[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน
[เลเวล] 15
[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม
[ทักษะ] <<Ruler of the Horde>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย
[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย
[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (เลเวล 36)
◇◆◇
“อลูฮาลิฮาล ข้ามีคำขอบางอย่าง”
ก่อนที่เราจะเข้ายึดป้อมปราการ ผมมีเรื่องหนึ่งที่ต้องให้อลูฮาลิฮาลช่วย
“ท่านไม่จำเป็นเป็นต้องร้องขอ ตราบใดที่ท่านสั่ง ข้าจะทำทุกอย่างตามที่ท่านต้องการ”
อลูฮาลิฮาลหัวเราะอย่างเต็มที่ ขณะที่ผมก็ยิ้มตอบ
“ข้าอยากจะขอไรเดอร์บีสต์สักตัว ข้าต้องการมอบมันให้กับก็อบลินที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกิทางทิศตะวันออก”
คิ้วของอลูฮาลิฮาลกระตุกขึ้นทันที เมื่อเขาได้ยินคำขอของผม
มันเป็นคำขอที่ยาก ผมเข้าใจ
ท้ายที่สุดสำหรับก็อบลินเผ่าพาราดัว พวกเขาจะได้รับสัตว์ขี่มาตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งเขาตาย สัตว์เหล่านั้นเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา แน่นอนว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะรู้สึกต่อต้าน
“ก็อบลินตัวนั้นที่ท่านพูดถึง เป็นคนแบบไหน?”
“เป็นก็อบลินที่สูญเสียแขนและขาไปเพราะข้า ข้าอยากจะตอบแทนเขา”
“ในบรรดาลูกน้องของข้า ไม่มีก็อบลินตัวใดที่ภักดีไปกว่าเขาอีกแล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นคำขอส่วนตัวของข้าเอง”
“ถ้าเป็นคำขอของราชา ข้าก็จะทำตามเช่นนั้น”
หลังจากที่อลูฮาลิฮาลโค้งคำนับและถอนตัวจากไป ผมก็คิดถึงฝั่งตะวันออก
กิก้า เรเชีย ผมจะกลับไปที่นั่นเร็ว ๆ นี้!
◇◆◇
ในป่าที่เขียวชอุ่มของมนุษย์ ครึ่งเอลฟ์หูสั้น ผู้สวมปลอกคอที่บังคับให้พวกเขาต้องทำตามคำสั่ง ในฐานะทาสที่ถูกซื้อมา เธอจึงไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง
“…เซเลน่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สุภาพบุรุษท่านนี้จะเป็นเจ้านายของเจ้า เจ้าทำอะไรอยู่? ทำไมไม่แสดงความเคารพต่อเขาล่ะ!?”
ด้วยเสียงของพ่อค้าทาส เซเลน่าจึงรับใช้เจ้านายคนใหม่ด้วยความหวาดกลัว
“มาสเตอร์ ข้าชื่อเซเลน่า” เธอพูด “ขอบคุณที่ซื้อข้ามา”
เสียงของเซเลน่าสั่นขณะที่เธอพูด แต่ยีนเพียงแค่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ใบหน้าของเขาสวยงามเมื่อเทียบกับมนุษย์และความดุร้ายในดวงตาที่ไม่สามารถซ่อนไว้แม้เขาจะปรารถนา ในความเป็นจริงแม้แต่รอยยิ้มของเขาก็ยังดูชั่วร้าย
“ข้าน่าจะซื้อของดีมาแล้ว เซเลน่า! ทำไมเจ้าไม่แสดงความสามารถให้ข้าดูล่ะ!” ยีนตะโกน
ร่างกายของเซเลน่าสั่น จากนั้นเธอก็เพ่งสมาธิไปที่หูของเธอ
“สายลมและคำอวยพรจากป่า เซเรเนด”
เธอหลับตาและกอดอกราวกับว่าเธอกำลังอธิษฐาน
“3 กิโลเมตรจากที่นี่มีรถม้าและนักผจญภัยบางคนที่กำลังทะเลาะกัน”
โอ้? ริมฝีปากของยีนเหยียดยิ้ม “เจ้ายืนยันได้ไหม?”
“แน่นอนครับท่าน” พ่อค้าทาสตอบขณะที่เขาถูมือของตัวเองอย่างเขินอาย
เห็นได้ชัดว่าพ่อค้าพยายามจะดูดเงินของเขา แต่ยีนไม่ได้มองเขาแม้แต่แวบเดียว สายตาของเขาจับจ้องไปที่เซเลน่าอย่างสมบูรณ์
“ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ข้าจะซื้อทาสคนอื่นด้วย”
“ขอบคุณขอรับท่าน!”
ทันใดนั้นพ่อค้าทาสก็ก้มลงตามคำพูดของยีนก็พยักหน้าอย่างพอใจ
ในที่สุดยีนก็ซื้อทาสทั้งหมด 3 คน
เซเลน่าที่ได้รับการคุ้มครองจากสายลมและทาสที่มีไว้สำหรับการต่อสู้สองคน – โยชุ และ ชูเมอา
ด้วยเหตุนี้ยีน มาร์ลอนก็สามารถหาเบี้ยของเขาได้สำเร็จ
◇◆◇
ในอาณาจักรของกษัตริย์แอชทัล เมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดก็ไม่ใช่ที่อื่นนอกจากเมืองหลวง การค้าและสินค้าเป็นเศรษกิจหลักของประเทศ ดังนั้นด้วยความมั่งคั่ง ผู้คนจึงพลุกพล่าน แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดการทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง
เป็นผลให้ผู้ที่รับผิดชอบในการรักษาความสงบของประชาชนคือทหารองครักษ์ ซึ่งอยู่ภายใต้กษัตริย์โดยตรง องครักษ์ของจักรวรรดิเป็นกองพันแนวหน้าที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องกษัตริย์และพื้นที่โดยรอบ นอกจากนี้ยังมีภาคีอัศวินที่รับผิดชอบในการสำรวจประเทศต่าง ๆ
ยูซ่า หนึ่งในสมาชิกองครักษ์กำลังสาปแช่งโชคชะตาของเขา
ตรงหน้าเขามีรถม้าอันงดงามล้มอยู่ข้างทาง ที่ถูกล้อมด้วยกลุ่มคนที่ดุร้าย พวกเขาทุกคนสวมชุดเกราะสำหรับการต่อสู้ สังเกตจากบรรยากาศรอบตัวและร่องรอยผ่านชุดเกราะ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่ไก่อ่อน
ท้ายรถคือขุนนางที่ยืนอยู่หน้ารถม้า เขากำลังส่งเสียงดังและมีผู้คุ้มกันที่รวมตัวกันเพื่อปกป้องเขา
มันเป็นการทะเลาะกันระหว่างขุนนางและนักผจญภัย
ฝูงชนใช้เวลาไม่นานในการมารวมตัวกันรอบ ๆ เพื่อดูสถานการณ์ที่น่าขบขันเช่นนี้
“มาสเตอร์ยูซ่า ท่านเป็นอะไรไป?”
ทหารที่มียศน้อยกว่าถามยูซ่า
“มันชัดเจนไม่ใช่เหรอ? ข้าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น!” เขาตะคอก
“อ่า ในกรณีนั้นข้าสามารถอธิบายได้ ข้าเห็นทุกอย่างตั้งแต่เริ่ม มีนักผจญภัยคนหนึ่งจากกลุ่มกระโดดไปหน้ารถม้าเพื่อช่วยเด็ก”
ภรรยาของสามัญชนอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
ยูซ่าจ้องมองไปที่เธอ
เขาไม่ได้ต้องการความปรารถนาดีของเธอ แต่การเข้ามาแทรกแซงในตอนนี้อาจสายเกินไปแล้ว ท้ายที่สุดแล้วมันจะกลายเป็นความวุ่นวายครั้งใหญ่ ขุนนางต้องการรักษาหน้าของตัวเองและนักผจญภัยที่หาเลี้ยงชีพจากชื่อเสียง ไม่มีทางที่ทั้งสองฝ่ายจะยอมลดตัวลง
“บ้าเอ๊ย! ทำไมเรื่องนี้ถึงต้องเกิดขึ้น ในขณะที่ข้าลาดตระเวน!?”
เขาถอนหายใจและสาปแช่งโชคชะตาของตัวเอง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงจากกลุ่มฝูงชน
“กล้าสร้างความวุ่นวายในเมืองหลวง พวกเจ้าท้าทายอำนาจของกษัตริย์แอชทัลเหรอ!?”
ชายที่เดินผ่านฝูงชนนำผู้ใต้บังคับบัญชาไปยังที่เกิดเหตุ
ไม่ว่าในกรณีใด สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือการสลายฝูงชน
สำหรับทหารองครักษ์ที่จะมาในช่วงเวลานี้ ไม่ต้องพูดถึงทหารองครักษ์ขที่มีตำแหน่งสูงพอที่จะเป็นผู้นำคนอื่น
ยูซ่าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เมื่อเห็นหัวหน้าของตน แต่เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ เขาก็แสดงท่าทีอย่างเหมาะสม
“แยกย้ายไปให้หมด! นี่ไม่ใช่การแสดง!”
สำหรับคนอื่น ความระมัดระวังของเขาดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทหารองครักษ์ควรจะมี แต่ความจริงแล้วเขากำลังปวดหัวมาก ถึงกระนั้นเขาก็สลายฝูงชนที่บ่นและกลับไปหากลุ่มคนที่มีปัญหา
“พอแล้ว พวกเจ้ามาต้องมากับเราที่สำนักงาน! ข้าต้องได้ยินทุกอย่างที่เกิดขึ้น พวกเจ้าทุกคนมานี่!”
ขุนนางที่โกรธแค้นและนักผจญภัยที่ค่อนข้างสงบต่างพากันไปที่สำนักงาน
คำถามแต่ละคำล้วนถูกผลักเข้าไปในสถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งขึ้น
“ยูซ่า ดูเหมือนเจ้าจะนำปัญหากลับมาทุกครั้งที่เจ้าออกไปนะ”
เพื่อนองครักษ์แกล้งเขา แต่ยูซ่ามุ่งเน้นไปที่การยืนยันตัวตนของทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“ลอร์ดเวย์น บารอนจากทางเหนือ? ไอบ้าขุนนางจากสติกส์มาทำอะไรที่นี่? แถมเขายังทำให้ข้าเดือดร้อนอีก!”
อารมณ์ที่พลุ่งพล่านของยูซ่าเอ่อล้นออกมา ขณะที่กัดขนมปังแข็ง ๆ ในมือ
“สำหรับนักผจญภัย เผ่าบลัดโอทธ์สวอนโล่ว …ล้อเล่นใช่มั้ย?”
เผ่าบลัดโอทธ์สวอนโล่ว เป็นกลุ่มหนึ่งในหมู่นักผจญภัยที่รวมตัวกันเพื่อตอบสนองต่อคำขอบางอย่าง ถ้าหากเป็นกลุ่มที่สร้างขึ้นชั่วคราวมันจะเรียกว่าปาตี้เท่านั้น แต่เผ่าคือกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจ ที่จะดำรงอยู่เป็นเวลานาน สำหรับกิลด์นั้นเป็นเพียงศูนย์กลางสำหรับการหางานเท่านั้น
จากเผ่าจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีอยู่ กลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาจะกลายเป็นเผ่าชั้นยอดและเผ่าบลัดโอทธ์สวอนโล่วเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทรงพลังเหล่านั้น
“เฮอร์คิวเลียน ไวแอตต์ ไม้กายสิทธิ์แห่งการทำลายล้าง เบลแลนและนักฆ่าจอมเวทย์ มิลล์…พวกเขาล้วนแต่มีชื่อเสียง”
หลังจากยืนยันตัวตนของทุกคนแล้ว ยูซ่าก็ถอนหายใจ
นักผจญภัยเป็นอาชีพที่คล้ายกับการแสดง นักผจญภัยไต่อันดับขึ้นมาด้วยความสามารถเมื่อเขามีชื่อเสียงมากขึ้น อย่างเช่นในกรณีของคนเหล่านี้ พวกเขาจะได้รับฉายาที่สอง
สำหรับการได้รับฉายานั้นไม่ใช่เรื่องปกติ ถึงกระนั้นการที่นักผจญภัยสามคนมีฉายา นั่นแสดงให้เห็นว่าคำเผ่าบลัดโอทธ์สวอนโล่วมีอำนาจมากเพียงใด
เผ่าเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินการภายในประเทศประเทศเดียว ในความเป็นจริงเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนด้วยซ้ำ ว่าพวกเขามีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อื่น
“ฮ-เฮ้ ยูซ่า!”
ยูซ่าที่ขบคิดอยู่ก็ตกใจเมื่อเพื่อนองครักษ์ทักจากข้างหลัง
“อ- อะไรอีก!? แกจะส่งเสียงดังทำไม!”
“อัศวินวายุ!”
“แกกำลังตื่นตระหนกเรื่องอะไร? นั่นเป็นวิธีที่องครักษ์ของจักรวรรดิควรปฏิบัติเหรอ!?”
“อัศวินพายุกัลแลนด์อยู่หน้าสำนักงาน!”
” เจ้าพูดอะไรนะ!? “
ฮีโร่นักผจญภัยกัลแลนด์ ใครจะคิดว่าตัวอันตรายแบบนั้นจะมาที่นี่?
“เขามาที่นี่เพื่ออะไร!?”
ด้วยความตื่นตระหนก ยูซ่าออกจากห้องทำงานทันที กัลแลนด์พบเขาข้างนอกด้วยท่าทางอันสง่างาม
“ข้าได้ยินมา แขกของข้าทำให้เจ้ามีปัญหา”
“ท่านกำลังพูดถึงเผ่าบลัดสวอลโล่?”
“ถูกต้อง ข้าเพิ่งให้กิลด์ติดต่อพวกเขาไป แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะปัญหาบางอย่าง ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อรับพวกเขา”
เมื่อเห็นท่าทีของกัลแลนด์ขณะที่เขาพูดอย่างสุภาพ มันทำให้ยูซ่าปวดหัว
“เรายังทำเอกสารไม่เสร็จ ดังนั้นท่านอาจฃต้องรออีกสักพัก”
“โอ้? เจ้าวางแผนจะทำให้ข้ารอที่นี่?”
ยูซ่ากัดฟันและเดินหันหลังกลับเข้าไปในสำนักงาน
“ไอ้บ้า! รอดูเถอะ ข้าจะทำให้เขารอจนถึงวินาทีสุดท้าย”
สำหรับผู้ที่รักษาความสงบแล้ว นักผจญภัยที่ก่อปัญหาไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเจอเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในวันนี้ อาจเป็นเพราะทักษะที่ยอดเยี่ยมของนักผจญภัยและความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักของขุนนาง
แม้ว่าโดยทั่วไปจะคิดว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่การมีส่วนร่วมซึ่งกันและกันก็ส่งผลให้เกิดข้อดีและข้อเสียขึ้นเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วขุนนางเป็นกลุ่มคนที่ไม่สามารถรับมือกับความผิดพลาดของตัวเองได้ ในขณะที่นักผจญภัยที่เสี่ยงชีวิตเพื่อทำมาหากินอาจกลายเป็นภัยคุกคามได้อย่างง่ายดาย
“…เกิดอะไรขึ้น? ” ผู้คุ้มกันเพื่อนของยูซ่าที่ยื่นเอกสารให้ถามเขา
แต่ยูซ่าก็ไม่สนใจและทำเอกสารอีกครั้ง ในช่วงเวลานั้นมีคนเรียกหา มันเป็นหัวหน้าหัวหน้าองครักษ์ของเขา
“เอกสารทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์แล้ว รีบพาพวกเขากลับบ้านไปซะ”
“ฮะ? แต่…”
“แต่อะไร!? “
หัวหน้าของเขาคว้าคอเสื้อยูซ่า ในขณะที่ตะโกนใส่เขา
“ปล่อยพวกเขาไปเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง”
” ได้…”
การต่อต้านคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้นักผจญภัยจากไป
“กัลแลนด์แห่งวายุ เจ้าทำอะไร?” เฮอคิวเลียน ไวแอตต์ถาม
“ก็ข้าเองนี่แหละ ที่ส่งคำขอให้พวกเจ้ามา มันคงโหดร้ายเกินไปหากข้าไม่ช่วยเจ้า?”
“ดูเหมือนว่าเราจะทำให้ท่านมีปัญหา” ไม้กายสิทธิ์แห่งการทำลายล้าง เบลแลนกล่าว
“…นี่” นักฆ่าจอมเวทย์ มิลล์กระซิบเบา ๆ
เมื่อได้ตัวช่วยที่ทรงพลังมา กัลแลนด์ก็หัวเราะอย่างเต็มที่
◆◆◇◇◆◆◇◇
ค่าสถานะ
[ชื่อ] เซเลน่า
[เผ่าพันธุ์] เอลฟ์
[เลเวล] 32
[อาชีพ] ทาส
[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้ธนู C+>> <<เสียงของพงไพร>><< การจัดการเวทมนตร์ >><<เสียงกระซิบของสายลม>> << ลมหายใจของเทพเจ้าแห่งวายุ >><<ผู้อาศัยในผืนป่า>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าลม
[แอตทริบิวต์] ลม
[สถานะผิดปกติ] เนื่องจากปลอกคอทาส ความสามารถทางกายภาพลดลง 30%
ค่าสถานะ
[ชื่อ] โยชู
[เผ่าพันธุ์] มนุษย์
[เลเวล] 46
[อาชีพ] ทาสนักรบ
[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้ดาบ C+>> <<Provoke>> <<โล่ลวงตา>> <<Skill of Experience >> <<Shield Rush>> <<Flame Blade>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าแห่งไฟ
[แอตทริบิวต์] ไฟ
[สถานะผิดปกติ] เนื่องจากปลอกคอทาส ความสามารถลดลง 30%
ค่าสถานะ
[ชื่อ] ชูเมอา
[เผ่าพันธุ์] มนุษย์
[เลเวล] 67
[อาชีพ] ทาสนักรบ
[ทักษะ] <<ความชำนาญการใช้ดาบ C+>> <<Giant Swing>><< Triple Thrust >> << แทงเร็ว>><<ปัดป้อง>> <<Pinwheel>>
[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพเจ้าแห่งไฟ
[แอตทริบิวต์] ไฟ
[สถานะผิดปกติ] เนื่องจากปลอกคอทาส ความสามารถลดลง 30%
◆◇◇◆◆◇◇◆
อ่านนิยายล่วงหน้าได้ในกลุ่ม ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล (ตอนนี้แปลถึงตอน 400 กว่าแล้วนะครับ)
https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/