Goblin Kingdom 41

ตอนที่ 41

[เผ่าพันธุ์] ก็อบลิน

[เลเวล] 62

[คลาส] ดยุค , หัวหน้ากลุ่ม

[ทักษะ] <<สั่งการ>> <<ปฏิปักษ์>> <<คำรามอย่างรุนแรง>> <<ความชำนาญการใช้ดาบ B->> <<ความละโมบที่ไม่สิ้นสุด>> <<การจ้องมองจากปีศาจ>> <<จิตวิญญาณของราชัน>> <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญา>> <<ดวงตามรกตของงู>> <<การเต้นรำแห่งความตาย>> <<ดวงตาของงูสีชาด>> <<การจัดการเวทมนตร์>> <<นักรบคลั่ง>> <<Third Impact>>

[การคุ้มครองจากพระเจ้า] เทพธิดาแห่งนรก อัลทีเซีย

[แอตทริบิวต์] ความมืด, ความตาย

[สัตว์เลี้ยง] โคโบลชั้นสูง (เลเวล 1) กัสต้า (เลเวล 1) ซินเธีย (เลเวล 1)

[สถานะผิดปกติ] <<เสน่ห์ของนักบุญ >>

◇◆◇

[ก็อบลิน] กิก้า

ก็อบลินที่อาศัยอยู่ผู้นำคนก่อนพ่ายแพ้ให้กับออร์ค แต่ปัจจุบันเขาเป็นก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เขาเป็นผู้ใช้หอก

[ก็อบลิน] กิกูว

อดีตผู้นำหมู่บ้าน เขาถูกกดดันเพื่อสละตำแหน่งให้กับผม เขาใช้ดาบยาวและค่อนข้างฉลาดถ้าเทียบกับก็อบลินแรร์ทั่วไป

[ก็อบลิน] กิกิ

เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ฝึกสัตว์ เขาเลื่อนคลาสในหลังจากการล่ากวางเอเรล เป็นความสามารถที่ค่อนข้างหายากและเขาชอบที่จะใช้ขวาน

[ก็อบลิน] กิโก

ก็อบลินที่มีบาดแผลมากมายทั่วร่าง อาหารส่วนใหญ่มักถูกขโมยโดยเกรย์วูฟ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามผม เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในหมู่พวกก็อบลินแรร์

[ก็อบลิน] กิซาร์

ดรูอิด (ก็อบลินแรร์) ผู้ใช้เวทย์ลม ที่เพิ่งเข้ากลุ่มมา

[ก็อบลิน] กิจิ

ก็อบลินแรร์ที่เลื่อนคลาส (ตอนที่ 37) จากการออกล่ากับกลุ่มของกิก้า

◇◆◇

จับไอเอิร์นเซคั่นพาดอยู่เหนือไหล่ ผมวิ่งผ่านพุ่มไม้ไปและเปิดเผยตัวต่อศัตรู ที่ตามมาจากด้านหลังคือกิโกพร้อมดาบโค้งของเขาและกิจิที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มก็อบลิน

ออร์คแพร่กระจายไปในหมู่บ้านแล้ว

พวกมันหันมาทางเรา

หากเป็นก่อนหน้าเราคงไม่ทำเช่นนี้ แต่…ตอนนี้มันต่างออกไป

“กูรูวอาาาา!!”

ด้วย [ทักษะ] <<คำรามอย่างรุนแรง>> ผมส่งสัญญาณไปยังกิกูวและกิก้าที่อยู่อีกด้านหนึ่ง

ผมเห็นออร์คเหวี่ยงกระบองในเวลาเดียวกับที่ผมฟันดาบจากด้านข้าง

–––– ช้าเกินไป!!

“ร่างกายข้าเปรียบเหมือนไต้ฝุ่น (แอคเซล) !”

ไม่มีความลังเลใด ๆ

กำแพงอากาศผลักผมจากด้านหลังเข้าหาออร์คที่โจมตีมา

ในพริบตาดาบของผมก็ชนเข้ากับออร์คและแทงเข้าไปในเนื้อของมัน

“กูรูวววว!”

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ [ทักษะ] <<นักรบคลั่ง>> เปิดใช้งาน

เพื่อแลกกับความบ้าคลั่งที่เกิดขึ้น พลังกายเพิ่มขึ้น 30% ความว่องไวเพิ่มขึ้น 30% พลังเวทย์เพิ่มขึ้น 30% ลดความเสียหายลง 20%

กระบองของออร์คโจมตีผมจากด้านข้าง แต่ด้วยความเสียหายที่ลดลง มันจึงไม่บาดเจ็บมากนัก จากนั้นผมสวนกลับด้วยการแทงดาบที่ปกคลุมด้วยพลังเวทมนตร์แล้วเหวี่ยงมันเพื่อตัดศีรษะของออร์ค

“เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (เอนชานต์) !”

ดาบของผมตัดผ่านร่างกายของออร์คราวกับว่ามันเป็นเพียงกระดาษ เมื่อดาบที่หุ้มด้วยเปลวเพลิงสีดำผ่านศีรษะของออร์คตัวแรกไปยังออร์คตัวถัดไป

“กว๊าาาา—”

ออร์คพยายามใช้กระบองเป็นโล่ แต่ทั้งกระบองและหน้าอกของมันถูกฟันขาด

—ตัวต่อไป! เร็วกว่านี้!

นั่นเป็นเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในหัว

“กูรูววววว!”

––– ทุกสิ่งที่ขวางหน้าคือศัตรู!

––– ฟัน ฟัน ฟัน ฟัน ฆ่า ฟัน ฆ่า ฟัน ฆ่า!

“— อาาาาา!”

ออร์คสองตัวที่ยืนขวางทางผมเหวี่ยงหอกลงมา

เมื่อหอกของพวกเขาแทงลง ผมฟาดกลับด้วยดาบทำให้หอกของพวกมันกระเด็นออกไป

ทันทีที่ออร์คสูญเสียอาวุธ พวกมันชูหมัดแล้วพุ่งเข้ามาหาผมแทน แต่ผมก็พุ่งเข้าหาพวกมันเช่นกันและเหวี่ยงดาบจากด้านล่าง ปลายดาบของผมปะทะกับต้นคอของออร์คตัวหนึ่งแล้วตัดมันออก

ผมฟันดาบเหมือนดาวหางไปยังออร์คอีกตัว ลากผ่านต้นขาทะลุไปถึงหน้าอก

ในขณะที่ผมดึงดาบออกมาจากนั้นก็ตัดหัวออร์คที่เสียการทรงตัวและล้มลงอยู่ข้าง ๆ

––––ศัตรู! ฆ่า! ศัตรู! ฆ่า!

ผมเหวี่ยงดาบอย่างบ้าคลั่ง

ทุกสิ่งรอบตัวคือศัตรู ไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องไร้สาระ แค่แสดงพลังส่งผ่านเวทมนตร์แล้วฟันพวกมัน!

“กูรูวววอาาาา!”

พลังเวทย์รวมตัวอยู่ข้างหลังผมอีกครั้ง

“ร่างกายข้าเปรียบเหมือนไต้ฝุ่น (แอคเซล) !”

ผมเคลียร์เส้นทางด้วยการพุ่งชนกับออร์คที่ขวางทาง

มือข้างหนึ่งผมจับออร์คที่ล้มทับ แล้วก็เหวี่ยงดาบไปหาออร์คอีกสองตัวที่เข้าใกล้จากด้านข้าง

ผมตัดแขนข้างหนึ่ง แต่มันไม่ได้หยุดชะงักและพุ่งเข้าใส่ผมแทน ผมตอบสนองด้วยการจับหัวของออร์คอีกตัวแล้วขว้างมันทิ้งไป

ทันใดนั้นผมก็เห็นมันจากระยะไกล ร่างกายอันใหญ่โตที่อยู่ท่ามกลางฝูงออร์คจำนวนมหาศาล

…มันคือราชาออร์ค

“ไอสารเลว!”

—-ไป!

ตอนนี้ผมเหลือเพียงการเหวี่ยงดาบตามสัญชาตญาณ

ซ้าย ขวา หน้า หลัง…?

“ชิ!?”

เมื่อผมหันกลับไป สิ่งที่เห็นคือพวกก็อบลินที่กำลังโดนล้อมกรอบ

ถ้าผมบบุกลึกเกินไป พวกก็อบลินที่เหลือจะตามมาไม่ทัน

—ไม่ดีแน่

ช่วงเวลาที่ผมคิดแบบนั้นมีกระบองฟาดมาหาผมจากด้านหน้าทำให้ผมกระเด็นออกไป

ทักษะ<<นักรบคลั่ง>> ถูกปลดปล่อย ทำให้พลังของผมลดลง

ผมจับดาบด้วยมือขวา จากนั้นก็ใช้อีกมือคว้ามีดสั้นที่ติดกับชุดเกราะแล้วโยนไปยังออร์คที่ล้อมกรอบก็อบลินเข้ามา

“ตามราชาไป!”

ตามคำสั่งของกิโก พวกก็อบลินจึงตั้งสติแล้ววิ่งตาม

ถ้าเราหยุดที่นี่ เราจะตาย

เราไม่สามารถหยุดได้จนกว่าเราจะไปถึงราชาออร์ค

ถ้าอยากมีชีวิต ก็ต้องวิ่งไปจนกว่าจะตาย

“ไป!! เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (เอนชานต์) !!”

ผมครอบคลุมดาบด้วยพลังเวทย์แล้วเหวี่ยงมันเข้ากับออร์คที่ขวางทาง

มันตัดผ่านร่างของออร์คทำให้เลือดพุ่งออกมา

ฝนโลหิตตกลงมาขณะที่ผมเดินต่อไป

ระยะทางอีก 10 ก้าว –––

ออร์คสามตัวที่ถือโล่และดาบปรากฏตัวต่อหน้า

“เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”

แต่แล้วก็มีเสียงมาจากด้านหลัง กิโกและกิจิกำลังเผชิญหน้ากับออร์คทั้งสาม

ตอนนี้มีก็อบลินเหลือเพียงสิบตัว ผมเป็นห่วงว่าพวกเขาจะสามารถจัดการออร์คทั้งสามได้หรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้น … ผมต้องฝากพวกมันไว้กับพวกเขา

เนื่องจากผมใช้ทักษะ << นักรบคลั่ง>> และการใช้ << การจัดการเวทมนตร์>> อย่างต่อเนื่องทำให้สมาธิของผมลดลง มีความรู้สึกเหมือนว่าผมสามารถหลุดจากการควบคุมได้ทุกเมื่อ

กิโกพุ่งเข้าหาหนึ่งในออร์คที่ถือดาบและโล่

เขากระโดดไปตรงกลางระหว่างออร์คทั้งสาม แล้วแทงดาบออกมาสองครั้งโดยเล็งไปที่หัวเข่าของออร์ค เขามุ่งเน้นการโจมตีไปที่ออร์คตัวกลางเท่านั้น ในขณะที่ก็อบลินด้านหลังตามเขาไป

ออร์คย่อตัวลงให้โล่ที่ถืออยู่เบี่ยงการโจมตี แต่มันก็ทำให้ทัศนวิสัยของออร์คถูกปิดลงเช่นกันและก็อบลินตัวสุดท้ายก็ปิดฉากการโจมตีไปที่ใบหน้าของมัน

ออร์คที่เหลืออีกสองตัวถูกหยุดโดยกิจิและก็อบลินไร้นาม แม้ว่าพวกเขาจะถูกฟาดกระเด็นไป แต่ความพยายามของพวกเขาก็ไม่สูญเปล่า หลังจากนั้นก็อบลินตัวอื่นเข้ามาโจมตีที่ขาของออร์คทั้งสองเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของมัน

—ยอดเยี่ยม!!

ในขณะที่ผมตะโกนออกไปดัง ๆ ผมก็เหยียบหัวของออร์คโดยใช้มันเป็นฐานเพื่อกระโดดไปข้างหน้า

ขณะที่อยู่กลางอากาศ ผมก็ใช้ดาบลากผ่านออร์ค

กลิ้งไปบนพื้นและดึงดาบออกจากตัวมัน เมื่อมองขึ้นไป ผมเห็นร่างขนาดใหญ่ของราชาออร์คอยู่ตรงหน้า

ออร์คผิวเทากำลังมองลงมาที่ผมเช่นกัน ความกดดันนั้นมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตอนที่ผมมองจากระยะไกล ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายของมันใหญ่มากจนดาบใหญ่ที่ผมถืออยู่กลายเป็นดาบยาว

ภายในดวงตาของราชาออร์ค มันมีแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาแตกต่างจากออร์คตัวอื่น ดวงตาของราชาออร์คฉายแววแห่งสติปัญญา

ยิ่งไปกว่านั้นดวงตาทั้งสองยังแสดงออกถึงความดูหมิ่น!

–––– ข้าจะฆ่าแก ไอสารเลว!

“บอกชื่อมาสิ? เจ้าตัวเล็ก”

ราชาออร์คถือดาบขึ้นเหนือหัวอย่างง่ายดาย

“ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าบอกชื่อ เจ้าก็ควรจะบอกชื่อของตัวเองมาก่อน!”

ผมงอตัวแล้วพุ่งไปที่เท้าของราชาออร์ค

“ชื่อของข้าคือ—“

–––– ไอ้โง่ แกกำลังจะตายตอนที่บอกชื่อของตัวเอง

“โกลโกล”

ทันใดนั้นความหนาวเย็นก็จู่โจมผมขึ้นมาจากปลายเท้า ผมจึงกระโดดไปด้านข้าง มีเสียงระเบิดดังกึกก้องดังขึ้น เมื่อดูว่าผมกระโดดมาจากตรงไหน มีหลุมขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นที่พื้น!

“โฮ่? เจ้าหลบมันได้…”

เขามองมาที่ผม

ผมพยายามจะขยับ แต่ทันใดนั้นผมก็รู้ว่าผมขยับร่างกายไม่ได้ ราวกับว่าตัวเองอยู่ใต้น้ำ

— ป – เป็นไปไม่ได้!!

“ขยับได้ไหมเจ้าตัวเล็ก”

ราชาออร์คยิ้มเยาะขณะที่เขาพูด ไม่ดีแน่ถ้าเป็นแบบนี้ เมื่อคิดอย่างนั้นผมจึงหายใจเข้าลึก ๆ

“กูรูววอาาาา!”

“กว๊าาาาาาา!”

เสียงคำรามของผมดังก้องพร้อมกับราชาออร์ค

คำรามอย่างรุนแรง!?

“โฮ่ เจ้าก็ใช้มันได้เช่นกัน?”

ไม่ว่าจะกรณีใด ดูเหมือนเขาจะสามารถใช้ทักษะได้อย่างเหมาะสม

“บอกชื่อเจ้ามาสิ เจ้าตัวเล็ก?”

ถ้าผมบอกชื่อตัวเองอย่างไม่ใส่ใจ เขาอาจจะมีทักษะที่คล้ายกับ <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญาI>> ของผม มันจะทำให้ช่องว่างที่สิ้นหวังนี้กว้างขึ้นไปอีก!

“ข้าไม่มีชื่อ!”

แต่ด้วยสิ่งนี้ <<ผู้ควบคุมแห่งปัญญาI>>> ของผมก็จะถูกปิดผนึกเช่นกัน

ผมที่พยายามจะเข้าใกล้ราชาออร์คด้วยการพาดดาบเหนือไหล่ แต่เมื่อมันก็ยกดาบใหญ่จากพื้นดินที่พึ่งทำลายไป แรงลมในขณะที่มันยกดาบก็หยุดการชาร์จของผม

ถ้าผมโดนโจมตี ผมจะต้องตายอย่างแน่นอน

ผมอาจจะใช้ << การเต้นรำแห่งความตาย>> ไม่ได้

เช่นเดียวกับ << ดวงตามรกตของงู>> เนื่องจากเราถูกออร์คล้อมอยู่ มันต้องมีความได้เปรียบในเรื่องจำนวนเพื่อใช้ทักษะ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุจุดอ่อนของคู่ต่อสู้

ด้วยตัวเลือกมากมายของผมที่ถูกปิดกั้น สิ่งที่ผมเหลือมีเพียง <<นักรบคลั่ง>> <<การจัดการเวทมนตร์>> << Third Impact>>

ส่วน <<คำรามอย่างรุนแรง>> ของผมเพิ่งถูกยกเลิกไปพร้อมกับเขาเช่นกัน

ผมควรจะทำยังไงดี!?

“ในกรณีนี้…”

เสียงอันหนักอึ้งดังออกมาจากปากของโกลโกล แต่ทันใดนั้นร่างขนาดยักษ์ก็พุ่งเข้ามาหาผมด้วยความเร็วที่น่ากลัว

–––ไม่มีเวลามาคิด!

ผมบิดตัวไปด้านข้าง พยายามเอาตัวออกจากวิถีการโจมตีของราชาออร์ค มันมีเสียงระเบิดดังขึ้นข้าง ๆ ผม

ผมพยายามเพิ่มระยะห่างระหว่างเรา แต่มันก็พุ่งเข้าหาผมอีกครั้งด้วยดาบที่แทงลงไปที่พื้น ผมตอบสนองด้วยการใช้ดาบอย่างหมดหวัง แต่การป้องกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้

เหมือนกับว่าผมถูกชนด้วยต้นไม้ขนาดยักษ์

ผมไม่มีเวลาแม้แต่จะใช้เทคนิคการตบเบาะลดความเสียหาย หลังของผมจึงกระแทกกับต้นไม้อย่างรุนแรง ผมหอบหายใจอย่างหนักและร่างกายก็ไม่เคลื่อนไหว เห็นได้ชัดว่าความตายอยู่แค่เอื้อม

แต่ผมจะจ้องมองร่างยักษ์ของโกลโกลอย่างใจเย็น

“เจ้ายังสู้ไหว?”

เสียงนั้นไม่ได้มีการเหยียดหยามเหมือนตอนเริ่มต้นอีกต่อไป ทั้งหมดคือการชื่นชมอย่างแท้จริง

หรือผมควรแลกเปลี่ยนพลังกับ <<นักรบคลั่ง>>?

ไม่ พลังแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ <<นักรบคลั่ง>> จะต้านทานได้

พลังนั้นเหมือนเครื่องบด ที่จะทำลายทุกสิ่งที่อยู่ในระยะของมัน

–––– การโจมตีแบบสังหารทันทีในครั้งเดียวหรืออีกนัยหนึ่ง จริง ๆ แล้วมันแข็งแกร่งมากผมรู้สึกอิจฉา

“อึก!”

อีกครั้งที่โกลโกลจับดาบของเขาเพื่อพุ่งเข้ามาที่ผม

“เปลี่ยนตัวข้าให้กลายเป็นดาบ (เอนชานต์) !”

แต่ผมยังไม่ได้ใช้ไพ่ทั้งหมด!

ผมมองดาบที่ใหญ่โตฟาดลงมาปะทะกับดาบ

เป้าหมายคือการทำลายอาวุธของเขา

แขนของผมเจ็บปวดจากแรงกดดันที่ส่งผ่านมาจากดาบใหญ่

“โฮ่”

ผมมองเห็นรอยยิ้มของเขา

ผมประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถหักดาบของเขาได้ทั้งหมด มันต้องเป็นฝีมือของเขาแน่ที่ทำให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้

…อย่างน้อยผมก็สามารถหักดาบของเขาได้

ผมคิดอย่างนั้นแล้วจ้องไปที่รอยแตกบนดาบใหญ่ของเขาอย่างยินดี

“ถ้าอย่างนั้น …”

ทันใดนั้นผมก็เห็นอีเธอร์สีแดงปะทุออกมาจากร่างกายของออร์ค

“ข้าแข็งแรง ไร้ที่เปรียบ (เบลส) ”

เช่นเดียวกับผม เขาปกคลุมดาบด้วยพลังเวทมนตร์ ดาบของเขาสะบัดออกภายใต้เปลวเพลิงสีแดงที่ลุกไหม้

“ด้วยวิธีนี้มันจะไม่พัง”

โกลโกลยิ้มและมองมาที่ผม

เขาจับดาบด้วยสองมือขณะเผชิญหน้ากับผม

ใจเย็น ๆ สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง ผมอาจตายได้ในการโจมตีครั้งเดียวถ้าโดนดาบนั่น

นั่นคือทั้งหมด!

“กูรูวววอาาาาา!”

ความพ่ายแพ้เป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้

มันเป็นการดูถูกคนที่ตายเพื่อผม! ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับผู้ที่ยังคงต่อสู้อย่างสิ้นหวังจนถึงตอนนี้!

ผมจะชนะ!

“ความกดดันอันน่าพึงพอใจ”

ผู้ที่จะชนะคือผม ผมจะฆ่าไอ้เวรนี่ขณะที่เขามัวแต่เล่น!

ตายไปพร้อมกับความโอหังของแกซะ!

ผมเคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด

ผมฟันไปที่รอยแตกของดาบ แต่โกลโกลก็หยุดมันอย่างง่ายดาย ผมอยากจะตะโกนออกมา แต่ผมทำได้เพียงโจมตีอีกครั้ง

ประกายไฟปะทุขึ้นระหว่างเปลวเพลิงสีดำและแดง คลื่นกระแทกที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าระเบิดออกมา ถึงแม้จะมีความกลัวภายใน แต่ผมก็เต็มใจที่จะผลักดันตัวเองเข้าไปในฉากนั้น

ในขณะที่ผมก้าวไปข้างหน้าเพื่อฟาดดาบใส่ราชาออร์ค แต่ผมรู้ว่าเขาสามารถหยุดสิ่งนี้ได้เช่นกัน

ร่างของราชาออร์คยังคงไม่เคลื่อนไหว เขาไม่ได้ขยับแม้แต่นิดเดียว

เขาเพียงแค่ตอบสนองต่อการโจมตีของผม

และทุกครั้งที่ผมปะทะกับดาบของเขา เท้าของผมจะถูกกดลงไปกับพื้น

–––– บ้าเอ๊ย!!

เราแลกเปลี่ยนการโจมตีในพื้นที่สามตารางเมตร

การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด แต่ผมค่อย ๆ ถูกกดดัน การโจมตีของผมอยู่ไกลจากความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ การโจมตีของโกลโกลนั้นรุนแรงมากถึงขนาดทำให้มือของผมเป็นอัมพาตได้ทุกครั้งที่โดน

ร่างกายของผมปลิวไปเป็นสิบครั้งแล้วในการต่อสู้ครั้งนี้

จากนั้นดาบของโกลโกลก็เหวี่ยงลงมา

นั่นคือขีดจำกัดของผม

ใบมีดของเขาพุ่งลงมาจากด้านบน …ผมจึงหลบ

“เจ้าหลบได้!

โกลโกลอุทานอย่างมีความสุข

“อ๊าาา!”

ทันใดนั้นร่างยักษ์ของโกลโกลก็ปรากฏตัวต่อหน้าผมในพริบตา ผมไม่มีเวลาแม้แต่จะหลบเพราะเสียหายที่สะสมมา

ผมถูกส่งกระเด็นไปด้านหลังเหมือนเพิ่งโดนรถบรรทุกชน ผมอาจถูกส่งบินไป 5 เมตรขณะที่กระแทกกับต้นไม้เล็ก ๆ ตามเส้นทาง

ในที่สุดผมก็หยุดลง เมื่อหลังของผมกระแทกกับต้นไม้

แต่ว่าผมไม่ได้ปล่อยดาบหลุดมือเลยสักครั้ง มันแปลกสำหรับผมด้วยซ้ำ

“อึก”

ผมไอพ่นเลือดสีแดงออกมา

“ทำได้ดี ราชาไร้นามตัวน้อย …เจ้ายังยืนไหวอีกเหรอ?”

ผมใช้ดาบประคองตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เปลวไฟสีดำเริ่มริบหรี่

— แน่นอนสิวะ

ผมส่งพลังทั้งหมดไปยังอ้อมแขนที่สั่นเทา

◆◇◇◆◆◇◇◆

อ่านนิยายล่วงหน้าได้ที่เพจ Koel-Translate นิยายแปล

https://www.facebook.com/pg/Koel-Translate-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5-111530443746222/posts/

Options

not work with dark mode
Reset