“หนูขอโทษค่ะ” พิรุณรักกลัวว่าเขาจะรำคาญเธอที่ทำอะไรไม่เป็นเลย รีบเอ่ยขอโทษและพยายามทำตัวให้ผ่อนคลาย แต่ทำยังไงก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายของเธอมันก็เต้นแรงแทบจะทะลุออกมาข้างนอกอยู่ดี
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสองคนแกริครู้ว่าคนที่มาเคาะประตูคงเป็นแซค
“เข้าไปหยิบเสื้อคลุมในห้องมาใส่” เขาจับพิรุณรักให้ยืนขึ้นแล้วไล่เธอไปใสเสื้อคุ้มก่อนที่ลูกน้องของตัวเองจะเข้ามา คนที่โดนสั่งทำหน้างงนิดหน่อยแต่ก็เข้าใจความหมายโดยไว รีบหันหลังเข้าห้องนอน แล้วส่องกระจกมองดูสภาพของตัวเองเต็มๆ ตา แล้วอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย เธอยืนคุยต่อหน้าเขาภาพแบบนี้ได้ไง
ยัยปลายนะยัยปลาย
ก็เพราะเวลาที่เธออยู่ต่อหน้าเขาหรือใกล้เขาเธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย สติก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทำอะไรเงอะงะไปหมด จนกลัวว่าเขาจะรำคาญเอา
พิรุณรักหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมสติของตัวเองนับหนึ่งถึงสิบ ตอนนี้เธออยู่ต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบและหลงใหล และเธอยังจะได้อยู่กับเขาอีกตั้งหนึ่งอาทิตย์นี่มันความฝันชัดๆ ความฝันที่คิดว่ามันจะไม่เป็นจริง
แต่มันคือเรื่องจริงเขาที่อยู่ตรงหน้าเธอ ชายหนุ่มที่ผู้หญิงทั่วโลกอยากได้ อยู่ตรงหน้าเธอ และจะเป็นของเธอตั้งหนึ่งอาทิตย์
ก๊อกๆ
“คุณครับ”
เสียงเคาะประตูทำให้คนที่รวบรวมสมาธิอยู่ได้สติและหันไปมอง ไม่ใช่แกริคที่มาเรียก อาจจะเป็นลูกน้องเขา พิรุณรักรีบเดินไปหยิบเสื้อคลุมแล้วไปเปิดประตู
“ท่านรออยู่ครับ” แซคมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิดหน่อยด้วยความสงสัยแต่ก็รีบคลายออก
เขาอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่ทำให้ผู้เป็นนายยอมให้เธอนอนค้างคืนด้วยโดยไม่ไล่ออกจากห้อง และเขาก็คิดว่าเมื่อคืนเจ้านายเขาไม่ได้ทำอะไรผู้หญิงตรงหน้า จากที่กรวิทย์เล่าให้ฟัง แกริคโทรมาโวยวายว่าผู้หญิงที่กรวิทย์หามาให้เป็นลม ดูอารมณ์เสียไม่น้อย แต่ก็ไม่ยอมให้คนพาเธอออกจากห้อง
และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าทำไม ผู้หญิงตรงหน้าถึงจะไม่สวยเฉี่ยวเซ็กซี่เหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมา แต่เธอมีแรงดึงดูดเพศตรงข้ามอย่างมาก
“แซค” เสียงตะโกนเรียกจากด้านหลังทำให้แซคละสายตาจากพิรุณรักซึ่งเธอก็ไม่กล้าแม้แต่จะขยับเพราะคนตัวโตยืนขวางประตูอยู่ แถมยังจ้องเธอไม่วางตาจนเธอเริ่มจะทำตัวไม่ถูก
“เชิญครับ” แซคหลีกทางผายมือเชิญให้พิรุณรักเดินออกไป
หญิงสาวก็เดินออกจากห้องตรงไปหาแกริค ที่นั่งคอยอยู่ก่อนแล้วแต่สายตาเขาโฟกัสที่ลูกน้องที่เดินตามหลัง ซึ่งคนที่โดนจ้องก็ได้แต่ก้มหัวให้ และคิดในใจว่า เกือบโดนดีแล้วไหมหล่ะ สงสัยคนนี้จะหวง เพราะที่ผ่านมาแกริคไม่เคยเป็นแบบนี้ เรียกได้ว่าไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย นอกจากปลดปล่อยอารมณ์
“ไปที่โต๊ะอาหาร” พิรุณรักเม้มปากแน่น ยังไม่ยอมเดินไปตามที่เขาบอก รู้เลยว่าต้องไปรับประทานอาหาร เธอยังไม่ได้แปรงฟันเลย จะกินได้ยังไง ถึงอยู่บ้านเธอจะทำแบบนั้นได้โดยไม่สนใจอะไร แต่นี่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ ไม่ได้เด็ดขาด เธอจะทำตัวซกมกไม่ได้
“ทำไมไม่มา” แกริคเริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอไม่ยอมเดินตามมา
“คือ..หนู..เอ่อ…ฉันขอเข้าห้องน้ำได้ไหมคะ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมองเธอเขม็งจนพิรุณรักต้องกลั้นหายใจกลัวว่าเขาจะรำคาญและหาว่าเธอเรื่องมาก
“ไปสิ สิ่งที่เธอต้องการอยู่ในลิ้นชักในห้องน้ำ” แต่เธอก็หายใจโล่งอกเมื่อได้ยินเขาพูด เธอก็รีบก้มหัวให้เขาแล้ววิ่งเข้าห้อง แกริคได้แต่มองตามร่างบางที่หายวับเข้าห้องไป
“แฮ่ม” แซคก็เกิดอาการคันคอขึ้นมาเมื่อเห็นคนเป็นนายจ้องขนาดนั้น แต่ก็ต้องโดนสายตาฟาดฟันตวัดมองรีบหดหัวทันที
“นายมีแผนอะไรสำหรับหนึ่งอาทิตย์นี้” แกริคถามแพลนการพักผ่อนของเขา ความจริงเขาไม่ได้ต้องการพักด้วยซ้ำ แต่ทนแรงเซ้าซี้จากคนรอบข้างไม่ไหว ว่าเขาทำงานหนักเกินไปช่วงนี้ บ่นจนเขาต้องถอนหายใจ ยอมพักตามที่ทุกคนแนะนำ
“มีล่องเรือ ดำน้ำ ครับ” แกริคพยักหน้า
“ออกไปได้แล้ว มีอะไรจะเรียก”
“ครับ”
เมื่อลูกน้องเดินออกจากห้องแกริคก็หันไปทางประตูอีกครั้งเธอก็ยังไม่ออกมา
ฝ่ายพิรุณรักที่เข้ามาทำธุระส่วนตัวในห้องที่จริงเธอก็อยากอาบน้ำด้วยแต่ก็กลัวว่าคนข้างนอกจะรอแล้วทำหน้าดุเสียงดุใส่ แค่นี้เธอก็เกร็งจนหัวหดหมดแล้ว เขาทำหน้าดุๆ ใส่คู่นอนแบบนี้ทุกคนเลยรึไง
มือเล็กกระชับเสื้อคลุมแล้วเดินออกมาจากห้อง เดินไปยังโต๊ะอาหารที่มีคนตัวโตนั่งรออยู่ เธอได้สิทธินั่งทานข้าวกับเขาด้วยเหรอ
“นั่งลงสิ” เสียงเข้มสั่ง
“ขอบคุณค่ะ” ตอนนี้พิรุณรักทำตามที่เขาบอกโดยไม่ถามซ้ำ เพราะเธอได้รวบรวมสติของตัวเองมาแล้ว
“กินเสร็จก็ไปอาบน้ำ”
“แต่ หนู เอ่อ ฉันไม่มีเสื้อผ้าใส่ค่ะ” เธออยากขออนุญาตเขากลับห้องแต่ยังไม่กล้าเอ่ย
“จะหนูหรือฉันเอาสักอย่าง”
“ขอโทษค่ะ” พิรุณรักได้แต่ค่อนขอดเขาอยู่ในใจ แค่นี้ทำไมต้องดุเธอด้วย อย่าให้เธอกล้ากับเขากว่านี้นะ
“เสื้อผ้าเดี๋ยวให้คนเอามาให้” หลังจากนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นต่างคนต่างกินข้าว พิรุณรักแอบเหลือบสายตาขึ้นมองเขาเป็นบางครั้ง ผู้ชายคนนี้แม้แต่ตอนกินข้าวยังดูดี
“อยากกินฉัน แทนข้าวรึไงถึงจ้องขนาดนั้น” คำพูดของเขาทำให้พิรุณรักรีบก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานของตัวเองโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองเขาอีก ส่วนคนตัวโตก็ยกยิ้มที่มุมปากเบาๆ แล้วก็กลับมาตีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม
“อาบน้ำเสร็จก็ลงไปข้างล่างฉันจะรออยู่ที่นั่น” กินเสร็จแกริคก็เดินออกจากห้องทันที โดยไม่หันกลับมามองหญิงสาวที่มองเขาตาปริบๆ
นี่เขาจะไม่บอกกันบ้างรึไงว่าวันนี้ต้องไปทำอะไรที่ไหนบ้าง เธอจะได้เตรียมตัวถูก
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นพิรุณรักคิดว่าน่าจะมีคนเอาเสื้อผ้ามาให้ จริงๆ เธออยากกลับไปที่ห้องของ
ตัวเองแต่เขาไม่อนุญาตเธอก็ไม่กล้าขัด
“เอาเสื้อผ้ามาให้ค่ะ เช็คของดูนะคะว่าครบรึเปล่า ถ้าขาดอะไรแจ้งทางโรงแรมได้ค่ะ” พิรุณรักมองกระเป๋าใบโตของเธอตาปริบๆ ที่บอกว่าจะเอาเสื้อผ้ามาให้นี่คือเอามาหมดกระเป๋าเลยเหรอ นี่คือเธอต้องอยู่กับเขาที่ห้องนี่ใช่ไหม ทำไมตอนแรก เพื่อนเธอบอกว่าเขาไม่ชอบอยู่กับใครหรือนอนเตียงกับผู้หญิงคนไหน
ผู้หญิงสำหรับเขามีไว้ให้ปลดปล่อยเท่านั้น
แล้วนี่คืออะไร