Summoning the Holy Sword 72

ตอนที่ 72

72 – บททดสอบ VS เกียรติยศ

 

มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรม

 

และมันเป็นแบบเดิมไปจนจบ

 

“—!!!”

 

เสือชีต้าหินกระโจนตรงไปที่นักฆ่าเปลวเพลิงที่อยู่บนพื้นอย่างรวดเร็ว หมาล่าเนื้อสีดำโต้กลับอย่างเจ็บแสบด้วยเปลวไฟของมันและขัดขวางการเคลื่อนไหวของชีต้าหิน เสือชีต้าอีกตัวใช้โอกาสนี้โจมตีหมาล่าเนื้อสีดำจากด้านข้าง แต่ก่อนที่มันจะจมเขี้ยวของมันไปที่เนื้อสดๆของหมาล่าเนื้อ สายลมกรรโชกอย่างรุนแรงมาจากบนฟ้า ทำให้เสือชีต้าหินถึงกลับกระเด็นไปไกล

 

หลังจากที่เห็นเสือชีต้าลุกขึ้นอย่างช้าๆ วิหควิญญาณหยุดโจมตีและสังเกตอย่างถี่ถ้วนด้วยดวงตาของมัน เห็นได้ชัดว่ามันประสบความสำเร็จในการดึงความสนใจของชีต้าหิน ดวงตาของพวกมันทั้งสองปรากฏความเกลียดชัง แต่อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อมา เงาสีดำเข้าปกคลุมร่างของพวกมันไว้

 

อัศวินเซนทอร์ย่ำเท้าลงบนพื้นและฟาดโล่สีทองในมือซ้ายของมันไปที่เสือชีต้าหิน ในขณะที่หอกยาวในมือขวา

 

ในขณะเดียวกันนั้น

 

เช้ง! ดาบหินส่งเสียงบาดหูถูกวาดลงมาที่พื้น

 

โรดส์หลบการโจมตีของรูปปั้นหินและในเวลาเดียวกัน เขาฟันดาบในมือซ้ายของเขาไปที่ข้อต่อของมัน

 

เลือดไหลไปทั่วตัวดาบ มันส่งผลให้สีของตัวดาบแดงฉานมากขึ้น

 

ในขณะนั้น รูปปั้นหินไม่ได้หยุดการโจมตีของโรดส์ กลับกันมันใช้ดาบของมันโจมตีสวนกลับไป เมื่อเห็นโรดส์หลบการโจมตีของมันได้ นางฟ้าผมขาวลอบโจมตีจากด้านหลัง เธอพุ่งลงมาจากด้านบนและตวัดดาบลงมาราวกับอุกกาบาตตก

 

ปีกของเธอโผบินไปในอากาศ ดาบหนักของรูปปั้นหินเริ่มส่งผลของมันออกมา ในเวลาเดียวกัน ดาบที่อาบชุ่มไปด้วยเลือดปรากฏขึ้นจากด้านหลัง มันแทงตรงไปที่ร่างของรูปปั้นหิน ทันใดนั้นเอง การเคลื่อนไหวของรูปปั้นก็ช้าลง และก่อนที่ดาบของโรดส์จะถูกดึงออกไป แสงสีเงินส่องตรงมาที่ร่างของมัน

 

ตูม!!!! ร่างกายของมันระเบิดออกมาเป็นส่วนๆกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง

 

อีกด้านหนึ่ง หอกของอัศวินเซนทอร์แทงทะลุร่างของรูปปั้นอีกตัวหนึ่ง การโจมตีของรูปปั้นหินนั้นไม่สามารภทำอันตรายใดๆกับอัศวินเซนทอร์ได้ นอกทางทิ้งร่องรอยขาวๆไว้ที่ชุดเกราะสีดำ

 

มาร์ลีนถึงกับสับสนอย่างมาก ดวงตาของเธอเบิกกว้างและปากของเธออ้าค้าง จากที่เธอรับรู้มา การต่อสู้ในระดับนี้เป็นเพียงเรื่องเล่าหรือตำนานเท่านั้น ราชาที่ห้อมล้อมไปด้วยผู้ติดตามที่ไว้เนื้อเชื่อใจ ยกดาบขึ้นและเดินหน้าเข้าสู้สนามรบโดยปราศจากความเกรงกลัว พวกเขาบดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางทางของพวกเขา ถ้าศัตรูมีหนึ่งร้อย พวกเขาก็จะสังหารพวกมันหนึ่งร้อย ถ้าศัตรูมีหนึ่งพัน พวกเขาก็จะฆ่าพวกมันทั้งหนึ่งพัน! ตอนนี้ แม้ว่าศัตรูจะไม่ได้มีถึงหนึ่งพัน แต่โรดส์ยังคงออกคำสั่งพวกเขาราวกับราชาไร้เทียมทาน

 

อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงการรับของคนภายนอก ในความเป็นจริงแล้ว โรดส์กำลังรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เขาอัญเชิญวิญญาณอัญเชิญทั้ง 4 เพื่อจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และไม่ต้องการยืดเยื้อ การโจมตีแรกชุดแรกของเขาสำเร็จในการทำลายรูปปั้นหิน 1 ตัวและเสือชีต้าหินอีก 1 ตัว ตอนนี้เขากำลังเริ่มการโจมตีชุดที่สอง

 

ในเวลาเดียวกัน รูปปั้นหินที่เหลือโบกอาวุธและออกคำสั่งให้ชีต้าหินเข้าโจมตีโรดส์

 

แต่โรดส์เร็วกว่า

 

เมื่อได้รับคำสั่งจากโรดส์ อัศวินเซนทอร์กู่ร้องและพุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง มันพุ่งตรงไปยังชีต้าหินพร้อมกันโรดส์ นักฆ่าเปลวเพลิงและนางฟ้าผมขาวที่ตามมาอย่างติดๆ

 

พวกเขาดูเหมือนก็ไม่มีใครมาหยุดพวกเขาไว้ได้อีกแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม โรดส์รู้ดีว่าเขาใช้แรงมากเกินไปแล้ว เขาต้องจบการต่อสู้ในเร็วๆนี้ ไม่เช่นนั้น มันจะดึงเขาเข้าสู่หายนะ ขณะเดียวกันเขาไม่รู้ว่าบททดสอบที่แท้จริงคืออะไร ตามประสบการณ์ของเขาในเกม สิ่งที่เขาคิดไม่น่าจะผิดพลาดมากนัก

 

ครี๊ดดดดด!!! เสียงร้องแสบแก้วหูดังสะท้อนไปทั่ว

 

โรดส์พบว่าเส้นทางตรงหน้าของเขาถูกขวางกั้นโดยรูปปั้นหิน 4 ตัวที่มาจากไหนไม่รู้ รูปปั้นชีต้าร์หลายตัวกำลังล้อมพวกเขาและกำลังรอโอกาสในการโจมตี

 

โรดส์ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ เขาเลือกที่จะพูดกับดาบของเขา นักฆ่าเปลวเพลิงพุ่งออกไปข้างหน้าและตรงเข้าหากลุ่มรูปปั้นหินอย่างไม่เกรงกลัว ร่างของมันถูกโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน แสงระเบิดสว่างขึ้น เผยให้เห็นช่องว่างในการทะลวงผ่านกองทัพศัตรู

 

ช่องว่างนี้เพียงพอสำหรับโรดส์และคนอื่นๆ

 

อัศวินเซนทอร์พุ่งตรงไปด้านหน้าพร้อมทั้งควงหอกในมือ มันบดขยี้ทุกอย่างที่ขวางหน้า เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับการปะทะกันของอัศวินเซนทอร์ หนึ่งในนั้นเสียสมดุลล้มลงไป ในเวลานั้น อัศวินเซนทอร์แทงหอกไปที่เสือชีต้าหินที่พยายามลอบโจมตีทางอากาศ

 

“จัดการมัน!” โรดส์ตะโกนสั่งขณะที่เขาวิ่งผ่านอัศวินเซนทอร์ หลังจากได้รับคำสั่งของโรดส์ อัศวินเซนทอร์ยกหอกขึ้นและฟาดโล่และหอกไปที่ดวงตาของมัน วิหควิญญาณบนวนไปมาบนอากาศ คอยสร้างสายลมก่อกวนรูปปั้นอื่นๆ

 

เศษหินกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง

 

จากที่เริ่มการต่อสู้จนถึงตอนนี้ เวลาทั้งหมดผ่านไปเพียง 3 นาทีเท่านั้น โรดส์รู้สึกได้ถึงเรี่ยวแรงที่เริ่มหมดลง เมื่อเขาระเบิดนักฆ่าเปลวเพลิงทิ้ง เขาต้องใช้พลังงานมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้น การให้ดาบของเขาได้กลืนกินเลือด แม้ว่ามันจะเพิ่มความคมมากยิ่งขึ้น แต่เลือดที่สูญเสียไปก็ทำให้ใบหน้าของเขาซีดลงเช่นกัน ขาของเขาเริ่มสั่น มันบ่งบอกสัญญาณเลวร้าย

 

ปัง! โรดส์ก้าวถอยหลังไป 1 ก้าว หลังจากรับการโจมตี ในที่สุดดาบของเขาก็สามารถตัดผ่านหินได้ เสียงบาดหูดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เขาก็พบเป้าหมายของเขา

 

มันเป็นรูปปั้นหินขนาดใหญ่ที่เขาเคยเห็นมาก่อน เห็นได้ชัดว่าวัสดุบนร่างของมันแตกต่างไปจากตัวอื่นๆ

 

โรดส์เริ่มกังวล

รูปปั้นหินตัวนี้มีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นๆมาก โชคดีที่มันไม่ได้ถืออาวุธ อย่างไรก็ตาม การคงอยู่ของมันก็เป็นปัญหาเพราะขนาดของมันปิดกั้นประตูด้านหลังมันไปถึง 2 ใน 3 ส่วน

 

อย่างไรก็ตาม เขาคนนี้ไม่ใช่ว่าจะถูกจัดการได้ง่ายๆ

 

“แสดงเกียรติของเจ้าออกมา! ผู้สืบทอด!”

 

มีเพียงผีเท่านั้นที่รู้ว่ามันกำลังพูดอะไร

 

โรดส์บ่นพึมพำ แต่เขาไม่ลืมที่จะส่งสัญญาณให้นางฟ้าผมขาวเข้ามายืนข้างเขา เขารู้ดีว่าบอสตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเอาชนะได้ด้วยกำลัง มันต้องมีเงื่อนไขหรือจุดอ่อนแน่นอน ถ้าเขาเผชิญหน้ากับบอสที่ต้านทานเวทย์ได้ ต่อให้เป็นเวทย์ระดับพระเจ้าก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้มันได้ ในทางกลับกัน ถ้าเขาใช้ท่อนไม้ เขาอาจจะเอาชนะมันได้ง่ายๆ เนื่องจากรูปปั้นนั่นไม่ได้โจมตีในทันทีและเลือกพูดกับเขา โรดส์สรุปได้ว่าบอสตัวนี้ไม่สามารถเอาชนะได้ในการต่อสู้

 

“เกียรติยศ! ผู้สืบทอด!”

 

รูปปั้นหินยักษ์ตะโกนเสียงดังออกมา ทำให้เขาปวดหูเล็กน้อย

 

เกียรติ? เกียรติยศอะไร?

 

สมองของโรดส์คิดอย่างหนัก เขาพยายามนึกถึงรายละเอียดของคลาสนักดาบอัญเชิญ ประวัติ ทางเดิน ภารกิจ….แต่เขายังไม่สามารถหาสิ่งที่เชื่อมต่อกับสิ่งที่เรียกว่าเกียรติยศได้ ในเกมข้อมูลของนักดาบอัญเชิญไม่ได้มีมากมาย ผู้เล่นมักสนใจในการผจญภัยมากกว่าเนื้อเรื่อง

 

เมื่อความคิดทั้งหมดไหลเข้ามาในหัส นางฟ้าผมขาวก้าวออกมาครึ่งก้าว

 

“ท่านผู้พิทักษ์ ข้านี่แหละคือเกียรติยศของนายท่าน!”

 

ตามมาด้วยคำพูดของเธอ ร่างของเธอส่องแสงออกมาอ่อนๆ ปากของเธอเป็นประกายวงเวทย์ จากนั้นเธอลอยขึ้น แต่วินาทีต่อมา แสงสว่างปรากฏขึ้นที่ร่างของเธอและหายไป ทิ้งไว้เพียงดาบสีขาวที่ปกคลุมไปด้วยออร่าศักดิ์สิทธิ์

 

เครื่องหมายแห่งดวงดาว

 

นี่คือ ‘เกียรติยศ’ งั้นหรอ?

 

โรดส์เหลือบไปมองดาบที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขา หัวใจของเขารู้สึกแปลกๆ มนุษย์ที่แปลงร่างเป็นดาบไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถเห็นได้ทุกวัน

 

ท้ายที่สุด โรดส์เอื้อมมือออกไปจับที่ด้าม

 

อ่อนโยน เยือกเย็น นุ่มนวลถูกส่งเข้ามาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเขาไม่ได้เป็นพยานด้วยตัวเอง เขาคงไม่เชื่อว่ามีอาวุธที่สามารถแปลงเป็นคนได้

 

ขณะที่กำลังถือดาบ โรดส์คิดกับตัวเอง

 

เกียรติของฉันคืออะไร?

ทำไมดาบนี่ถือเป็นเกียรติยศของฉัน?

เดี๋ยวนะ…เกียรติยศที่มันพูดถึงคือ…..

 

ประกายแววตาของโรดส์สว่างวาบ เขาไม่ลังเลอีกแล้ว เขานกดาบขึ้นและชี้ตรงไปที่รูปปั้นหินยักษ์

 

ใช่แล้ว….! ฉันลืมไปได้ยังไงกัน?

 

มันเป็นเกียรติยศในอดีตของฉัน!

 

เกียรติยศที่ฉันได้ไปต่อสู้และได้รับการยอมรับ!

 

….เกียรติยศในอดีต

 

ตัวตนในอดีตของฉัน!

 

ในเวลานั้น แสงสีขาวพุ่งออกมาจากดาบตรงไปที่หน้าผากของรูปปั้นหินและหายไป

 

“—–!!!!!”

 

หลังจากที่แสงพุ่งเข้าสู่ร่างของมัน รูปปั้นหินยักษ์เริ่มแตกสลาย จากนั้นร่างของมันกลายเป็นฝุ่นและหายไปเป็นอากาศธาตุ

 

ในเวลาเดียวกัน ระบบแจ้งเตือนปรากฎขึ้นตรงหน้าโรดส์

Summoning the Holy Sword

Summoning the Holy Sword

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 51 อ่านนิยาย ตอนที่ 52 – 53 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


โรดส์ หัวหน้ากิลด์ระดับตำนานที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเกม VRMMO : Dragon Soul Continent เพื่อรับมือกับการตายของน้องสาวสุดที่รัก เขาจึงเข้ามาใช้เวลาอยู่ในเกมส์นานถึง 7 ปี ในช่วงเวลานั้นโรดส์พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของเขาผ่านการเล่นเกม แต่สุดท้ายหัวใจของเขาต้องมาแตกสลายอีกครั้ง เมื่อเขาได้ยินว่าพ่อแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตจากเครื่องบินตก

หนึ่งเดือนหลังจากอุบัติเหตุ เขาได้ตัดสินใจออกจากเกมและกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง แต่ก่อนจะไป โรดส์ตัดสินใจต่อสู้กับบอสที่ทรงพลังที่สุดในเกมพร้อมกับกิลด์ของเขา ท้ายที่สุด เขาสามารถเอาชนะบอสได้แต่ต้องแลกด้วยตัวละครของเขา โรดส์ยิ้มให้เขาตัวละครของเขาที่ถูกลำแสงสลายไป อย่างไรก็ตามแทนที่จะกลับไปที่ลานเกิดใหม่….

Options

not work with dark mode
Reset