BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++โคตรเลว​ #25 -​ ภาระ

โคตรเลว​ #25 -​ ภาระ

"อืม~" อาการปวดศีรษะตรงเข้าเล่นงานปลุกเพลิงให้รู้สึกตัวช่วงสายท่ามกลางห้องที่มืดสลัว มือหนายกขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ ทว่าเพียงแค่แตะลงไปก็ชะงักรีบลืมตาตื่น เมื่อสัมผัสเข้ากับแผ่นอะไรบางอย่างที่ติดอยู่ตรงหน้าผาก

เขาดึงมันออกมาจึงเห็นเป็นแผ่นเจลลดไข้​ และพอจะรู้ว่าใครเป็นคนแปะไว้ เลยเอื้อมมือไปด้านข้างของตัวเองหวังจะกระชากหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างกัน​ให้ลุกขึ้นมา แต่กลับพบแต่ความว่างเปล่า

แล้วเธอหายไปไหน..

ดวงตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆห้องสี่เหลี่ยมเพื่อหาอีกคน ก็พบแต่ความว่างเปล่าอีกเช่นเดิม​ เธอคงหนีกลับไปแล้วมั่ง ถือว่าเก่งนะโดนขนาดนั้นยังพาตัวเองกลับไปได้

เพลิงค่อยๆดันตัวลุกขึ้น​หักคอไปมาพร้อมนวดขมับเบาๆ​ ก่อนหยัดกายลุกขึ้นเดินไปดึงผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนราวมาพันรอบเอวสอบ​ เอื้อมมือเปิดประตูออกไปหยิบน้ำในตู้เย็นด้านนอก

ซึ่งเป็นตู้เย็นส่วนร่วมเขาและเพื่อนๆใช้ร่วมกัน

แกร็ก|

พอเปิดประตูห้องนอนออกมาก็เจอเข้ากับเล้งที่กำลังยื่นมือข้างหนึ่งมาเปิดประตูพอดี​ พร้อมกับอีกมือถือถ้วยข้าวต้มและยาแก้ไข้กับแก้อักเสบ​

"อ้าว! ตื่นแล้วเหรอวะ" ​เล้งเอ่ยถาม​

"….." คนถูกถามเงียบ จ้องมองถ้วยข้าวต้มในมือของเพื่อนรัก​ แล้วถามออกไปด้วยความสงสัย​ "เอามาทำไม"

"ให้มึงแดกไง จะได้แดกยา"

"กูไม่กิน" ว่าแล้วเพลิงก็เบี่ยงตัวเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำมาเปิดดื่ม​ เล้งถอนหายใจเบาๆกับนิสัยของเพื่อน​ ก่อนจะหมุนตัวหันไปมองคนที่กำลังกระดกน้ำอยู่

"ไม่แดกแล้วจะหายป่ะ"

"….." เพลิงปรายตามองเจ้าของคำพูดด้วยหางตา​ ดึงขวดน้ำออกจากปากหลังดื่มหมด แล้วปิดฝาโยนมันทิ้งถังขยะที่วางอยู่ข้างๆตู้เย็น "กูไม่ได้เป็นอะไร"

"ไม่ได้เป็น? แล้วทำไมเมื่อเช้าเด็กมึงบอกกูว่ามึงไม่สบาย" ฟังไม่ผิดที่เล้งรู้ว่าเพื่อนรักไม่สบายก็เพราะเมื่อเช้าเขาเปิดประตูออกมาจากห้องนอนของตัวเอง ซึ่งอยู่ห่างกันไม่มาก​ เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงเลยเจอเข้ากับเธอเปิดประตูออกมาพอดี แล้วเสียงใสก็พูดออกมาว่า

"เพื่อนของคุณไม่สบาย​ ถ้าไม่อยากให้ตายก็เข้ามาดูแลเขาด้วย"

"ไอ้เพลิงเนี่ยนะไม่สบาย?"

ในตอนนั้นทำเอาเขาตกใจมากเพราะไม่เคยเห็นเพลิงเป็นแบบนี้มาก่อน​ จึงถามกลับไปด้วยสีหน้าจริงจัง​

"อืม..เมื่อคืนตากฝน และแผลที่ถูกยิงก็อักเสบ"

เธอพูดแค่นั้นแล้วเดินเลี่ยงไปทางบันไดลงไปข้างล่างทันที​ ทำเอาเล้งยืนเกาศีรษะเบาๆมองตามหลังจนลับตา​ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปดูเพื่อนรักเลยเห็นว่ายังเช้าอยู่จึงปล่อยให้พักผ่อนไปก่อน

พอได้ยินอย่างนั้นเพลิงก็ไม่ได้ตกใจอะไร ก็รู้อยู่แล้วไม่งั้นเล้งคงไม่ถือของพวกนั้นมาหรอก​ สองขาแกร่งเดินกลับเข้ามาห้องของตัวเองผ่านหน้าอีกคน โดยไม่ตอบอะไร​

เล้งหมุนตัวมองตาม หลังรอคำตอบจากปากเจ้าตัวอยู่อย่างไม่ละ​ "อะไรของมันวะ" เขาบ่นพึมพำเบาๆ ก่อนจะถือวิสาสะเดินตามหลังเจ้าของห้องเข้ามาวางถ้วยข้าวต้ม พร้อมกับยาลงบนโต๊ะ​ ขณะที่เพลิงเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างไม่สนใจ

"……." เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดเล้งก็อดเป็นห่วงไม่ได้​ เอี้ยวหน้ากลับไปมอง แล้วตะโกนบอกเสียงดัง "ไอ้เพลิงอย่าให้แผลโดนน้ำนะมึง"

"….." ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับ​ เล้งจึงหย่อนกายนั่งลงบนที่นอนเพื่อรอบังคับเพื่อนรักให้กินข้าวและยา​ แม้รู้ดีว่าคนอย่างเพลิงไม่มีวันกินยาแต่เขาก็จะบังคับให้สุดความสามารถ

เนเน่เปิดประตูห้องนั่งเล่นเดินออกมาด้วยสีหน้ากังวล นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

"เน่ทำไมเดี๋ยวนี้โทรมจัง​ ไปทำอะไรมา แล้วหายไปไหนบ้านก็ไม่ค่อยกลับคอนโดก็ไม่ค่อยอยู่" เนมาร์ถาม พร้อมเอื้อมมือหนาเข้ามาจับแขนของเธอ​ ทำเอาเธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะเบือนหน้าหลบสายตาคู่คม

"ช่วงนี้เน่เรียนหนัก​ งานเยอะเลยไปนอนบ้านแคนดี้"

"แล้วทำไมต้องหลบสายตาเฮีย?​ ปิดบังอะไรอยู่เน่บอกมาดิ"

"ไม่มีอะไร​ เน่แค่เหนื่อยเฉยๆเฮียอย่ามาจ้องจับผิดเหมือนป๊าสิ" เมื่อพี่ชายกำลังสงสัยในตัวเธอ เธอจึงสอดแขนเรียวคล้องเข้าไปกอดท่อนแขนแกร่งของเขา พลางซบหน้าลงออดอ้อนกลบเกลื่อน

"ป๊าไม่ได้จับผิดแค่สงสัย หนูแปลกไปไม่เหมือนเนเน่คนเดิม แถมวันนั้นกลับมาเนื้อตัวมีแต่รอยช้ำเหมือนโดนทำร้ายมา ไม่ให้ป๊าสงสัยทนไหวเหรอ คิดว่าสิ่งที่พูดออกมาป๊าเชื่อป่ะ อย่าให้ต้องสืบเองนะ" โน่เอ่ยขึ้นขัดจังหวะในตอนที่เนมาร์กำลังจะพูดต่อ "แล้วนั่นดูใส่เสื้อคอเต่าแขนยาวปิดรอยอะไรหรือเปล่า มาให้ป๊าดูดิ" เขาหยัดกายลุกขึ้นเดินไปหาลูกสาว แต่ยังไม่ทันจะได้ลุกก็ถูกภรรยาจับแขนแกร่งเอาไว้เสียก่อน

"แค่ชุดแด๊ดสงสัยอะไร ลูกเป็นผู้หญิงนะจะให้ใส่แต่แบบเดิมๆรึไง? เชยตาย" แนทว่า​ ซึ่งเนเน่ก็ต้องเออออเห็นด้วยตามผู้เป็นแม่เป็นการเอาตัวรอด

"ใช่ค่ะม๊าพูดถูก​ ตอนนั้นที่มีรอยช้ำเน่ก็บอกป๊าไปแล้วไงว่าเดินชนตู้หนังสือในห้องสมุดที่มอ." ใบหน้าสะสวยส่งสายตาจริงจังใส่ผู้เป็นพ่อ​ที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกตัวข้างๆผู้เป็นแม่ ในขณะเนมาร์เหลือบมองน้องสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้ถามหรือเซ้าซี้อะไรต่อเช่นเดียวกับโน่

"หึ" เสียงแค่นหัวเราะดังเล็ดลอดออกมาเบาๆจากลำคอหนา โน่หยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูงเดินออกไปจากห้องด้วยสีหน้าไม่พอใจ

ปึง!

"ม๊าข๋า​ ป๊าโกรธหนูเหรอ?" เนเน่เอ่ยถามผู้เป็นแม่เสียงกระเส่า

"ไม่หรอก​ ป๊าเขาแค่เป็นห่วงเดี๋ยวก็กลับมา"

"งั้นหนูไปง้อป๊าก่อนนะคะ"

"เฮ้อ!!" หญิงสาวถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองหมายจะไปง้อผู้เป็นพ่อที่เดินหนีออกมา​ คาดว่าน่าจะอยู่ในห้องทำงานนั้นแหละคงไม่ไปไหนไกล

แกร็ก|

มือบางบิดเปิดประตูเข้ามาอย่างถือวิสาสะ ก็เห็นผู้เป็นพ่อที่นั่งกอดอกหลับตาอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรด ก่อนท่านจะลืมตามองเธอด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ​ ซึ่งมันก็ไม่แปลกเพราะเธอลืมเคาะประตู แต่คงไม่โดนด่าหรอกท่านแยกแยะออกไหนคนในครอบครัวไหนลูกน้อง

"ตามป๊ามาทำไม" โน่เอ่ยถามเสียงเย็นชา โดยไม่มองหน้าลูกสาว

"แล้วป๊าเดินหนีขึ้นมาทำไม โกรธอะไรหนู" เนเน่ไม่ตอบคำถามนั้น แต่ถามกลับแทน​

"ไม่ได้โกรธ.."

"ป๊าแค่ไม่เชื่อในสิ่งที่หนูบอก?" ยังไม่ทันที่โน่จะได้พูดต่อ​ อีกคนก็โพล่งแทรกขึ้นอย่างรู้ทัน

"แล้วมันน่าเชื่อไหมล่ะ เนื้อตัวช้ำขนาดนั้น มาบอกว่าเดินชนตู้หนังสือใครเขาจะเชื่อ​ ป๊าไม่ใช่คนโง่นะเน่ มีอะไรก็บอกมาตรงๆ"

"….." คำพูดถัดมาของโน่ทำเอาเนเน่เงียบไป​ หย่อนตัวนั่งลงคุกเข่าบนพรมสีดำลายตรงหน้าผู้เป็นพ่อหลังท่านเลื่อนเก้าอี้เข้าหา​ แล้วค่อยๆซบหน้าลงบนหน้าขาแกร่ง​ "หนูรู้ว่าป๊าไม่ใช่คนโง่ แต่สิ่งที่หนูบอกไปทุกอย่างมันคือความจริงหนูชนตู้จริงๆ​ ป๊าก็รู้นิคะว่าครอบครัวเรามีอิทธิพลและใหญ่ขนาดไหน​ ใครๆก็รู้จัก แล้วใครจะกล้ามาทำร้ายหนูเพื่อเอาชีวิตตัวเองมาแลกล่ะ" เธอยังยืนยันโกหกผู้เป็นพ่ออยู่อย่างเดิมด้วยเหตุผลเดิมๆ​ แม้จะรู้ว่ายังไงสักวันท่านก็รู้ความจริงอยู่ดีเพราะคนอย่างท่านคงไม่เชื่ออะไรง่ายๆ เลยปล่อยให้ถึงวันนั้นเองก็แล้วกัน

"….." มันก็จริงอย่างที่ลูกสาวว่า​ คงไม่มีใครกล้าเอาชีวิตตัวเองมาแลกเพื่อทำร้ายคนในตระกูลของเขาหรอก​ ใครกล้านี่ถือว่าเจ๋งจริง และถ้าเขารู้คงไม่มีชีวิตรอดออกไปแน่นอน

มือหนาลูบศีรษะทุยของลูกสาวเบาๆ​ จะลองเชื่อลูกดูสักครั้งก็แล้วกัน ถึงจะไม่น่าเชื่อก็เถอะ​ แต่ถ้ายังเห็นรอยแบบนี้อีกเขาจะไม่ถามอะไรแล้ว จะเป็นคนสืบเองว่ารอยนั้นเกิดจากอะไรกันแน่

"ทีหลังก็อย่าซุ่มซ่ามอีก รู้ไหมว่าป๊าเป็นห่วงหนูมากแค่ไหน"

"ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ แล้วดีดตัวลุกโผกอดผู้เป็นพ่อแน่น​ เงยหน้าหอมแก้มด้วยฟอดใหญ่​ ท่านก็หอมขมับบางกลับทีหนึ่ง พร้อมลูบศีรษะเธอเบาๆ เพียงไม่นานก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เนเน่ต้องรีบคลายพันธนาการออกจากตัวผู้เป็นพ่อ

ครืด~ ครืด~

โทรศัพท์มือถือที่เหน็บอยู่ในกระเป๋ากางเกงของเธอด้านหลังแผดเสียงร้องดังขัดจังหวะ​ มือบางล้วงหยิบมันขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นเบอร์แคทโทรเข้ามา

"ใครโทรมา" ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะได้กดรับเสียงทุ้มก็เอ่ยถามขึ้น​ ทำเอาเธอต้องละสายตาไปมอง แล้วพลิกหน้าจอชูให้ผู้เป็นพ่อดูพร้อมบอกออกไป

"แคทค่ะ หนูขอตัวไปคุยกับเพื่อนแปบนะคะ" ไม่รอให้ท่านได้อนุญาต​เนเน่ก็หยัดกายลุกขึ้นเดินออกมานอกระเบียง ก่อนจะกดรับสาย

"ฮัลโหล"

(เธออยู่ไหน กลับมาป้อนยาไอ้เพลิงหน่อย)

"….." เนเน่เงียบไปเมื่อเสียงปลายสายนั้นไม่ใช่เสียงของเพื่อนรัก​ แต่เป็นน้ำเสียงทุ้มเข้มเยือกเย็น คงเป็นเพื่อนของเพลิงคนใดคนหนึ่ง เพราะพูดออกมาแบบนั้นก็พอจะรู้แล้ว

แล้วแคทไปอยู่ที่นั่นได้ยังไงทำไมเพื่อนรักของเขาถึงเอาโทรศัพท์มือถือของเพื่อนเธอโทรมาได้​ คำถามในใจเกิดขึ้นมากมาย จะว่าสนิทกันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะแคทไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับคนพวกนี้ให้ฟังมาก่อน

(ได้ยินที่ฉันพูดไหม)

"นั่นใคร"

(ฉันเสือ​ เธอช่วยกลับมาป้อนยากับข้าวให้ไอ้เพลิงหน่อย)​

"แล้วแคทไปไหน เอาโทรศัพท์ของเพื่อนฉันโทรมาได้ยังไง" เธอไม่สนใจคำพูดของเขา​ สนแต่ว่าเพื่อนรักของเธอไปอยู่ที่นั่นได้ยังไงเท่านั้น

(โทรศัพท์ของเมียก็เหมือนของผัวนั้นแหละ​ อย่าถามมากได้ไหม บอกให้มาป้อนข้าวกับยาให้ไอ้เพลิงหน่อย)

"มะ..เมีย?" หมายความว่าไงแคทเป็นเมียเสืองั้นเหรอ เป็นไปได้ไงหรือแคทจะโดนกระทำแบบเธอ ไม่นะ เนเน่พูดในใจ สีหน้าตกใจเมื่อสักครู่แปรเปลี่ยนเป็นกังวล​ แต่ก็เลือกไม่ถามออกไปต่อ รอถามกับเจ้าตัวทีเดียว

"เกี่ยวอะไรกับฉัน..ทำไมฉันต้องไป เพื่อนของคุณคุณก็ป้อนให้เองสิ"

(ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ฉันจะโทรตามเธอป้ะ)

"ขนาดคุณเป็นเพื่อนเขายังไม่กินเลย นี่ฉันเป็นคนอื่นนะเขาคงยอมกินหรอก"

(คนอื่นที่ไหน เธอเมียมันมันอาจจะยอมเธอก็ได้)​

"ฉันไม่ใช่เมียใครอย่ามาพูดพล่อย​ๆ"

(หึ! จะไม่มาว่างั้น)​

"ก็ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ เพื่อนคุณไม่ตายง่ายๆหรอก หรือถ้าตายก็ดี"

(แต่ถ้าเธอไม่มาป้อนข้าวกับยาให้เพื่อนฉัน​ เพื่อนเธออาจจะตายก็ได้นะ)​

เนเน่กำโทรศัพท์มือถือแน่นหลังที่ปลายสายถูกตัดไปแล้ว​ เธอจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด​ คงต้องไปสินะเลือกอะไรไม่ได้อยู่แล้วนิ ชีวิตเพื่อนทั้งคน​

เลวแล้วยังเป็นภาระคนอื่นอีก​ น่าปล่อยให้ตายชะมัด

สองเท้าเล็กเดินกลับเข้ามาหาผู้เป็นพ่อ​ "ป๊าคะ" เสียงใสเอ่ยเรียก ขณะที่โน่ก้มหน้าเซ็นเอกสาร​

"หือ​~" โน่ขานรับ พร้อมกับเงยหน้ามองคนตรงหน้า​ "เป็นอะไร​ มีอะไรรึเปล่า" เมื่อเห็นสีหน้าลูกสาวดูกังวลแปลกๆ​ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น

"พอดีแคทไม่สบายอ่ะค่ะ​ เน่ขอไปดูเพื่อนหน่อยได้ไหม"

"อืม​ ไปสิ"

"ขอบคุณนะคะ" ว่าจบเนเน่ก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไปทันที​ ทว่าเพียงแค่ทำท่าจะหมุนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อผู้เป็นพ่อเอ่ยถามมาต่อ

"แล้วจะนอนกับแคท หรือกลับบ้าน"

"ยังไม่รู้เลยค่ะ​ เดี๋ยวยังไงหนูโทรมาบอกนะ"

"….." โน่พยักหน้ารับรู้ ก่อนเนเน่จะหมุนตัวรีบเดินออกไปทันทีอย่างรีบร้อน

—————————————

BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++

BANDIT ILLICIT โคตรเลว SM25++

Score 10
Status: Completed

Options

not work with dark mode
Reset