หัวใจแกร่งกระตุกวูบเป็นครั้งที่สองภาพที่เห็นหญิงสาวทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆจนน้ำเกือบจะถึงคอเธออยู่แล้ว ในระหว่างที่วิ่งลงไปซึ่งเขาก็ไม่รอช้าเร่งฝีเท้าฝ่าคลื่นน้ำให้เร็วกว่าเดิม
หมับ!
จนกระทั่งมือหนาเอื้อมไปกระชากตัวหญิงสาวไว้ในขณะที่เธอกำลังจมลงไปในน้ำ ดึงเข้าหาอกแกร่ง ทำเอาเนเน่หลุดจากความเหม่อลอย
“อ๊ะ!” เธอตกใจร้องขึ้นเสียงหลง หันไปมองเจ้าของการกระทำด้วยความงุนงงว่าตัวเองลงมาลึกถึงขนาดนี้ได้ยังไง ตอนแรกแค่นั่งเล่นน้ำรอเขาเพราะกะจะเล่นอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ทว่าอยู่ๆความคิดก็หลุดลอยไปทำให้เธอไม่รู้สึกตัว
“ทำเหี้ยไรของมึงวะ อยากตายนักรึไง” เพลิงสบถคำหยาบตวาดเสียงเกรี้ยวโกรธใส่คนตรงหน้าที่ทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ พร้อมกับเลื่อนมือทั้งสองข้างขึ้นไปเกลี่ยน้ำออกจากแก้มนวลให้ “กูให้มึงรอที่เดิมแล้วลงมาทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ทำไม คิดว่าตายไปแล้วมึงจะหนีกูพ้นเหรอ ฮะ!”
“อึก..” ซึ่งเธอก็สะดุ้งเฮือกกับเสียงตวาดนั้น “ฉะ..ฉันไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายนะ ก็แค่เล่นน้ำรอนายอยู่ตรงนั้น แต่ไม่รู้ว่าเดินลงมาถึงตรงนี้ได้ยังไง” มือเล็กชี้ไปตรงจุดที่ตัวเองนั่งเล่นน้ำในตอนแรก ห่างจากตรงที่เข้าให้รอเพียงแค่ไม่กี่ก้าว
โจรหนุ่มหันไปมองตามแล้วหันกลับมามองอีกฝ่ายตามเดิม ก่อนเธอจะหลุบตาลงไม่กล้ามองสีหน้าแดงก่ำของเขา เมื่อสัมผัสได้ถึงอาการที่ออกใจหายปนกลัว ในขณะเดียวกันก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่ทำร้ายเธอที่คิดว่าจะหนี กลับอ่อนโยนดูเป็นห่วงเอามากๆ
“รู้ว่าตัวเองยังไม่หายเป็นแบบนี้จะเล่นน้ำคนเดียวทำไมวะ ถ้าเกิดกูมาไม่ทันมึงจะเป็นยังไงเน่”
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นหลังได้ยินชื่อของตัวเองหลุดออกมาจากปากอีกคนที่ไม่เคยเรียกชื่อเธอเลยสักครั้ง ตั้งแต่เจอกันมีแต่มึงตลอดสร้างความแปลกใจให้เธอหนักเข้าไปอีก “ขอโทษ” ไม่รู้จะพูดยังไงนอกจากคำนี้ เนเน่ไม่ได้คิดอะไรในตอนนั้นเห็นเพลิงไปนานด้วยความเมื่อยขาและอยากเล่นน้ำด้วยเลยลงไป
ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่ที่ทำให้เขามาทันไม่งั้นเธอคงไม่มีชีวิตมายืนอยู่ตรงนี้ ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าครอบครัวอีกแล้ว ต่อจากนี้คงต้องคิดให้เยอะๆทุกคนจะได้ไม่เสียใจทีหลังรวมถึงตัวเธอด้วย
และไม่รู้เมื่อไหร่อาการบ้าๆนี้จะหายไปสักที เธอทรมานจะแย่อยู่แล้วไม่ใช่แค่กินยาขมนั่น มันแทบจะทุกๆอย่างเลยไม่มีอันไหนทุเลาลงแม้แต่น้อยนอกจากความยากที่ลดลงไปก็เท่านั้น เธอเบื่อเต็มทนที่ต้องทนอยู่อย่างพวกขี้โรคบางครั้งก็อยากจะตายๆไปมันจะได้หลุดพ้นสักที
“…..” จริงๆเธอไม่ผิดหรอกเขาเองนั่นแหละที่ผิดปล่อยเธอไว้คนเดียว ถ้าเกิดเธอเป็นอะไรไปเขาคงจะเกลียดตัวเองเอามาก
“นะ..หนาว” ว่าแล้วสองแขนเรียวก็ตวัดกอดตัวเองแน่น ริมฝีปากอวบอิ่มเริ่มซีดกระพือสั่นระริกเพราะลมทะเลที่พัดเข้าใส่ถี่ๆ
พอได้ยินอย่างนั้นเพลิงก็โอบกอดเนเน่แน่นพาเดินขึ้นฝั่ง ทว่าขนาดเดินก็ไม่วายเอ่ยพูดออกไปเสียงแข็ง “ที่หลังอย่าทำอะไรคนเดียวในที่อันตรายแบบนี้อีก”
“อือ” ใบหน้าสวยพยักเป็นคำตอบ แล้วซบลงบนอกแกร่งหลบสายลม
@คฤหาสน์มาเฟีย
สองขาแกร่งก้าวลงจากรถลีมูซีนคันหรูเมื่อจอดเทียบท่าหน้าบันไดประตูทางเข้า ก่อนรถจะถูกขับออกไปจอดประจำที่โดยลูกน้องอีกคน
“นายอยู่ไหน” ดินเอ่ยถามลูกน้องที่ยืนเฝ้าหน้าประตูทันทีที่ก้าวผ่านบันไดขึ้นมา
“นายรับประทานอาหารอยู่ในห้องอาหารครับ” ลูกน้องคนหนึ่งตอบกลับผู้เป็นหัวหน้า
เขาไม่ได้ถามอะไรต่อรีบสาวเท้าตรงไปยังห้องอาหารทันที เพื่อรีบไปรายงานเรื่องของคุณหนูแม้จะยังไม่เจอตัวก็ตาม
แกร็ก|
ทุกคนที่กำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ตวัดสายตามามองคนที่ผลุนผลันเข้ามาอย่างไร้มารยาทเป็นตาเดียว พอเห็นว่าเป็นลูกน้องคนสนิทโน่จึงรีบวางช้อนลงแล้วหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไปยังห้องทำงานของตัวเองซึ่งอยู่ชั้นสอง หมายคุยเรื่องความคืบหน้าของลูกสาวโดยมีดินเดินตามหลังมา
“เป็นไงเจอลูกกูไหม” ระหว่างที่หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ของตน โน่ก็เอ่ยถามออกไป
“ยังไม่เจอครับนาย คุณหนูไม่ได้อยู่ทั้งคอนโดและบ้านใครเลย” ดินตอบกลับเจ้านาย “แต่ตอนผมไปตามที่บ้านคุณแคท ยายข้างบ้านบอกเหมือนเห็นคุณหนูไปแถวนั้นบ่อยๆ เลยแวะไปถามพวกไอ้เพลิงที่บ่อนดูเผื่อมันจะเคยเห็นคุณหนูมาบ้าง ทุกคนก็อยู่กันครบขาดแต่ไอ้เพลิง ไอ้เล้งบอกไม่รู้หายไปไหนเป็นอาทิตย์แล้วผมจึงไม่ได้สนใจยื่นรูปคุณหนูไปให้ดูพวกมันก็มีท่าทีตกใจแปลกๆเหมือนกับรู้จักแต่ก็ไม่ และก่อนกลับผมก็ลองไล่ถามคนที่อยู่ข้างบ่อนไอ้เพลิงก็มีคนบอกแบบเดียวกัน” แล้วรายงานตามที่ตัวเองสืบมา
“ทำไมมันหายไปช่วงเวลาเดียวกับลูกกู” การหายไปของเพลิงทำเอาโน่สงสัยไม่น้อย และรู้ว่าดินเองก็สงสัยอยู่ตั้งแต่แรก ขึ้นชื่อว่าโจรทำเขาตะหงิดใจอยู่เพราะพวกนั้นไม่เคยเห็นลูกสาวของเขามาก่อน เคยเห็นแต่ลูกชายเพียงคนเดียว อดคิดไม่ได้เลยถ้าลูกสาวไปแถวนั้นบ่อยๆจริงกลัวจะโดนฉุดไป
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แล้วนายจะเอายังไงต่อจะให้ผมไปสืบดูไหมว่ามันไปไหน”
“อืม ไปสืบมา” ว่าจบโน่ก็เอนตัวพิงพนักเบาะพลางหลับตาลงช้าๆด้วยความกังวลใจเป็นห่วงลูกสาวอย่างหนัก ไม่เคยขาดการติดต่อกับลูกนานขนาดนี้มาก่อน
ฟึ่บ!
เนเน่ก้มลงมองโทรศัพท์มือถือของเพลิงที่อยู่ๆถูกเจ้าของโยนมาใส่หน้าตักด้วยสีหน้างุนงง ขณะที่ตนกำลังนั่งเป่าผมอยู่บนเตียงนอนหลังจากอาบน้ำพร้อมกันกับเขาเสร็จ
“โทรศัพท์นาย? โยนมาให้ฉันทำไม” มือเล็กวางไดร์เป่าผมลง หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาชูขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยปากถาม
“โทรไปบอกพ่อมึงซะว่าหายไปไหน คงรู้นะว่าควรจะบอกยังไง” เพลิงพูดแค่นั้น แล้วเอื้อมหยิบซองบุหรี่กับไฟแช็คเดินออกไปนอกระเบียง
—————————————