ตาข่ายใหญ่แทบจะโปร่งใสนี้เปล่งแสงสว่างจ้าแสบตา กำลังขยับวูบวาบอย่างรุนแรง ขวางระหว่างซูหมิงกับชื่อหยางไว้ เหมือนกับปราการที่ยากจะข้ามผ่าน ทุกครั้งที่ขยับแสงจะลดพลังจากดรรชนีซูหมิงลง
เพียงไม่กี่ลมหายใจ ตาข่ายใหญ่กึ่งโปร่งแสงก็ลดพลังจากดรรชนีซูหมิงไปเกือบแปดส่วน ชื่อหยางทำสีหน้าเย้ยเยาะ อยู่ห่างจากซูหมิงไม่ถึงหลายชุ่น แต่กลับเหมือนอยู่ระหว่างฟ้ากับดิน
ไป๋ลู่กับเซินมู่ก็ไม่เข้ามาใกล้อีก แต่มองซูหมิงอย่างเย็นชา ในมุมมองพวกเขา องค์ชายสามตรงหน้าแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ เป็นมหาเต๋าสูงศักดิ์หมายเลขหนึ่งจริงๆ และก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดเว้นแต่เทพเต๋าขั้นเก้าในแคว้นกู่จั้งจริงๆ
ทว่า…ที่นี่คือแคว้นกู่จั้ง มีกฏของมหาจักรพรรดิกู่จั้งอยู่ กฏนี้ไม่อนุญาตให้มหาเต๋าสูงศักดิ์สังหารกันถึงตาย ดังนั้น…ระหว่างมหาเต๋าสูงศักดิ์จึงไม่มีอันตรายใดๆ
“มีกฏมหาจักรพรรดิกู่จั้งอยู่เจ้าสังหารข้าไม่ได้!” ชื่อหยางกล่าวเรียบๆ เอาแต่ยืนตรงนั้นไม่ขยับ
ขณะซูหมิงเงียบดวงตาเป็นประกายวาวขึ้นมา
“เช่นนั้นรึ…” แทบจะเพิ่งสิ้นเสียงซูหมิง เขายกมือซ้ายขึ้นทำสัญลักษณ์มือกดบนมือขวา ขณะเดียวกันดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วเปิดออก มหาเต๋าสูงศักดิ์ขั้นแปดภายในนั้นเปล่งแสงสีดำเด่นชัด แสงนี้โอบล้อมตัวซูหมิงโดยพลัน พริบตาที่แผ่ขยายออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว มหาเต๋าสูงศักดิ์ขั้นแปดของเขาเผยออกมาจากในดวงตาที่สามอย่างชัดเจน ช่วงที่หลอมรวมร่างเขาและแผ่กระจายออกไปโดยรอบนั้น…เหมือนมีปราการกึ่งโปร่งใสนั้นเป็นใจกลาง ฟ้าดินฝั่งของซูหมิงจึงมืดมิด
ภาพนี้ประหนึ่งความมืดและแสงสว่างเกิดการแบ่งแยกกันอย่างชัดเจนยิ่ง แทบเป็นทันทีที่แบ่งออก พลังซูหมิงปะทุขึ้นอีกครั้ง
การปะทุครั้งนี้เหนือกว่าดรรชนีก่อนหน้า ทำให้นิ้วมือขวา…ทะลวงผ่านตาข่ายใหญ่กึ่งโปร่งใสกดเข้าไป ตาข่ายใหญ่นูนออกมาทันที ถูกซูหมิงกดนูนจวนจะสัมผัสถึงชื่อหยาง
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เซินมู่กับไป๋ลู่หน้าเปลี่ยนสี ชื่อหยางก็เช่นกัน แต่เขาหรี่ตาแคบลง ยังคงไม่ถอย เขาจะไม่ถอยแม้แต่ครึ่งก้าว เพราะเขามั่นใจว่ามีกฏของมหาจักรพรรดิกู่จั้งอยู่ ไม่ว่าอย่างไรองค์ชายสามตรงหน้าก็ไม่มีสิทธิ์สังหารตน
แต่หากถอย เขาที่ฝึกฝนวิชาแห่งดวงชะตา หากเกิดความไม่เชื่อมั่นในกฏมหาจักรพรรดิกู่จั้ง หรือต่อให้ถอยไปโดยจิตใต้สำนักก็ยังส่งผลถึงขั้นพลังเขาเล็กน้อย
เขาเข้าใจในจุดนี้ เซินมู่กับไป๋ลู่ก็เข้าใจเช่นกัน ดังนั้นสองคนจึงเพียงแค่หน้าเปลี่ยนสี แต่ไม่เข้ามาใกล้ การต่อสู้ครั้งนี้…ดูเหมือนสองฝ่ายกำลังสู้กัน แต่ความจริงแล้วนี่คือการต่อสู้ของซูหมิงกับกฏมหาจักรพรรดิกู่จั้ง
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดแสงดำจากมหาเต๋าสูงศักดิ์ขั้นแปดในตัวซูหมิงถึงทำให้เซินมู่กับไป๋ลู่เกิดความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“แสงสีดำนี่…หลังผู้เคาะเสียงวิญญาณเต๋าเก้าครั้งในอดีตบรรลุมหาเต๋าสูงศักดิ์แล้วจะมีสีที่ต่างกัน นี่ต่างกับมหาเต๋าสูงศักดิ์ที่ไม่ได้เคาะเสียงวิญญาณเต๋าถึงเก้าครั้งอย่างพวกเราอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้พวกเรามองข้ามแสงมหาเต๋าสูงศักดิ์จากตัวองค์ชายสามไป เซินมู่ เจ้าเคยเห็นแสงของมหาเต๋าสูงศักดิ์สีดำหรือไม่?” ไป๋ลู่หรี่ตาลง มองโลกสีดำที่ซูหมิงอยู่พลางถามขึ้น
นัยน์ตาเซินมู่จริงจังอยู่ก่อนแล้ว แสงดำรอบตัวซูหมิงทำให้เขาเกิดความสงสัยเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ยังไม่สงสัยมากนัก แต่ตอนนี้ความรู้สึกในใจกลับทำให้เขาอยู่ไม่เป็นสุข
“ข้าไม่เคยเห็นแสงดำมาก่อนจริงๆ ข้าจำแสงของมหาเต๋าสูงศักดิ์เฟิงเซียนได้ว่าเป็นสีขาว…เหตุใดในตัวองค์ชายสามถึงเป็นแสงแห่งมหาเต๋าสูงศักดิ์สีดำ…” แทบเป็นพริบตาที่เซินมู่กล่าวขึ้น พลันเกิดเสียงดังสนั่นกึกก้องตรงซูหมิงกับชื่อหยาง
ภายใต้เสียงดังกึกก้อง เสียงหัวเราะเยาะของชื่อหยางดังแว่วตามมา
“เจ้า เหตุใดถึงไม่สังหารข้าเสียที?” น้ำเสียงมีความยั่วยุ เย้ยเยาะ และยังมีความมั่นใจอย่างแรงกล้า
“ยุ่งยากอยู่เล็กน้อยจริงๆ” ตาข่ายใหญ่กึ่งโปร่งใสที่นูนออกมาห่างจากระหว่างคิ้วชื่อหยางเพียงหนึ่งชุ่น น้ำเสียงเรียบนิ่งจากซูหมิงดังแว่วมาจากในเงามืดที่เขาอยู่
“แต่ก็แค่ยุ่งยากเท่านั้น จะสังหารเจ้านั้นไม่ยากเลย” ชั่วขณะที่ซูหมิงกล่าวราบเรียบ เขาพลันยกเท้าขวาขึ้นเหยียบลงบนมวลอากาศข้างล่าง ฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่น เกิดเงามายาขึ้นจากใต้เท้าซูหมิง
เงามายานี้มองแวบแยกไม่ออกว่าเป็นอะไร ดูคล้ายๆ ต้นไม้ มันพุ่งจากข้างล่างซูหมิงไปยังแผ่นดินใหญ่ เมื่อตกลงพื้นแล้วแผ่นดินเกิดรอยร้าว ประหนึ่งว่าลำต้นนี้จะฝังรากลงดิน อีกทั้งเหนือซูหมิง วัตถุที่คล้ายกับลำต้นนี้ยังเจริญเติบโตขึ้นตามไป พริบตาเดียวโลกสีดำที่ซูหมิงอยู่มีวัตถุใหญ่ยักษ์คล้ายต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
ยามนี้วัตถุคล้ายต้นไม้ยักษ์ตั้งตระหว่าง เซินมู่กับไป๋ลู่หรี่ตาลง หน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง กระทั่งนัยน์ตายังฉายแววเหลือเชื่อ มีความตกใจมากกว่าตอนพบซูหมิงก่อนหน้า เหมือนว่าในมุมมองพวกเขา การปรากฏของต้นไม้ยักษ์ที่ว่าน่าเหลือเชื่อว่าการที่ซูหมิงบรรลุมหาเต๋าสูงศักดิ์
“นะ…นี่มัน…”
“ต้นพิสูจน์เต๋า! นี่มันต้นพิสูจน์เต๋า เป็นไปได้อย่างไร!”
“มิติชั้นสามถูกทำลายแล้ว ต้นพิสูจน์เต๋าตายแล้ว เรื่องนี้แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงกู่จั้ง เหตุใดถึงมาอยู่กับองค์ชายสาม!”
“พลังเขา…พลังเขา…สมควรตาย ที่พลังเขาต่างกับมหาเต๋าสูงศักดิ์คนอื่นๆ ก็เป็นเพราะได้รับพลังจากต้นพิสูจน์เต๋า!” เซินมู่กับไป๋ลู่สูดลมหายใจเข้าด้วยความตกใจ วัตถุคล้ายต้นไม้ยักษ์ที่ปรากฏนอกตัวซูหมิงนั่นก็คือ…ต้นพิสูจน์เต๋า!
ต้นพิสูจน์เต๋ามหึมาปรากฏขึ้นรอบตัวซูหมิง ตั้งตระหง่านกลางฟ้าดิน รากอัดแน่นอยู่ตรงส่วนลึกของรอยร้าวแผ่นดินราวกับทะลวงผ่านไป ยอดไม้ค้ำยันฟ้าประหนึ่งแทนที่โลก กลิ่นอายพลังสุดบรรยายลงมาเยือนทั้งโลกของสำนักเอกะเต๋า
ความแกร่งของกลิ่นอายพลังนี้มีความอ้างว้าง มีกาลเวลาไร้ที่สิ้นสุดอบอวลไปรอบๆ ชื่อหยางเหม่อมองต้นพิสูจน์เต๋าใหญ่ยักษ์ที่ปรากฏอย่างกะทันหันตรงหน้า ตอนนี้ความคิดขาวโพลน ตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้จนปั่นป่วนความคิด
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คาดไม่ถึงว่าตนจะได้เห็นต้นพิสูจน์เต๋าน่าตื่นตกใจนั้นในโลกของสำนักเอกะเต๋า!
พลังในร่างกายซูหมิงเดิมทีเป็นโชควาสนาที่เฮ่าเฮ่ามอบให้ พลังจากโชควาสนาที่ว่าคือร่างกาย หากไม่มีการตระหนักรู้การเติบโตช่วงที่ต้นพิสูจน์เต๋าปรับแก้พลังแห่งโลกในสองพันปีให้หลัง ซูหมิงก็คงสร้างต้นพิสูจน์เต๋าออกมาไม่ได้ ถึงอย่างไรเขาก็มีเพียงร่างกาย แต่การตระหนักรู้นั้นคือรูปร่าง
เมื่อมีรูปร่างกับร่างกายแล้ว การปรากฏต้นพิสูจน์เต๋าต้นที่สองของทั้งจักรวาลในตัวซูหมิงจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
นี่ต่างหากคืออาวุธสังหารของซูหมิง และก็เป็นสาเหตุที่เลือกมาสำนักเอกะเต๋า กระทั่งเลือกทำลายรากฐาน
แทบเป็นช่วงที่ต้นพิสูจน์เต๋าปรากฏในฟ้าดินดำที่ซูหมิงอยู่ เมื่อความรู้สึกอ้างว้างแผ่กระจายไปรอบๆ นิ้วชี้มือขวาเขาเกิดการรวมพลังขึ้นอีกครั้ง ในสายตาเซินมู่กับไป๋ลู่ ต้นพิสูจน์เต๋าทั้งโลกสีดำนั้น…บิดเบี้ยว รวมพลังที่เหนือกว่าผู้ฝึกฌานของต้นพิสูจน์เต๋าหลอมรวมเข้าไปในดรรชนีมือขวาซูหมิง และพริบตาที่มือซูหมิงสัมผัสตาข่ายใหญ่กึ่งโปร่งใสนั้น…
ตาข่ายใหญ่นูนไปถึงขีดสุด แสงหม่นขยับวูบวาบอย่างรุนแรง ฟ้าดินเกิดเสียงครึกโครม ตาข่ายใหญ่ตรงหน้าชื่อหยางพลันเลือนราง เหมือนเผยใบหน้าโอหังรางๆ
ใบหน้านี้ก็คือดวงจิตไม่มอดดับของกู่จั้งที่ตอนแรกซูหมิงพบในมิติต้นพิสูจน์เต๋า เป็นใบหน้าของมหาจักรพรรดิกู่จั้ง การโจมตีสังหารครั้งนี้ได้เปลี่ยนเป็นการปะทะระหว่างต้นพิสูจน์เต๋ากับมหาจักรพรรดิกู่จั้งแล้ว
หากการปะทะครั้งนี้มหาจักรพรรดิกู่จั้งได้เปรียบ กฏยังคงอยู่ ซูหมิงก็ไม่อาจใช้พลังมหาเต๋าสูงศักดิ์สังหารมหาเต๋าสูงศักดิ์คนอื่นๆ ในแคว้นกู่จั้งได้
ขณะเดียวกันหากต้นพิสูจน์เต๋าของซูหมิงเหนือกว่า ทำลายกฏได้ เช่นนั้นจากนี้ไปเขาจะสังหารมหาเต๋าสูงศักดิ์โดยไม่สนกฏนี้ในแคว้นกู่จั้งได้!
ดวงตาชื่อหยางเกิดเส้นเลือดฝอย จ้องซูหมิงเขม็ง ตัวเขาเป็นมหาเต๋าสูงศักดิ์ เชื่อมั่นในเต๋าแห่งดวงชะตาของตน เชื่อมั่นในกฏของมหาจักรพรรดิกู่จั้ง ยามนี้เขายกสองมือขึ้นกดไปข้างหน้าพร้อมเปล่งเสียงคำราม
เสียงคำรามดังกึกก้อง ใบหน้ามหาจักรพรรดิกู่จั้งมาพร้อมด้วยแรงกดดันปะทะกับต้นพิสูจน์เต๋ามายาของซูหมิง ตอนนี้เองฟ้าดินเกิดเสียงดังสนั่น เทือกเขาทั้งสำนักเอกะเต๋าถล่มลง ผู้ฝึกฌานนับไม่ถ้วนยากจะต่อต้านจึงเป็นเถ้าธุลีสลายไป
เสียงดังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้ามหาจักรพรรดิกู่จั้งเกิดระลอกคลื่นไม่มีสิ้นสุด ต้นพิสูจน์เต๋าเป็นมายายิ่งกว่าเดิม ตอนที่การปะทะดุเดือดถึงขีดสุด ดวงตาซูหมิงขยับประกาย
มือขวาเขาพลันทะลวงผ่านใบหน้ามหาจักรพรรดิกู่จั้งที่สร้างจากกฏเข้าไปยังระหว่างคิ้วชื่อหยาง
เพียงสัมผัสเล็กน้อยแล้วก็ชักมือขวากลับ เสียงครึกโครมดังถึงขีดสุด กฏพังทลายลง ใบหน้ามหาจักรพรรดิกู่จั้งบิดเบี้ยวแตกออกเป็นชั้นๆ ท่ามกลางเสียงดังอึกทึก นัยน์ตาชื่อหยางฉายแววเหลือเชื่อ ตรงระหว่างคิ้วเขาปรากฏรูหนึ่ง ไม่มีโลหิตไหล แต่เส้นเลือดปูดขึ้นบนใบหน้า ขยับยึกยือเหมือนมีกิ่งไม้เหลือคณานับยึดครองจิต จากนั้นดวงตาสองข้างถึงค่อยๆ ไร้ประกาย
จนกระทั่งร่างเขาล้มลงกับพื้น เสียพลังชีวิตทั้งหมดไป
เหตุการณ์ผันเปลี่ยนไปอย่างฉับพลันส่งผลให้เกิดเสียงดังสนั่นในใจเซินมู่กับไป๋ลู่ ก่อเป็นคลื่นลูกใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“กฏ…พังลงตรงหน้าเขา…”
“แสงดำ แสงดำที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเป็นตัวแทนการทำลายล้าง เป็นตัวแทนว่านับจากนี้ไปเขาจะเมินเฉยต่อกฏกู่จั้ง!”