แกริควางร่างบางลงบนตักแกร่ง ปกติเขาจะไม่ให้ใครนั่งตักง่ายๆ แต่พิรุณรักเป็นกรณีพิเศษและคงจะพิเศษตั้งแต่ที่เขาเจอเธอครั้งแรก
“หนูจะไปหยิบอีกจานค่ะ มีดกับซ้อมด้วย” พิรุณรักวางจานสเต๊กลงแล้วดันหน้าอกเย็นชื้นของเขาเอาไว้ มันทำให้เธอสะท้านไปทั้งตัวเพราะเสื้อของเธอบางเบา แถมส่วนล่างยังใส่แค่ชั้นในทำให้เธอสัมผัสสิ่งที่มันดันอยู่ใต้ก้นอย่างชัดเจน
เธอจะได้กินสเต๊กไหมเนี่ย
“ไปสิ” แกริคยอมปล่อยเธอแต่โดยดี พิรุณรักรีบดีดตัวลุกขึ้นไปหยิบสเต๊กอีกจานแล้วก็ซ้อมกับมีด
“มานั่งตรงนี้” แต่พอจะนั่งแกริคก็ตบที่ตักตัวเองเบาๆ
“มันไม่ถนัดนะคะ”
“ฉันถนัด” ปากบางเม้มเข้าหากันยอมทำตามที่เขาบอก คนอะไรเอาแต่ใจ
แกริคกอดที่เอวบางหลวมๆ เกยคางไว้ที่ไหล่เล็กตามเดิม เขารู้สึกชอบทำแบบนี้เป็นพิเศษ อยากให้เธอแนบชิดอยู่ข้างตัวแบบนี้ตลอดเวลา แค่เขาอดทนไม่กินเธอก่อนกินข้าวนี่ก็ถือว่าดีมากแล้ว
“ไม่กินเหรอคะ” คนที่โดนกอดใช่ว่าจะไม่ชอบ เธอชอบที่เขาทำแบบนี้
แต่จะไม่กินก่อนเหรอจะกอดเธอแบบนี้ตลอดเลยรึไง
“เธอหั่นสิ ป้อนฉันด้วย” พิรุณรักไม่แน่ใจว่านี่คือการอ้อนของคนตัวโตรึเปล่า เพราะเธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเขา
หญิงสาวยอมทำตามที่เขาบอก เธอค่อยๆ หั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ จิ้มหนึ่งชิ้นไปจ่อที่ปากเขา แกริคก็อ้าปากรับเคี้ยวช้าๆ เพื่อลิ้มลองรสชาติ พิรุณรักรอลุ้นจากสีหน้าว่าเขาจะทำหน้ายังไงอร่อยรึเปล่า แต่เธอก็ไม่เห็น สีหน้าเขายังเรียบเฉย ทำให้เธอใจแป้ว
“ไม่อร่อยเหรอคะ” เธอถามเขาเสียงเบา
“เปล่า ใช้ได้ หัดต่อไปคงดีขึ้น” แค่นี้ก็ทำให้เธอยิ้มกว้างได้แล้ว
“ค่ะ หนูจะฝึกทำบ่อยๆ”
“อืม เธอก็กินด้วยสิ” พิรุณรักยิ้มกว้างจิ้มสเต๊กให้ตัวเองและให้เขา
“เอาอีกไหมคะ”
“อิ่มแล้ว” พิรุณรักหยิบน้ำให้ชายหนุ่ม
“ปล่อยได้แล้วค่ะ หนูจะไปล้างจาน” น้ำเสียงเบาหวิว แกริคจับเธอหันหน้าเข้าหามองคนตัวเล็กที่ทำหน้าเขินอายด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ แต่คนโดนมองไม่มีทางเห็นเพราะมัวแต่ก้มหน้า
“ซอสติดปาก” ได้ยินแบบนั้นลิ้นเล็กก็ปาดเลียที่ริมฝีปากทันที ภาพนั้นมันทำให้แกริคหมดความอดทน ฉกปากหนาลงที่ปากจิ้มลิ้มของเธอบดขยี้ลงไปอย่างหนักหน่วง จนคนที่โดนกระทำตั้งตัวแทบไม่ทัน ได้แต่ตาโตตกใจเอนตัวไปด้านหลังแทบหล่นจากตักเขาดีที่ยึดไหล่เขาไว้ได้ทัน
ตั้งสติตัวเองแล้วปล่อยให้เขาจูบอย่างเต็มใจ ลิ้นสากสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่มควานไปทั่วปากแล้วกลับมาดูดดึงลิ้นเล็กๆ อย่างกระหาย
“อือ” เกิดเสียงครางอื้ออึงในลำคอหายใจสะท้านขึ้นลงหนักหน่วงโยกตัวไปตามทิศทางการจูบของคนตัวโต จนเธอหายใจไม่ทันเขาจึงยอมปล่อย
ปากบางเป็นอิสระก็โกยอากาศเข้าปอด
แต่ดูเหมือนคนตัวโตจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ ริมฝีปากอันร้ายกาจพร้อมกับเคราสากๆ ของเขาลากไล้ไปตามลำคอระหงให้เธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว มือก็ปัดผมที่ยาวสลวยไปด้านหลัง อีกข้างลูบไล้เรียวขาสวยที่เขาจ้องตั้งแต่เดินเข้ามาในครัว และยิ่งพอใจเมื่อลากลึกเข้าไปด้านในรับรู้ว่าเธอใส่แค่กางเกงชั้นในตัวเดียว
“ฉันจะซื้อชุดนอนมาให้” ในความคิดของแกริคตอนนี้คือเขาอยากให้ร่างบางแต่อวบอิ่มใส่ชุดนอนวาบหวิวในแบบที่เขาชอบ
“อ๊ะ หนูมีหลายชุดแล้วค่ะ” พิรุณรักปฏิเสธเสียงสั่นร้องบอกเบาๆ เมื่อโดยนิ้วเรียวยาวของเขาลากผ่านจุดสำคัญ ท้องน้อยหดเกร็งกระตุก
“แต่ฉันชอบชุดแบบที่เธอใส่ตอนมาหาฉันครั้งแรกมากกว่า” แกริคไม่เคยลืมเธอเลยสักวัน เขาเหมือนคนบ้าที่เอาแต่คิดถึงความวาบหวิวเสียวซ่านที่เกิดขึ้นบนเกาะ
แต่ก็ต้องกักเก็บมันไว้รอเวลาที่เหมาะสม
พิรุณรักเอนตัวไปด้านหลังเมื่อริมฝีปากของเขาลากไล้ลงไปถึงทรวงอกเต่งตึงของเธอ บราที่เธอเลือกใส่นอนบางเบาไร้ฟองน้ำแค่ปัดป่ายยอดอกก็ชูชันรับลิ้นสาก
แต่วันนี้แกริคก็พอใจในชุดนอนของเธอ ถึงมันจะดูมิดชิดในสายตาแต่พอได้สัมผัสมันกลับทำให้เขาอยากค้นหา
“คุณจำได้” ความดีใจกักเก็บไว้ไม่อยู่ ส่งเสียงออกมาเป็นเสียงครางหวาน หญิงสาวไม่คิดว่าเขาจะจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำด้วยกันได้ ในวันที่เขาจากไปเขาไม่แม้แต่จะมีความอาลัยเธอสักนิด
“ฉันจำได้ ฉันเหมือนคนบ้าและอยากลงโทษเธอซ้ำๆ ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนั้น”
“อ๊า” นิ้วแกร่งสอดแทรกเข้าไปในกายสาวฟันคมขบกัดดึงยอดอกของหญิงสาวผ่านเนื้อผ้า พิรุณรักได้แต่ร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน นี่คือการลงโทษที่เขาพูดใช่ไหม
“หนูยอม อ๊ะ” นิ้วแกร่งขยับช้าๆ
“ยอมอะไรหนูน้อย” แกริควนกลับขึ้นไปหาใบหน้าสวยบังคับให้เธอหันมาสบตา ขบเม้มปากล้างของเธอเบาๆ อย่างมันเขี้ยว พิรุณรักเริ่มนั่งไม่อยู่ขยับสะโพกโยกเบาๆ ตอบรับมือแกร่ง ลมหายใจติดขัด
“ยอมให้คุณลงโทษ อือ” ร่างบางหายใจอ่อนระทวยซบลงที่ไหล่หนากอดลำคอแกร่งแน่นครางงึมงำ ตอนนี้เธอยอมเขาทุกอย่างแล้ว ยอมให้ทั้งกายและใจ ยอมแพ้ตั้งแต่เจอหน้าเขาครั้งแรก ถึงจะตั้งป้อมใส่แต่ใจเธอแทบกระโจนใส่เขาเมื่อพบกันอีกครั้ง
แต่ก่อนเธอใจแตกยังไงตอนนี้ก็ยังใจแตกอย่างนั้น ถ้าผู้ชายคนนั้นคือ แกริค ซีคีเลียโน ไม่ว่าเขาจะล่อลวงเธอไปทำอะไร อนาคตจะเจ็บปวดทรมานแค่ไหนเธอก็ยอม ขอแค่ตอนนี้เวลานี้เธอมีความสุขกับมันก็พอ
“ทุกที่” แกริคพอใจกับคำพูดของแม่หนูน้อยคนนี้ เขาคิดถูกที่กลับมาหาเธอ คิดถูกที่ยอมทำตามหัวใจตัวเอง ในอนาคตถึงพี่ชายเขาจะล้อเลียนแค่ไหนเขาก็ยอมรับมัน
“ค่ะ” ใบหน้าคมคายที่เคยเรียบเฉยยิ้มกว้างพอใจกับคำตอบ
“ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออก” แกริคถอดนิ้วแกร่งออกจากร่องสาว น้ำหวานไหลเยิ้มเต็มนิ้ว ออกคำสั่งให้ร่างบางที่สติเริ่มกระเจิงถอดเสื้อผ้าออก
“คะ” แกริคจับเธอลุกขึ้นยืนแล้วมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าให้เข้าใจในคำพูดของเขาโดยไม่ต้องพูดซ้ำ ปากบางเม้มเข้าหากัน อย่างนี่ทุกทีสิน่าชอบสั่งให้เธอถอดเสื้อผ้า
แต่เธอก็ยอมทำตามที่เขาสั่ง ปลดกระดุมออกทุกเม็ด
“เข้าห้องได้ไหมคะ” เธอมองรอบๆ นี่มันห้องครัวนะ
“ทุกที่” พิรุณรักเม้มปากแน่นเข้าใจในคำพูดของเขา เธอไม่น่าเคลิ้มรับปากเขาเลย
แกริคกำลังมองนิ้วของตัวเองที่เคลือบไปด้วยน้ำใสๆ แลบลิ้นออกมาแตะเบาๆ เพื่อชิมรสชาติอย่างใจคิด
พิรุณรักที่กำลังหาข้อต่อรองกับเขาอ้าปากค้างมองคนที่ดูดนิ้วตัวเอง เธอรู้ว่านิ้วนั้นมันเข้าไปอยู่ในร่างกายเธอก่อนหน้านี้ หญิงสาวหน้าแทบจะร้อนเป็นไฟ
นี่เขาจะเผ่าไหม้เธอให้เป็นเถ้าถ่านตรงนี้เลยใช่ไหม
“หวานกว่าที่คิด” แกริคยิ้มกริ่มมองคนที่ยืนบิดไปมาตัวแดงเถือกจากการกระทำของเขา
“คนบ้า” พิรุณรักอดไม่ได้ที่จะว่าเขา
“หึ เขิน” ร่างแกร่งลุกขึ้นเดินไปหาเธอ ดันร่างบางถอยหลังให้ชิดอ่างล้างจานจับรูดเสื้อนอนตัวยาวลงมากองไว้ที่เอวบาง ฉกริมฝีปากลงบนปากบางที่กำลังจะเอ่ยปากพูด จูบดูดวิญาณหนักหน่วงให้ร่างบางสั่นสะท้านเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของเขาปลดตะขอบราเชียร์ตัวสวยให้พ้นทาง รูดดึงแพทตี้ตัวน้อยออกจากกายสาวทั้งที่ปากยังจูบเธออย่างดูดดื่ม
“คุณคะ”