เสียงพายุทรายครืนๆ พัดผ่าน ราวกับเพลงซวินข้างหู นำพาความอ้างว้างวนเวียนไปรอบๆ กลายเป็นเพลงสรรเสริญพึมพำบางบทในทะเลพายุทรายแห่งนี้
ในเวลาเกือบพันปี ซูหมิงพาเฮ่าเฮ่าเดินทางในโลกที่เคยรุ่งเรืองจนมาถึงใจกลางที่เดิมทีเป็นทะเล เดินอยู่ก้นทะเลในกาลอดีต เดินอยู่บนทะเลทรายหลังกาลเวลา เดินไปยังใจกลางโลกทีละก้าว
จังหวะก้าวไม่เร็ว เดินไปนานมากจนกระทั่งลืมเวลาไป มีวันหนึ่ง ตรงหน้าเขากับเฮ่าเฮ่าปรากฏโลกในพายุทราย
โลกนั้นมีน้ำและต้นไม้ ดูเด่นตาในพายุทราย ทำให้ช่วงที่มองไปจะรู้สึกตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นครั้งแรกในโลกนี้ที่ซูหมิงได้เห็น…สีเขียว
ในพื้นที่สีเขียวมีทะเลสาบ นอกทะเลสาบมีกลิ่นหอมพืช เหมือนขวางระหว่างคนด้วยมวลอากาศ มองเห็นแต่สัมผัสไม่ได้
“ถึงบ้านแล้ว…” เฮ่าเฮ่าจับมือซูหมิง ขณะที่กล่าวเสียงเบา สองคนเดินผ่านพายุทรายไปถึงกลางพื้นที่สีเขียว
กลิ่นหอมของพืชนั้นอบอวล ทำให้เกิดความรู้สึกล้ำค่าอย่างบอกไม่ถูกต่อสีเพียงหนึ่งเดียวในโลกไร้สีสัน ซูหมิงยืนอยู่กลางพื้นที่สีเขียว มองไปในทะเลสาบ
“นี่คือการเลือกสุดท้ายของเจ้ารึ…” ซูหมิงหลับตาลง ผ่านไปพักใหญ่ถึงลืมตาขึ้นมองเด็กชายข้างกาย
เด็กชายพยักหน้าอย่างจริงจัง เขาไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อยเลย
“ที่นี่คือบ้านของเฮ่าเฮ่า เฮ่าเฮ่าอยากอยู่ที่นี่ อยากเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่นี่” เฮ่าเฮ่ากล่าวเสียงเบา แม้คำพูดจะเบา แต่กลับแฝงไว้ด้วยความแน่วแน่และยึดมั่น
“พี่ใหญ่ ท่านอยู่กับเฮ่าเฮ่าสักสองสามปีได้หรือไม่ ข้า…กลัวความโดดเดี่ยว” เด็กชายน้อยจับมือซูหมิง มองเขา ความใสในแววตาสะท้อนเป็นการขอที่พึ่งพิงชัดเจนกว่าเดิม เหมือนกำลังรอคำตอบจากซูหมิง
ซูหมิงยกมือขวาขึ้นลูบหัวเฮ่าเฮ่า ผ่านไปนานถึงตอบกลับเบาๆ
“ไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่ไปเร็วๆ นี้หรอก”
เด็กชายยิ้มอย่างเบิกบานใจ ดูพอใจมาก เขามองซูหมิงลึกๆ แวบหนึ่ง ก่อนคลายมือซูหมิงออกช้าๆ แล้วเดินไปยังทะเลสาบนั้น หนึ่งก้าวหันมามองหนึ่งครั้ง จนกระทั่งทะเลสาบขึ้นมาถึงหัวเข่า เขาหันกลับมาเพ่งมองซูหมิง
“พี่ใหญ่ ขอบคุณที่ช่วยเฮ่าเฮ่า ขอบคุณที่ส่งข้ามาถึงที่นี่…เฮ่าเฮ่าเคยบอกแล้วว่าท่านช่วยเฮ่าเฮ่า เฮ่าเฮ่าก็จะช่วยท่าน…ในภายภาคหน้าเฮ่าเฮ่าจะช่วยท่านตระหนักรู้…โลกของข้า” เด็กชายยิ้มอย่างเบิกบานใจพลางค่อยๆ เดินไปถึงกลางทะเลสาบ เมื่อร่างเงาเขาจมหายไปในทะเลสาบแล้ว ทั้งทะเลสาบพลันเกิดเสียงดังสนั่น เกิดน้ำวนขึ้นตรงจุดที่เฮ่าเฮ่าหายไป น้ำวนขยายตัวออกเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว เผยเฮ่าเฮ่าที่ตอนนี้นั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่กลางก้นทะเล
เห็นได้ด้วยตาเนื้อว่ามีกิ่งไม้งอกออกมาจากก้นทะเลสาบรอบตัวเฮ่าเฮ่า พริบตาเดียวพันรอบตัวเขา หลังห่อหุ้มไว้แล้วก็เหมือนกับเป็นเมล็ดพันธุ์หนึ่ง
นั่นคือเมล็ดของต้นพิสูจน์เต๋า ยามนี้เมล็ดนี้อยู่บ้านเกิดในอดีต ค่อยๆ ปะทุพลังชีวิตเปี่ยมล้นสุดบรรยายในก้นทะเลสาบ พลังชีวิตนี้ปกคลุมได้เพียงพื้นที่สีเขียว แต่ซูหมิงคาดการณ์ได้ว่าเมื่อต้นพิสูจน์เต๋าเติบใหญ่ สักวันหนึ่งพลังชีวิตจะปกคลุมไปทั่วโลก แผ่ขยายไปเก้าแผ่นดิน
ทำให้ทะเลทรายที่นี่กลายเป็นทะเล มีแม่น้ำและภูเขาบนเก้าแผ่นดินอีกครั้ง จากสีสันจำเจเกิดเป็นสีสันหลากหลาย ทำให้โลกนี้กลับมารุ่งเรืองดั่งในอดีต
ตอนนั้น บางทีด้วยพลังชีวิตเปี่ยมล้นแบบนี้ ที่นี่อาจจะเกิดสิ่งมีชีวิต จากสิ่งมีชีวิตขยายเป็นมนุษย์ เกิดโลก เกิดผู้ฝึกฌาน…
เพราะรากฐานนี้เอง ที่โลกนี้กลายเป็นซากปรักหักพังไม่ใช่เพราะการทำลายล้างของผู้แข็งแกร่งที่สุด ไม่ใช่เพราะทุกชีวิตสูญสิ้น แต่เป็นเพราะ…ต้นพิสูจน์เต๋าที่ค้ำยันให้โลกนี้สืบเชื้อสายถูกมหาจักรพรรดิกู่จั้งเอาไป
ทำให้โลกนี้กลายเป็นพืชไร้ราก…แต่ตอนนี้ เมื่อเฮ่าเฮ่ากลับมา เมื่อเขาเลือก เมื่อปรากฏต้นพิสูจน์เต๋าอีกครั้ง ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
นี่คือการเลือกของเฮ่าเฮ่า
ซูหมิงมองน้ำวนของทะเลสาบค่อยๆ สงบลง น้ำทะเลสาบปกคลุมเมล็ดต้นพิสูจน์เต๋าตรงก้นทะเลสาบช้าๆ เขาถอนหายใจเงียบๆ
ซูหมิงเคารพการเลือกของเฮ่าเฮ่า และก็เข้าใจความปรารถนาของเขา เขาไม่อยากให้บ้านเกิดเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาหวังว่า…การกลับมาของตนจะเปลี่ยนทุกอย่างที่นี่ บางทีนานปีจากนี้ ตอนที่ต้นพิสูจน์เต๋าสูงเสียดฟ้า เด็กชายน้อยจะนั่งอยู่บนแมกไม้ มองบ้านเกิดของเขา มองโลกนี้ด้วยรอยยิ้มดีใจอย่างแท้จริง
ซูหมิงหลับตาลง นั่งขัดสมาธิอยู่ข้างทะเลสาบ เขาทำตามที่เฮ่าเฮ่าขอ จะอยู่เป็นเพื่อนไปอีกหลายปี ดังนั้นการนั่งฌานอย่างโดดเดี่ยวจึงเหมือนเส้นลายมือ หนึ่งลายหนึ่งปี เพียงพริบตาก็ร้อยปี
ในร้อยปีนี้ซูหมิงไม่ได้ลืมตา แต่นั่งฌานอยู่ตลอด กระทั่งไม่ได้ฝึกฝน แต่อยู่ในห้วงจิต
สภาวะนี้ไม่ใช่การขบคิด และก็ไม่ใช่การตระหนักรู้ แต่เป็นเชื่อมกับเมล็ดพันธ์ที่เกิดจากเฮ่าเฮ่า เขาสัมผัสได้ถึงการเติบโตบางอย่าง…
ในร้อยปีนี้ทะเลสาบข้างหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ตรงกลางทะเลสาบปรากฏต้นกล้า ต้นกล้านั้นตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลสาบ ทว่ารากมันกลับฝังลึกลงไปในดินทุกมุมใต้ทะเลสาบ
ร้อยปีผ่านไปซูหมิงลืมตาขึ้นเป็นครั้งแรก เขามองต้นกล้ากลางทะเลสาบนั้นเหมือนมองเฮ่าเฮ่า ขณะเงียบเขาไม่ได้ยืนขึ้น แต่ยังคงนั่งฌานหลับตาอีกครั้ง
ระหว่างตกอยู่ในห้วงจิต พลังซูหมิงไม่เกิดระลอกคลื่นกระเพื่อมเลย ทว่าเต๋าสูงศักดิ์ภายในดวงตาที่สามกลับมีเจ็ดร่างสมบูรณ์ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
การรวมของเต๋าสูงศักดิ์ขั้นเจ็ดทำให้แม้ซูหมิงจะมองข้ามขั้นพลังไป แต่เพราะมองข้ามนี้เองกลับทำให้เต๋าสูงศักดิ์ขั้นเจ็ดสมจริงยิ่งกว่าเดิม จนกระทั่งข้างๆ เต๋าสูงศักดิ์ร่างที่เจ็ดปรากฏ…เงารางๆ ของเต๋าสูงศักดิ์ร่างที่แปด
แม้เป็นแค่เงารางๆ แต่หากสมจริงขึ้นมาแล้ว เช่นนั้นจะหมายความว่าซูหมิงได้ยกระดับพลังอย่างก้าวกระโดด บรรลุมหาเต๋าสูงศักดิ์!
ทั้งแคว้นกู่จั้งมีมหาเต๋าสูงศักดิ์ไม่เกินสามสิบคน ทว่าระหว่างมหาเต๋าสูงศักดิ์กับเทพเต๋าขั้นเก้ากลับมีร่องหุบเขายากจะบรรยายอยู่หนึ่งชั้น ร่องหุบเขานี้ลึกมาก ลึกจนแม้แต่มหาเต๋าสูงศักดิ์ยังยากจะข้ามผ่านไป มิเช่นนั้นคงไม่มีทางที่ไม่รู้กี่ปีมานี้จะเทพเต๋าขั้นเก้าเพียงสามคนแน่
ซูหมิงไม่สนใจขั้นพลัง เขาเพียงแค่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น รักษาสภาวะห้วงจิตไว้พลางสัมผัสถึงการเติบโตของเฮ่าเฮ่า สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกในการเติบโต ปล่อยเวลาผันผ่านไปจนผ่านไปอีกร้อยปี
มองแวบแรกหน้าตาซูหมิงไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่ความจริงมีความรู้สึกผ่านโลกมาเนิ่นนานเพิ่มมาเล็กน้อย ชุดคลุมดำแผ่คลุมทั้งตัว เส้นผมม่วงตกลง ก้มหน้านั่งฌานอยู่เงียบๆ
ต้นกล้าในทะเลสาบข้างหลังเริ่มแข็งแรงแล้ว กลายเป็นต้นขนาดร้อยจั้ง ลำต้นกินพื้นที่ไปครึ่งทะเลสาบ แม้ระดับความสูงยังไม่เสียดฟ้า แตก็เห็นได้ถึงความน่าตื่นตกใจของพลัง
พื้นที่สีเขียวยังคงเดิม ทว่าโลกพายุทรายทะเลกลางในอดีตนอกพื้นที่สีเขียวตอนนี้ลดน้อยลงไปมาก แต่สัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นในฟ้าดินเบาบาง ทำให้ทะเลทรายที่นี่เริ่มเกิดพืชขึ้นไม่น้อย
บางทีอีกไม่นานนัก ทะเลทรายที่นี่จะหายไป ทะเลกลางในอดีตจะกลับมา
จนผ่านไปอีกร้อยปีในโลกนี้ ตั้งแต่ที่ซูหมิงพาเฮ่าเฮ่าเดินทุกแผ่นดินจนถึงตอนนี้ก็ครบพันสองร้อยปีแล้ว ต้นพิสูจน์เต๋าข้างหลังปกคลุมทั้งทะเลสาบ มีความสูงเกือบพันจั้ง ความสูงแบบนี้ทำให้ต้นพิสูจน์เต๋าดูสูงตระหง่านดั่งแรกพบ ต่อให้อยู่ไกลๆ ก็ยังเห็นมันสูงระฟ้า
ขณะเดียวกันพายุทรายที่นี่หายไปจนหมดสิ้น น้ำทะเลสีครามอ่อนหนึ่งชั้นแผ่คลุมที่นี่แต่ให้ความรู้สึกเหมือนไม่มี…พลังชีวิตเปี่ยมล้นทำให้ทะเลทรายที่มีน้ำทะเลปกคลุมหนึ่งชั้นแห่งนี้เกิดดวงจันทร์ขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบไม่รู้กี่ปีหลังจากความรุ่งเรืองตอนนั้น
เมื่อปีที่สามร้อยในพันปีที่สองมาถึง ซูหมิงยังคงนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น เพียงแต่รอบตัวถูกจมอยู่ในน้ำทะเล ทะเลทรายกลายเป็นมหาสมุทร!
นั่นคือทะเลกลางในวันวาน นั่นคือมหาสมุทรกว้างใหญ่ที่แผ่คลุมแอ่งกระทะทะเลทรายจนหมดสิ้น กลางทะเลนี้มีต้นไม้ใหญ่หมื่นจั้งต้นหนึ่งตั้งตระหง่าน สูงเสียดฟ้าค่อนข้างชัดเจน!
รากต้นไม้ใหญ่คลุมทั้งพื้นที่สีเขียว มีเพียงรอบตัวซูหมิงที่รากจะอ้อมไป เผยเป็นทางออกไปสู่ข้างนอก น้ำทะเลภายในทางออกนี้เหมือนจะอบอุ่นมาก ราวกับว่าได้รับผลจากดวงจิตแก่กล้าบางดวงที่ไม่อยากรบกวนการนั่งฌานของซูหมิง
เมื่อเวลาผ่านไป น้ำทะเลเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปกคลุมทะเลทรายระหว่างเก้าแผ่นดิน ช่วงที่กลายเป็นมหาสมุทรอย่างแท้จริงนั้น กาลเวลาได้ผ่านไปครึ่งหนึ่งในพันปีที่สอง
ซูหมิงลืมตาเป็นครั้งที่สอง มองน้ำทะเลรอบตัว มองพื้นที่สีเขียวในอดีต มองรากไม้สูงตระหง่านพลางยิ้มมุมปาก
ซูหมิงรู้ว่าเฮ่าเฮ่าสำเร็จแล้ว บางทีการฟื้นสีสันให้โลกนี้อาจไม่ต้องใช้เวลานานมากนักก็ทำให้เกิดความรุ่งเรืองในอดีตอีกครั้งได้
เขารู้สึกได้ถึงความสำเร็จครั้งนี้ เพราะเขาเชื่อมต่อกับต้นพิสูจน์เต๋า ทำให้เขาประสบด้วยตัวเอง ยืนยันทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้
“ถึงตอนนั้น ตอนที่ข้ายืนอยู่บนฟ้า ก็น่าจะได้เห็นต้นพิสูจน์เต๋าโบราณที่ปรารถนาจะสูงกว่าฟ้าในแวบแรก!
หรืออาจพูดได้ว่าแม้แต่ฟ้าก็ต้องก้มหัวต่อหน้าเขา เพราะต้นพิสูจน์เต๋านี้กลายเป็นโลกแล้ว” ซูหมิงพึมพำก่อนหลับตาลงช้าๆ
‘ถึงตอนนั้นข้าก็ควรไปได้แล้ว…ถึงเวลาไปตามสัญญาสามพันปีนอกประตูเมืองแคว้นกู่จั้ง…
การยึดร่างครั้งนี้ก็ควรจะถึงจุดจบสุดท้าย เพียงแต่ว่า…เส้นทางตอนลืมตาขึ้นนั้นจะเป็นของข้าหรือของเขา ข้า…ไม่มั่นใจเลย’ ซูหมิงกล่าวเสียงดังก้องนิ่งๆ ภายในใจ