"เจ็บมากไหม เน่ขอโทษ" เธอเอื้อมมือเข้าไปแตะลงบนบาดแผลข้างริมปากหนาของฟีฟายเบาๆ
"ไม่อ่ะ เจ็บใจมากกว่าที่ช่วยเราไม่ได้" มือใหญ่จับซ้อนลงบนมือของเธอ "พี่ไม่เข้าใจว่าเราจะไปยอมมันทำไม ยังไงพี่ก็ไม่ยะ.." ยังไม่ทันที่ฟีฟายจะพูดจบประโยคก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆก็โพล่งแทรกขึ้น
"เดี๋ยวเน่ขอไปหยิบชุดคลุมในห้องน้ำมาใส่ก่อนนะ จะได้เอาอุปกรณ์ทำแผลมาทำให้พี่ด้วย" ว่าจบเธอก็ดึงมือออกจากเกาะกุม หยัดกายลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำทันทีไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับใดๆ
ขี้เกียจฟังคำที่เขากำลังจะเอื้อนเอ่ยเพราะรู้ว่าคนอย่างฟีฟายไม่ยอมให้เธอต้องมาทนเจ็บปวดแบบนี้ แล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากยอมแต่มันจำเป็นเพื่อความปลอดภัยของเขา คนที่ถือไพ่เหนือกว่าและมีความเลือดเย็นอย่างเพลิงสามารถทำอะไรได้หลายอย่างโดยที่เราไม่คาดคิด
ดวงตาสีดำสนิทมองตามหลังเรือนร่างเปลือยเปล่าเดินไปจนลับตา ครั้งแรกเหมือนกันที่เขาเองได้เห็นเรือนร่างขาวเนียนของเธอ มันสวยมากจริงๆใครเห็นต้องเป็นหลงไหลไม่เว้นแม้แต่เขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยคิดอกุศลกับเธอเลยสักครั้ง
พอเข้ามาถึงเนเน่ก็คว้าหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำที่แขวนอยู่ขึ้นมาสวมใส่พร้อมกับขาเรียวก้าวไปตรงอ่างล้างมือ เอื้อมเปิดน้ำโน้มตัวลงกวักน้ำใส่หน้าล้างคราบเหงื่อและคราบน้ำตาออก
มือเล็กดึงกระดาษทิชชู่ซึ่งอยู่ตรงหน้าขึ้นมาซับน้ำจากใบหน้าหลังล้างเสร็จ แล้วทิ้งมันลงถังขยะในนาทีต่อมา
เธอหมุนตัวเดินกลับไปหาฟีฟายที่นั่งรออยู่ แต่ต้องร้อนรนเมื่อก้าวผ่านประตูออกมาเห็นเขายกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแหบหู เหมือนกับกำลังรอสายของใครบางคนอยู่เพราะไม่มีการพูดคุยออกมาให้ได้ยินเลย
คงจะไม่ใช่คนที่เธอคิดหรอกนะ
"พี่ฟีฟายโทรหาใครคะ" เนเน่เอ่ยถามก่อนจะเร่งฝีเท้ามาหยุดตรงหน้าของเจ้าของชื่อ ทำเอาเขายกโทรศัพท์ออกห่างจากใบหูเหลือบมองหน้าเธอ
"โทรหาอาโน่"
"ไม่ได้นะ"
ฟรึ่บ!
ทันทีที่รู้ว่าคนที่ฟีฟายต่อสายไปหาคือใครเธอก็ดึงโทรศัพท์มือถือมาจากมือเขาพร้อมกดวางสายทันที มันก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ไม่มีผิดดีนะที่ผู้เป็นพ่อยังไม่ได้กดรับสายไม่งั้นทุกอย่างพังยิ่งกว่าเดิมแน่
"เฮ้ย!.." ฟีฟายร้องอุทานออกมาดังลั่น แล้วหยัดกายลุกขึ้นดึงโทรศัพท์มือถือของตัวเองกลับไป ก้มมองหน้าจอใสที่ขึ้นรูปหน้าจอเธอกับเขาถ่ายคู่กัน "ทำอะไรของเน่เนี่ยกดวางสายทำไม"
"พี่โทรหาป๊าทำไม" หญิงสาวเลือกที่จะไม่ตอบ แต่ถามกลับด้วยสีหน้าไม่โอเคกับการกระทำของคนตรงหน้า
"อาโน่จะได้มาจัดการมันไง พี่ไม่ยอมให้เราต้องมาเจ็บปวดอยู่แบบนี้หรอกนะ"
"ป๊าจะรู้เรื่องนี้ไม่ได้"
"ทำไมวะ เน่จะปกป้องมันทำไมหรือรักมัน"
"เน่ไม่ได้ปกป้องหรือรักมันทั้งนั้นแหละ แต่มีอะไรมากกว่านั้นที่ให้ป๊าและคนอื่นรู้ไม่ได้"
"มีอะไรบอกพี่มา แล้วเรื่องที่มันจับเราไปข่มขื่นอีกเล่ามาให้หมด" ว่าแล้วฟีฟายก็หย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา โดยมีเนเน่หย่อนสะโพกนั่งตามลงมาข้างๆ
"ถ้าเน่บอกพี่ไป สัญญาได้ไหมว่าจะเก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับ"
"บอกมาก่อน ถ้ามันร้ายแรงเกินพี่ต้องบอกให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้"
"ไม่ได้นะ ถ้าพี่บอกชีวิตเน่พังกว่านี้แน่"
"….." ครั้นได้ยินอย่างนั้นชายหนุ่มถึงกับต้องหยุดชะงัก ไอ้ระยำมันต้องเอาอะไรมาขู่เน่แน่ๆหรือจะเป็นคลิปอะไรนั้นที่มันพูดถึง ฟีฟายพูดขึ้นในใจ ก่อนจะครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ว่าจะเอายังไงดี ลองรับปากไปก่อนดีไหมแล้วถ้าสิ่งที่เธอเล่ามันร้ายแรงเกินไปล่ะ เขากลัวตัวเองจะทนไม่ไหวแล้วหลุดบอกผู้เป็นอาซึ่งเป็นพ่อของเธอไปนะสิ แต่ถ้าไม่สัญญาก็คงไม่รู้เรื่องทั้งหมด
"โอเค พี่สัญญาก็ได้" เขาว่าหลังจากตัดสินใจมาดีแล้ว
"แน่ใจ" นิ้วชี้เรียวยาวชี้ไปที่ใบหน้าหล่อเหลา
"อืม" เสียงทุ้มครางตอบในลำคอเบาๆ ก่อนเนเน่จะปริปากเล่นทุกอย่างออกมาให้ฟีฟายฟังตั้งแต่ต้นรวมทั้งคลิปที่เพลิงส่งมาขู่
ปึง!
"เฮ้อ!!" เนเน่ถอนหายใจพรืดใหญ่ด้วยความโล่งหลังเพิ่งส่งฟีฟายกลับไป ตอนแรกที่เขารู้เรื่องทั้งหมดจะยกโทรศัพท์มือถือกดโทรหาพ่อของเธออย่างเดียวเลย กว่าจะทำให้เขายอมเก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับได้แทบแย่
เธอเชื่อใจเขานะตั้งแต่รู้จักกันมาไม่มีครั้งไหนที่ฟีฟายเคยผิดสัญญาหรือโกหกเธอเลยสักครั้ง นั้นแหละคือสิ่งที่ทำให้เธอหมั่นใจว่าเขาไม่มีทางทำร้ายเธอแน่นอน
เท้าเล็กค่อยๆเดินกลับมายังโซฟา เธอโน้มตัวลงก้มเก็บอุปกรณ์ทำแผลใส่กล่องดังเดิมแล้วเอาไปเก็บในที่ของมันพร้อมทั้งสำลีที่ใช้แล้วทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะตรงดิ่งเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำการชำระล้างคราบสิ่งสกปกติที่ติดอยู่ตามร่างกาย
แกร็ก|
เพลิงที่กำลังนอนดูหนังรออยู่บนเตียงปรายตามองไปยังบานประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ก่อนร่างอรชรพันด้วยผ้าขนหนูเหนือเนินอกอวบอิ่ม บ่งบอกว่าเพิ่งผ่านการอาบน้ำก้าวเดินเข้ามาด้วยสายตาเย็นชา
ดวงตาคมตวัดสายตากลับมามองจอโทรทัศน์ดังเดิม พร้อมเอื้อมมือไปหยิบบุหรี่บนโต๊ะโคมไฟข้างเตียงขี้นมาจุดสูบ
"ฉันทำตามสิ่งที่นายต้องการเรียบร้อยแล้ว" เสียงใสแข็งกร้าวเอ่ยบอก ในขณะที่กำลังเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนออกมาสวมใส่
"….." ทว่าไร้ซึ่งคำพูดใดๆ เพลิงยกบุหรี่ขึ้นมาสูบอัดควันเข้าเต็มปอด แล้วพ่นมันขาวคละคลุ้งไปทั่วห้องนอน
"พอใจแล้วก็ควรกลับไปได้และ แล้วเลิกสูบบุหรี่ในห้องฉันสักทีมันเหม็น" ไม่ว่าเปล่าเนเน่หมุนตัวเดินขึ้นไปบนเตียงนอน "ลงไปฉันจะพักผ่อน"
"ใครว่ากูจะกลับ อยากนอนก็นอนไปสิ หรือจะทำอย่างอื่นก่อนก็ได้นะ" เสียงทุ้มเยือกเย็นตอบไปอย่างหน้าตาเฉย ใช่เขาตั้งใจจะนอนค้างที่นี่อยู่แล้วแอร์เย็นๆบวกกับบรรยากาศข้างนอกฝนยังตกหนักคงหลับสบายน่าดู
"มะ..หมายความว่าไง" ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างคิดไม่ตก ตั้งแต่เด็กจนโตเธอเคยนอนคนเดียวมาตลอดถ้ามานอนเบียดกับคนอื่นมันคงเป็นอะไรที่น่าอึดอัดน่าดู
"….." มือใหญ่จิ้มดับบุหรี่ลงบนหน้าขาแกร่งของตัวเองอย่างไม่สนใจ แล้วล้มตัวนอนดูหนังต่อปล่อยอีกคนที่กำลังรอให้เขาทวนคำพูดนั้นอยู่นั่งอยู่แบบนั้น
"ลงไปนะ ถ้าจะนอนที่นี่ก็ไปนอนบนโซฟาด้านนอนโน้น" เธอว่าพร้อมผลักร่างกำยำให้ลุกลงไปจากเตียง
"….." แต่ผลักยังไงเขาก็ยังคงนอนเฉยร่างนั้นไม่ขยับตัวเลยสักนิด เธอจึงใช้เท้าถีบช่วยก็ยังนิ่งอยู่เหมือนเดิม
"นี่ได้ยินไหม ฉันบอกให้ลุกไงวะ"
"….."
"ลงไป ฉันไม่ชอบนอนร่วมกับคะ.." คำพูดที่ยังไม่จบประโยคกลืนหายลงไปในลำคอ เมื่ออีกคนตะคอกขึ้นเสียดังจนตกใจ
"เงียบปาก แล้วลงไปนอนเฉยๆซะถ้าไม่อยากให้กูอารมณ์เสียจับมึงกระแทกทั้งคืน"
"มึง.." เนเน่กำหมัดแน่นอย่างโกรธจัด ที่ทำอะไรเพลิงไม่ได้แม้แต่จะไล่ให้ออกไปยังทำไม่ได้เลย เธอล้มตัวนอนลงด้วยความหงุดหงิด หยิบหมอนข้างมาขั้นกลางระหว่างเขาและเธอ
"……." โจรหนุ่มปรายตามองหญิงสาวที่กำลังพลิกตัวนอนหันหลังให้ พลางแสะยิ้มอย่างนึกตลกและนึกสมเพชในเวลาเดียวกัน ที่เธอทำอะไรคนอย่างเขาไม่ได้และก็ไม่มีวันที่จะทำได้ต้องยอมอยู่แบบนี้ตลอดไปจนกว่าเขาจะเบื่อกับเรือนร่างนี้
—————————————