เขาพาเธอเดินมาที่ประตูห้องนอนที่อยู่ด้านซ้ายของเรือ ส่งสายตาบอกให้เธอเปิดประตู ซึ่งคนที่หัวใจเต้นแทบจะทะลุออกมาข้างนอกก็มือไม้สั่นเอื้อมมือไปเปิด เมื่อเปิดออกแกริคก็เดินเข้าไปข้างในโดยใช้เท้าปิดประตูอย่างไม่ใส่ใจ แล้วตรงไปยังเตียง โยนเธอลงอย่างไม่ปรานี จนทำให้พิรุณรักจุกหน้าเหยเก
“เจ็บนะ” เธอเผลอตวาดขึ้นเสียงดังเพราะความเจ็บ จนลืมไปว่าคนที่ทำเป็นใคร แกริคเลิกคิ้วแปลกใจกับน้ำเสียงของเธอ เขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าสิ่งที่เธอแสดงออกไม่ใช่ตัวตนของเธอ
“ก็ทำให้เจ็บ”
“คุณ” พิรุณรักเงยหน้าขึ้นมองคนพูดตาเขียว แต่เมื่อเห็นสีหน้าเรียบเฉยของเขาเธอก็อ่อนลง แล้วเตือนตัวเองว่าเขาเป็นใคร เบี่ยงหน้าหนีสายตาของเขา เพราะถ้าเธอเผลอจ้องอีกนิดเธอได้เผลอด่าเขาแน่
โยนลงมาได้ แถมยังบอกว่าทำให้เธอเจ็บอีก เขาคงไม่ใช่พวกนิยมความรุนแรงหรอกนะ เขาทำให้เธอเริ่มกลัว มองไปรอบๆ ห้องหาทางหนีทีไล่
“ฉันไม่เคยต้องรอผู้หญิงคนไหน” เขาดึงขาเธอให้ตัวไถลไปที่ปลายเตียงแล้วก็ค้ำตัวเหนือร่างบาง พิรุณรักตกใจกับการกระทำของเขา มือเล็กดันไว้ที่ไหล่หนา เขาชอบความรุนแรงจริงๆ ใช่ไหม
“คุณฉันไม่..”
“ผู้หญิงที่ไม่ได้ไร้เดียงสาแต่ทำตัวไร้เดียงสามันไม่ได้น่าสนใจหรอกนะ” แกริคก้มหน้าลงไปพูดกับเธอ มองหญิงสาวเต็มตา ซึ่งพิรุณรักกำลังแยกคำพูดของเขากับความกลัวออกจากกัน พอเข้าใจในคำพูดของเขาเธอก็นึกโกรธขึ้นมา นี่เขาหาว่าเธอแกล้งทำตัวไร้เดียงสาอย่างนั้นเหรอ
“แล้วใครบอกว่าฉันไร้เดียงสา” เธอใจกล้าเถียงเขา เธอไม่ได้ไร้เดียงสา เธอแค่ไม่เคยและไม่รู้ต้องทำตัวยังไงเมื่ออยู่ใกล้เขา เขาเป็นผู้ชายในฝันของเธอเลยนะ
“หึ ถ้างั้นก็ทำหน้าที่ของตัวเองซะ” แกริคพูดอย่างท้าทาย ยืดตัวขึ้นเหนือร่างบาง สบตาเธอแล้วเลื่อยสายตาลงมาที่เข็มขัดกางเกงของตัวเอง พิรุณรักอ้าปากค้าง
ใช่ เธอต้องทำหน้าที่ของตัวเอง เธอตัดสินใจจะอยู่กับเขาทั้งอาทิตย์แล้วนี่นา แต่ทำไมความจริงกับความฝันมันต่างกันนัก
ผู้ชายตรงหน้าเป็นเทพบุตรหรือว่าเป็นซาตาน
“แซค แซค” อยู่ๆ แกริคก็ตะโกนเรียกลูกน้องเสียงดังทำให้ พิรุณรักสะดุ้ง
“ครับ” แซควิ่งลงมาข้างล่างแต่ยังไม่ได้เปิดประตูห้องนอน
“มาเอาผู้หญิงคนนี้ออกไป” สิ่งที่แกริคบอกลูกน้องทำให้พิรุณรักตาโต นี่เขาจะโยนเธอออกไปข้างนอกจริงๆ เหรอ
“คุณแกริคคะ”
“ในเมื่อเธอไม่อยากทำฉันก็ไม่บังคับ ออกไปซะ” แกริคพูดเสียงเย็น
“เอ่อ.. ไม่ค่ะไม่ หนูจะทำ ให้โอกาสหนูนะคะ” เธอไม่อยากเสียโอกาสที่จะอยู่กับเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นเทพบุตรหรือว่าซาตานเธอก็หลงไหล่ในตัวเขาไปแล้ว
“แน่ใจ” แกริคเลิกคิ้วถาม
“แน่ใจค่ะ” พิรุณรักกัดปากล่างของตัวเองก้มหน้าตอบเขาเสียงแผ่ว
“นายครับ” เมื่อเห็นว่าในห้องเงียบลูกน้องคนสนิทก็เอ่ยเรียกเพื่อรอรับคำสั่ง
“ไม่ต้องแล้ว ออกเรือแล้วไปที่เกาะได้เลย” แกริคสั่งงานลูกน้องแล้วหันมามองนางบำเรอจอมเล่นตัวของตัวเอง
“ลงมือ” เขาจะให้โอกาสเธอ ไม่คิดว่าตัวเองต้องมาใช้เล่ห์เหลี่ยมกับผู้หญิง เขาไม่ใช่พวกบ้าตัณหาจนถึงใช้อุบายล่อลวง แต่ก็ไม่เคยมีใครรีรอที่จะเข้าหาเขาสักคน
“ค่ะ” พิรุณรักรวบรวมความกล้ายื่นมืออันสั่นเท่าของตัวเองไปที่เข็มขัดกางเกงของเขา ค่อยๆ ปลดมันออกช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้
ถ้าเธอจะเป็นลมอีกรอบจะเป็นไรไหมนะ แต่พอคิดอีกทีโอกาสเธอคงหมดไปเลยที่จะได้อยู่กับเขา
แกริคมองภาพนั้นนิ่งๆ แต่ใจเขากลับเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขามีปฏิกิริยากับผู้หญิงคนนี้อยู่หลายเรื่อง ทั้งหมดมีแต่เรื่องที่เขาไม่เคยทำ
อึดใจต่อมามือเล็กๆ ก็สามารถปลดเข็มขัดเส้นยาวออกมาได้ และที่หมายต่อไปก็คือกระดุมกางเกงของเขา กางเกงขาสั้นสีขาวยี่ห้อดังที่เขาใส่เผยให้เห็นลำขาแกร่งที่มองใกล้ๆ แล้วยิ่งใจสั่น
เสียงถอนหายใจข้างบนทำให้พิรุณรักเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นแกริคจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว เธอจนลนลานรีบปลดกระดุมกางเกงของเขา อย่างรวดเร็ว แล้วดึงมันลงรวดเดียวก็พบกับอันเดอร์แวสีขาวสะอาดตาที่ปกปิดส่วนนั้นของเขาเอาไว้ ซึ่งตอนนี้เธอเห็นมันเต็มๆ ตา
พิรุณรักกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอเฮือกใหญ่กับความอลังการที่เห็น นี่แค่ภายนอกยังขนาดนี้ถ้าชัดๆ จะขนาดไหน
แกริคคิดว่าถ้ารอให้เธอทำมีหวังเขาหมดอารมณ์ก่อนพอดี จึงลงมือปลดกระดุมเสื้อตัวเองแล้วดึงกางเกงที่เหลือติดตัวเพียงตัวเดียวออก พิรุณรักเห็นการกระทำของเขาก็อ้าปากค้าง ถอยหลังไปที่หัวเตียงเมื่อเห็นความใหญ่โตที่อยู่ตรงหน้า กลืนน้ำลายคงคออีกหลายอึก
เธอต้องตายแน่ๆ
“ถอดเสื้อผ้าออก” แกริคสั่งคนที่มองตัวเองตาค้าง หัวเราะในลำคอเบาๆ ภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองมีผู้หญิงคนไหนเห็นก็ต้องตาค้างกันทั้งนั้น
แกริคเมื่อเห็นว่าเธอยังนิ่งเขาก็ขึ้นไปบนเตียงอวดรูปร่างสมบูรณ์แบบที่ตัวเองภูมิใจให้เธอเห็นชัดเข้าไปอีก ลงมือถอดเสื้อผ้าเธอด้วยมือของตัวเอง
“คุณ” พิรุณรักที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะตามัวแต่มองสิ่งที่มันชี้หน้าเธออยู่ตอนนี้ ปล่อยให้เขาถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนหมด
“จัดการมันสะ” แกริคคุกเข่าแล้วยืดตัวขึ้นอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่หน้าแดงเป็นลุกตำลึงสุกเธอไม่กล้ามองหน้าเขาสักนิด สิ่งนั้นมันกำลังชี้หน้าเธออยู่ แต่เมื่อได้ยินคำสั่งของเขา เธอก็กลั้นหายใจหลับตาปี๋หันหน้ามาตรงๆ
“ลืมตาสาวน้อย เธอกำลังทำให้ฉันรำคาญ” คำพูดตรงๆ ของเขาทำให้พิรุณรักค่อยๆ ลืมตาขึ้น เอาวะ เธอเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้วหนิ ยังไงวันหนึ่งเธอก็ต้องนอนกับผู้ชายสักคน แล้วตอนนี้เธอก็เลือกเองว่าผู้ชายคนแรกของเธอต้องเป็น แกริค ซีคีเลียโน คนนี้ เธอก็ต้องกล้ากว่านี้
มารยาหญิงที่มีควรต้องงัดออกมาใช้ให้หมด อย่ามัวแต่อาย
พิรุณรักกลืนน้ำลายลงคอ แล้วใจกล้าเอามือไปจับแก่นกายของเขา เธอกำมันแทบไม่รอบ ท่อนเอ็นขนาดใหญ่ที่มีเส้นเลือดปูนนูนขึ้นมา แถมส่วนปลายยังมันวาวมีรอยหยักให้น้ำใสๆ ไหลออกมา
พิรุณรักหลับตาส่ายหน้าไปมา นี่เธอกำลังสำรวจอะไรอยู่ บ้าไปแล้ว เธอควรรีบๆ ทำจะได้เสร็จๆ อยากรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเหมือนกันว่าเซ็กส์มันเป็นยังไง
มือเล็กค่อยๆ ขยับขึ้นลงเบาๆ พร้อมกับสายตาที่จ้องไม่วาง รู้สึกว่ามันแข็งขึ้นและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอขยับมือเร็วขึ้น
แกริคมองภาพนั้นพร้อมกับกัดฟันแน่น แม่สาวน้อยตรงหน้าเหมือนคนที่อยากรู้อยากเห็น เหมือนว่าเธอไม่เคยเห็นมันมาก่อน ถึงจ้องแก่นกายของเขาตาไม่กะพริบ แต่แค่นั้นมันก็ทำให้เสียงคำรามเกิดขึ้นเบาๆ ในลำคอหนา
“ปาก” ปากเล็กเผยอขึ้นเมื่อได้ยินคำสั่ง ความวาบหวาม แข็งแกร่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้เธอกล้าทำอะไรมากขึ้น เกิดความอยากรู้อยากลอง อยากสัมผัสเขาให้มากกว่านี้
ลิ้นเล็กตวัดโลมเลียสิ่งที่เขาส่งให้ถึงปาก สัมผัสที่เกิดขึ้นทำให้คนที่ได้รับกระตุก หน้าท้องหดเกร็ง ก้มมองภาพตรงหน้า เอื้อมมือไปลูบผมดกดำเบาๆ เงยหน้าขึ้นรับสัมผัสที่เขารอคอยมาตั้งแต่เมื่อคืน สิ่งนี้มันควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่เขากลับขึ้นไปบนห้อง
แต่แม่คุณดันเป็นลมไปซะก่อน แต่ตอนนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการรอคอย ถึงแม้ท่าทีของเธอจะดูเงอะงะเหมือนไม่เป็นงาน แต่ความเสียวซ่านตรงกลางกายก็ทำให้เขาเลือกที่จะไม่สนใจท่าทางนั้น
“พอก่อน” เขายังไม่อยากแตกคาปากเล็กนั่น แกริคดึงร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักและมอบจูบที่ดูดดื่มให้เธอ ในโพรงปากของเธอมีกลิ่นอายของเขาอยู่ในนั้น คนที่โดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัวก็เกือบจะตั้งรับไม่ทัน