“ท่านค้นพบอะไรบ้าง” หัวคิ้วของเหย่ จี้ขมวดขึ้นและสงสัยว่าใครอยากจะฆ่าพี่ชายเหย่ของนาง?
ยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่แค่พี่ชายเหย่เท่านั้น
คนเหล่านั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่โหลว ชิงอู๋ด้วย
แต่ถ้าไม่ใช่เซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง ที่ส่งมือสังหารเหล่านั้นไป ใครในเมืองหลวงที่ต้องการจะฆ่าพวกเขาและมีความสามารถในการส่งมือสังหารระดับสูงเช่นนั้นไปได้?
“ข้ายังไม่สามารถหาอะไรได้ คนที่ข้าส่งไปไม่สามารถหาอะไรได้ก่อนที่พวกเขาจะฆ่าตัวตาย พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนจะมีการวางแผนที่ดี ก่อนลงมือลอบสังหาร หลบหนีและแม้แต่ฆ่าตัวตายหากถูกจับได้ ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกวางแผนมาทุกขั้นตอนและดำเดินการอย่างระมัดระวัง แม้ฆ่าตัวตายก็ไม่มีที่ติ”
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาเป็นห่วงมากที่สุด
ยังมีกลุ่มอำนาจอีกกลุ่ม ที่เขาไม่รู้จักอยู่หรือ?
แต่ถ้าเขาไม่สามารถตรวจสอบและไม่ทำลายพวกเขา มันอาจจะเป็นอันตรายต่อที่ซ่อนอยู่ในอนาคตได้
“แล้วพวกเราจะทำอย่างไร” เหย่ จี้ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้
การเดินทางไปล่าสัตว์ที่ดีเช่นนั้น มันกลับถูกทำลายลงทั้งหมด!
“ก่อนอื่นให้คนไปตรวจสอบ เจ้าคิดว่าข้าไม่เป็นกังวลเช่นเจ้าหรือ? วันนี้ในช่วงเช้าในท้องพระโรง ซู่ เก้อเหล่า กล่าวว่าเขาต้องการสนับสนุนให้พี่รองเป็นองครัชทายาทต่อหน้าเสด็จพ่ออีกครั้ง เสด็จพ่อดูเหมือนว่าพระองค์กำลังเริ่มไขว้เขว เจ้ารู้ว่าควรจะทำอย่างไรใช่ไหม? ”
“ข้ารู้ ตราบใดที่เขาได้รับเรื่องอื้อฉาวที่น่ารังเกียจ เซี่ยโฮ่ว รุ่ย จะกลายเป็นตัวตลกในเมืองหลวงให้ผู้คนหัวเราะและฮ่องเต้ก็จะลืมเกี่ยวกับการทำให้เขาเป็นองค์รัชทายาท” แม้ว่าเขาอาจจะไม่ลืมเรื่องนี้ อย่างน้อยเขาก็จะชะลอการตัดสินใจออกไป
ตราบใดที่เขายังไม่ได้เลือกองค์รัชทายาทชั่วคราว นางก็มีวิธีที่จะทำให้เขาเลือก
“เหย่ จี้ พวกเราอยู่บนเรือลำเดียวกันแล้วตอนนี้ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง “เซี่ยโฮ่ว ฉิ่ง เดินไปข้างหน้าของเหย่ จี้ นิ้วมือของเขากำลังจะจับไปที่แก้มของนาง
เหย่ จี้ หันไปทางด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงมัน
“แน่นอนข้ารู้ แต่ท่านก็รู้ว่าข้าต้องการอะไรใช่ไหม?”
“รอให้ข้ากลายเป็นองค์รัชทายาทก่อน แล้วข้าจะทำให้โหลว ชิงอู๋กลายเป็นสนมของข้า แล้วในเวลานั้นจะเป็นธรรมชาติที่จะไม่มีใครแข่งขันกับเจ้าในเรื่องของท่านอ๋องรัตติกาล”
“ฮึ่ม! ดี! มันควรจะเป็นเช่นนั้น ข้าจะไปเตรียมทุกอย่าง ท่านสามารถพักผ่อนและรอข่าวดีจากข้าได้เลย”
“เช่นนั้นข้าจะรอเจ้า”
เมื่อเหย่ จี้ ออกจากตำหนักขององค์ชายสาม นางก็รีบเข้าไปยังทางเดินแคบ ๆ
นางเดินตามตรอกซอกซอยจนกระทั่งนางหายตัวเข้าไปหลังร้านของครอบครัวของนาง
ไม่นานหลังจากนั้น พ่อบ้านของร้านโลงศพก็ได้รับข่าวและรีบวิ่งออกมา
เมื่อเขาเห็นเหย่ จี้ เขาก็รีบทรุดลงไปที่หัวเข่าทันที “องค์หญิง”
“อืม” เหย่ จี้ตอบขึ้นอย่างเฉื่อยชา จากนั้นนางก็เอาจดหมายฉบับหนึ่งออกจากแขนเสื้อของนาง ก่อนที่จะส่งให้พ่อบ้านของร้าน
“บอกเฟย เหย่ สร้างโอกาสให้กับชั่งกวน อี้ยวิน และอาจารย์สอนพิณของนางเพื่อให้มาพบปะพูดคุยอีกครั้งและเพิ่ม ‘ยา‘ ลงไปด้วย เจ้าเข้าใจไหม?”
“ขอรับ! บ่าวจะรีบไปทันที “
“อย่าทิ้งร่องรอยใดๆ มิฉะนั้น … ” เหย่ จี้ หรี่ตาลงอย่างเป็นอันตราย ดวงตาที่งดงามของนางกลายเป็นโหดร้ายและน่ากลัว
ความไร้เดียงสาและความใสสะอาดจากก่อนหน้านี้หายไปอย่างสมบูรณ์
“บ่าวเข้าใจแล้วขอรับ! บ่าวจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง! “
พ่อบ้านเช็ดใบหน้าของเขา เกลียดอยู่อย่างเดียวที่เขาไม่สามารถสาบานด้วยพิษเพื่อพิสูจน์ความตั้งใจของเขาในการทำภารกิจให้สำเร็จได้
เหย่ จี้ พอใจก่อนจะจากไป
เมื่อนางเดินกลับไปยังถนนสายหลัก ในที่สุดนางก็เดินผ่านหอน้ำชาแล้วมุมปากของนางโค้งเป็นรอยยิ้มที่หนาวเย็นขึ้น
นางกลับไปที่ตำหนักขององค์ชายสามอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน ในจวนของท่านเจ้ากรมก็มีนกพิราบกำลังบินเข้าไปในเรือนแห่งหนึ่ง
หญิงสาวคนหนึ่งที่สวมชุดสาวใช่จู่ๆ ก็มองไปรอบ ๆ และหลังจากพบว่าไม่มีใคร นางก็รีบกระโดนขึ้นและจับนกพิราบมา
นกพิราบเข้ามาอยู่ในฝ่ามือของนางอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หญิงสาวจะหยิบจดหมายออกมาจากขาของนกพิราบ
นางรีบเหลือบมองไปที่มัน ก่อนที่จะกลืนจดหมายลงไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่นางกลืนเสร็จแล้ว นางก็โยนนกพิราบขึ้นไปอีกครั้ง