทางที่จองจินโฮใช้
แม้กระทั่งตอนนี้ร่องรอยที่เขาหนีก็ยังชัดเจน หลังจากติดตามจองจินโฮไป พอเราจัดการกับคิมฮยอนซึงเสร็จ คราวนี้ทุกอย่างจะง่ายขึ้น
ผมคงไม่สบายใจ หากไม่ฆ่าไอ้เวรลีกียองนั่น
ตอนนั้นเองที่ผมพยายามเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด ขณะถือคันธนูและลูกศร ผมสังเกตเห็นบางอย่าง
‘อะไรกัน? ‘
มันแตกต่างจากเส้นทางที่ผมจำได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมรู้อย่างแน่นอน
นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ผมเปลี่ยนคลาสเป็นอาร์เชอร์
ผมสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติกับดันเจี้ยนหรือไม่ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน ร่องรอยของจองจินโฮและคิมฮยอนซึงก็รู้สึกแปลกเช่นกัน
“อะไรกัน….”
เมื่อผมมองไปรอบ ๆ ผมรู้สึกได้ถึงสายลมที่รุนแรงและฉับพลันพัดมาจากทิศทางที่ไม่รู้จัก
“ฮะ? “
จากนั้นไม่นาน ผมรู้สึกได้ว่าขาข้างหนึ่งของผมถูกตัด
“อ๊ากกกกกกกก!!”
‘อะไร…. นี่คืออะไรกัน….! ‘
ผมไม่สามารถคิดอะไรได้ มันจึงใช้เวลาไม่นานในการตัดขาของผมอีกข้าง
คุณจะกลัวมากที่สุด เมื่อไม่รู้ว่าอะไรโจมตีคุณ
“อ๊ากกกกกกกกกกกก!”
เมื่อสายลมพัดมาอีกครั้ง มือก็ถูกตัดออก
“อะไรน่ะ! อะไรกัน…อ๊ะ!”
สิ่งที่อยู่ในใจของผมคือเวทมนตร์ เมื่อผมมองไปรอบ ๆ อย่างสิ้นหวัง ผู้หญิงคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นจากความมืด
ผมนึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอ แต่มันไม่ใช่ครั้งแรกอย่างแน่นอน
‘ฮายัน?’
เธอมีสีหน้าแดงเข้ม
‘….’
ดวงตาของเธอแปลก ผมของเธอกระจัดกระจายและเสื้อผ้าของเธอก็ยุ่งเหยิง คุณจะเห็นว่าเธอกำลังเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มด้วยมือของเธอ
“ฉันจะฆ่าแก…ฉันจะไม่ยกโทษให้แก”
“อะไร…”
“ฉันไม่มีทางให้อภัยกับเรื่องนี้…! ฉันต้องฆ่าพวกแกทั้งหมด ฉันจะฆ่ามนุษย์ทุกคนที่ทำร้ายพี่นฉน”
“พูดบ้าอะไรของ…อ๊ากกกกกกกกกก!”
“หุบปาก! ฉันหมายถึงหุบปากนั่นซะ! นี่…นี่…ไอ้บัดซบ! พี่ของฉันต้องเจ็บปวด.. เขาต้องเจ็บปวดขนาดไหน! แม้ว่าเขาจะโดนครั้งแรก…แต่มันต้องเจ็บปวดแน่ ๆ!”
ผมเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ผู้หญิงคนนี้ตรงหน้าผมผิดปกติ
‘เชี่ย…เชี่ย….’
ทันใดนั้นผมก็รู้ว่าตัวเองคิดผิด
แม้ว่าเธอจะดูหมกมุ่นอย่างประหลาด แต่ผมก็นึกไม่ถึงว่าเธอจะบ้าคลั่งขนาดนี้ ผมได้ยินเสียงคาถาที่กำลังเตรียมการ
ไม่น่าแปลกเลยที่ร่างกายของผมสัมผัสได้ถึงลางร้ายนั่น
ผมอยากจะออกจากสถานที่นี้โดยการคลาน แต่ไม่มีทางที่ผมจะทำได้ สถานที่แห่งนี้กว้างเกินกว่าจะคลานเพื่อหลบหนี
ผมรู้สึกได้ถึงแขนของผู้หญิงที่จับผมผมเงยหน้าขึ้น
“ฉันไม่มีเวลาแล้ว ฉันเสียใจมากที่ต้องทำให้เร็ว แต่พี่ของฉัน…ฉันต้องกลับแล้ว พี่ของฉันต้องทรมาน…ฉันทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว…”
“ช่วยฉันด้วย…ฉัน…ฉันแค่ทำในสิ่งที่เขาบอกให้ทำ”
“ฉันไม่เชื่อคนโกหก…. Air bomb”
สิ่งที่อยู่ในมือขวาเธอคือเวทมนตร์ที่ผมเคยเห็นมาก่อน เวทมนตร์ที่ทำให้มอนสเตอร์หลายตัวกลายเป็นซากศพที่ไร้ชีวิต
ซึ่งแตกต่างจากครั้งนั้นที่มีขนาดเท่าศีรษะ สิ่งที่ผมเห็นในครั้งนี้มีขนาดเล็กมาก
เมื่อผมไม่เข้าใจว่าเธอกำลังทำอะไร ผมก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงที่บ้าคลั่งนั่นอีกครั้ง
“เปิดปากของแก”
“อะไรนะ…”
“อา…ทำซะ แกน่าจะรู้สึกเหมือนกัน แกควรรู้สึกว่าพี่ของฉันเจ็บปวดแค่ไหน”
ผมปิดปากตัวเองอย่างดื้อ ๆ ถ้ามีอะไรแบบนี้เข้ามาข้างใน …
อย่างไรก็ตามไอ้ผู้หญิงบ้านั่นบังคับปากผมด้วยมือของเธอ และในที่สุดก็วางระเบิดลูกเล็กไว้ข้างใน ผมไม่คุ้นเคยกับความรู้สึกของสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามา
เหงื่อเย็นไหลลงมาอย่างต่อเนื่องและร่างกายของผมก็สั่นเทา
นั่นคือตอนที่ได้ยินเสียงระเบิดที่ทำให้สมองสั่น ก่อนที่จะเริ่มจินตนาการได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ปัง
“อ๊ากกกกก!”
มีเศษฟันออกมาตามปาก ลิ้น คอและแก้ม มันยากที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือความเจ็บปวดดูเหมือนจะละลายสมองชผม
“มันเจ็บปวดไหม? แกก็เจ็บเหมือนกัน แต่ทำไม…ทำไมแกถึงทำเขา!”
‘ยัยผู้หญิงบ้านี่…เธอบ้าไปแล้ว…’
“เลือดของแกมันสาดโดนฉัน ไอ้โง่”
“ฉันยังมีชีวิตอยู่…อ๊ะ….”
แม้แต่รูปลักษณ์ของเธอในการจัดระเบียบก็ดูแปลกประหลาด
เธอจัดผมประปรายอย่างระมัดระวัง เช็ดเลือดที่กระเซ็นบนใบหน้าด้วยแขนเสื้อ
“ฉันต้องทำให้เสร็จโดยเร็ว…นี่เป็นข้อสุดท้าย แกจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีกต่อไป”
‘อย่านะ’
‘ขอร้องล่ะ มันทำให้ผมนึกถึงมัน’
คำพูดเหล่านั้นไม่ได้ถูกส่งออกไปอย่างถูกต้องด้วยความกลัว สติของผมเริ่มเบลอ
‘อา…ผมตายแล้ว’