จนกระทั่งเสียงระฆังดังขึ้น กงหวู่และผู้ติดตามของเขาจึงเดินออกจากห้อง 2 ชั้นปีที่ 3 ไปอย่างแข็งทื่อและสีหน้าหมองคล้ำ
และตอนนี้ทั้งห้องเรียนตกอยู่ในสภาพเงียบกริบ
นักเรียนเกือบทั้งหมดยืนขึ้นและจ้องมองคน ๆ หนึ่งที่อยู่ในมุมหนึ่งของห้องเรียนด้วยความตกใจ
มีชายหนุ่มที่ร่างกายเบียดแน่นอยู่ในมุมนั้น
เสื้อผ้าของเขาถูกฉีกเหมือนผ้าขี้ริ้ว เขาช้ำไปทั้งตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าของเขาซึ่งเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือและบวมเหมือนกับหัวหมู
มีเลือดไหลออกจากปากและเขาสูญเสียฟันไปเกือบทั้งหมด
ช่างเป็นภาพที่น่าสังเวช!
เขาคือจงเฉียงหัวหน้าห้องของห้อง 2 ชั้นปีที่ 3!
ใกล้ ๆ กับเขา เย่เฟิงกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้และพลิกหนังสืออ่านไปเรื่อย ๆ ราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา
ขณะนี้นักเรียนทุกคนในห้องเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเย่เฟิง!
พวกเขามองเย่เฟิงราวกับว่าเขานั้นเป็นปีศาจด้วยปากที่อ้าค้าง!
ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวระคนความสงสัย
แม้แต่เฟยเชี่ยนเพื่อนร่วมห้องที่สนิทที่สุดของเย่เฟิงก็ยังกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเขามองดูเย่เฟิงและถามว่า “นี่มันโคตรบ้า…! นาย…ยังเป็นคนหรือว่าผีกันแน่”
เฟยเชี่ยนไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเย่เฟิงทำมันได้อย่างไร!
โดยการพูดเพียงไม่กี่คำเย่เฟิงก็ทำให้กงหวู่ คุกเข่าต่อหน้าเขาและทำให้จงเฉียงพิการ!
‘นี่…เป็นคนเดิมกับที่ฉันรู้จักหรือเปล่า?’
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเฟยเชี่ยน ใบหน้าที่หล่อเหลาของเย่เฟิงก็ยิ้มให้อย่างไร้เดียงสา ดวงตาของเขาแสดงถึงความมีเมตตาและไม่มีพิษภัยใดๆ
“เจ้าอ้วน นายเข้าใจผิดนะ! ฉันไม่ใช่มนุษย์หรือผี ฉันเป็น…ปีศาจ !!”
อึก!
เฟยเชี่ยนเกือบหายใจไม่ออกด้วยน้ำลายของเขาเอง
รอยยิ้มของเย่เฟิงช่างดูบริสุทธิ์และน่ารัก ซึ่งมันแตกต่างอย่างชัดเจนกับคำตอบของเขา “ฉัน…เป็นปีศาจ!” นั่นทำให้เฟยเชี่ยนตัวแข็งทื่อ
หลังจากเฟยเชี่ยนกลืนน้ำลายของเขาอย่างแรงอีกครั้ง เขาบอกเย่เฟิงว่า “เฟิง! ฉันเชื่อว่านายต้องเป็นปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดในโลก!”
เมื่อเฟยเชี่ยนพูดอย่างนั้น เขาเหลือบตามองไปที่จงเฉียงที่ดูน่าสังเวชและรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวของเขาในทันที
ในที่สุดเขาก็ยืนยันสิ่งที่คิดอยู่ในใจว่า เพื่อนคนนี้ของเขาเปลี่ยนไปแล้วอย่างแน่นอน!
เย่เฟิงกลายเป็นคนที่ลึกลับและน่ากลัว!
จากนั้นเสียงรองเท้าส้นสูงก็ลอยเข้ามาในห้องเรียนขณะที่ร่างที่สุดแสนจะเร่าร้อนเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
เธอเป็นสาวงามที่ร้อนแรงในชุดของสาวออฟฟิศ!
ด้วยชุดที่รัดแน่น และความอวบนั้น ขับให้เธอมีรูปร่างเป็นตัว “S” ที่สมบูรณ์แบบ
ผิวที่ดูเนียนและนุ่ม ใบหน้าที่สวย หน้าอกไซส์ใหญ่และสะโพกอวบ!
นอกจากนี้ด้วยผมยาวและแว่นตาสีดำของเธอ เธอนั้นช่างดูเย้ายวน!
ช่างเป็นความงามที่หาตัวจับยาก!
เมื่อเห็นเธอ เย่เฟิงก็รู้ว่าเธอนั้นเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของห้องเรียนที่ 2 ชั้นปีที่ 3 —— ฝางยิ่ง!
ครูที่ร้อนแรงที่สุดใน โรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซี ผู้หญิงในฝันของนักเรียนชายหลายคน!
“อรุณสวัสดิ์นักเรียน!”
ฝางยิ่ง กล่าวด้วยเสียงที่ชัดเจนและเย็นชา แต่หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ตกตะลึง
เพราะเธอสังเกตเห็นจงเฉียงที่ซุกตัวอยู่ในมุมห้อง
หืม?
ดูจากเสื้อผ้าที่ขาดหลุดรุ่ยและเลือดที่ไหลนอง ฝางยิ่งขมวดคิ้วในทันที เธอถามอย่างเสียงแข็งว่า “จงเฉียง! เกิดอะไรขึ้น? ใครทำอย่างนี้กับเธอ?”
จงเฉียงเป็นหัวหน้าห้องของห้อง 2 ชั้นปีที่ 3 ฝางยิ่ง ไม่คาดคิดว่าจะมีใครที่จะทำร้ายหัวหน้าห้องได้
ในสายตาของอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้น จงเฉียงนั้นค่อย ๆ ยกตัวเองขึ้นจากมุมห้องขณะที่เขาเริ่มพยายามพูดด้วยน้ำตา “อา…จารย์มันเป็นเพราะเย่…เฮิง(เฟิง) …”
เนื่องจากฟันส่วนใหญ่ของจงเฉียงได้หลุดร่วงไปเขาไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจน
แต่ว่าเขายังคงจ้องมองเย่เฟิงด้วยความเกลียดชังและความหวาดกลัว
ฝางยิ่ง ขมวดคิ้วขณะที่เธอตั้งใจจะถาม เย่เฟิง
แต่ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากถาม เย่เฟิงก็ผุดลุกยืนขึ้นมา เขาอธิบายให้เธอฟังอย่างรวดเร็ว “อาจารย์ฝาง! มีนักเรียนบางคนจากห้องเรียนอื่นบุกเข้ามาในห้องเรียนของเราเพื่อรังแกผม! จงเฉียงทนไม่ได้และเขาพยายามช่วยผมออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนั่น แต่ผมไม่คาดคิดเลยว่าคนเหล่านั้นจะโหดร้ายมากจนทำให้หัวหน้าห้องของเราตกอยู่ในสภาพแบบนี้! หัวหน้าห้องของเราแสดงความยุติธรรมอย่างกล้าหาญ! หัวหน้าห้องของเราได้รับบาดเจ็บจากการปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า!”
จงเฉียงพูดไม่ออก
คนอื่น ๆ ในห้องก็พูดไม่ออก
‘เขาเปลี่ยนขาวเป็นดำและดำเป็นขาว!’
ในขณะนี้นักเรียนทุกคนในห้องเข้าใจวลีนี้ได้อย่างชัดเจนรวมถึงจงเฉียง!
ขณะที่เย่เฟิงยังพูดถึงเรื่องที่ดูไร้สาระอยู่นั้น แต่สาระสำคัญของคำพูดเหล่านั้นก็คือ “สิ่งที่ทำให้มนุษย์ยังยืนหยัดในเส้นทางที่ถูกต้องก็คือคุณธรรม เหมือนกับที่ต้นไม้ที่ยังต้องมีลำต้น หากบุคคลใดมีจุดยืนในคุณธรรมที่ชัดเจน เขานั้นจะเป็นผู้ที่ไม่มีใครเทียบได้!“
ในขณะที่เขากล่าวประโยคเหล่านี้ สายตาของเย่เฟิงเปิดเผยความชื่นชมและความเมตตากรุณาอย่างสุดซึ้ง เขารีบเดินไปข้างหน้าเพื่อช่วยจงเฉียงให้ลุกขึ้นยืน ยิ่งกว่านั้นเขาตบไหล่ของจงเฉียง แล้วถอนหายใจออกมา
“หัวหน้าห้องมันเป็นความผิดของฉันเองทั้งหมด! คุณช่างเป็นคนดีจริง ๆ !”
อึก!
จงเฉียงกระอักเลือดออกมา
ด้วยความเจ็บปวดอย่างมากเขารู้สึกว่าฝ่ามือของเย่เฟิงที่วางบ่นไหล่นั้นหนักเหมือนภูเขาซึ่งเกือบจะหักไหล่ของเขาได้
นอกจากนี้ความคิดเห็นของเย่เฟิง “คุณช่างเป็นคนดีจริง ๆ ” เหมือนกับโดนโจมตีเข้าจุดตาย 10,000 แต้มความเสียหายสำหรับเขา!
‘ไอ้เลว! เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแกเป็นคนที่ทำให้ฉันเละขนาดนี้ แต่แกกลับมาชื่นชมบอกว่าฉันเป็นคนดี! แกแม่งเกินไปแล้ว!’
จงเฉียงน้ำตาไหลไม่หยุด เขาต้องการอธิบายให้ฝางยิ่ง ถึงสิ่งที่เย่เฟิงทำ แต่เขาทำได้เพียงพูดพึม ๆ พำ ๆ เพราะปากของเขาบวม
เย่เฟิงก็เริ่ม “แปล” คำพูดของเขาที่มีต่อฝางยิ่ง
“อาจารย์ฝาง หัวหน้าห้องของเราบอกว่าเขาควรทำอย่างนั้น! เขาไม่ต้องการให้ผมรู้สึกผิดและเสียใจในเรื่องนี้! หัวหน้าของเรานั้นมีคุณธรรมอย่างมาก! ฉันขอบคุณเขาจริง ๆ !”
หลังจากพูดอย่างนั้นแล้วเย่เฟิงตบไหล่ของ จงเฉียง อีกครั้ง!
อึก!
จงเฉียงกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง!
คราวนี้เขาร้องไห้ออกมา!
‘โธ่เว้ย! ไอ้เวรนี้ทำอย่างนี้โดยเจตนา!’
‘เขาจะฆ่าฉัน!’
จงเฉียงกลัวมาก!
ในสายตาของเขา เย่เฟิงนั้นเป็นมาร เป็นปีศาจ!
“เฮ้อ…หัวหน้าห้องทำไมนายถึงยังมีเลือดไหลออกมาอีก? ให้ฉันเช็ดเลือดให้นายนะ…” เย่เฟิงกล่าวในขณะที่เขาตบไหล่ของ จงเฉียง อีกครั้ง!
อึก! อึก! อึก!
จงเฉียงพ่นเลือดออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า มันเหมือนกับการเปิดก๊อกน้ำสำหรับให้น้ำไหลออกมาซึ่งทำให้ทุกคนกลัว
“เร็วเข้า! รีบพาเขาไปโรงพยาบาลก่อน!”
ฝางยิ่งกลัวมาก ใบหน้าของเธอซีดเซียวเมื่อเธอกรีดร้องไปหาเหล่านักเรียน เธอไม่ได้ถามถึงเหตุผลอีกต่อไป
หลังจากได้ยินดังนั้น นักเรียนทุกคนมารวมตัวกันรอบ ๆ จงเฉียงขณะที่บางคนพาเขาออกจากห้องเรียนโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะออกจากห้องเรียนเย่เฟิงก็เริ่มร้องไห้ด้วยความเสียใจ “หัวหน้าห้องที่รักของฉัน นายอย่าตายนะ! ถ้านายตายใครจะซื้อของ ของฉัน 88 คืน! 264 ครั้ง! 2,640 ท่า! ใครจะซื้อของ ของฉัน นั่นจะเป็นของนายนะ! หัวหน้าที่น่าชื่นชมของฉัน!”
เสียงร้องของเย่เฟิงฟังดูหัวใจแตกสลาย!
ใครก็ตามที่ได้ยินต่างคิดว่ามันช่างดูสะเทือนใจ!
แต่เนื้อหาของเสียงร้องของเขาทำให้หยูเฟยเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นและอับอายอย่างมาก!
หลังจากได้ยินตัวเลข “88” “264” และ “2640” แล้วจงเฉียงเลือดพุ่งออกมาอีกสองสามครั้ง!
โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “ใครซื้อจะซื้อของ ของฉัน? นั่นจะเป็นของนายนะ!” ทำให้จงเฉียงแทบหมดสติจากความโกรธ
‘ไอ้สารเลว!’
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่ามีน้ำตาคลอที่ดวงตาของจงเฉียงมากกว่าเดิม เมื่อเขาพลันนึกถึงประโยคที่ว่า!
‘ของชิ้นนี้ค่อนข้างสกปรกไปสักหน่อย!’