Chapter 22 – เกาะเอาไว้?
หมอกสีม่วงกระจายออกมาทำให้เซี่ยวหยุนหยุดร่างทันที หลังจากเห็นหัวหน้ากลุ่มนักผจญภัยนาคาเงินตกลงไป เซี่วหยุนก็สูดลมหายใจเย็นเข้าไป “เถาวัลย์ม่วงนี้มียังคงบรรจุพิษด้วยเช่นกัน โชคดีที่มีบางคนมาก่อนหน้าข้า”
“หัวหน้าตายแล้ว?”
“เถาวัลย์ม่วงถูกตัดแล้ว”
“อย่างให้ไอ้เด็กนั้นได้เถาวัลย์ม่วงไป!” เช่นเดียวกับที่เซี่ยวหยุนหยุด ผู้ฝึกคนที่เขาหยุดด้วยพลังจิตวิญญาณของเขาก็ได้มากลับมารู้สึกตัว เมื่อพวกเขาเห็นแสงของเถาวัลย์ม่วงมืดลง ดวงตาของพวกเขาเผาไหม้ไปด้วยความปรารถนา
ตอนนี้หัวหน้าได้ตายแล้ว เถาวัลย์ม่วงนี้ถือเป็นโชคชะตาของพวกเขา
ฆ่า!!!
มนุษย์ล้มตายในการแสวงหาทรัพย์สมบัติและนกตายในการแสวงหาอาหาร ผลของความโลภคือความตาย ขณะที่พวกเขาเตรียมที่จะคว้าเถาวัลย์ม่วง ลำต้นใต้ตินที่โทรมได้ปล่อยแสงสีม่วงออกมา ขณะที่หมอกสีม่วงอื่นก็กวาดออกจากเถาวัลย์ม่วง
หมอกปกคลุมไปทั่วรัศมี 100 เมตร และเกือบทุกคนก็ถูกปกคลุมโดยหมอกสีม่วงโดยไม่มีข้อยกเว้น
“นี่คือหมอกพิษ!” เซี่ยวหยุนเต็มไปด้วยความระมัดระวังและเขาก็กลั้นลมหายใจไว้ทันทีเพื่อไม่ให้เขาหายใจเข้าได้
แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญขั้นปลายของขอบเขตต้นกำเนิดก็ได้ตกลงไปในหมอกพิษนี้!
อย่างไรก็ตามพวกผู้คนได้โจมตีไปยังเซี่ยวหยุนโดยไม่ได้ตระหนักถึงอันตรายที่พวกเขาอยู่ ขณะที่พวกเขาตะโกน หมอกสีม่วงหนาแน่นก็เข้าสู่ร่างกายของพวกเขา ใบหน้าของพวกเขาทั้งหมดกลายเป็นซีดเผือดขณะที่พิษแพร่กระจายไปในหัวใจและเส้นลมปราณของพวกเขา
“อ๊ากกก!!”
เสียงร้อนอันน่าสังเวชเริ่มดังออกมาจาก 7 คนที่เหลือที่ยังคงตกลงไป
หึ่งๆ!
มองพวกผู้คนตกลงไป เถาวัลย์ม่วงได้ส่งเสียงหึ่งๆอย่างอ่อนแรง ราวกับว่าความโกรธถูกปลอบโดยการฆ่าคนเลวเหล่านี้
หมอกพิษได้กระจายหายไปและแม้ว่าเซี่ยวหยุนจะกลั้นหายใจเอาไว้ แต่ก็ยังคงมีร่องรอยสองสามแห่งที่พวกเข้าไปในร่างกายของเขาผ่านจมูก อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาได้ดูดซับมันทันที ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ อย่างไรก็ตามเขามองไปยังเถาวัลย์ม่วงแปลกๆ
พิษของเจ้านี้นั้นไม่ธรรมดาเลย!
วู้ฮู้!
เถาวัลย์ม่วงออกมาร่าเริงยินดี อย่างไรก็ตามมันสังเกตเห็นเด็กหนุ่มมองมางที่มันทันที ซึ่งทำให้มันกระสับกระส่าย ทุกคนที่สามารถป้องกันตัวเองจากพิษแก่นแท้แห่งชีวิตได้จะต้องไม่ธรรมดา!
“อย่าวิ่ง!” เซี่ยวหยุนกระโดดลงไปแล้วเร่งรีบไล่ล่าเถาวัลย์ม่วง
ศัตรูทั้งหมดสุดท้ายก็ได้ถูกกวาดล้างออกไป เขาจะให้เถาวัลย์ม่วงหนีไปได้ในตอนนี้ได้อย่างไรกัน?
เถาวัลย์ม่วงเคลื่อนที่ค่อนข้างช้าเพราะมันได้รับบาดเจ็บจากการประคับประคองและพิษจากบึง
เมื่อมันตระหนักว่าเซี่ยวหยุนกำลังจะจับตัวมัน เถาวัลย์ม่วงได้หยุดทันทีและหันไปเผชิญหน้ากับเซี่ยวหยุน
เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดใกล้ๆ ได้เปล่งแสงสีม่วงขึ้นบนหนึ่งในกิ่งก้านของเถาวัลย์ม่วง ภายในแสงนั้นคือวิญญาณดวงเล็กที่ดูคล้ายต้นไม้ที่เป็นคน เห็นได้ชัดว่านี่คือวิญญาณของเถาวัลย์ม่วง
เช่นเดียวกับเซี่ยวหยุนที่กำลังจะจับเถาวัลย์ม่วง ข้อความได้ถูกส่งผ่านมาในจิตใจของเขา “คนเลว พวกเจ้าทั้งหมดเป็นคนเลว!” เสียงนั้นราวกับทารกอย่างไม่น่าเชื่อและก็เหมือนกับเสียงของเด็กอายุ 2 ขวบ จากความหวานของเสียงมันควรจะเป็นผู้หญิง
“นี่คือเสียงของวิญญาณ?” เซี่ยวหยุนประหลาดใจอย่างมากเมื่อเขาได้ยินเสียงนี้
เมื่อนานมาแล้ว เขาได้รู้ว่าสิ่งมีชีวิตบางอย่างสามารถพัฒนาสติได้ ซึงสามารถเติบโตและเสมือนกับมนุษย์ได้ เมื่อเซี่ยวหยุนยังเด็ก เขาคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นแค่ตำนานและไม่สนใจต่อมัน
อย่างไรก็ตาม การได้ยินเสียงทางจิต หัวใจของเขาได้สั่นไหว
นี่คือโลกที่ค้อนข้างจะลึกลับและมหัศจรรย์!
ขณะที่เซี่ยวหยุนพิศวงใจด้วยความตกใจ เถาวัลย์ม่วงได้พูดอีกครั้ง
“ฮึ่ม ผู้ที่ต้องการจะทำร้ายข้าจะต้องตายทั้งหมด” เสียงที่อ่อนโยนได้ถูกส่งผ่านจิตใจของเซี่ยวหยุนอีกครั้ง หลังจากที่เถาวัลย์ม่วงกระพริบด้วยแสงสีม่วง มันเริ่มที่จะใช้แก่นแท้แห่งชีวิตของมันพ่นหมอกพิษอีกครั้ง
“บ้าเอ้ย มันยังเป็นเด็กอยู่และมันยังได้กรีดร้องเพื่อสังหารแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับมันกัน?” เซี่ยวหยุนรู้สึกค่อนข้างท้อแท้ขณะที่เขาส่งกระแสจิตออกไป เขาก็ไม่เข้าใจว่าเสียงที่ฟังดูอ่อนเยาว์เช่นนี้จะใช้กำลังได้อย่างไร
ข้าดูเหมือนคนเลว?
เซี่ยวหยุนไม่กล้าที่จะประมาทและรีบใช้จิตวิญญาณการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเองจากหมอกพิษ
หมอกพิษในเวลานี้ได้ทรงพลังมากกว่าครั้งก่อนๆ และเขาไม่กล้าที่จะทำตัวหละหลวม
หลังจากเซี่ยวหยุนได้รับกระแสจิต เสียงที่ราวกับเด็กทารกของเถาวัลย์ม่วงก็ตอบกลับมา “ฮึ่ม เจ้าดูเหมือนคนเลว”
เซี่ยวหยุนรู้สึกน่าหดหู่มาก อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะสามารถตอบกลับได้ จิตวิญญาณการต่อสู้ภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของเขาได้เคลื่อนไหว แสงหยกสีเขียวห่อหุ้มทั่วทั้งร่างกายของเขา ปิดกั้นหมอกพิษ แสงหยกเขียวที่สุกสกาวได้ปัดเป่าหมอกพิษรอบตัวเขาได้สมบูรณ์อย่างแท้จริง
ขณะที่หมอกพิษกระจายตัวไป อากาศรอบๆเขารู้สึกสดชื่นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อและดูเหมือนจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งชีวิต
เซี่ยวหยุนถอนลมหายใจออกมาเมื่อเห็นเขาเห็นว่าเขาไม่ได้รับพิษหรือถูกกัดกร่อน เถาวัลย์ม่วงร้องออกมาอย่างสนุกสนาน “นั่นคือกลิ่นอายแห่งชีวิต!” วิญญาณกระพริบด้วยแสงสีดูเหมือนจะมองมายังเซี่ยว ราวกับหมาป่ามองเขาอยู่
หึ่งๆ!
เถาวัลย์ยักษ์ทันใดนั้นก็หดตัวลงเหลือแค่ความสูง 30 เซนติเมตร
เถาวัลย์ม่วงนี้เรืองแสงสีม่วงและเหมือนคริสตัลใส ถ้าคนหนึ่งได้มอไปยังมันอย่างใกล้ชิด พวกเขาจะค้นพบว่ามันเป็นต้นไม้รูปร่างคนขนาดเล็ก
ต้นไม้รูปร่างคนมีลำต้นใต้ดิน 2 ต้นเป็นขาของมัน ด้วยมีดอกออกมาเหมือนกับนิ้วเท้า ที่ตรงกลางของมันมีโสมจีนเหมือนกับเอว และ 2 เถาวัลย์สร้างเป็นแขนของมันจากที่เหมือนเส้นใยหวายห้อยลงมา ด้านบนเป็นหัวที่เหมือนกับมนุษย์ ซึ่งผมนั้นดูเหมือนกับราก
บนใบหน้ามีดวงตาสีม่วง 2 ดวงซึ่งส่องประกายอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับรากที่ยาวและบางคล้ายกับขนตา
เซี่ยวหยุนตกตะลึงเมื่อเห็นต้นไม้ร่างคนที่ประณีตร่างนี้ “นี่คือวิญญาณของเถาวัลย์ม่วง?”
เถาวัลย์ม่วงลึกลับเกินไป – มันเกือบจะกลายเป็นคนแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับดวงตาที่สีม่วงคู่นี้ ซึ่งกระพริบอยู่ พวกมันดูเหมือนดวงตาของมนุษย์อย่างไม่น่าเชื่อและมันจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มในปัจจุบัน ปากของมันซึ่งยังไม่ได้ก่อตัวเต็มที่ กระเพื่อมด้วยแสงสีม่วงที่เปล่งออกมาราวกับว่ามันมีน้ำลายออกมา
เซี่ยวหยุนรู้สึกค่อนทึ่งต่อการเปลี่ยนแปลงท่าทีฉับพลันเช่นนี้ “แน่นอนมันไม่ได้มองข้าเป็นเหยื่อของมัน”
เช่นเดียวกับที่เซี่ยวหยุนเต็มไปด้วยความระมัดระวังต่อเถาวัลย์ม่วงที่มองมายังเขา ดวงตาของเถาวัลย์ม่วงกระพริบขณะที่มันใช้แขนของมันอย่างงุ่มง่ามเพื่อเช็ดน้ำลายสีม่วงและกระโดดไปทางเซี่ยวหยุน
หวือ!
เถาวัลย์ม่วงเหมือนกับเด็กเล็กๆและเกาะขาของเซี่ยวหยุน
มองดูเหมือนเพื่อนตัวน้อยคนนี้แทบจะกอดขาของเขาไว้ทันที เซี่ยวหยุนตกตะลึงจนพูดไม่ออกอย่างสมบูรณ์
มันไม่ได้ตะโกนว่าจะสังหารเมื่อกี้นี้?
มันดูเหมือนว่าจะไม่มีเจตนาโจมตีเขาอีกต่อไป!
เมื่อมองจากความปั่นปวนที่ปรากฏบนใบหน้าของเซี่ยวหยุน เพื่อตัวน้อยมองไปยังเขาขณะที่พูดด้วยเสียงราวกับเด็กทารกว่า “พี่ใหญ่ ข้าอยากนม!”
ตอนนี้มันดูน่ารักมากและไม่ได้ครอบครองและไม่มีความชั่วร้ายที่มันมีอยู่
“ข้าอยากนม?” เซี่ยวหยุนงงและไม่แน่ใจว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เกิดอะไรขึ้นกัน?
เมื่อตอนนี้สหายตัวน้อยคนนี้เพิ่งจะพ่นพิษใส่เขาและอยากจะฆ่าเขา
“ข้าอยากนม” สหายตัวน้อยพูดต่อด้วยเสียงที่ดูเหมือนกับทารก ความวิงวอนปรากฎในสายตาของมัน
เซี่ยวหยุนไม่ค่อยแน่ใจว่าจะตอบอย่างไร “อ่า สงลงก่อน พี่ใหญ่ไม่นมอะไรทั้งนั้น เจ้าไปถามคนอื่นถือ”
ขอนมกับเขา – ตลกล่ะ!
เขาข้องใจว่าสหายตัวน้อยคนนี้กำลังเยาะเย้ยเขาอยู่
สหายตัวตัวน้อยพูดขณะที่มันมองดูเขาอย่างจริงจัง “ท่านมี! ท่านพึ่งปล่อยออกมา!”
“ข้าพึ่งปล่อยออกมา??” เซี่ยวหยุนรู้สึกสับสนเล็กน้อยและถามว่า “ที่มันเรืองแสงหยกสีเขียวหรือ?”
“อืมม ”เถาวัลย์ม่วงพยักหน้าอย่างขยันขันแข็ง ดวงตาที่ใสเหมือนคริสตัลเต็มไปด้วยความหวัง
เซี่ยวหยุนรู้สึกสูญเสียคำพูด สหายตัวน้อยคนนี้ได้ถูกจูงใจโดยแสงหยกเขียวที่จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาปล่อยออกมา
ทำไมมันถึงเรียกแสงว่า ‘นม’ ?
ในไม่ช้าเซี่ยวหยุนก็เข้าใจ
จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาเป็นวิญญาณการต่อสู้ประเภทพืช ดังนั้นจึงอยู่ในหมวดเดียวกันกับเถาวัลย์ม่วง แสงหยกสีเขียวเรืองที่ถูกสร้างขึ้นมาจากแหล่งพลังจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาและสหายตัวน้อยคนนี้เรียกมันว่า ‘นม’ และเป็นประโยชน์ต่อมัน ดังนั้นทัศนคติของมันต่อเซี่ยวหยุนได้เปลี่ยนไป 180 องศาเลยทีเดียว
ดวงตาของเซี่ยวหยุนสว่างขึ้น
ดวงตาของเซี่ยวหยุนแคบลงขณะที่เขามอบรอยให้กับสหายตัวน้อย “ถ้าเจ้าต้องการนมนั้นสบายมาก แต่อย่างไรก็ตามเจ้าห้ามซนอีกนะ” เขาดูเหมือนกับตาลุงที่คิดไปในทางที่ผิดและกำลังเตรียมพร้อมล่อลวงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไร้เดียงสา
“อืมม” อย่างไรก็ตาม สหายตัวน้อยคนนี้พยักหน้าอย่างขยันขันแข็งและพูดด้วยเสียงของทารกว่า “พี่ใหญ่ น้องสาวม่วงน่าสงสารมาก ข้าได้รับบาดเจ็บจากคนเลวเหล่านั้นและทำให้แหล่งพลังของข้าถูกตัดออกไปจากข้า หลังจากที่แก่นแท้แห่งชีวิตในกิ่งของข้าถูกนำมาใช้ น้องสาวม่วงกำลังจะตาย”
ไม่ใช่เพียงสหายคนนี้จะพูดเสียงของทารกเท่านั้น มันเริ่มพยายามที่จะรวบรวมความเห็นใจของเซี่ยวหยุน การกระทำและคำพูดของมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้เซี่ยวหยุนผู้ที่มีรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของเขารู้สึกทึ่งมาก
ไม่ว่าเขาจะมองแค่ไหน สหายตัวน้อยคนนี้ไม่ได้ดูเป็นคนประเภทที่ดีเลย
อย่างไรก็ตาม พี่สาวซือเฟยต้องการจิตวิญญาณการต่อสู้ประเภทสนับสนุน เขาไม่อยากจะปล่อยโอกาสนี้ไป
หลังจากคิดชั่วครู่ เซี่ยวหยุนตอบว่า “เอาล่ะไม่ต้องห่วง กับพี่ใหญ่เจ้าจะไม่ตายแน่นอน”
สหายตัวน้อยเกาะกางเกงของเซี่ยวหยุนไว้ขณะที่มันพูดซ้ำด้วยเสียงของเด็กทารกว่า “ข้าอยากนม”
เซี่ยวหยุนส่ายหัวและเริ่มใช้จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาเพื่อเรียกแสงหยกสีเขียวออกมาให้สหายตัวน้อย
เช่นเดียวกับแสงหยกสีเขียวที่สัมผัสร่างกายของมัน ร่างกายของเถาวัลย์ม่วงเปล่งแสงสีม่วง ขณะที่มันเริ่มดูดซับแสงหยกสีเขียว ในเวลาเพียงชั่วรู่ เถาวัลย์ม่วงที่อ่อนแออย่างน่าเหลือเชื่อดูเหมือนว่าจะฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อยและดวงตาสีม่วงของมันก็สดใสขึ้น
“ดูเหมือนว่าแหล่งพลังงานจิตวิญญาณการต่อสู้ของข้าจะมีผลอย่างมาก” เซี่ยวหยุนคิดกับตัวเขาเองขณะเฝ้าดู หลังจากที่กลิ่นอายของเถาวัลย์ม่วงฟื้นตัวอย่างมาก เซี่ยวหยุนหยุดส่งแสงหยกสีเขียวออกมาทันที
สหายตัวน้อยคนนี้สามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตต้นกำเนิดได้ ถ้ามันฟื้นคืนความแข็งแกร่งของมันได้ทั้งหมด มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเซี่ยวหยุนที่ควบคุมมัน
“น้องสาวสีม่วงยังคงหิวอยู่” สหายตัวน้อยมองมาที่เซี่ยวหยุนอย่างน่าสงสาร
“พี่ใหญ่ไม่มีนมอีกแล้ว ทำตัวให้ดีน้องสาวสีม่วงและอย่าสร้างความวุ่นวาย” เซี่ยวหยุนรู้สึกเคือง สหายตัวน้อยคนนี้ตะกละอย่างน่าเหลือเชื่อ!