“เพราะมานาของฉันหมุนเวียนได้ไม่ดีนัก”
‘ อะไรกัน…’
ผมมองไปที่การแสดงออกทางสีหน้าของเธออีกครั้ง แต่มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
รอยยิ้มสดใสที่เธอมี มันไม่เข้ากันกับรูปลักษณ์ที่น่าสมเพชที่เธอเคยแสดงออกก่อนหน้านี้
ผมตรวจสอบหน้าต่างสถานะของเธออีกครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ผมไม่ได้เข้าใจผิด
[คลาส: วิซาร์ด (เกรดทั่วไป) ]
จองฮายันได้รับคลาสแล้ว
‘ตั้งแต่เมื่อไหร่?’
เวลาผ่านไปประมาณสามวันนับตั้งแต่ที่ผมตรวจสอบหน้าต่างสถานะของจองฮายันครั้งสุดท้าย
เวลาเกือบจะทับซ้อนกับวันที่ผมเริ่มสอนเธอเกี่ยวกับเวทมนตร์
เธอเป็นคนรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เป็นไปได้ว่าเธอได้คลาสในช่วงที่ผมเริ่มคุยเรื่องเวทมนตร์กับเธอครั้งแรก
[แอตทริบิวต์: วิธีการเป็นวิซาร์ด – ระดับฮีโรอิค]
[ได้รับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเวทมนตร์ธาตุอย่างสมบูรณ์ มานาเพิ่มขึ้นอย่างถาวร 2 แต้ม ศักยภาพในการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว]
‘นี่มันอะไรกัน…’
แม้แต่แอตทริบิวต์ของเธอก็อยู่ในอันดับต้น ๆ ทันทีที่เธอเข้าใจหลักการของเวทมนตร์ เธอก็ได้รับแอตทริบิวต์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นระดับฮีโรอิค
ความรู้สึกเหมือนโดนตบหน้า
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเคยเห็นใครบางคนที่เพียงแค่เข้าใจพื้นฐานของเวทมนตร์ ก็ได้รับคลาสและแอตทริบิวต์ใหม่ทันที
ถ้ามันเป็นไปได้สำหรับคนอื่น คิมฮยอนซึงก็คงจะใช้วิธีนี้
จองฮายันต้องเป็นกรณีพิเศษ
ขณะที่ผมครุ่นคิดอยู่นาน จองฮายันก็เริ่มมองมาที่ผมพร้อมกับแสดงความวิตกกังวล
“อ่า…พี่คะ?”
“อา ขอโทษด้วย ผมแค่คิดอะไรอยู่ …คุณถามผมเกี่ยวกับการไหลเวียนของมานาใช่ไหม?”
“ค่ะ! ฉันลองทำตามที่พี่พูดแล้ว แต่มันยากจริง ๆ …”
อาจไม่ใช่เรื่องยาก
“อาจเป็นเพราะปริมาณมานาที่คุณใช้นั้นมากเกินไปหน่อย …นั่นเป็นเรื่องแปลก”
ผมเห็นมือของเธอที่ยื่นไปข้างหน้า
ผมจับมือที่กางออกเล็กน้อยของจองฮายันและเริ่มใช้มานาที่อ่อนแอของผม
ผมพยายามผลักดันและรวบรวมมานาของเธอ แต่มานาของจองฮายันไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว
ไม่ใช่แค่เพราะมานาของผมขาด
‘เธอปิดกั้นผม’
ความพยายามของผมที่จะช่วยให้เธอหมุนเวียนมานาถูกระงับ
เมื่อผมเริ่มขมวดคิ้วเท่านั้น ผมรู้สึกว่ามานาของจองฮายันกำลังเคลื่อนไปตามทิศทางที่ผมต้องการ
“เป็นไปตามที่คาดเลยค่ะ พี่สุดยอดมาก”
‘เอาจริงเหรอ…’
“ลองจินตนาการดูสิ”
“อะไรนะคะ?”
“จินตนาการถึงเวทมนตร์ บางอย่างที่เหมือนกับเปลวไฟที่ลุกขึ้นจากมือของคุณ …คุณสามารถทำสิ่งที่ผมเคยทำได้ใช่ไหม?”
“อา! ค่ะ!”
จำนวนมานาที่ต้องใช้เพื่อบรรลุในการใช้คาถานี้ได้รับการสะสมอย่างสมบูรณ์แบบ
น่าจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอที่จะจินตนาการถึงเปลวไฟเล็ก ๆ หลังจากมาถึงจุดนี้
แต่แล้วมานาของเธอก็แตกสลายทันที ไม่ใช่เพราะเธอใช้เวลานานเกินไปหรือล้มเหลว จองฮายันจงใจทำลายมันเอง
“ม – มันยังยากเกินไป ท – ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ…? พี่พยายามที่จะสอนฉันแท้ ๆ …”
แม้แต่การกระทำที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอก็เป็นภาพที่น่าจับตามอง
‘เกิดอะไรขึ้น? ‘
“ไม่ อาจเป็นเพราะคุณยังไม่ได้รับคลาส จึงเป็นเรื่องปกติที่จะล้มเหลว ถ้าเราออกไปข้างนอก คุณจะต้องปรับปรุงมันด้วย เข้าใจไหมครับ? “
เธอไม่ตอบสนองต่อคำว่า ‘ไม่ได้รับคลาส’ ขณะที่ผมแอบมอง
“ร – เราลองกันอีกครั้งได้ไหมคะ?”
“ไม่ มันสายไปแล้ว ผมต้องจบวันนี้ไว้ก่อน เพราะผมมีงานต้องทำ”
“พ – พี่มีงาน …ว – วันนี้พี่จะไปหาฮเยยองอีกแล้วเหรอ?”
พัคฮเยยองเป็นผู้หญิงที่ลีจีฮเยส่งมาให้ผม
หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น ลีจีฮเยได้ส่งบุคคลที่สามารถเป็นตัวเชื่อมระหว่างเราได้
ผมได้รับแจ้งว่าเธอจะมีประโยชน์สำหรับผมในหลาย ๆ ด้าน แต่นั่นเป็นสิ่งที่ผมยังไม่ได้เห็น
จนถึงตอนนี้สิ่งที่ผมได้ยินจากพัคฮเยยองคือสถานการณ์ของกลุ่มและเรื่องภายใน
ในขณะที่ผมกำลังชั่งใจว่าจะตอบอย่างไร ผมก็ได้ยินเสียงอื่น
“คุณกียอง? คุณมีเวลาสักครู่ไหมคะ”
” ครับ”
‘พัคฮเยยอง’
ผมไม่สามารถบอกได้ว่าจังหวะของเธอนั้นดีหรือไม่ดี
อย่างไรก็ตามผมเห็นว่าจองฮายันไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรมากนัก
“อา! พี่มีธุระอยู่แล้ว ฉันไม่รู้เลย…”
“ไม่ครับ ผมไม่ได้เตรียมการใด ๆ ที่จะพบกับฮเยยอง แต่น่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น ถ้าอย่างงั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“อ่า…ค่ะ”
จองฮายันค่อย ๆ ถอยออกไปจากที่นั่งของเธอ แล้วพัคฮเยยองก็เข้ามา
ผมจำไม่ได้ว่าผมเรียกเธอมา ผมจึงสงสัยว่าทำไมเธอถึงตามหาผม
ผมรู้สึกได้ว่าจองฮายันกำลังจ้องไปที่พัคฮเยยอง ผมต้องการใช้ประโยชน์จากความหึงหวงของเธอ แต่ไม่ใช่ในลักษณะนี้
“ฮายัน ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
“อา! ค่ะ! “
ทันทีที่จองฮายันจากไป พัคฮเยยองก็นั่งลงเงียบ ๆ
” มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าครับ? “
“ฉันได้ยินบางอย่างที่น่าสนใจมาค่ะ”
” เรื่องอะไรเหรอครับ? “
“ฉันได้ยินมาว่าการต่อสู้ครั้งต่อไป คุณจะพาคนสองสามคนออกไปด้วย”
” ครับ นั่นเป็นเรื่องจริง”
“ถ้าคุณไม่รังเกียจ ฉันขอเป็นหนึ่งในนั้นได้ไหมคะ?”
เธอค่อนข้างตรง
ตามปกติ ผมเคยสแกนพัคฮเยยองด้วยดวงตาแห่งจิตใจแล้ว แต่ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ เมื่อพูดถึงความสามารถของเธอ
[ตรวจสอบหน้าต่างสถานะและระดับความสามารถของผู้เล่น พัคฮเยยอง]
[ชื่อ:พัคฮเยยอง]
[ฉายา: ไม่มี คุณควรพยายามให้มากขึ้นอีกหน่อย]
[อายุ: 27]
[อุปนิสัย: การคำนวณอย่างมีชั้นเชิง]
[คลาส: ไม่มี]
[ค่าสถานะ]
[ความแข็งแกร่ง: 10 / ศักยภาพในการเติบโต: ระดับฮีโรอิคหรือต่ำกว่า]
[ความคล่องตัว: 11 / ศักยภาพในการเติบโต: ระดับหายากหรือสูงกว่า]
[พละกำลัง: 20 / ศักยภาพในการเติบโต: ระดับหายากหรือสูงกว่า]
[ความฉลาด: 10 / ศักยภาพในการเติบโต: ระดับหายากหรือสูงกว่า]
[ความอดทน: 10 / ศักยภาพในการเติบโต: ระดับทั่วไปหรือต่ำกว่า]
[โชค: 09 / ศักยภาพในการเติบโต: ระดับทั่วไปหรือต่ำกว่า]
[มานา: 00 / ศักยภาพในการเติบโต: ระดับหายากหรือต่ำกว่า]
[ภาพรวม: นี่ไม่ใช่เวลาที่จะผิดหวังกับผู้คนที่ไม่มีค่าสถานะโดดเด่น โดยรวมแล้วคน ๆ นี้ทรงตัวดี ดูเหมือนว่าเธอจะเติบโตได้ในฐานะนักสู้ระยะประชิดหรือเป็นคลาสระยะไกลเช่น [อาร์เชอร์] ]
นิสัยของเธอคือ “การคำนวณอย่างมีชั้นเชิง”
แม้ว่าจะไม่ได้อ่านสถานะของเธออย่างลึกซึ้ง แต่ผมก็เดาได้คร่าว ๆ ว่าเธอเป็นคนแบบไหน
ผมสังเกตเธออยู่พักหนึ่ง แล้วก็พูดว่า “ผมยังไม่รู้นะครับ ตอนแรกผมแนะนำฮายันไป แต่…”
“คุณเป็นคนประเภทที่ชอบผู้หญิงอายุน้อยกว่าเหรอคะ? ฉันอาจจะดีกว่า การเล่นกับเด็กตัวเล็ก ๆ แบบนั้นไม่น่าเบื่อเหรอคะ?”
“ไม่ว่าคุณจะคิดอย่างไรก็ตาม แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นครับ”
“ถ้างั้นคุณลองให้โอกาสฉันเป็นไงคะ? ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ของเราจะเป็นประโยชน์มากกว่า…”
ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ที่เธอพูดถึงคืออะไร
ดูเหมือนว่าเธอจะได้ยินการสนทนาของเราก่อนหน้า
พัคฮเยยองดูเหมือนจะเชื่อว่าผมสนใจผู้หญิงมาก
แน่นอนว่าความสามารถของเธอค่อนข้างดีและศักยภาพในการเติบโตของเธอก็ไม่ได้เลวร้ายเช่นกัน
ถ้าเธอสามารถพัฒนาและเติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง เธอก็น่าจะถูกใช้งาน แต่ผมไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของการ “คำนวณ” ของเธอ
อย่างไรก็ตามเธอควรเข้าใจว่าการเตรียมการทั้งหมด จำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนกัน
“ด้วยเหตุผลอะไรครับ? “
“คุณต้องการใครสักคนที่สามารถต่อสู้ได้ใช่ไหม? ต้องขอบคุณคุณด็อกกูและคุณกียองที่ทำให้สถานการณ์ในตอนนี้เปลี่ยนไป มีพวกเราจำนวนน้อยลงที่ยังรอคอยให้คุณฮยอนซึงซองช่วยเหลือค่ะ ฉันอยากถามว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่ผู้หญิงสามารถแข็งแกร่งได้เท่ากับผู้ชาย และเราสามารถใช้ระบบเพื่อเพิ่มความสามารถของเราได้ใช่ไหมคะ?”
” ครับ ถูกต้อง”
“ทุกคนกลัวมอนสเตอร์ค่ะ แต่ผู้คนจำนวนมากเริ่มคิดว่าพวกเขาสามารถทำอะไรบางอย่างกับพวกมันได้ มีผู้คนที่รวมตัวและออกไปข้างนอกเช่นกัน จากมุมมองของคุณกียอง การมีคนที่สามารถต่อสู้เพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องแย่ ถ้าคุณฮายันสามารถกลับมาแข็งแกร่งขึ้นได้ สิ่งต่าง ๆ คงจะดีขึ้นอย่างแน่นอน”
“คุณพูดเหมือนว่า ผมกำลังแบ่งทุกคนออกเป็นฝ่ายต่าง ๆ”
“ฉันพูดตรงไปเหรอคะ?”
“ไม่ครับ ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว แล้วจีฮเยรู้ไหมว่าคุณอยู่ที่นี่?”
“เธออาจจะ? ใครจะรู้ล่ะคะว่าจีฮเยกำลังคิดอะไรอยู่”
“และเหตุผลที่คุณมาที่นี่เพื่อพูดคุยกับผม….”
“ฉันคิดว่ามันคงจะดีที่เราคุยกันก่อน ฉันไม่ชอบที่คุณเอาแต่เข้าข้างจองฮายัน และถ้าคุณปฏิเสธที่พาฉันไป ฉันก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอจนกว่าจะถึงตาของฉัน….”
“ผมรู้แล้วว่าคุณต้องการอะไร”
“อืม สิ่งที่คุณพูดจนถึงตอนนี้ก็มีเหตุผลเช่นกัน”
“ผมเชื่อว่าเราอาจจะสามารถทำอะไรบางอย่างได้เมื่อฮยอนซึงกลับมา ผมจะพยายามพูดกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ อย่างไรก็ตามหากฮยอนซึงตัดสินใจว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ข้อเสนอนี้จะถูกปฏิเสธ ดังนั้นโปรดอย่าตั้งความหวังไว้มากเกินไป”
“แค่ได้ยินคุณพูด ฉันก็ดีใจแล้วค่ะ”
“ผมหวังว่าจะได้ร่วมมือกับคุณนะครับ”
“เช่นกันค่ะ”
* * *
“นั่นเป็นเรื่องตลกอย่างแท้จริง”
มีเสียงอยู่รอบตัว แต่เธอไม่สามารถอธิบายคำพูดของพวกเขาได้
สิ่งที่เธอกังวลกลับเป็นเรื่องเกี่ยวกับลีกียองมากกว่า
“ฮายัน! คุณกำลังคิดอะไรอยู่? “
“อ๊ะ อา! ฉันหมายถึงไม่มีอะไรค่ะ…”
“คุณสามารถหยุดพักได้ถ้าคุณเหนื่อย คุณคงต้องใช้ร่างกายอย่างหนักแบบนั้น เฮ้อ… การทำงานที่นี่ไม่ยากเกินไปสำหรับคุณเหรอครับ?”
“ข – ขอโทษนะคะ?”
“ดูสิ คุณแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจอีกแล้ว”
” ฉันไม่ได้”
เธออาจไม่แน่ใจในความหมายเบื้องหลังคำพูด แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความเป็นศัตรูของพวกเขา
มันไม่ได้โจ่งแจ้งหรือรุนแรงมาก อย่างไรก็ตามนี่เป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยดี
เมื่อมองย้อนกลับไป ก็เป็นเช่นนั้นตั้งแต่เธอยังเด็ก เมื่อเทียบกับพี่สาวสองคน เธอโง่เขลา เชื่องช้าและไร้ความสามารถ
พี่สาวคนโตดูแลเธอมาตลอดและพี่สาวคนที่สองของเธอก็ฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากเฝ้ามองเธอมาหลายปี สาเหตุที่พวกเขาตัดการติดต่อกับเธอ
“…มีอะไรบางอย่าง”
“เขาคงมีรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร เธอไม่ได้สวยขนาดนั้น …แสร้งทำเป็นว่าตัวเองไม่มีเงื่อนงำ …ในท้ายที่สุดเธอก็เป็นแค่สุนัขจิ้งจอก “
“ชู่ เบาสิ ถ้าเธอได้ยินและวิ่งมาที่นี่ แกจะทำยังไง?”
“ลองดูสิว่าทำไม เขาคงจะเบื่อเธอแล้ว ไม่สิ มันสมเหตุสมผลแล้วที่เขาจะเบื่อเธอ”
มือของเธอสั่นโดยไม่รู้ตัวจากคำพูดเหล่านั้น
‘พี่กียอง’
เขาเป็นคนเดียวที่เธอพึ่งพาได้ในสถานที่แห่งนี้
เมื่อจำวิธีที่พวกเขาจับมือกันก่อนหน้านี้ ร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นเทา
เหนื่อยกับเธอ?
พี่คงไม่ปฏิบัติกับเธอแบบนั้น
เขาแตกต่างกัน
‘หัวใจของฉันเต้นรัว’
หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับว่ามันกำลังจะระเบิด
‘คุณทำให้ผมนึกถึงน้องสาวของผม”
ความคิดของสิ่งที่เธอได้ยินทำให้เธอมีความสุข
มันเป็นความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต
หัวใจของเธอเต้นตุบ ๆ ที่หน้าอกและเธอรู้สึกกระวนกระวาย
มันยากที่เธอจะระงับอารมณ์ของตัวเอง
‘พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ’
พรุ่งนี้พบกันใหม่
แค่พวกเขาสองคนอีกครั้ง พวกเขาสามารถพูดคุยและเธอสามารถทำตัวน่ารักใส่เขา
เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังได้รับความอบอุ่น แบบเดียวกับที่เธอได้รับจากครอบครัว
มันเป็นเหมือนยาเสพติด
เหตุผลที่เธอเก็บคลาสและซ่อนความสามารถไว้ เป็นเพราะว่าเธอต้องการใช้เวลากับกียองให้มากขึ้น
หัวใจของเธอบิดเบี้ยวเมื่อโกหก แต่เธอก็กลัวผลที่จะตามมา หากเขารู้
ในขณะที่เธอมองไปที่กียองโดยไม่รู้ตัว และไม่สนใจเสียงของคนรอบข้าง
” โอ้ คุณกำลังรออยู่หรือเปล่าคะ?”
พัคฮเยยองที่เคยอยู่กับพี่ของเธอปรากฏตัวขึ้น