Goblin Kingdom 51

ตอนที่ 51

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 5

[คลาส] ลอร์ด , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B – >> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <> <<สัญชาตญาณ>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา II>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์ใต้บังคับบัญชา] โคโบลชั้นสูง ฮาสุ (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 20) ซินเธีย (เลเวล 20) บุย (Lv36)

◇◆◇

[ก็อบลิน] กิก้า

ก็อบลินที่อาศัยอยู่ผู้นำคนก่อนพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก

[ก็อบลิน] กิกูว

อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาดถ้าเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป

[ก็อบลิน] กิกิ

เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถที่ค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน

[ก็อบลิน] กิโก

ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์

[ก็อบลิน] กิซาร์

ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลม ที่เพิ่งเข้ากลุ่มมา

[ก็อบลิน] กิจิ

ก็อบลินแรร์ที่เลื่อนคลาส (ตอนที่ 37) จากการออกล่ากับกลุ่มของกิก้า

[ก็อบลิน] กิโด

ดรูอิดผู้ใช้เวทย์ลม

[ก็อบลิน] กิจี

ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิกูว เขามีทักษะ <<ดวงตาที่เปิดกว้าง>> ซึ่งทำให้เขาสามารถเห็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้

[ก็อบลิน] กิด้า

ก็ก็อบลินแรร์จากกลุ่มของกิก้า เขามีทักษะที่โดดเด่นอย่าง <<ความรู้เกี่ยวกับหอก>> และ <<ดื้อรั้นอย่างไม่มีเหตุผล>>

[ก็อบลิน] กิซู

ก็อบลินแรร์ผู้ถูกเทพเจ้าผู้บ้าคลั่ง (ซู โอรุ) คุ้มครอง มีทักษะ<< Mad Dog >>

◇◆◇

ก็อบลินที่ขวางทางขนาดใหญ่กว่าออร์คทั่วไป

กล้ามเนื้ออันปูดโปนทั่วร่างกายและแขนขาสีดำที่พันด้วยผ้าบาง ๆ ราวกับพวกมันไม่ได้คิดถึงการป้องกันเลยด้วยซ้ำ

ในมือของก็อบลินมีกระบองขนาดเท่าต้นไม้และดวงตาที่เป็นสีแดงเพลิง

“รูวอา!”

เสียงร้องนั่นเป็นสัญญาณ

ในขณะที่ก็อบลินยกกระบองขึ้น เขาก็ทุบมันลงเพื่อกวาดต้นไม้ในระยะโจมตี

“รูวววอาาา!”

นั่นอาจจะเป็นหัวหน้าของฝูงของพวกมัน

พวกก็อบลินเคลื่อนไหวตามเสียงร้องโดยไม่มีท่าทีลังเลใด ๆ ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นเพียงสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่งคล้ายกับออร์ค

ในกรณีนี้ผมคิดว่าการซ่อนตัวมีความหมายเพียงเล็กน้อย

“ใคร!?”

คำพูดของพวกมันเข้าใจได้ยาก…

“ราชาของเจ้าในอนาคต” ผมตอบอย่างประชดประชัน

มันส่งเสียงร้องดังก้องออกมาเพื่อตอบสนอง

“รูโอวววววว!”

ในขณะที่ก็อบลินตัวหนึ่งของเผ่าเกิร์ดการ์ส่งเสียงขึ้น ก็อบลินตัวอื่น ๆ จึงส่งเสียงตามเช่นกัน

เมื่อสงครามของพวกเรากำลังจะเริ่มขึ้น กิโกก็เดินเข้ามาหาผม

“ราชาโปรดให้ข้าเป็นแนวหน้า” เขากล่าว

ผมพยักหน้า

“พวกมันอาจจะแข็งแกร่งกว่าออร์ค” ผมเตือน

“ข้าเข้าใจ” เขาตอบ

ขนาดของกิโกซึ่งมีขนาดเล็กกว่าของผมถึงสองส่วน แต่ผมอนุญาตให้เขาต่อสู้

ผมส่งสายตาไปด้านข้าง ผมเห็นหัวหน้าดรูอิดกิซาร์ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ด้านขวา ส่วนกิกิ กิจิและกิซูอยู่ทางด้านซ้าย

กิโดกำลังอยู่ตรงกลางระหว่างกิโกและกิซาร์

สำหรับกิกูวและกิจีอยู่ข้างหลังผม

ทุกคนประจำตำแหน่ง

ศัตรูของเราคือก็อบลินขนาดใหญ่จากเผ่าเกิร์ดการ์

“ไป! “

ด้วยความเร็วคล้ายลูกศรที่ถูกคลายออก กิโกพุ่งผ่านป่าที่ถูกทำลาย ตามไปด้วยก็อบลินผู้ใต้บังคับบัญชาสามตัวของเขา ในมือของแต่ละคนมีดาบที่แสดงร่องรอยของการใช้งาน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความเข้มงวดจากการฝึกของพวกเขา

“รูอู!”

กระบองที่โจมตีเข้ามาทำให้ต้นไม้ล้มลง แต่กิโกหลบผ่านมันจากข้างใต้โดยไม่ลังเลใด ๆ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงดาบโค้งของตัวเองไป

ดาบนั้นทิ้งไว้ประกายแสงเล็ก ๆ ไว้และก็มีเลือดพุ่งออกมาจากแขนของก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง กิโกแสดงสีหน้าไม่พอใจ เมื่อเก็บดาบเข้าไปในฝัก

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถฟันลึกลงไปถึงกระดูก

“มาสิ! “

เขาตะโกนใส่ก็อบลินยักษ์ที่ยืนตระหง่านอยู่เหนือเขา กิโกจับดาบสองมืออีกครั้งแล้วฟันลง

ก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์ร้องด้วยความเจ็บปวดและใช้กระบองสวนกลับ กิโกใช้ดาบปัดการโจมตีนั้นเพื่อหลบไปด้านข้าง

ในเวลาเดียวกันกิโกได้ใช้ท่านูคิโด้ (ประมาณการจับดาบแบบเคนโด้) ฟันศัตรูในจังหวะเดียว

การโจมตีนั้นเรียกได้ว่าเป็นศิลปะแห่งการใช้ดาบที่แท้จริง

มันแตกต่างจากก็อบลินไม่มีประสบการณ์ที่ใช้ดาบ แตกต่างจากผมที่อาศัยน้ำหนักของดาบในการโจมตี มันเป็นการฟันที่แสดงศักยภาพและดึงพลังของดาบออกมาอย่างสมบูรณ์

นี่คือพรของผู้ที่ได้รับการคุ้มครองจากเทพดาบ

ก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์ที่ถูกฟันจึงล้มลงอย่างช่วยไม่ได้

เลือดจำนวนมากพุ่งออกมาจากร่างกายที่ล้มลง แต่กิโกไม่แม้แต่เหลือบมองเขาอีก

ผมสลับสายตาจากกิโกไปยังก็อบลินตัวอื่น

“ขับเคลื่อนสายลม (Accel) ! “

ผมเลื่อนสายตาไปทางขวาเมื่อได้ยินเสียงของกิซาร์

เขาใช้ Accel พุ่งผ่านก็อบลินของเผ่าเกิร์ดการ์ ในขณะเดียวกับที่มันหันไปด้านหลัง

“วายุจงหมุนวน (Wind Cutter) !”

ใบมีดสายลมสองเล่มพุ่งไปที่เท้าของก็อบลินฝ่ายตรงข้าม

เสียงร้องดังขึ้นและศัตรูก็ล้มลง จังหวะต่อมาพวกลูกน้องของกิซาร์ก็ได้ระดมยิงพวกก็อบลินผู้น่าสงสารด้วยเวทมนตร์ แต่พลังของพวกเขาอ่อนแอเกินไปจนไม่สามารถปิดฉากมันได้ในการโจมตีครั้งเดียว แต่เมื่อพวกเขาต่อสู้ร่วมกัน ในที่สุดก็สามารถล้มมันได้

–––– ฝั่งนี้ก็ทำได้ดีเช่นกัน

ในบางครั้งนักเวทลมกิโดจะร่ายเวทย์เพื่อช่วยเหลือกิโกและกิซาร์

มันไม่ได้เป็นการกระทำที่หวือหวาอะไร แต่มันจำเป็นต่อสงครามที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพราะกิโดสามารถป้องกันสิ่งที่พวกเขาทำพลาดไปได้

ตามที่คาดไว้ ไม่มีปัญหาอะไรกับสองกลุ่มนี้ ถ้าเป็นเช่นนี้ … ด้านซ้ายน่าจะเป็น …

มองไปที่ก็อบลินแรร์สามตัวจากทางซ้าย … ตอนนี้พวกเขาอยู่ในทางตัน

กิซูไม่สามารถแสดงพลังอย่างเต็มที่ได้เมื่อเขาเหวี่ยงหอก มันยากเกินไปสำหรับก็อบลินแรร์ที่จะปะทะกับเผ่าเกิร์ดการ์โดยตรง กิซูเป็นผู้นำในการโจมตีก็จริง แต่พวกเขากำลังประสบปัญหาเพราะพลังของพวกเขายังต่างกันเกินไป

สำหรับผู้ฝึกสัตว์กิกิและกิจิผู้ลอบเร้น พวกเขาทำได้ไม่ดีนักในการต่อสู้กับศัตรูที่มีพละกำลังมากกว่า ทักษะ <> ของกิจิ ใช้สำหรับการต่อสู้จากเงามืดหลังพบช่องว่าง ส่วนสัตว์เลี้ยงของกิกิยังขาดพลังในการปะทะ พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพาพลังของกิซูในการบุกทะลวง แต่ …

พวกเขาเริ่มจนมุม …

“กิกูว” ผมร้องเรียก

“ขอรับ? ” เขาตอบ

ผมควรส่งกิกูวออกไปไหม

“นำพวกก็อบลินของเจ้าไปช่วยด้านซ้าย”

“ตามที่ท่านต้องการ”

เมื่อเขาฟันดาบ เขาก็ส่งสัญญาณให้กิจีเข้าร่วมการต่อสู้ที่ปีกซ้าย

จะพอไหวมั้ยนะ

เมื่อผมพึมพำ ก็มีก็อบลินตัวหนึ่งหลุดออกมาจากพื้นที่ที่กิโกกำลังกดดัน

กิโกเหลือบมองผมครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปเพื่อต่อสู้กับก็อบลินตัวอื่น

เกรงใจบ้างสิ…

เขาจึงวางแผนที่จะใช้ผมเป็นเหยื่อล่อใช่มั้ย?

“เผ่ากันระ ถ้าเจ้าอยากมีชีวิตรอด” ผมพูดกับก็อบลินเผ่ากันระที่กระโดดออกมาขวางทาง

“อย่ามาเกะกะ!” ผมตะคอก

ศัตรูเหวี่ยงกระบองลงมา

หากผมโดนมัน ผมคงบาดเจ็บแน่ ๆ

แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เคยสัมผัส …เทียบกับราชาออร์คโกลโกล การจู่โจมแค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะเรียกว่าการโจมตีเลยด้วยซ้ำ

ขยับร่างกายของผมไปด้านข้างเพื่อหลบจากวิถีการโจมตี จากนั้นผมก็เหวี่ยงดาบลงไปที่ขาของมัน

ตอนที่ก็อบลินล้มลงและผมจึงโจมตีซ้ำอีกครั้ง

เมื่อแขนของมันถูกบดขยี้ มันก็ไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป ผมมองไปรอบ ๆ ตัวและเห็นว่าพวกเกิร์ดการ์ในพื้นที่ถูกการจัดการแล้ว

“…เราได้ตัวนักโทษมาได้แล้ว ราชาท่านจะทำยังไงต่อไป?”

กิซาร์ยิ้มอย่างดุร้าย

“ผู้บาดเจ็บล่ะ?” ผมถาม

“มีก็อบลิน 3 ตัวบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย” เขาตอบ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผมก็ตัดสินใจ

“ไล่ตามศัตรู เราจะพากิลมิไปด้วย ดำเนินการต่อจนกว่าจะยึดครองหมู่บ้านกันระกลับคืนมา”

◇◆◆

เราวิ่งโดยมีกิลมิเป็นผู้นำทาง

เส้นทางที่ก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์เดินผ่าน มีต้นไม้รอบ ๆ ถูกโค่นลงทำให้ง่ายต่อการติดตาม

ไม่นานเราก็มาถึงหมู่บ้านกันระ

“นี่…ควรจะพูดว่าเป็นไปตามคาดหรืออะไรดี”

“นี่คือหมู่บ้านของเรา The Forest of the Twisted Giant (ป่าลึกลับ) ”

เมื่อผมมองขึ้นไปก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ บนต้นไม้ยักษ์มีบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นบนกิ่งก้านของมัน มีการสร้างรั้วบนพื้นดินเพื่อใช้เป็นจุดป้องกัน นอกจากนี้ยังมีกระท่อมเล็ก ๆ เหล่านั้นที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายไปแล้ว

พวกมันถูกทำลายโดยก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์

“มองหาผู้รอดชีวิต แต่อย่าประมาท!” ผมสั่ง

กิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ร่วงหล่นสู่พื้นดิน คุณยังสามารถพูดได้ว่าพวกมันบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาด การมองลงด้านล่างจากต้นไม้อาจจะแตกต่างออกไป แต่เมื่อมองขึ้นไป มันทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนเขาวงกตที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ กิ่งก้านต้นไม้ที่บิดเบี้ยวล้วนพันกันอย่างซับซ้อน และรากของต้นไม้ที่แทงทะลุพื้นดินทำให้เกิดรูปร่างประหลาด

ใบไม้ทั้งหมดมีขนาดใหญ่ ขนาดของแต่ละใบใหญ่พอที่จะปกปิดร่างกายของก็อบลินธรรมดาได้ครึ่งหนึ่ง กิ่งก้านที่พันเกี่ยวกันม้วนตัวขวางทางเดิน

ผมมีก็อบลินชั้นสูงสองคนคือกิโก อะมัทสึกิและกิกูว เวอร์เบนา พวกเขานำก็อบลินแยกย้ายไปตามเส้นทางที่ต่างกัน

หลังจากที่ผมออกคำสั่ง ผมหันไปหากิลมิเพื่อถาม

“กิลมิ ทำไมเผ่าเกิร์ดการ์ถึงโจมตีพวกเจ้า?”

พวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อยึดครองหมู่บ้าน ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตของก็อบลินเผ่าเกิร์ดการ์ แม้ว่าพวกเขาจะเข้ายึดมันได้ แต่พวกเขาก็จะไม่อาศัยอยู่ที่นี่

โดยทั่วไปแล้ว ก็อบลินเผ่ากันระน่าจะมีขนาดเล็ก ผมตัดสินจากขนาดของกิลมิและนาร์ซา ยิ่งถ้าหากตัดสินจากผิวสีแดงบนร่างกาย ผมเชื่อว่าพวกเขาเป็นเพียงก็อบลินแรร์เท่านั้น

มันจะง่ายกว่าถ้าผมยืนยันด้วย <<ดวงตาของงูสีชาด>> แต่น่าเสียดายที่เลเวลของผมต่ำกว่าพวกเขา

“นั่น…” กิลมิพึมพำอย่างลังเล

แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูด เสียงที่ไม่คาดคิดก็ดังมาถึงหูผม

“ให้ฉันอธิบายเอง” นาร์ซากล่าว

◆◇◆◇◆◇◆◇

เลเวลเพิ่มขึ้น

5 → 8

◆◇◇◆◆◇◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Options

not work with dark mode
Reset