“ทำไมคุณดูไม่สบายใจล่ะ?”
“น – นั่น…”
“คุณเป็นเด็กที่ตลกดีนะ แค่มองก็รู้แล้วว่าคุณรำคาญที่ฉันไปพบกับคุณกียอง”
“ม – มันไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ ธุระของพี่…มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน…”
“แต่ท่าทางของคุณเป็นอย่างนั้น…”
“ฉ – ฉันพูดความจริง”
” จริงเหรอคะ อย่าให้ฉันหัวเราะเลยเด็กน้อย คุณคิดว่าจะไม่มีใครรู้สิ่งที่อยู่ในหัวของคุณ? คุณดูเชื่องช้าและงี่เง่า แต่ดูเหมือนหัวของคุณทำงานได้ดี …ใครจะคิดล่ะว่า คนอย่างคุณจะจับปลาตัวใหญ่ขนาดนั้นได้ก่อนจะมาถึงที่นี่? ด้วยใบหน้าแบบนั้น ทักษะของคุณคงดีกว่าที่ฉันคาด …ไม่สิ เขาอาจจะเป็นคนที่มีรสนิยมประหลาด …คุณอาจจะรู้จักคนแบบนั้น คนที่สนใจเฉพาะคนไร้ความสามารถและไร้สติปัญญา “
เธอไม่สามารถเข้าใจคำพูดของพัคฮเยยองได้ทั้งหมด
“คุณกำลังทำหน้านั้นอีกครั้ง ฉันไม่ชอบมันเลย”
“ฉ – ฉ – ฉันขอโทษค่ะ…”
“คุณขอโทษเรื่องอะไรคะ? คุณกำลังหลอกทุกคนที่นี่โดยไม่คำนึงว่า…”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันก็แค่…”
“คุณคิดว่ากียองจะชอบคุณจริง ๆ เหรอ? คุณคิดว่าเขาห่วงใยคุณจริง ๆ?”
“นั่น…”
“อย่าเข้าใจผิดไป นั่นเป็นเพียงโชคที่คุณมี คุณบังเอิญมาถูกที่ถูกเวลาและได้สบตากับเขา คุณอาจจะมองไม่เห็นว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นคนแบบไหน คุณกียองจะไม่ไว้ใจคนอื่นมากเกินไปในตอนแรก เมื่อเขาเบื่อ เขาทิ้งไปเมื่อเขาไม่ต้องการ”
“พ – พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น…”
“นั่นเป็นเพียงสิ่งที่คุณอยากจะเชื่อเพราะมันเป็นความคิดของคุณ แต่ฉันจะทำยังไงดี ถ้าคุณตัดสินใจแล้ว? ฉันคิดว่าฉันพูดถูก … ตอนนี้มันอาจจะโอเค แต่สิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า จากมุมมองของฉันคุณค่อนข้างน่าเบื่อ อุ๊บ ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อนเลยเหรอคะ?”
จองฮายันกัดริมฝีปากของเธออย่างแรง
เธอรู้สึกสับสน
ใบหน้าของเธอรู้สึกร้อนผ่าว เธออยากจะตะโกนว่า “แกกำลังพูดถึงอะไร” และโต้แย้งกับคำพูดไร้สาระของพัคฮเยยอง
อย่างไรก็ตามร่างกายของเธอยังคงสั่น
“ฉันไม่คิดว่าฉันเคยเห็นคุณทำหน้าแบบนั้นมาก่อน? คุณเป็นบ้าเหรอ? ฉันจะกล่าวให้ตรงขึ้น คุณถูกคนรอบข้างทอดทิ้งมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอคะ?”
“ไม่ใช่!!”
“ไม่? แต่มันเขียนไว้บนใบหน้าของคุณ ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นคุณมักจะถูกแย่งสิ่งของไปจากคุณ? ไม่ว่าจะด้วยวิธีก็ตาม คุณมันน่าสมเพช คุณเชื่อจริง ๆ หรือว่าเขามักจะให้ความสำคัญกับคุณเป็นอันดับแรก คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาหมดความสนใจต่อคุณ”
ใบหน้าของพัคฮเยยองค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ไม่นานจองฮายันก็ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาใกล้หู ซึ่งทำให้เธออุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว
“กียอง …ดีกว่าที่ฉันคิดซะอีก”
“อ – อย่ามาโกหก!”
“โอ้ คุณตกหลุมพรางซะแล้ว”
ดวงตาของจองฮายันเต็มไปด้วยน้ำตา
เธออยากจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อหักล้างพัคฮเยยอง แต่เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
ผู้หญิงคนนี้พูดถูก
เธอถูกพ่อแม่และพี่สาวทอดทิ้ง
บรรดาคนที่เธอรักและเพื่อน ๆ ที่อยู่กับเธอมานานก็ทิ้งเธอไป
บางทีเธออาจจะเป็นคนแบบที่คนอื่นไม่ชอบก็ได้
เธอทำผิดเสมอและมีปัญหาในการพูดให้ถูกต้อง
การถูกรังแกกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน ดังนั้นจึงสะดวกกว่าที่เธอจะอยู่คนเดียว
แต่
‘ไม่ใช่พี่นะ’
พี่ของเธอไม่ใช่คนแบบนั้น
เขาไม่ได้คล้ายกับคนอื่นเลยแม้แต่น้อย นิสัยของเขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ที่เธอเคยพบมา
เขาบอกว่าเธอเป็นเหมือนคนในครอบครัว เธอทำให้เขานึกถึงน้องสาวและเขาต้องการดูแลเธอ
เขาใส่ใจเธอเสมอและคอยดูแลเธอทุกวัน ด็อกกูก็บอกเธอเช่นนั้น
ทุก ๆ วันพี่จะบอกเธอว่าเขาเป็นห่วงเธอ
เขาสนับสนุนเธอเสมอและบอกว่าเธอจะทำได้ดีกว่านี้ แม้เธอจะทำผิดพลาด
แม้ว่าเธอจะถามคำถามโง่ ๆ เขาก็จะยิ้มและตอบเธออย่างอดทน
“นั่นไม่ใช่เรื่องจริง”
“ฉันเดาว่านั่นคือสิ่งที่คุณคาดหวัง? ฉันจะกล่าวตามตรงกับคุณ มีแนวโน้มว่าสิ่งที่ฉันพูดจะเกิดขึ้น ฉันจะเตือนเธอนะสาวน้อย หากคุณต้องการได้อะไรจากความสัมพันธ์ปัจจุบัน คุณควรปล่อยมันออกไปอย่างรวดเร็วก่อนที่คุณจะถูกทิ้ง มิฉะนั้นถ้ามันจะถูกกระชากออกไปอย่างรุนแรง”
“ห – ห – หยุดนะ พี่ไม่…”
“น่ารำคาญชะมัด”
ปากของพัคฮเยยองโค้งเป็นรอยยิ้ม และในขณะเดียวกันจองฮายันก็รู้สึกถึงแรงกดที่ไหล่ของเธอ
เธอถูกผลักลงมา
จองฮายันล้มลงกับพื้น เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมอง สิ่งที่เธอเห็นคือด้านหลังของพัคฮเยยองที่เดินจากไปแล้ว
ในเวลาเดียวกันเสียงที่หลั่งไหลเข้ามาจากทุกทิศทาง
“สมน้ำหน้า”
“เกิดอะไรขึ้น? “
“อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ายัยเด็กนั่นจะถูกทิ้งในไม่ช้า”
” หยุดสิ เฮ้ เดี๋ยวเธอก็ได้ยินหรอก”
“หยุดอะไรล่ะ? นายไม่ได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอ? ในไม่ช้าเธอจะกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง แล้วเธอจะไปเกาะติดกับใคร? อ๊ะ! ต่ฉันไม่คิดว่าจะมีต้องการเธอได้อีกแล้ว”
“เธอจะทำยังไงล่ะ ถ้าอยู่คนเดียว”
นั่นไม่ใช่เรื่องจริง
‘มันไม่สามารถเป็นจริงได้’
ไม่มีทางที่พี่จะทอดทิ้งเธอ
ไม่มีทางที่พี่ที่บอกว่าเขาจะอยู่กับเธอตลอดไปจะทอดทิ้งเธอไปแบบนั้น
ไม่มีทางที่พี่ที่บอกเธอว่าเธอเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัวจะทอดทิ้งเธอ
‘นั่นมันจริงเหรอ?’
แต่เสียงของพัคฮเยยองยังดังก้องอยู่ในหูของเธอ
” มันไม่จริง!! “
” เมื่อกี้อะไรน่ะ?”
“เธอตะโกน? เธอต้องโกรธมากจริง ๆ …”
“ถึงเวลาแล้วที่ธรรมชาติที่แท้จริงของเธอจะปรากฏขึ้น ชิ”
ไม่ พี่จะไม่ทิ้งเธอ
พี่แตกต่างจากคนอื่น ๆ เขาอบอุ่นและใจดีเสมอ
‘พี่สาวก็ทอดทิ้งคุณเช่นกัน’
“ม – ไม่”
‘พ่อแม่ก็ทอดทิ้งคุณเช่นกัน’
“เขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น พี่แตกต่าง พี่แตกต่างกัน”
แน่นอนเขาแตกต่างออกไป
มันยากมากที่จะทำให้หัวใจของเธอสงบลง เธอรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
เธอหายใจไม่ได้กและจิตใจของเธอก็ว่างเปล่า น้ำตาของเธอไหลอาบแก้ม
เธอได้ยินเสียงคนหัวเราะรอบข้าง
เสียงนั้นไม่รบกวนเธออีกต่อไป มันจะต้องมีอะไรที่แย่กว่านั้นที่จะทำให้เธอกลัว
ก้าวของเธอมุ่งหน้าไปยังจุดที่พี่ของเธอเคยอยู่
‘เดี๋ยวก่อนนะ? มีบางอย่างที่ผมต้องการทราบ ดังนั้นผมจะพบคุณในภายหลัง’
เธอแน่ใจว่าเขาจะได้พบเธอ
จองฮายันรู้สึกว่าเธอต้องการเห็นใบหน้าของเขาเพื่อสงบสติอารมณ์
ขณะที่เธอกำลังรีบไป เธอก็ได้ยินเสียงที่อยู่ห่างออกไป
มันคือลีจีฮเย
“กรุณารวบรวมทุกคนมาด้วยค่ะ”
” ครับ/ค่ะ”
“เมื่อคุณฮยอนซึง คุณด็อกกูและคุณกียองออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ พวกเขาวางแผนที่จะคัดเลือกคนที่จะไปด้วย คุณฮยอนซึงจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมและผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในวันนี้ก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ”
เมื่อคิดได้แล้ว เธอก็ได้ยินมาว่าพวกเขาจะเดินทางไปด้วยกัน
โดยปกติแล้วนั่นหมายความว่าเธอสามารถอยู่กับเขาได้นานขึ้น
จองฮายันไม่แน่ใจว่าทำไมเธอถึงลืมเรื่องนั้นไป ตอนนี้มีเวลามากขึ้นที่เธอจะอยู่เคียงข้างกียอง
‘ค่อยยังชั่ว’
เมื่อเธอหันไปมองใกล้ ๆ เธอก็เห็นคิมฮยอนซึง ปาร์คด็อกกูและกียองเดินมาจากด้านหลังลีจีฮเย
‘พี่คะ’
เขามีสีหน้าจริงจัง ซึ่งแตกต่างจากท่าทางปกติของเขา แต่การได้เห็นเขาทำให้เธอนิ่งขึ้น
หัวใจของเธอเต้นรัว เธอไม่เจ็บปวดหรือรู้สึกเวียนหัว
ความรู้สึกหงุดหงิดที่ค้างคาหายไปเพียงแค่สบตากับเขา
แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
‘เขาเห็นฉันแล้ว’
เขากำลังมองไปในทิศทางของเธออย่างแน่นอน
คิมฮยอนซึงเริ่มพูดอย่างช้า ๆ
“ขอโทษนะครับที่พามาที่นี่ แม้พวกคุณยุ่งมาก แต่พวกคุณคงรู้ดีว่าการอยู่เอาชีวิตรอดในสถานที่แห่งนี้ยากขึ้นเรื่อย ๆ การแบ่งส่วนของอาหารที่ลดลงในแต่ละวัน และจำนวนผู้รอดชีวิตที่เพิ่มขึ้น เรามีอาหารและน้ำดื่มที่ทิ้งไว้ ณ จุดเริ่มต้น แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ เราเชื่อว่าเราจำเป็นต้องขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น”
” อา….”
“เราต้องการคนที่สามารถต่อสู้ได้ แน่นอนผมรู้ว่าพวกคุณกลัวมอนสเตอร์ พวกคุณบางคนไม่คุ้นเคยกับการต่อสู้และบางคนอาจไม่อยากออกจากสถานที่แห่งนี้ แต่ตอนนี้คุณต้องทำ ผมไม่ได้จะทำลายมัน จนทุกคนจะต้องทุกข์ทรมาน ดังนั้นเราจึงตัดสินใจว่าจะดีกว่าถ้าพาคุณออกไปทีละคนครับ”
หลังจากที่คิมฮยอนซึงพูด กียองก็ก้าวไปข้างหน้า
“กียอง”
” ใช่ครับ ผมเข้าใจว่าพวกคุณกลัว อย่างไรก็ตามมีบางสิ่งที่สามารถได้รับจากการต่อสู้เท่านั้น อย่างที่คุณทราบ นี่ไม่เหมือนโลกที่เรารู้จัก ผมแน่ใจว่าคุณทุกคนรับรู้ว่าหน้าต่างสถานะและคลาสมีความหมายอย่างไร เปลวไฟ”
เปลวไฟลุกขึ้นจากฝ่ามือของเขา
ดวงตาของคนรอบข้างเบิกกว้าง
“ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่หน้าต่างสถานะรายงานว่าคลาสของผมคือวิซาร์ด ผมยังไม่มีเวทมนตร์ที่จะใช้งานได้มากนัก แต่ผมก็ไม่ต่างอะไรจากพวกคุณ ผมหนีจากมอนสเตอร์ไปซ่อนตัวเพราะไม่อยากเจอพวกมัน ในตอนแรกนั้นมันอาจเป็นแค่โชค แต่คุณจะประสบความสำเร็จได้ ถ้าคุณทิ้งความกลัวเพื่อต่อสู้ เมื่อกลุ่มแข็งแกร่งขึ้น เมื่อพวกเราทุกคนก็แข็งแกร่งขึ้น ในที่สุดเราก็จะออกจากที่นี่ได้ครับ”
“โอ้…”
“สำหรับตอนนี้เราจะเลือกบุคคลที่จะนำไปด้วย คุณฮายันครับ”
” อา…”
“และคุณฮเยยอง”
” ค่ะ ฉันหวังว่าจะทำงานร่วมกับคุณ”
“ตอนนี้ผมจะพาสองคนนี้ไปด้วย เมื่อถึงระดับหนึ่งแล้วเราจะจัดกลุ่มใหม่เพื่อเลือกคนต่อไป พวกคุณมีคำถามไหมครับ?”
“ฉันอยากรู้ว่าเกณฑ์คืออะไรคะ?”
“เกณฑ์การคัดเลือกจะเป็นแบบสุ่มครับ”
“เราจะออกไปออกล่าด้วยตัวเองแทน…”
“ผมก็ไม่ขัดถ้าพวกคุณทำเช่นนั้นครับ แต่ผมไม่แนะนำนัก”
เสียงโห่ร้องของฝูงชนดังขึ้น แต่จองฮายันไม่สามารถพูดออกมาได้อีกต่อไป
สายตาของเธอกลับจับจ้องไปที่พัคฮเยยอง
เธอรู้ว่ามีคนอื่นจะไปกับเธอด้วย แต่เธอไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้น
“ยินดีด้วยครับพี่”
“อย่าบาดเจ็บนะคะพี่”
“คุณฮยอนซึง คุณกียองและคุณด็อกกูจะอยู่กับเรา ดังนั้นมันไม่น่าจะมีปัญหานะ มันค่อนข้างน่ากลัว แต่เราต้องผลักดันเรื่องนี้ไปให้ได้ คงจะดีกว่าถ้าเรามีคนที่สามารถต่อสู้ได้มากขึ้น”
จองฮายันไม่ได้อิจฉาพัคฮเยยองที่รายล้อมไปด้วยผู้คนที่แสดงความยินดีกับเธอ อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกแปลก ๆ ด้วยเหตุผลบางประการ
“อย่าเอาเธอไปนะ”
ขณะที่เธอเหลือบมองไปที่นั่นอย่างรวดเร็ว เธอก็เห็นว่าพี่กำลังมองไปที่พัคฮเยยองเช่นกัน
มีรอยยิ้มจาง ๆ บนริมฝีปากของเขา
เสียงที่เธอเคยได้ยินก่อนหน้านี้ดังก้องในหู และการหายใจของเธอก็สั่นคลอน
“เขาเป็นคนที่เบื่อคนอื่นได้ง่าย”
พัคฮเยยองรีบขึ้นไปที่นั่นและเริ่มจับมือกับคนอื่น ๆ
‘คุณกำลังจะถูกโยนทิ้ง’
‘เขาจะปล่อยคุณไป’
‘พี่สาวก็ทิ้งคุณไป’
‘พ่อแม่ของคุณก็เช่นกัน’
‘หยุดนะ หยุดนะ หยุด’
คุณจะจบลงด้วยการ….’
‘หยุด…’
‘ถูกโยนทิ้งไป….’
“เกลียด”
ในขณะนั้นเองที่กียองจับมือของพัคฮเยยอง
มีบางอย่างพังทลายลงภายในจองฮายัน